ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Koshihikari จากจังหวัดนีงาตะ
เป็นพันธุ์ข้าวที่คนญี่ปุ่นนิยมปลูกและรับประทานมากที่สุด เพราะมีรสชาตินุ่มละมุน รสหวาน และเคี้ยวหนึบ จนถูกขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า “ข้าวจากแดนสวรรค์ ” เมื่อหุงจนสุกเม็ดข้าวจะขาวเงางามคล้ายอัญมณี มีความเหนียวเล็กน้อย และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ แม้จะทิ้งไว้จนเย็นข้าวยังคงมีรสชาติดี นิยมนำมาใช้ทำเมนูซูชิ
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่านคนเบาๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำจนอ่อนนุ่ม
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆคนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
1. เก็บในที่แห้งและเย็น
2. ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
3. หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
1. คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
2. ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
3. ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Nanatsuboshi ข้าวที่เติบโตท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ของฮอกไกโด
นิยมปลูกมากในฮอกไกโด เมล็ดข้าวอวบ หุงแล้วขึ้นเงา มีความเหนียวปานกลาง และความหวานแบบพอดี ทำให้โดนใจชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก แม้ข้าวจะเย็นแต่ยังคงความนุ่ม หอม อร่อย สามารถทำอาหารได้หลากหลายประเภท แต่จะนิยมนำมาทำเบนโตะและซูชิ
• ลักษณะเมล็ด – เมล็ดข้าวอวบ ขาว หุงขึ้นหม้อ
• รสชาติ – มีรสหวานและยังคงอร่อยแม้จะเย็นแล้ว
• ความเหนียว – ความเหนียวกำลังดี
• เมนูที่เหมาะสม – เบนโตะ และซูชิ
• ความลับของสายพันธุ์ – ถือว่าเป็นข้าวที่มีความสมดุลระหว่างรสชาติกับเนื้อสัมผัสมากที่สุดในสายพันธุ์ข้าวฮอกไกโด เมื่อหุงจนสุกข้าวมีความขาว ความเงา ความหอม ให้รสชาตินุ่มนวล และเคี้ยวอร่อย
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบาๆประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำจนอ่อนนุ่ม
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อย ๆ คนให้น้ำระเหย
ท้าให้ลอง! เกี๊ยวซ่าไส้แน่น แค่ทอดก็กรอบ อร่อยระดับร้านดัง
เมนูยอดฮิตที่คนญี่ปุ่นหลงรัก “เกี๊ยวซ่า” ติดอันดับต้นๆอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยเอกลักษณ์แป้งบาง ไส้แน่น และ สชาติกลมกล่อม ผสมผสานผักและเครื่องปรุงอย่างลงตัว เกี๊ยวซ่าไส้ผักรวม เต็มไปด้วยความกรุบกรอบของผักหลากชนิด ทานง่าย ไม่เลี่ยน เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ ม่ว่าจะเป็นมื้อกลางวันเร่งด่วน อาหารเย็นกับครอบครัว หรือเมนูเสริมในร้านอาหาร เกี๊ยวซ่าไส้ผักรวมก็พร้อมตอบโจทย์ทั้งรสชาติและความสะดวก ห้คุณได้ลิ้มรสความอร่อยเหมือนนั่งทานในร้านที่ญี่ปุ่น
