เติมรสอูมามิให้อาหารจานโปรดของคุณแบบง่ายๆ ด้วย Shio Konbu
ชิโอะคอมบุ (Shio Konbu) จากแบรนด์ Kurakon ผลิตโดยใช้สาหร่ายคอมบุของฮอกไกโดนำมาหั่นเป็นเส้นแล้วเคี่ยวอย่างพิถีพิถันด้วยโชยุ เกลือ และเครื่องปรุงอื่นๆ แล้วนำมาตากแห้ง เกิดเป็นรสชาติที่สมดุลทั้งความเค็มและความหวาน พร้อมกลิ่นหอมเข้มข้นจากท้องทะเล ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะรับประทานเป็นเครื่องเคียงกับข้าวร้อนๆ เสิร์ฟเป็นของทานเล่น หรือใช้เป็นส่วนผสมในเมนูต่างๆ อย่างโอชาสึเกะ, โอนิกิริ, ทามาโกะยากิ, สลัด, พาสต้า หรือข้าวผัด ก็ช่วยเสริมรสอูมามิให้แต่ละเมนูได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุ, วิตามิน, แคลเซียม, และใยอาหารจากสาหร่ายคอมบุอีกด้วย
คุณเองก็ทำกุ้งเทมปุระได้ง่ายๆ แค่มีกุ้งยืดห่อนี้
Nobashi Ebi หรือกุ้งยืด ทำมาจากกุ้งขาว size 16/20 แกะเปลือกและเอาหัวกุ้งออกเรียบร้อยแล้ว พร้อมยืดลำตัวยาวให้สะดวกสำหรับนำไปทำกุ้งเทมปุระหรือเมนูอื่นๆ ที่คุณต้องการ สะอาด ถูกหลักอนามัย บรรจุแพ็คละ 20 ตัวค่ะ
คุณเองก็ทำกุ้งเทมปุระได้ง่ายๆ แค่มีกุ้งยืดห่อนี้
Nobashi Ebi หรือกุ้งยืด ทำมาจากกุ้งขาว size 26/30 แกะเปลือกและเอาหัวกุ้งออกเรียบร้อยแล้ว พร้อมยืดลำตัวยาวให้สะดวกสำหรับนำไปทำกุ้งเทมปุระหรือเมนูอื่นๆ ที่คุณต้องการ สะอาด ถูกหลักอนามัย บรรจุแพ็คละ 20 ตัวค่ะ
น้ำตาลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในครัวเรือนของญี่ปุ่น
น้ำตาลทรายขาว จากแบรนด์ มิทซุย คือน้ำตาลโจฮาคุโตะ (Johakuto) ซึ่งเป็นน้ำตาลทรายขาวที่มีกรรมวิธีการผลิตแบบเฉพาะตัวของญี่ปุ่น ทำให้มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากน้ำตาลทั่วไป คือมีเนื้อสัมผัสที่เนียนละเอียด และมีความหวานที่นุ่มนวลกว่า ไม่หวานแหลมจนเกินไป ทำให้เป็นน้ำตาลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในครัวเรือนของญี่ปุ่น
ความพิเศษของน้ำตาลทรายขาว มิทซุย
• ความหวานที่กลมกล่อม : ด้วยความหวานที่นุ่มนวลและรสชาติที่สะอาด ทำให้ไม่กลบรสชาติหลักของวัตถุดิบอื่นๆ ช่วยชูรสชาติอาหารให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
• คงความชุ่มชื้น : คุณสมบัติพิเศษของน้ำตาลโจฮาคุโตะคือช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำขนมอบและเบเกอรี่ เช่น เค้ก และขนมปัง ทำให้เนื้อสัมผัสมีความนุ่มละมุน
• ใช้งานได้หลากหลาย : เป็นน้ำตาลอเนกประสงค์ที่ใช้ได้กับทุกเมนู ไม่ว่าจะนำไปใช้ในการทำอาหารคาว เช่น ซอสเทริยากิ, ซุป และเมนูตุ๋น หรือใช้ในการทำขนมหวานและเครื่องดื่ม ก็ละลายเข้ากันได้ง่าย
มันหวานจากญี่ปุ่น หวาน นุ่ม ชุ่มฉ่ำ ใครๆ ก็ติดใจ
เราคัดเลือกมันหวานลูกใหญ่ size L สายพันธุ์เบนิฮารุกะ จากประเทศญี่ปุ่น
ด้วยภูมิประเทศอันเหมาะสมและดินภูเขาไฟที่อุดมด้วยแร่ธาตุต่างๆ มากมาย จึงทำให้มันหวานที่ได้มีเนื้อสีทองสวย เนียนนุ่ม ละเอียด ปราศจากเสี้ยน และรสชาติหวานฉ่ำกว่าที่อื่น เหมาะที่จะนำมาอบหรือเผาเพื่อรับประทานตอนร้อนๆ จะยิ่งอร่อยละมุนลิ้น หรือหากทานไม่หมดสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อรับประทานแบบเย็น ก็จะได้ความอร่อยไปอีกแบบค่ะ
