ทาโกะยากิสำเร็จรูป สะดวก อร่อย แบบมืออาชีพ
ทาโกะยากิสำเร็จรูปแช่แข็ง ลูกใหญ่ เนื้อแน่น น้ำหนักต่อลูกประมาณ 20 กรัม ด้านในสอดไส้ด้วยหนวดหมึกยักษ์ชิ้นใหญ่เต็มคำ เพียงนำออกมาละลายแล้วเข้าเตาไมโครเวฟ, อบในเตาอบ, ทอดในหม้อทอดไร้น้ำมัน หรือทอดบนกระทะที่ใส่น้ำมันเพียงเล็กน้อย จัดเสิร์ฟโดยโรยหน้าด้วยคัตสึโอะบุชิ (ปลาแห้งญี่ปุ่น), สาหร่ายอาโอโนริ, ราดซอสทาโกะยากิและมายองเนส เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทาน ประหยัดเวลาแบบสุดๆ ค่ะ
ทาโกะยากิ หรือขนมครกญี่ปุ่น อาหารว่างติดครัวของชาวคันไซ
ทาโกะยากิมีต้นกำเนิดมาจากเมืองโอซากา หากท่านได้ไปเที่ยวแถบคันไซ ต่างต้องเคยได้ลิ้มลองอย่างแน่นอน วันนี้เราชวนคุณแก้คิดถึงญี่ปุ่น กับเมนูทำเองได้ง่ายๆ แถมรสชาติยังอร่อยมากๆ เหตุผลที่ทำให้อร่อย เพราะแป้งเราได้คิดค้นและผสมในสูตรเฉพาะของแบรนด์ Nippn คุณแค่เตรียมไส้ที่ชอบ และต้องมีกระทะหลุมสำหรับทำทาโกะยากิ เพียงแค่นี้ คุณก็อร่อยตามแบบโอซาก้าแท้ๆ แป้ง 1 ห่อ ทำได้ประมาณ 40 ลูก
วิธีทำ
1. ใส่แป้งทาโกะยากิ 100 กรัมลงในน้ำ 100 มล. แล้วผสมให้เข้ากัน ใส่กะหล่ำปลีสับ 300 กรัม ไข่ 1 ฟอง และไส้โอโคโนมิยากิที่คุณชื่นชอบ 100 กรัม (ปลาหมึก กุ้ง ปูอัด ฯลฯ)
2. วอร์มเตาด้วยไฟแรง เติมน้ำมันพืชหรือเนยเล็กน้อย แล้วค่อยใส่แป้งลงไปครึ่งหลุม ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที ใส่ไส้ทาโกะยากิ กระหล่ำปลี ขิงซอยเล็กน้อยลงในหลุม
3. รอจนแป้งสุกจนร่อนจากกระทะ พยายามพลิกกลับ ค่อยๆ เติมแป้งจนมีลักษณ์เป็นทรงกลมสวยงาม
4. เมื่อแป้งสุกทุกด้าน ให้จัดใส่จาน ราดซอสทาโกะยากิ มายองเนส สาหร่ายผง และปลาคัตสึโอะหั่นฝอย
บอกลาเช้าที่น่าเบื่อของคุณด้วยแพนเค้กแสนอร่อย
เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยมีวันที่เร่งรีบจนไม่มีเวลาทำอาหารเช้ากันใช่ไหมคะ ปัญหานี้จะหมดไปเพียงแค่มีมินิแพนเค้กห่อนี้ติดช่องแช่แข็งเอาไว้ คุณก็จะได้ทานแพนเค้กเนื้อเนียนนุ่มพร้อมกลิ่นเนยหอมกรุ่น และรสชาติหวานนิดๆ โดยไม่ต้องมานั่งผสมแป้งเองให้เสียเวลา มาในขนาดมินิ น้ำหนักชิ้นละประมาณ 20 กรัม อิ่มพอดีๆ ไม่ว่าจะทานคู่กับวิปครีม ผลไม้สด ราดน้ำผึ้ง ทาแยม หรือจะประยุกต์เป็นเมนูอื่นๆ ก็ง่าย สะดวก อร่อยได้ทั้งครอบครัวค่ะ
วิธีอร่อยกับมินิแพนเค้ก
• รับประทานแบบอุณหภูมิปกติ: นำแพนเค้กออกจากช่องแช่แข็ง ตั้งไว้ในอุณหภูมิห้องประมาณ 30-40 นาที
• รับประทานแบบอุ่น: นำแพนเค้กออกมาใส่ภาชนะสำหรับนำเข้าไมโครเวฟ ใช้เวลาอุ่นประมาณ 1-2 นาที (ขึ้นอยู่กับกำลังไฟของไมโครเวฟ)