วิธีการทอดเกี๊ยวซ่าแบบแช่แข็ง
• เตรียมน้ำร้อน 150 cc สำหรับเกี๊ยวซ่าแช่แข็งจำนวนหนึ่งห่อ ไม่ต้องนำเกี๊ยวซ่าไปละลายน้ำแข็งก่อนทำอาหาร (ปริมาณและเวลาเป็นเพียงการประมาณการณ์เท่านั้น โปรดปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม)
• ใส่น้ำมัน 30 cc ลงในกระทะ และตั้งไฟเป็นเวลา 30 วินาที เมื่อน้ำมันร้อนแล้ว ให้วางเกี๊ยวซ่าลงในกระทะ โปรดปิดฝาในขณะที่ทอดเกี๊ยวซ่า
• หลังจากปิดไฟแล้ว ให้วางเกี๊ยวซ่าลงในกระทะ โดยเว้นระยะห่างเล็กน้อย โปรดระมัดระวังเนื่องจากแผ่นเกี๊ยวซ่าบางมาก และอย่าแตะต้องเกี๊ยวซ่าที่เริ่มทอดแล้ว
• ตั้งไฟปานกลางแล้วราดน้ำร้อน 150cc ที่เตรียมไว้ลงบนเกี๊ยวซ่าทั้งหมดอย่างทั่วถึง (ใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที) จากนั้นปิดฝา
• เมื่อน้ำในกระทะเริ่มแห้ง ให้หยอดน้ำมันงา 2 ช้อนเล็กน้อยลงบนเกี๊ยวซ่า และปรับเป็นไฟกลางเพื่อทอดเกี๊ยวซ่าจนเป็นสีน้ำตาลทอง โปรดระวัง เนื่องจากไฟแรงจะทำให้เกี๊ยวซ่าไหม้
• เมื่อเกี๊ยวซ่ามีสีน้ำตาลทองแล้วก็เป็นอันเสร็จสิ้น ตักเกี๊ยวซ่าใส่จาน และพร้อมรับประทานกับน้ำจิ้มได้เลย
แนะนำซอสทานคู่ :
• ซอสถั่วเหลืองผสมกับน้ำส้มสายชู
• ซอสพอนสึ เพิ่มรสเปรี้ยวหวานกลมกล่อม ยิ่งช่วยเสริมรสชาติให้กลมกล่อมขึ้น
• น้ำจิ้มซีอิ๊วพริกหรือจิ้มกับน้ำมันงาก็อร่อยไม่แพ้กัน
บอกลาเช้าที่น่าเบื่อของคุณด้วยแพนเค้กแสนอร่อย
เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยมีวันที่เร่งรีบจนไม่มีเวลาทำอาหารเช้ากันใช่ไหมคะ ปัญหานี้จะหมดไปเพียงแค่มีมินิแพนเค้กห่อนี้ติดช่องแช่แข็งเอาไว้ คุณก็จะได้ทานแพนเค้กเนื้อเนียนนุ่มพร้อมกลิ่นเนยหอมกรุ่น และรสชาติหวานนิดๆ โดยไม่ต้องมานั่งผสมแป้งเองให้เสียเวลา มาในขนาดมินิ น้ำหนักชิ้นละประมาณ 20 กรัม อิ่มพอดีๆ ไม่ว่าจะทานคู่กับวิปครีม ผลไม้สด ราดน้ำผึ้ง ทาแยม หรือจะประยุกต์เป็นเมนูอื่นๆ ก็ง่าย สะดวก อร่อยได้ทั้งครอบครัวค่ะ
วิธีอร่อยกับมินิแพนเค้ก
• รับประทานแบบอุณหภูมิปกติ: นำแพนเค้กออกจากช่องแช่แข็ง ตั้งไว้ในอุณหภูมิห้องประมาณ 30-40 นาที
• รับประทานแบบอุ่น: นำแพนเค้กออกมาใส่ภาชนะสำหรับนำเข้าไมโครเวฟ ใช้เวลาอุ่นประมาณ 1-2 นาที (ขึ้นอยู่กับกำลังไฟของไมโครเวฟ)
ราเมนเส้นสด เหนียวหนึบ สูตรต้นตำหรับจากญี่ปุ่น แบบเดียวกับที่ใช้ตามร้านราเมนชื่อดัง
ราเมนเส้นสดที่ใช้กรรมวิธีผลิตแบบพิเศษที่ทำให้เส้นมีความสด เส้นที่ได้เหนียวนุ่ม อร่อย ให้คุณได้ลิ้มรสชาติของเส้นราเมนแท้ๆ
เหมาะสำหรับเมนูราเมนร้อน บะหมี่เย็น และยากิโซบะ หากคุณเป็นคนชอบทานราเมน ขอแนะนำเลยค่ะ
วิธีเตรียมเส้น
ต้มน้ำให้เดือด สางเส้นไม่ให้ติดกันก่อนลวก
*ไม่ควรนำเส้นไปล้างหรือจุ่มน้ำเพื่อล้างแป้งก่อนลวก เพราะจะทำให้เส้นติดกัน
- เมนูราเมน ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 2-3 นาที