วิธีอบมันหวานญี่ปุ่นด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน
1. ล้างมันหวานให้สะอาด แล้วแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที
2. ห่อมันหวานด้วยฟอยล์สำหรับห่ออาหาร จากนั้นนำเข้าหม้อทอดไร้น้ำมัน ใช้อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ระยะเวลาประมาณ 40-60 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดและปริมาณของมันหวานที่อบ
3. เมื่อครบเวลา ให้ปล่อยมันหวานไว้ในหม้อทอดไร้น้ำมันเฉยๆ อีกประมาณ 10 นาที เพื่อให้เนื้อมันหวานระอุยิ่งขึ้น แล้วค่อยนำออกมารับประทานค่ะ
หมายเหตุ:
• ทดลองเสียบไม้จิ้มฟันหรือส้อมลงในเนื้อมัน หากเสียบได้ง่ายโดยไม่ติดขัด แสดงว่าสุกพร้อมรับประทาน
• หากนำมันหวานออกมาแล้วยังไม่สุก แนะนำให้อบต่อตามต้องการด้วยอุณหภูมิประมาณ 160 องศาเซลเซียส
มันหวานจากญี่ปุ่น หวาน นุ่ม ชุ่มฉ่ำ ที่ใครๆ ก็ติดใจ
เราคัดเลือกมันหวานลูกใหญ่ size M สายพันธุ์เบนิฮารุกะ จากประเทศญี่ปุ่น ด้วยภูมิประเทศอันเหมาะสมและดินภูเขาไฟที่อุดมด้วยแร่ธาตุต่างๆมากมาย จึงทำให้มันหวานที่ได้มีเนื้อสีทองสวย เนียนนุ่ม ละเอียด ปราศจากเสี้ยน และรสชาติหวานฉ่ำกว่าที่อื่น เหมาะที่จะนำมาอบหรือเผา เมื่อได้รับประทานตอนร้อนๆ จะยิ่งอร่อยละมุนลิ้น หรือหากทานไม่หมดสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อรับประทานแบบเย็น ก็จะได้ความอร่อยไปอีกแบบค่ะ
วิธีอบมันหวานญี่ปุ่นด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน
1. ล้างมันหวานให้สะอาด แล้วแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที
2. ห่อมันหวานด้วยฟอยล์สำหรับห่ออาหาร จากนั้นนำเข้าหม้อทอดไร้น้ำมัน ใช้อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ระยะเวลาประมาณ 40-60 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดและปริมาณของมันหวานที่อบ
3. เมื่อครบเวลา ให้ปล่อยมันหวานไว้ในหม้อทอดไร้น้ำมันเฉยๆ อีกประมาณ 10 นาที เพื่อให้เนื้อมันหวานระอุยิ่งขึ้น แล้วค่อยนำออกมารับประทานค่ะ
หมายเหตุ:
• ทดลองเสียบไม้จิ้มฟันหรือส้อมลงในเนื้อมัน หากเสียบได้ง่ายโดยไม่ติดขัด แสดงว่าสุกพร้อมรับประทาน
• หากนำมันหวานออกมาแล้วยังไม่สุก แนะนำให้อบต่อตามต้องการด้วยอุณหภูมิประมาณ 160 องศาเซลเซียส
มันหวานจากญี่ปุ่น หวาน นุ่ม ชุ่มฉ่ำ ที่ใครๆ ก็ติดใจ
เราคัดเลือกมันหวานลูกใหญ่ size M สายพันธุ์เบนิฮารุกะ จากประเทศญี่ปุ่น ด้วยภูมิประเทศอันเหมาะสมและดินภูเขาไฟที่อุดมด้วยแร่ธาตุต่างๆมากมาย จึงทำให้มันหวานที่ได้มีเนื้อสีทองสวย เนียนนุ่ม ละเอียด ปราศจากเสี้ยน และรสชาติหวานฉ่ำกว่าที่อื่น เหมาะที่จะนำมาอบหรือเผา เมื่อได้รับประทานตอนร้อนๆ จะยิ่งอร่อยละมุนลิ้น หรือหากทานไม่หมดสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อรับประทานแบบเย็น ก็จะได้ความอร่อยไปอีกแบบค่ะ
