อร่อยได้ง่ายๆ ด้วยเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่น!
สาหร่ายทะเลปรุงรสด้วยกลิ่นหอมของใบชิโซะและใบชิโสะสีเขียว สามารถใช้เป็นส่วนผสมในข้าวปั้น เป็นกับข้าวหรือโจ๊ก โรยบนสลัด หรือรับประทานเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย หรือใช้สร้างสรรค์เมนูอื่นๆ ทั้งปรุงสุกและพร้อมรับประทานได้หลากหลายวิธี ทำให้สะดวกและประหยัดเวลา พร้อมเสิร์ฟ
ซานุกิ 1 ใน 3 ของเส้นอุด้งที่อร่อยที่สุดของญี่ปุ่น
Sanuki Udon ของจังหวัดคากาว่า ถือเป็นสุดยอมเมนูอุด้งที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น และได้รับความนิยมไปทั่วโลก ความพิเศษของเมนูวัดกันที่ความอร่อยของเส้นค่ะ
เส้นซานุกิอุด้งผลิตจากแป้งสาลีที่ปลูกจากจังหวัด Kagawa ด้วยวิธีการปลูกแบบดั้งเดิมทำให้เนื้อสัมผัสที่ได้มีความเหนียว นุ่ม เคี้ยวหนึบต่างจากแป้งสาลีชนิดอื่น ด้วยความอร่อยของเส้นซานุกิไม่ว่าจะใช้ทำเป็นเมนูไหนก็อร่อยถูกใจแน่นอนค่ะ
"ชูรสชาติราเมงให้อร่อยยิ่งขึ้นด้วยหน่อไม้เมนมะ"
ช่วงฤดูฝนถือเป็นช่วงที่หน่อไม้อร่อยที่สุด เพราะมีรสชาติหวาน กรอบ อวบน้ำ เราจึงได้คัดเลือกหน่อไม้ในฤดูกาลนี้นำมาต้มจนสุกและปรุงรสโชยุเข้มข้นจนเต็มไปด้วยรสชาติอูมามิในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ทำให้มีเนื้อนิ่มกรอบ ไม่เละหรือกระด้าง หอมกลิ่นน้ำมันงาและถั่วเหลือง เหมาะสำหรับเป็นเครื่องโรยหน้าอาหารในเมนูราเมง อุด้ง และบะหมี่ญี่ปุ่นแบบอื่นๆ, ใส่ในข้าวผัด, ใช้เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยหรือเป็นกับแกล้มก็อร่อยไม่แพ้กัน สะดวกและประหยัดเวลามากยิ่งขึ้นเพราะมาในรูปแบบปรุงสุกสำเร็จ ทำให้การทานหน่อไม้อร่อยๆ เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคนค่ะ
เส้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในคนญี่ปุ่น
อุด้ง ถือเป็นเมนูเส้นยอดนิยมชนิดหนึ่งของชาวญี่ปุ่น ทำมาจากแป้งสาลี มีลักษณะเป็นเส้นหนา ยาว มีสีขาว สามารถทานได้ทั้งร้อนและเย็น มีรสชาติเหนียว นุ่ม เวลาเคี้ยวเส้นจะเด้ง ทำให้เป็นที่นิยมทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
อร่อยง่ายๆ กับเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่น
ผักกาดดองต้มสุกปรุงรสแบบต้นตำรับญี่ปุ่น รสชาติอร่อยกลมกล่อมกำลังพอดี นิยมนำมาทำเป็นไส้ข้าวปั้นโอนิกิริ, รับประทานเป็นเครื่องเคียงคู่กับข้าวสวยหรือข้าวต้ม, เสิร์ฟเป็นกับแกล้ม หรือนำไปทำเมนูอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย สะดวกและประหยัดเวลาเพราะมาในรูปแบบปรุงสุกพร้อมทาน สามารถจัดเสิร์ฟได้ทันที
วาราบิโมจิ...ความนุ่มหนึบที่ละลายในปาก สัมผัสรสชาติญี่ปุ่นดั้งเดิมแท้ๆ ที่คุณต้องหลงรัก
หากคุณกำลังมองหาขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่น ขอแนะนำ "วาราบิโมจิ โรยผงถั่วเหลือง" ขนมดั้งเดิมที่โดดเด่นด้วยเนื้อสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์ เป็นแป้งที่สกัดจากรากของต้นวาราบิ (เฟิร์นชนิดหนึ่ง) ผสมกับน้ำและน้ำตาล แล้วนำไปกวนจนได้เนื้อสัมผัสใส เงา และ นุ่มเด้ง แต่ยังคงความยืดหยุ่นและความหนึบหนับแบบโมจิ ทำให้เป็นขนมที่ละลายในปาก ขนมนี้ถูกคลุกเคล้าอย่างพิถีพิถันด้วย ผงถั่วเหลืองคินาโกะ (Kinako) ที่ผ่านการคั่วจนหอมกรุ่น ให้รสชาติถั่วอันเข้มข้นที่เข้ากันได้ดีกับความหวานอ่อนๆ และราดด้วย คุโรมิสึ หรือน้ำเชื่อมน้ำตาลทรายดำ(จากน้ำตาลทรายดำโอกินาวา) เพื่อเพิ่มรสชาติอันกลมกล่อม เหมาะสำหรับเป็นของว่างยามบ่าย ทานคู่กับชาเขียวร้อนๆ หรือจะเสิร์ฟเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหาร ก็อร่อยได้ทุกเวลา