- เมนูบะหมี่เย็น ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 2:45-3:15 นาที แล้วนำเส้นไปจุ่มในนำเย็นก่อนเสิร์ฟ
- เมนูยากิโซบะ ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 1:30-1:45 นาที
มาลองชิมไก่ทอดทัตสึตะอาเกะสไตล์ญี่ปุ่นกันค่ะ
เมนูไก่ทอดเป็นอาหารจานโปรดของใครหลายๆ คน เนื้อไก่นุ่มๆ ชุ่มฉ่ำ ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้แป้งกรอบๆ แค่คิดก็ฟินแล้วใช่ไหมล่ะคะ ยิ่งเมนูไก่ชุบแป้งทอดสไตล์ญี่ปุ่นนี่บอกเลยว่าพลาดไม่ได้ ไม่ว่าจะรับประทานเป็นมื้อหลักหรือเอาไว้เป็นของทานเล่นก็เคี้ยวเพลินไม่ต่างกัน
เราขอแนะนำไก่ทอดทัตสึตะอาเกะรสชาติเยี่ยมเกรดส่งออก ทำจากสะโพกไก่เนื้อนุ่ม นำมาปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลืองสูตรพิเศษให้อร่อยกลมกล่อม เพิ่มความสมบูรณ์แบบด้วยกลิ่นหอมจากกระเทียมและขิงที่ผสานเข้ากันเป็นอย่างดี เคลือบด้วยแป้งที่ไม่หนาจนเกินไป ให้สัมผัสกรอบนอกนุ่มใน ไม่เลี่ยน ไม่ว่าจะอุ่นร้อนด้วยไมโครเวฟ นำเข้าหม้อทอดไร้น้ำมัน หรือทอดในน้ำมันร้อนๆ ก็อิ่มอร่อยได้ง่ายๆ ค่ะ
✨ ข้าวผัดกุ้งสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมทาน แค่เวฟก็อร่อย! ✨
ข้าวผัดกลิ่นหอมเนย ผัดกับกุ้งตัวโตๆ ไข่ และผักรวมมีสีสันสวยงาม พร้อมรสชาติกลมกล่อมจากซอสสูตรเฉพาะแบบญี่ปุ่นแท้ๆ นอกจากนี้คุณยังสามารถสัมผัสถึงข้าวและส่วนผสมที่เคี้ยวหนึบเล็กน้อยก็สามารถดูดซับรสชาติอาหารทะเลได้อย่างดี คุณสามารถเพลิดเพลินกับเนื้อสัมผัสที่หลากหลายได้ในคราวเดียวด้วยกุ้งตัวอ้วนและถั่วเขียวกรุบกรอบ ถั่วเขียวยังเพิ่มรสชาติที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ในขณะที่กำลังอุ่นอาหารในไมโครเวฟ กลิ่นหอมแรงของกุ้งกับเนยก็ลอยมาในอากาศ รับรองว่าจะต้องเรียกน้ำย่อยอย่างแน่นอน
สิ่งใหม่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้คือถุงบรรจุภัณฑ์สามารถตั้งได้ด้วยตัวเอง โดยปกติแล้วคุณจะต้องนำข้าวผัดออกจากถุง แต่เนื่องจาก Wild Dish ยังทำหน้าที่เป็นภาชนะได้ด้วย จึงทำให้สามารถคงตำแหน่งตั้งตรงได้ เพื่อทำให้ภาชนะเสร็จสมบูรณ์ให้ใช้กรรไกรตัดตามเส้นตัดสีขาวที่พิมพ์ไว้บนบรรจุภัณฑ์ เท่านี้ก็พร้อมตักทานได้เลยค่ะ
♨️ วิธีการอุ่นด้วยไมโครเวฟ
• ห้ามฉีกถุงก่อนอุ่น
• ให้นำเข้าไมโครเวฟทั้งถุง โดยหันด้านที่ระบุไว้ขึ้นด้านบน
• หลังจากอุ่นเสร็จ ใช้กรรไกรตัดตามจุดประที่กำหนด โดยจับถุงในตำแหน่งที่แนะนำ
⏱️เวลาที่ใช้ในการอุ่น:
• ไมโครเวฟ 500W: ประมาณ 3 นาที 30 วินาที
• ไมโครเวฟ 600W: ประมาณ 3 นาที 10 วินาที
ชาเขียวเซนฉะชนิดชงได้ทั้งร้อนและเย็น ถูกใจสำหรับคนรักชา
ดองผักให้อร่อยในพริบตา! ด้วย Asazuke no Moto จาก Ebara