วิธีอบมันหวานญี่ปุ่นด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน
1. ล้างมันหวานให้สะอาด แล้วแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที
2. ห่อมันหวานด้วยฟอยล์สำหรับห่ออาหาร จากนั้นนำเข้าหม้อทอดไร้น้ำมัน ใช้อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ระยะเวลาประมาณ 40-60 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดและปริมาณของมันหวานที่อบ
3. เมื่อครบเวลา ให้ปล่อยมันหวานไว้ในหม้อทอดไร้น้ำมันเฉยๆ อีกประมาณ 10 นาที เพื่อให้เนื้อมันหวานระอุยิ่งขึ้น แล้วค่อยนำออกมารับประทานค่ะ
หมายเหตุ:
• ทดลองเสียบไม้จิ้มฟันหรือส้อมลงในเนื้อมัน หากเสียบได้ง่ายโดยไม่ติดขัด แสดงว่าสุกพร้อมรับประทาน
• หากนำมันหวานออกมาแล้วยังไม่สุก แนะนำให้อบต่อตามต้องการด้วยอุณหภูมิประมาณ 160 องศาเซลเซียส
อร่อยกับ ชิโอะ ยากิโซบะ แบบง่ายๆ ใน 3 นาที
ขนมข้าวอบกรอบ อาราเระ รสเกลือ Hanamoshio และ Shima Masu
Nagisa คราฟอาราเระ ขนมข้าวอบกรอบชิ้นพอดีคำ แบบญี่ปุ่นดั้งเดิม
ตัวแป้งทำจากข้าวเหนียวโมจิเนื้อเนียน นำมาตากให้แห้ง และปรุงรสด้วยเกลือสูตรพิเศษ 2ชนิด
Setouchi no Hanamoshio" and "Okinawa's Shima-Maasu."
เกลือ Hanamoshio จากภูมิภาคเซโตอุจิของญี่ปุ่น จากการผสมเกลือทะเลกับสาหร่ายทะเล มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ รสชาตินุ่มนวลและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าเกลือทะเลทั่วไป
เกลือ Shima Masu จากโอกินาวา ขึ้นชื่อในเรื่องของรสที่กลมกล่อมและคุณค่าทางโภชนาการสูง เนื่องจากเกลือชนิดนี้ผลิตจากน้ำทะเลที่สะอาดของโอกินาวาโดยใช้วิธีการผลิตแบบดั้งเดิมที่ไม่ผ่านกระบวนการกลั่นมาก ทำให้มีแร่ธาตุและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าเกลือทะเลทั่วไป
อร่อยแบบวิถีญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม กับปลาอาจิแดดเดียว (อิจิยาโบชิ)
ปลาอาจิแล่แบบผีเสื้อ หมักด้วยเกลือ และตากแห้ง (ตอนกลางคืน) ichiyaboshi หรือ การตากแห้งตอนกลางคืน เป็นวิธีที่ทำกันมานานในญี่ปุ่น ทำให้เนื้อปลาไม่แห้งมากเกินไปจนหด เนื้อยังมีความชุ่มอยู่นิดๆ รสของปลาก็จะเข้มข้นมากขึ้น เหมาะสำหรับเอาไปทำเมนูแบบเรียบง่าย เช่น ย่าง หรือ อบเกลือ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือจะพลิกแพลงเป็นเมนูอื่นๆก็อร่อยโดนใจ
อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช เคล็ดลับความอร่อยจากครัวญี่ปุ่น
"ชิโอะโคโช" (塩こしょう) หรือ เกลือและพริกไทยดำ เป็นเครื่องปรุงที่ขาดไม่ได้ในครัวเรือน เพราะช่วยดึงรสชาติของวัตถุดิบให้อร่อยขึ้นแบบง่ายๆ ไม่ต้องใช้เครื่องปรุงหลายชนิด อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช ไม่ได้เป็นแค่เครื่องปรุงทั่วไป แต่เป็น "ผู้ช่วยเชฟ" ที่ช่วยให้การทำอาหารง่ายขึ้น ไม่ว่าคุณจะทำเมนู เนื้อย่าง หมูทอด ไก่ย่าง บาร์บีคิว ซุป หรือแม้แต่อาหารตะวันตก ก็สามารถใช้ได้อย่างลงตัว แค่โรยเบาๆ ก็ได้รสชาติอร่อยแบบมืออาชีพ!