เมื่อนึกถึง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่เป็นมากกว่าแค่อาหารมื้อด่วน แต่คือตำนานแห่งวงการอาหาร ชื่อของ "นิสชิน" ต้องเป็นอันดับแรกๆ ที่ทุกคนนึกถึงอย่างแน่นอน ด้วยจุดเริ่มต้นจากญี่ปุ่นในปี 1958 นิสชินคือผู้บุกเบิกและผู้ให้กำเนิดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายแรกของโลก ที่ได้ปฏิวัติวิถีการกินของผู้คนทั่วโลกไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยปรัชญาที่มุ่งมั่นนำเสนอแต่สิ่งที่ดีที่สุด นิสชินจึงยืนหยัดด้วยคุณภาพและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์สไตล์ญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้
วันนี้เราขอชวนคุณมาลิ้มลองอีกหนึ่งรสชาติคลาสสิกที่ครองใจคนทั่วโลก นั่นคือ นิสชิน โบวล์ รสไก่ ในขนาด 103 กรัม ที่พร้อมมอบความอร่อยกลมกล่อมในแบบที่คุ้นเคย
• น้ำซุปไก่หอมกรุ่น กลมกล่อม: เอกลักษณ์ของรสชาตินี้คือน้ำซุปที่เคี่ยวอย่างพิถีพิถันจนได้ความหอมของไก่และเครื่องปรุงรสในแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ ให้รสชาติที่ กลมกล่อม นุ่มนวล และอบอุ่นในทุกคำ เป็นรสชาติที่ทานง่าย อร่อยได้ทุกคน
• เส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม ตามแบบฉบับนิสชิน: สัมผัสถึงความพิเศษของเส้นบะหมี่ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องของนิสชิน ที่มีความ เหนียวนุ่มกำลังดี ไม่เละง่าย ให้คุณได้สัมผัสถึงเนื้อสัมผัสของเส้นที่เข้ากันได้ดีกับน้ำซุปเข้มข้น
ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่คุณต้องการมื้อที่อิ่มอร่อย มื้อที่ต้องการความสะดวกสบาย หรือแม้แต่ช่วงเวลาพักผ่อนที่อยากได้อะไรทานง่ายๆ แต่ได้รสชาติเต็มๆ นิสชิน โบวล์ รสไก่ ในขนาด 103 กรัม คือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ ด้วยปริมาณที่กำลังพอดี อิ่มอร่อยได้ไม่ว่าจะเวลาไหน
เพียงเปิดฝา เติมน้ำร้อน แล้วรอเพียงไม่กี่นาที ความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นที่คุ้นเคยก็พร้อมเสิร์ฟตรงหน้าคุณ
1. เปิดฝาจนถึงเส้นประ ใส่ผงซุปและเครื่องปรุงอบแห้งลงในถ้วย
2. เติมน้ำร้อนลงไปจนถึงเส้นบอกระดับภายในถ้วย ปิดฝาแล้วรอประมาณ 3 นาที
3. เปิดฝาแล้วใส่น้ำมันปรุงรส คนให้เข้ากัน พร้อมรับประทานค่ะ
มาลิ้มลองความอร่อยกลมกล่อมของนิสชิน รสไก่ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมบะหมี่ถ้วยนี้ถึงเป็นที่รักของใครหลายคน!