Asazuke no Moto จากแบรนด์ เอบาระ (Ebara) เป็นน้ำปรุงรสสำเร็จรูปสำหรับการทำผักดองสไตล์ญี่ปุ่นแบบง่ายๆ และรวดเร็ว หรือที่เรียกว่า “อาซาซึเกะ” (Asazuke) ด้วยรสชาติที่เค็มเล็กน้อย หวานนิดๆ และกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ น้ำปรุงนี้ช่วยเสริมรสชาติให้ผักดองอร่อยอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้เวลานานหรือขั้นตอนยุ่งยาก ผักดองที่ได้จะมีความกรอบ สดชื่น และยังคงรสชาติของผักไว้ได้อย่างดี
Asazuke no Moto จึงกลายเป็นตัวช่วยคู่ครัวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น เพราะสามารถใช้ดองผักได้หลากหลายชนิดตามใจชอบ แค่มีผักกับน้ำปรุง ก็ได้เมนูเครื่องเคียงแบบญี่ปุ่นที่ทั้งอร่อยและสดใหม่ในไม่กี่นาที!
วิธีใช้
• หั่นผักที่ต้องการหมักเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วใส่ลงในถุงซิปล็อก
• เทน้ำปรุงรส "Asazuke no Moto" ลงไปให้ทั่วผัก (ปริมาณการใช้ 100 มล. ต่อผัก 200 กรัม)
• ไล่อากาศออกจากถุงให้มากที่สุด ปิดปากถุงให้แน่น แล้วขยำเบาๆให้ส่วนผสมเข้ากัน
• นำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 30 หรือนานกว่านั้นตามความชอบ
• จากนั้นนำผักออกมา บีบน้ำส่วนเกินออก (โดยไม่ต้องล้างน้ำเปล่า)เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟทันที
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Yumepirika ถือเป็นพันธุ์ข้าวระดับไฮเอนด์ที่ใช้สุดยอดเทคโนโลยีการเพาะสายพันธุ์ข้าวในฮอกไกโด
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ยูเมะพิริกะ (Yumepirika) จากแบรนด์ โฮคุเรน (Hokuren) เป็นข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์พรีเมียมที่ปลูกในจังหวัดฮอกไกโด ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอากาศหนาวเย็นและดินที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ข้าวมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นข้าวเกรดสูงที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น
ลักษณะเด่นของ Yumepirika
• เมล็ดอวบอ้วน และเงางาม - เมล็ดข้าวมีขนาดปานกลางถึงใหญ่ เมื่อหุงแล้วจะเงางามและมีความหนึบที่โดดเด่น
• เนื้อนุ่มแต่ไม่เละ - ข้าวมีความเหนียวและนุ่มในระดับที่พอดี ไม่ร่วนหรือแข็งเกินไป
• รสหวานธรรมชาติ - มีรสชาติอ่อนๆ และหวานธรรมชาติ แม้ทานเปล่าๆ ก็ยังอร่อย
• กลิ่นหอมพิเศษ - มีกลิ่นหอมที่แตกต่างจากข้าวพันธุ์อื่น
• ปลูกในอากาศหนาวเย็น - อุณหภูมิที่เย็นของฮอกไกโดช่วยให้ข้าวมีคุณภาพดีขึ้นและสามารถเก็บรักษาได้นาน
รางวัลและมาตรฐานคุณภาพ
• Yumepirika ได้รับการรับรองมาตรฐาน 特A (Toku A) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของข้าวญี่ปุ่น
• เป็นข้าวที่ได้รับความนิยมในร้านอาหารระดับพรีเมียมทั่วญี่ปุ่น
• ได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลฮอกไกโดให้เป็นข้าวเกรดพรีเมียมของภูมิภาค
เมนูที่เหมาะกับ Yumepirika
เนื่องจาก Yumepirika เป็นข้าวที่มีความเหนียวนุ่มและมีรสหวานในตัว จึงเหมาะกับอาหารที่ต้องการข้าวคุณภาพสูง เช่น