เมนูแนะนำ
♥ สเต๊กเนื้อพริกไทยเกลือ
วัตถุดิบ
- เนื้อสเต๊ก (ริบอาย, สันนอก หรือเนื้อที่ชอบ) 200 กรัม
- เฮ้าส์ อาจิซุเกะ ชิโอะโคโช 1 ช้อนชา
- น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
- เนย 10 กรัม
- กระเทียมฝานบาง 2-3 กลีบ
วิธีทำ:
1. โรย เฮ้าส์ อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช ให้ทั่วเนื้อทั้งสองด้าน
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอก พอร้อน ใส่เนื้อลงไปย่างให้สุกตามต้องการ
3. ใส่เนยและกระเทียมลงไปผัดให้หอม แล้วราดบนเนื้อ
4. เสิร์ฟพร้อมผักย่างหรือมันฝรั่งทอด
♥ ข้าวผัดญี่ปุ่น (ชิโอะยากิเมชิ)
วัตถุดิบ:
- ข้าวสวย 1 ถ้วย
- หมูสับ หรือไก่สับ 50 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- เฮ้าส์ อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช 1 ช้อนชา
- ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ:
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ผัดหมูสับจนสุก
2. ตอกไข่ลงไป คนให้เข้ากันแล้วใส่ข้าวสวย
3. โรย เฮ้าส์ อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช ผัดให้เข้ากัน
4. โรยต้นหอมซอย แล้วตักเสิร์ฟ
เมนูไหนก็อร่อยขึ้น แค่มีติดครัวไว้! ☺️
สุดยอดขนมญี่ปุ่นคลายร้อน! อร่อยง่าย ๆ แค่คลายความเย็น
วาราบิโมจิ คือขนมหวานดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ด้วยเนื้อสัมผัสนุ่มละลาย ผสานความหวานลึกของน้ำตาลทรายแดง และกลิ่นหอมของถั่วเหลืองคั่ว เป็นขนมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในทุกฤดูกาล หัวใจสำคัญของวาราบิโมจิอยู่ที่ “แป้งวาราบิ” ซึ่งได้จากรากของพืชตระกูลเฟิร์นญี่ปุ่น เมื่อนำมาผ่านกระบวนการนวดอย่างพิถีพิถัน จะได้เนื้อสัมผัสที่นุ่ม หนึบ เด้งและละลายในปาก แตกต่างจากโมจิทั่วไปที่ทำจากข้าวเหนียว ด้วยความอ่อนโยนของเนื้อแป้ง จึงให้สัมผัสที่ละเอียดและพรีเมียมยิ่งกว่า ความพิเศษอีกขั้นอยู่ที่การใช้น้ำตาลทรายแดงจากโอกินาว่า หรือ “คุโระซาโตะ” ซึ่งไม่ได้ใช้เป็นแค่น้ำเชื่อมราดเท่านั้น แต่ถูกนวดผสมเข้าไปในเนื้อวาราบิโมจิตั้งแต่ขั้นตอนการทำ ทำให้ขนมมีสีน้ำตาลอ่อน กลิ่นหอมเฉพาะตัวของอ้อย และรสหวานที่ลึก กลมกล่อม ไม่ฉูดฉาด ซึมซับอยู่ในทุกคำที่กัด และที่ขาดไม่ได้ของวาราบิโมจิ นั่นคือการโรย “คินาโกะ”หรือผงถั่วเหลืองคั่วอย่างดี ที่มีกลิ่นหอมถั่วคั่ว และ รสสัมผัสที่นุ่มนวล มันๆ ซึ่งช่วยเสริมให้รสหวานของน้ำตาลทรายแดงมีความสมดุล หอมละมุน และลุ่มลึกยิ่งขึ้น