วิธีเตรียมก่อนรับประทาน
• นำออกจากช่องแช่แข็ง
- นำวาราบิโมจิออกจากช่องแช่แข็ง โดยยังไม่แกะห่อ ปล่อยให้น้ำแข็งคลายตัวเองตามธรรมชาติ
• รอให้ละลายที่อุณหภูมิห้อง
ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 30–60 นาที (ขึ้นอยู่กับขนาดและอุณหภูมิห้อง)
- เนื้อโมจิควรนุ่ม เด้ง และเย็นกำลังดี
- ไม่ควรเร่งโดยการนำเข้าไมโครเวฟ เพราะจะทำให้เนื้อเสียสัมผัส
• จัดเสิร์ฟ
- เมื่อละลายแล้ว สามารถแกะห่อ จัดลงจาน และ โรยผงคินาโกะ (Kinako) หรือราดซอสคุโระมิตสึ (Kuromitsu) ตามชอบ
เคล็ดลับการรับประทาน
• เสิร์ฟตอนเย็น ๆ จะให้รสสัมผัสสดชื่น เหมาะกับอากาศร้อน
• รับประทานคู่กับชาเขียวร้อน จะช่วยตัดรสหวานได้ดี
• หากเหลือ อย่าแช่แข็งซ้ำ ให้เก็บในตู้เย็นและรับประทานภายใน 1 วัน เพื่อคงคุณภาพ
สุดยอดขนมญี่ปุ่นคลายร้อน! อร่อยง่าย ๆ แค่คลายความเย็น
วาราบิโมจิ คือขนมหวานดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ด้วยเนื้อสัมผัสนุ่มละลาย ผสานความหวานลึกของน้ำตาลทรายแดง และกลิ่นหอมของถั่วเหลืองคั่ว เป็นขนมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในทุกฤดูกาล หัวใจสำคัญของวาราบิโมจิอยู่ที่ “แป้งวาราบิ” ซึ่งได้จากรากของพืชตระกูลเฟิร์นญี่ปุ่น เมื่อนำมาผ่านกระบวนการนวดอย่างพิถีพิถัน จะได้เนื้อสัมผัสที่นุ่ม หนึบ เด้งและละลายในปาก แตกต่างจากโมจิทั่วไปที่ทำจากข้าวเหนียว ด้วยความอ่อนโยนของเนื้อแป้ง จึงให้สัมผัสที่ละเอียดและพรีเมียมยิ่งกว่า ความพิเศษอีกขั้นอยู่ที่การใช้น้ำตาลทรายแดงจากโอกินาว่า หรือ “คุโระซาโตะ” ซึ่งไม่ได้ใช้เป็นแค่น้ำเชื่อมราดเท่านั้น แต่ถูกนวดผสมเข้าไปในเนื้อวาราบิโมจิตั้งแต่ขั้นตอนการทำ ทำให้ขนมมีสีน้ำตาลอ่อน กลิ่นหอมเฉพาะตัวของอ้อย และรสหวานที่ลึก กลมกล่อม ไม่ฉูดฉาด ซึมซับอยู่ในทุกคำที่กัด และที่ขาดไม่ได้ของวาราบิโมจิ นั่นคือการโรย “คินาโกะ”หรือผงถั่วเหลืองคั่วอย่างดี ที่มีกลิ่นหอมถั่วคั่ว และ รสสัมผัสที่นุ่มนวล มันๆ ซึ่งช่วยเสริมให้รสหวานของน้ำตาลทรายแดงมีความสมดุล หอมละมุน และลุ่มลึกยิ่งขึ้น
วิธีทานวาราบิโมจิแบบอร่อย :
• การละลายน้ำแข็ง : นำถุงวาราบิโมจิออกจากช่องแข็ง แล้วย้ายไปใส่ในตู้เย็นช่องธรรมดา หรือวางไว้ที่อุณหภูมิห้อง เพื่อให้ละลายน้ำแข็งอย่างช้า ๆ (ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง)
• ความเย็นคือหัวใจ : ขนมนี้จะอร่อยที่สุดเมื่อทานแบบเย็น เพื่อสัมผัสถึงความนุ่มหนึบและความเย็นชื่นใจ
• พร้อมเสิร์ฟ : เมื่อละลายน้ำแข็งแล้ว สามารถแกะซองและรับประทานได้ทันที
• เพิ่มรสชาติ : หากต้องการรสชาติแบบดั้งเดิมยิ่งขึ้น สามารถราดด้วยน้ำเชื่อมคุโรมิตซึ(น้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดง) ได้ตามความชอบ
เคล็ดลับการรับประทาน
• เสิร์ฟตอนเย็น ๆ จะให้รสสัมผัสสดชื่น เหมาะกับอากาศร้อน
• รับประทานคู่กับชาเขียวร้อน จะช่วยตัดรสหวานได้ดี
• หากเหลือ อย่าแช่แข็งซ้ำ ให้เก็บในตู้เย็นและรับประทานภายใน 1 วัน เพื่อคงคุณภาพ
เมนูทานคู่แนะนำ :
คู่กับชาญี่ปุ่น :
• มัทฉะร้อน/เย็น : เพื่อเสริมความหอมเข้มของชาเขียวให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
• โฮจิฉะ : ชาเขียวคั่วที่มีกลิ่นหอมอบอุ่น จะช่วยตัดรสหวานได้อย่างลงตัว
• เซนฉะ : ชาเขียวใบที่มีรสชาติบางเบาและสดชื่น
วาราบิโมจิ คือขนมที่หลอมรวมวัตถุดิบธรรมชาติและศิลปะการทำขนมของญี่ปุ่นเอาไว้อย่างลงตัว ละมุนในทุกคำ นุ่มหนึบทุกสัมผัส หวานหอมอย่างมีระดับ