สัมผัสรสชาติ ชาเขียว มัทฉะ พรีเมี่ยม ที่ให้ความหอมสดชื่นอูมามิแบบต้นตำรับญี่ปุ่น
ชาเขียวมัทฉะ จากเมืองนิชิโอะ ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นหนึ่งในชาเขียวคุณภาพสูงของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในรูปแบบชาเขียวมัทฉะ ซึ่งเมืองนี้มีชื่อเสียงด้านการผลิตมัทฉะเกรดพรีเมี่ยม เพราะใช้วิธีการร่มเงาก่อนเก็บเกี่ยว 3-4 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มปริมาณคลอโรฟิลล์ ทำให้ได้ใบชาสีเขียวสด และ ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ คาเทชิน และ แอล-ธีอะนีน ซึ่งช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและกระตุ้นสมาธิ และ ยังมีรสชาติหอมละมุน ละลายง่าย ไม่ขมฝาด หวานธรรมชาติ และ อูมามิแบบญี่ปุ่นแท้ๆ คนรักมัทฉะไม่ควนพลาด!!!
เหมาะสำหรับ
• ชงดื่มแบบร้อน-เย็น มัทฉะลาเต้ / โกจิฉะ / ชาเขียวสด
• ใช้ทำขนม เช่น ไดฟุกุ ไอศกรีม ชีสเค้ก มาการอง
• ใช้ในพิธีชงชาแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม
วิธีชงแบบดั้งเดิม (Usucha – ชาเข้มข้นแบบบาง)
• ตัก มัทฉะ 1-2 กรัม (ประมาณ ½ - 1 ช้อนชา) ลงในถ้วย
• เติม น้ำร้อน 70-80°C ประมาณ 70-100 มล.
• ใช้ แปรงไม้ไผ่ (Chasen) ตีเป็นรูปตัว M หรือ W จนเกิดฟองเนียนนุ่ม
• พร้อมดื่มทันที! ได้รสชาติหอมละมุน อูมามิเต็มคำ
วิธีชงมัทฉะลาเต้ (ร้อน / เย็น)
• ตัก มัทฉะ 2 กรัม (1 ช้อนชา) ลงในแก้ว
• เติม น้ำร้อน 50 มล. คนให้ละลาย
• เติม นมสดหรือนมทางเลือก 150-200 มล. (ร้อนหรือเย็น)
• เติมน้ำแข็ง (ถ้าชงแบบเย็น) และเพิ่มความหวานตามชอบ
✨ เคล็ดลับ: ใช้น้ำร้อน 70-80°C หลีกเลี่ยงน้ำเดือดเกินไปเพื่อคงความหวานและอูมามิของมัทฉะ
ประโยชน์ของมัทฉะ
• ช่วยเพิ่มพลังงาน: มัทฉะมีสาร L-theanine ซึ่งช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายแ ต่ยังคงความกระปรี้กระเปร่า
• ช่วยเผาผลาญไขมัน: มัทฉะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย
• บำรุงผิวพรรณ: สารต้านอนุมูลอิสระในมัทฉะช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์
• ช่วยลดคอเลสเตอรอล: ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
อินานิวะ อุด้ง 1 ใน 3 สุดยอดอุด้งของญี่ปุ่น
เส้นอุด้ง จากอากิตะ เป็นสินค้าขึ้นชื่อประจำจังหวัด ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น "อุด้งเส้นแห้งดึงมือ" อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น มีลักษณะเด่นคือเส้นบางกว่าอุด้งทั่วไป และมีความเหนียวนุ่มเป็นพิเศษ เนื่องจากผ่านกระบวนการนวดและยืดเส้นด้วยมือแบบดั้งเดิม ทำให้ได้สัมผัสที่นุ่มลื่นและเคี้ยวหนึบ นิยมทานแบบเย็นจุ่มกับซุปโชยุเข้มข้น หรือ แบบร้อนในน้ำซุปดาชิหอมกลมกล่อม
วิธีรับประทาน อินานิวะ อุด้ง
1. ต้มน้ำให้เดือด เตรียมน้ำ 1 ลิตร ต่อเส้นอุด้ง 80-100 กรัม รอให้น้ำเดือด
2. ใส่เส้นลงในน้ำ ค่อยๆ วางเส้นลงในน้ำเดือด
3. ใช้ตะเกียบคนเส้นอุด้งเบาๆ เป็นรูปเลขแปด เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นติดกันขณะต้ม