• ข้าวสวย (Cooked Rice) - เมล็ดข้าวสวย เมื่อหุงสุกจะมีความเงาสวย เหมาะสำหรับทานแบบข้าวสวย
• ซูชิ (Sushi) - เมล็ดข้าวเหนียวกำลังดี จับตัวได้ง่าย ไม่แฉะเกินไป
• ข้าวปั้น (Onigiri) - รสชาติหวานธรรมชาติทำให้กินเปล่าๆ ก็อร่อย
• ข้าวญี่ปุ่นธรรมดา (Gohan) - เหมาะสำหรับทานคู่กับปลาย่างหรืออาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
• ข้าวหน้าอาหารทะเล (Kaisendon/Donburi) - ความหนึบของข้าวช่วยเสริมรสชาติของปลาดิบได้ดี
Yumepirika ถือเป็นข้าวที่ให้รสชาติที่ดีที่สุดของฮอกไกโด ถ้าคุณต้องการข้าวที่นุ่ม หอม และมีคุณภาพสูง Yumepirika คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
• ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
• ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบาๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
• กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
• ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำเวลาหุงข้าวจะนุ่มไม่กระด้าง
• หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆ คนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
• เก็บในที่แห้งและเย็น
• ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
• หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
• คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
• ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
• ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์
พร้อมเปิดประสบการณ์ความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ
ครีมชีสคุณภาพสูงจากนมวัวฮอกไกโดเข้มข้น หอมมัน และไม่หวานจนเกินไป
สามารถอร่อยได้ทั้งแบบเย็นฉ่ำ และแบบคลายความเย็นเพื่อสัมผัสที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น
หิวเมื่อไหร่ แค่เวฟก็สุดฟิน!
เนื้อไก่นุ่มๆทอด กรอบนอก ฉ่ำใน กับซอสมายองเนส และ ราดด้วยซอสเทอริยากิหวานเผ็ด(เล็กน้อย) สูตรพิเศษแบบญี่ปุ่นแท้ๆ การอุ่นอาหารก็แสนจะง่าย เพียงนำออกมาวางไว้อุณหภูมิห้อง 20 นาที และ นำอาหารเข้าไมโครเวฟ แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟ และยังเข้ากันได้ดีกับข้าว และ มีรูปทรงสะดวกทำให้ใส่กล่องข้าวได้ง่าย เหมาะสำหรับกล่องอาหารกลางวัน และยังเป็นเครื่องเคียงที่รวดเร็วอีกด้วยค่ะ ✨
♨️ วิธีการอุ่นด้วยไมโครเวฟ
ฉีกซองแล้วนำผลิตภัณฑ์ออกจากถุงแล้วนำไปวางบนถาดในไมโคเวฟ ตามจำนวนชิ้น ดังนี้
⏱️เวลาที่ใช้ในการอุ่น:
• ไมโครเวฟ 500 W :
1 ชิ้น ประมาณ 20 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 40 วินาที
3 ชิ้น ประมาณ 50 วินาที
• ไมโครเวฟ 600 W :
1 ชิ้น ประมาณ 20 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 30 วินาที
3 ชิ้น ประมาณ 40 วินาที
(พักไว้สักครู่ก่อนทาน เพราะไส้ด้านในอาจร้อนมาก)