วิธีทานวาราบิโมจิแบบอร่อย :
• การละลายน้ำแข็ง : นำถุงวาราบิโมจิออกจากช่องแข็ง แล้วย้ายไปใส่ในตู้เย็นช่องธรรมดา หรือวางไว้ที่อุณหภูมิห้อง เพื่อให้ละลายน้ำแข็งอย่างช้า ๆ (ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง)
• ความเย็นคือหัวใจ : ขนมนี้จะอร่อยที่สุดเมื่อทานแบบเย็น เพื่อสัมผัสถึงความนุ่มหนึบและความเย็นชื่นใจ
• พร้อมเสิร์ฟ : เมื่อละลายน้ำแข็งแล้ว สามารถแกะซองและรับประทานได้ทันที
• เพิ่มรสชาติ : หากต้องการรสชาติแบบดั้งเดิมยิ่งขึ้น สามารถราดด้วยน้ำเชื่อมคุโรมิตซึ(น้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดง) ได้ตามความชอบ
เคล็ดลับการรับประทาน
• เสิร์ฟตอนเย็น ๆ จะให้รสสัมผัสสดชื่น เหมาะกับอากาศร้อน
• รับประทานคู่กับชาเขียวร้อน จะช่วยตัดรสหวานได้ดี
• หากเหลือ อย่าแช่แข็งซ้ำ ให้เก็บในตู้เย็นและรับประทานภายใน 1 วัน เพื่อคงคุณภาพ
เมนูทานคู่แนะนำ :
คู่กับชาญี่ปุ่น :
• มัทฉะร้อน/เย็น : เพื่อเสริมความหอมเข้มของชาเขียวให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
• โฮจิฉะ : ชาเขียวคั่วที่มีกลิ่นหอมอบอุ่น จะช่วยตัดรสหวานได้อย่างลงตัว
• เซนฉะ : ชาเขียวใบที่มีรสชาติบางเบาและสดชื่น
วาราบิโมจิ คือขนมที่หลอมรวมวัตถุดิบธรรมชาติและศิลปะการทำขนมของญี่ปุ่นเอาไว้อย่างลงตัว ละมุนในทุกคำ นุ่มหนึบทุกสัมผัส หวานหอมอย่างมีระดับ
สำหรับคนที่ชอบทานปลาไหลญี่ปุ่นย่างซีอิ๊ว มาทางนี้ค่ะ
ที่ประเทศญี่ปุ่น จะมีเทศกาลวันทานปลาไหล ในช่วงฤดูร้อน เพราะเชื่อว่าหากทานในช่วงเวลานี้จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงตลอดทั้งปี เพราะปลาไหลอุดมด้วยคุณค่าทางอาหาร ช่วยให้ร่างกายไม่อ่อนเพลียจากอากาศที่ร้อน วันนี้เรามีปลาไหลน้ำจืดสายพันธุ์ญี่ปุ่น ที่เนื้อนุ่มแน่น คัดเฉพาะไซส์ใหญ่พิเศษ นำมาย่างจนมีกลิ่นหอม ทาด้วยซีอิ๊วรสชาติเค็มๆ หวานๆ ตามสูตรลับเฉพาะของทางแบรนด์ ยิ่งทาน ยิ่งอร่อย ที่สำคัญราคาไม่แพง!! เพราะราคานี้ ท่านจะได้ทานปลาไหล 1 ตัว!!! ที่สำคัญทำง่ายมาก เพียงแค่ฉีกซอง อุ่นร้อนในไมโครเวฟ เพื่อความอร่อยยิ่งขึ้น ทานคู่กับข้าวญี่ปุ่น เนื้อนุ่มเคี้ยวหนุบ ยิ่งอร่อยค่ะ
ชีสเลิฟเวอร์ห้ามพลาด แครกเกอร์รสชีส กรุบกรอบ หอมชีสเข้มข้น!