4. ตรวจสอบสีของเส้นอุด้ง ต้มจนเส้นลายเป็นสีขาวขุ่น ปรับเวลาในการต้มตามเนื้อสัมผัสที่ต้องการ
ต้มนานขึ้นเพื่อให้เส้นนิ่มขึ้น หรือลดเวลาลงเพื่อให้เส้นแข็งขึ้น < เวลาโดยประมาณ >
• อุด้ง : 3 นาที / ฮิมูกิ: 2 นาที
• โซเมน : 90 วินาที / ข้าวต้มเส้น 4-5 นาที
5. เมื่อต้มเสร็จแล้ว ให้รีบนำใส่กระชอนแล้วล้างด้วยน้ำเย็นให้สะอาดเพื่อป้องกันไม่ให้เส้นสุกเกินไป
มาทำขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมกันค่ะ
แป้งวาราบิโมจิ จากแบรนด์ คิง ฟู้ด (King Food) คือผลิตภัณฑ์แป้งทำขนมญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับคนที่ชื่นชอบในการทำขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่น เช่น วาราบิโมจิ โมจิ หรือขนมที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มหนึบ โดยสามารถปรับสูตรได้ตามแบบเฉพาะของคุณ สำหรับเมนูวาราบิโมจิ หากยิ่งทานคู่กับผงคินาโกะด้วยแล้ว ยิ่งอร่อยในแบบฉบับของญี่ปุ่นแท้ๆเลยค่ะ
วิธีทำ
1. ผสมแป้งวาราบิโมจิ 1 ถุง ต่อน้ำประมาณ 700 cc
2. ตั้งไฟโดยใช้ไฟกลาง เมื่อสีของแป้งเริ่มขุ่นและจับกันเป็นก้อน ให้ลดไฟเป็นไฟอ่อน หมั่นคนให้เข้ากันจนแป้งเริ่มใส
3. เมื่อแป้งใสได้ที่แล้ว ให้เทลงบนภาชนะที่มีลักษณะแบน ค่อยๆใส่น้ำด้านบนแป้งเพื่อให้แป้งเย็นตัวลง แล้วตัดเป็นชิ้นพอดีคำ
วิธีลัด
• ตักแป้งที่เพิ่งกวนเสร็จในขนาดพอดีคำ แล้วใส่ในน้ำเย็นจัด (น้ำผสมน้ำแข็ง) นำมาสะเด็ดน้ำเรียบร้อยแล้ว เพื่อเพิ่มความอร่อยให้โรยผงคินาโกะ หรือผงชาเขียวตามชอบ
วิธีทำด้วยไมโครเวฟ
*แนะนำให้แบ่งทำทีละน้อย*
1. ใช้แป้งวาราบิโมจิ 60 กรัม (สำหรับ 2 เสิร์ฟ) ต่อน้ำ 270 CC
2. ผสมน้ำกับแป้งใส่ในภาชนะที่ใหญ่คนให้เข้ากัน จากนั้นแร็ปปิดฝาด้านบน
3. นำเข้าไมโครเวฟใช้ไฟ 500 วัตต์ ประมาณ 4 นาที นำออกมาคนให้เข้ากัน จากนั้นแร็ปปิดฝาด้านบน เข้าไมโครเวฟอีกครั้ง จนแป้งสุกและมีเนื้อใส
4. นวดให้เข้ากัน หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วทิ้งให้เย็น เพื่อเพิ่มความอร่อยให้โรยผงคินาโกะ หรือผงชาเขียวตามชอบ
(สามารถปรับสูตรได้ตามความต้องการ)
ดองผักให้อร่อยในพริบตา! ด้วย Asazuke no Moto จาก Ebara
Asazuke no Moto จากแบรนด์ เอบาระ (Ebara) เป็นน้ำปรุงรสสำเร็จรูปสำหรับการทำผักดองสไตล์ญี่ปุ่นแบบง่ายๆ และรวดเร็ว หรือที่เรียกว่า “อาซาซึเกะ” (Asazuke) ด้วยรสชาติที่เค็มเล็กน้อย หวานนิดๆ และกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ น้ำปรุงนี้ช่วยเสริมรสชาติให้ผักดองอร่อยอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้เวลานานหรือขั้นตอนยุ่งยาก ผักดองที่ได้จะมีความกรอบ สดชื่น และยังคงรสชาติของผักไว้ได้อย่างดี
Asazuke no Moto จึงกลายเป็นตัวช่วยคู่ครัวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น เพราะสามารถใช้ดองผักได้หลากหลายชนิดตามใจชอบ แค่มีผักกับน้ำปรุง ก็ได้เมนูเครื่องเคียงแบบญี่ปุ่นที่ทั้งอร่อยและสดใหม่ในไม่กี่นาที!
วิธีใช้
• หั่นผักที่ต้องการหมักเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วใส่ลงในถุงซิปล็อก
• เทน้ำปรุงรส "Asazuke no Moto" ลงไปให้ทั่วผัก (ปริมาณการใช้ 100 มล. ต่อผัก 200 กรัม)
• ไล่อากาศออกจากถุงให้มากที่สุด ปิดปากถุงให้แน่น แล้วขยำเบาๆให้ส่วนผสมเข้ากัน
• นำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 30 หรือนานกว่านั้นตามความชอบ
• จากนั้นนำผักออกมา บีบน้ำส่วนเกินออก (โดยไม่ต้องล้างน้ำเปล่า)เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟทันที
เพิ่มความสดชื่นแบบไร้คาเฟอีน ด้วยชาข้าวบาร์เลย์จากญี่ปุ่น
สำหรับคนที่ต้องการความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า แต่ไม่อยากรับประทานเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เราขอแนะนำมูกิฉะหรือชาข้าวบาร์เลย์ค่ะ ชาชนิดนี้แท้จริงแล้วไม่มีส่วนผสมของใบชา แต่ผลิตขึ้นจากเมล็ดข้าวบาร์เลย์ที่นำมาคั่วบดแล้วบรรจุใส่ซองชา เพื่อนำมาชงกับน้ำร้อนหรือน้ำเย็น
ฮอนมะ มอน มูกิฉะห่อนี้ โดดเด่นด้วยการใช้ข้าวบาร์เลย์ชนิดเปลือกล่อน อิจิบังโบชิ (Ichibanbochi) จากจังหวัดคางาวะ 100% จึงทำให้มีรสชาติกลมกล่อม ไม่ขมฝาดเหมือนชาอื่นๆ และมาพร้อมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ น้ำชามีสีเหลืองทอง ให้ความรู้สึกสดชื่น ชุ่มคอ ชาวญี่ปุ่นจึงนิยมดื่มมูกิฉะในฤดูร้อน เรียกได้ว่าเป็นเครื่องดื่มแก้วโปรดของทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยทีเดียวค่ะ
วิธีการชงแบบร้อน
• ต้มน้ำ 1.5 ลิตรให้เดือด ใส่ฮอนมะ มอน มูกิฉะ 1 ซอง แล้วต้มต่อไปอีกประมาณ 3-5 นาที จากนั้นยกลงจากเตา สามารถดื่มแบบร้อนหรือนำไปแช่เย็นก่อนดื่มก็ได้ค่ะ
วิธีการชงแบบเย็น
• ใส่ฮอนมะ มอน มูกิฉะ 1 ซอง ลงในน้ำเย็น 1 ลิตร แล้วนำไปแช่เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง พร้อมดื่มค่ะ
โคสึบุกโกะ เซมเบ้ รสน้ำผึ้ง หวาน หอม อร่อยมากกก
ลิ้มรสความหวาน หอม อร่อย จากน้ำผึ้ง ที่เคลือบบนเซมเบ้ทอดกรอบ สำหรับใครที่ชอบขนมอบกรอบ รสชาติออกไปทางหวานนิดๆ หอมกลิ่นน้ำผึ้ง ขอแนะนำ Kotsubukko ไม่ควรพลาดค่ะ
มันฝรั่งทอดกรอบ อร่อย เคี้ยวเพลิน
โปเตโกะ (Poteco) เป็นขนมมันฝรั่งทอดกรอบรูปแบบวงเล็กๆ กรอบ อร่อย เคี้ยวเพลิน ปรุงรสด้วยเกลือ Churaumi ซึ่งเป็นเกลือจากเมืองโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ที่โดดเด่นในเรื่องความเค็มที่กลมกล่อม และอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มาในแพ็กเกจสีสันสดใส 1 แพ็ค มี 4 ซอง