พบกับความอร่อยที่ลงตัวของแครกเกอร์ รสชีส จากแบรนด์ ทาคาระ (Takara) แครกเกอร์ชีสที่รวมชีส 4 ชนิดไว้ในซองเดียว!
รสชาติเข้มข้นจากชีส 4 ชนิด
• Cheddar Cheese (ชีสเชดดาร์) : รสชาติเข้มข้น หอมมัน
• Camembert Cheese (ชีสคามองแบร์) : รสชาติละมุน นุ่มลิ้น
• Blue Cheese (บลูชีส) : รสชาติเป็นเอกลักษณ์ หอมกลิ่นชีสเข้มข้น
• Gouda Cheese (ชีสกูดา) : รสชาติกลมกล่อม หอมหวาน
ผสานกับเกลือจากฝรั่งเศส เพิ่มรสชาติด้วยเกลือจากแคว้นลอแรน ประเทศฝรั่งเศส (Sel Gemme de la France) ทำให้รสชาติกลมกล่อมลงตัวมากยิ่งขึ้น เนื้อสัมผัสของแครกเกอร์มีความกรอบ อร่อย เคี้ยวเพลิน ไม่ว่าจะทานเล่น หรือทานคู่กับเครื่องดื่มแก้วโปรดก็ยิ่งอร่อยเข้ากันอย่างลงตัวค่ะ
ความสดจากทะเล สู่เมนูอาหารจานเด็ดของคุณ
หอยเชลล์แช่แข็ง 2S จากโคบายาชิ เป็นตัวแทนของความสดจากทะเลสู่จานของคุณ แต่ละชิ้นมีขนาด 2S (ประมาณ 20–30 กรัมต่อชิ้น) พอดีคำ ทำให้ปรุงง่ายและทานสะดวก ทำให้ทุกเมนูดูพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นเมนูซาชิมิสดๆ ย่างเนยบนกระทะร้อน หรือผัดกับผักและซอสสไตล์ฟิวชัน หอยเชลล์ทุกชิ้นถูก แช่แข็งทันทีหลังจับจากทะเล รักษาความสดใหม่และรสชาติอร่อยตามธรรมชาติ ได้คุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมด้วยโปรตีน ไขมันต่ำ ดีต่อสุขภาพหัวใจและกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และเชฟมือโปร อยากทำอาหารญี่ปุ่นพรีเมียม หรือเมนูยุโรปฟิวชันก็ง่าย เพียงละลายน้ำแข็ง ปรุงรส แล้วเพลิดเพลินกับรสหวานจากทะเลได้ทันที
วิธีทาน
• ซาชิมิ: ละลายน้ำแข็ง ทานสดพร้อมซอสโชย
• ย่างเนย: โรยเกลือ พริกไทย ย่างบนกระทะร้อน ๆ
• ผัดกับผัก / พาสต้า: ใช้หอยเชลล์ผัดกับกระเทียมและผัก หรือใส่พาสต้าซีฟู้ด
• เมนูฟิวชัน: สลัดซีฟู้ด, ซุปครีมหอยเชลล์
แนะนำอาหาร
• จับคู่กับไวน์ขาว, ซอสเนยกระเทียม หรือสลัดสด
• ใช้ในอาหารญี่ปุ่น เช่น ซูชิ, ซาชิมิ, ย่างบนเตาถ่าน
• ทำเป็นอาหารฝรั่ง: พาสต้า, สตูว์, หรือสลัดซีฟู้ด
สำหรับคนที่ชอบทานปลาไหลญี่ปุ่นย่างซีอิ๊ว มาทางนี้ค่ะ
ที่ประเทศญี่ปุ่น จะมีเทศกาลวันทานปลาไหล ในช่วงฤดูร้อน เพราะเชื่อว่าหากทานในช่วงเวลานี้จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงตลอดทั้งปี เพราะปลาไหลอุดมด้วยคุณค่าทางอาหาร ช่วยให้ร่างกายไม่อ่อนเพลียจากอากาศที่ร้อน วันนี้เรามีปลาไหลน้ำจืดสายพันธุ์ญี่ปุ่น ที่เนื้อนุ่มแน่น คัดเฉพาะไซส์ใหญ่พิเศษ นำมาย่างจนมีกลิ่นหอม ทาด้วยซีอิ๊วรสชาติเค็มๆ หวานๆ ตามสูตรลับเฉพาะของทางแบรนด์ ยิ่งทาน ยิ่งอร่อย ที่สำคัญราคาไม่แพง!! เพราะราคานี้ ท่านจะได้ทานปลาไหล 1 ตัว!!! ที่สำคัญทำง่ายมาก เพียงแค่ฉีกซอง อุ่นร้อนในไมโครเวฟ เพื่อความอร่อยยิ่งขึ้น ทานคู่กับข้าวญี่ปุ่น เนื้อนุ่มเคี้ยวหนุบ ยิ่งอร่อยค่ะ
“คางปลาบุรี” ความเรียบง่ายอย่างลงตัว
“บุรี” หรือปลา “ฮามาจิ” คือปลาในตระกูล (Yellow Tail) เป็นปลานำเข้าจากญี่ปุ่นชนิดเดียวในโลกที่มีชื่อเรียกหลากหลายไปตามช่วงอายุ จัดเป็นปลาเนื้อขาวที่มีความมันแทรกอยู่ในเนื้อ
“คางปลาบุรี” เป็นเมนูที่พบได้บ่อยในร้านอาหารญี่ปุ่น และเป็นที่นิยมในงานแต่งงานและงานเฉลิมฉลองอื่นๆ เนื่องจากมีรสชาติอร่อยและเนื้อนุ่มหอม เนื้อใต้คางมีไขมันอยู่มาก ซึ่งทำให้มีรสชาติหวานและเนื้ออร่อย การทำคางปลาบุรี จะใช้วิธีการย่างหรืออบที่ทำให้ผิวเนื้อนอกกรอบและนุ่มอยู่ภายใน มักจะปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยหรือโยชุ หรือเมนูต่างๆอีกมากมาย
วิธีทำคางปลาฮามาจิหรือปลาบุรีย่างเกลือ
1. ตั้งเตาถ่านสำหรับย่าง (ควรตั้งรอประมาณ 45 นาที ไฟจะร้อนพอดี ไม่แรงเกินไป)
2. วางคางปลาบุรีบนตะแกรงย่าง โรยเกลือเล็กน้อย ย่างประมาณ 10 นาที
3. ค่อยๆกลับด้านคางปลา โรยเกลืออีกด้าน แล้วทิ้งไว้อีก 10 นาที กลับด้านทุก 10 นาทีแบบนี้เรื่อยๆ จนสุก (ใช้เวลาทั้งหมด 20-30 นาที แล้วแต่ขนาดของคางปลา)
4. ยกคางปลาฮามาจิลงจาน นำหัวไชเท้าฝอยมาบีบน้ำออก ปั้นเป็นก้อนกลมๆ วางข้างชิ้นปลา พร้อมราดซีอิ๊วบนหัวไชเท้า ก็เสิร์ฟคางปลาบุรีย่างเกลือได้เลย
วิธีการเก็บ
• นำออกมาจากช่องแช่แข็งเฉพาะเท่าที่ต้องการจะประกอบอาหาร ไม่แนะนำให้นำออกมาละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
ขอแนะนำน้ำแร่ธรรมชาติอัดก๊าซ (Sparkling Natural Mineral Water) จากประเทศญี่ปุ่น ที่มอบความซ่าอันทรงพลัง พร้อมกับรสสัมผัสที่อ่อนนุ่ม เป็นการผสมผสานที่ลงตัวที่คุณสามารถเพลิดเพลินได้ทุกเมื่อค่ะ
ผลิตภัณฑ์นี้คือ น้ำแร่ธรรมชาติอัดก๊าซ (Sparkling Water) จากแบรนด์ Iris Ohyama (ไอริส โอฮิยามะ) ซึ่งใช้น้ำแร่ธรรมชาติ 100% จากแหล่งน้ำบาดาลบริเวณ ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) ในจังหวัดชิซูโอกะ (Shizuoka) น้ำแร่จากแหล่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องความบริสุทธิ์และรสชาติที่เป็นกลาง เนื่องจากผ่านการกรองตามธรรมชาติจากชั้นหินภูเขาไฟใต้ดินมาอย่างยาวนาน
จุดเด่นสำคัญของน้ำแร่สปาร์คกลิ้งนี้คือการอัดก๊าซคาร์บอนิก (Carbonation) ในระดับที่สูง ทำให้ได้ ความซ่าที่ "เข้มข้นและทรงพลัง" (Strong Sparkling) ซึ่งจะมอบความรู้สึกสดชื่นและซาบซ่าทันทีที่ดื่ม แต่ในขณะเดียวกันยังคงไว้ซึ่งรสชาติที่นุ่มนวลและดื่มง่ายตามแบบฉบับของ น้ำอ่อน (Soft Water) สไตล์ญี่ปุ่น นอกจากนี้ น้ำแร่ยังเป็นแบบ ไม่มีน้ำตาล ไม่มีแคลอรี่ และไม่มีสารปรุงแต่ง (Sugar-free, Zero Calories, No Preservatives) จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นแต่ดีต่อสุขภาพค่ะ
น้ำแร่จากภูเขาไฟฟูจิยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่พบได้ตามธรรมชาติ เช่น วานาเดียม (Vanadium) ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่เป็นที่ต้องการในหมู่ผู้ที่ดูแลสุขภาพในญี่ปุ่น การดื่มน้ำแร่สปาร์คกลิ้งนี้จึงไม่เพียงแต่ให้ความสดชื่นเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกวิธีหนึ่งในการได้รับแร่ธาตุธรรมชาติจากแหล่งกำเนิดที่บริสุทธิ์อีกด้วย
ความซ่าที่โดนใจ: อัดก๊าซในระดับสูง (Strong Sparkling) เพื่อมอบความซาบซ่าและสดชื่นแบบเต็มที่
รสสัมผัสอ่อนนุ่ม: ใช้ฐานเป็นน้ำแร่ธรรมชาติแบบน้ำอ่อน (Soft Water) ที่มีรสชาติเป็นกลางและนุ่มละมุน ดื่มง่าย ไม่บาดคอ
ส่วนผสมธรรมชาติ 100%: ผลิตจากน้ำแร่จากภูเขาไฟฟูจิ ไม่มีน้ำตาล ไม่มีแคลอรี่ และไม่มีสารปรุงแต่ง
อุดมด้วยแร่ธาตุ: มีแร่ธาตุตามธรรมชาติ เช่น วานาเดียม (Vanadium) ซึ่งพบได้ในแหล่งน้ำภูเขาไฟ
ลองเปิดประสบการณ์ความสดชื่นแบบญี่ปุ่นแท้ ที่คุณก็สามารถเพลิดเพลินได้ง่าย ๆ ที่บ้านด้วยน้ำแร่สปาร์คกลิ้งนี้ดูนะคะ จะดื่มเปล่า ๆ หรือนำไปเป็นส่วนผสมก็อร่อยสดชื่นค่ะ
เพิ่มความอูมามิให้กับเมนูจานโปรดของคุณกับ เกลือ ฮากาตะ
เกลือ จากฮากาตะ ตัวรสของเกลือจะมีจุดที่พิเศษกว่าทั่วๆไป ซึ่งเป็นรสธรรมชาติที่ไม่ได้ผ่านการปรุงแต่งใดๆ เหมาะสำหรับนำไปใช้ในขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ เพื่อดึงรสชาติของวัตถุดิบนั้นๆออกมา
สุดยอดเกลือจากญี่ปุ่น เค็มน้อย อร่อยมาก
กุ้งหวานญี่ปุ่น เนื้อเด้ง ใส พร้อมเสริ์ฟแล้วค่ะ
กุ้งหวานญี่ปุ่น (Ama Ebi) เป็นกุ้งขนาดเล็กสีชมพู เปลือกนิ่ม เป็นกุ้งที่อาศัยอยู่ในน้ำเย็น และต้องเป็นแหล่งน้ำที่สะอาดมากๆ ทำให้กุ้งหวานไม่มีกลิ่นคาว มีรสชาติหวานเป็นเอกลักษณ์ เนื้อนุ่ม ให้รสสัมผัสเด้งกรอบ นิยมทานโดยไม่ปรุงเพื่อสัมผัสรสชาติความหวานของกุ้งมากที่สุด เมนูที่นิยมมากที่สุดคือการทานดิบแบบซูชิ หรือซาชิมิ