สายกระเทียมต้องกรี๊ด! พาสต้ากลิ่นกระเทียมหอมทะลุถุง!
ถ้าคุณคือสายกระเทียม ต้องไม่พลาดเมนูนี้! Nippn Big Peperoncino คือพาสต้าสไตล์ญี่ปุ่นที่นำเสนอกลิ่นหอมและรสชาติของกระเทียมแบบจัดเต็ม ด้วยกระเทียม 3 ชนิด เบคอน และพริกแห้ง ทำให้ทุกคำมีความหอม เผ็ดนิด และเค็มกำลังดี เส้นพาสต้าเหนียวนุ่มสไตล์ญี่ปุ่นอุ่นง่าย ไม่ต้องเปิดถุง อร่อยเหมือนทำสดใหม่จากร้านอาหาร
วิธีอุ่นอาหารในไมโครเวฟ
ห้ามนำไปอุ่นด้วยเตาแก๊ส หรือเตาอบ【อุ่นทั้งที่ยังแช่แข็ง】
1. ดึงออกจากถุงด้านนอก และอุ่นในไมโครเวฟทั้งที่ยังมีฟิล์มพลาสติกใสปิดอยู่ไม่ต้องฉีกฟิล์มออก
2. ระวังขณะหยิบออกจากไมโครเวฟ ระวังถาดร้อน และอ่อนตัว
3. ใช้ส้อมเจาะรูฟิล์ม แล้วลอกออก คนให้ทั่วก่อนรับประทาน
เวลาที่แนะนำสำหรับการอุ่น (ขึ้นอยู่กับวัตต์ของไมโครเวฟ):
ไมโครเวฟ เวลาที่แนะนำ
• 500W 6 นาที 30 วินาที - 6 นาที 50 วินาที
• 600W 6 นาที - 6 นาที 20 วินาที
• 800W ประมาณ 4 นาที 40 วินาที
นัตโตะรสบ๊วยสดชื่น ที่ทำให้คุณตกหลุมรักได้ง่ายขึ้น
สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นทาน นัตโตะ (Natto) แต่ยังกังวลกับกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ หรือผู้ที่ทานนัตโตะอยู่แล้วแต่อยากได้รสชาติใหม่ ๆ ที่ทานง่ายและอร่อยสดชื่น เราขอแนะนำ นัตโตะบ๊วย ฮามานะสึ (Hamanasu) สูตรพิเศษจากญี่ปุ่น ที่จะทำให้ประสบการณ์ทานนัตโตะของคุณเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ความลับของความอร่อยที่ลงตัว นัตโตะบ๊วยถ้วยนี้ถูกออกแบบมาเพื่อความอร่อยที่ทานง่ายที่สุด
• รสชาติไม่จำเจ: จุดเด่นคือการใช้ ซอสบ๊วย (Ume) ที่ทำจากบ๊วยบดพิเศษ ช่วยเพิ่มความเปรี้ยวอมหวานและความหอมสดชื่น (香り爽やか) เข้ามาตัดกับกลิ่นของถั่วเหลืองหมักได้อย่างลงตัว ทำให้ทานง่ายกว่านัตโตะทั่วไปมาก
• ถั่วคุณภาพดีจากฮอกไกโด: คัดสรรถั่วเหลืองเม็ดเล็ก (Kotsubu Daizu) คุณภาพเยี่ยมจาก ฮอกไกโด ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสะอาดและคุณภาพของวัตถุดิบ ทำให้ถั่วมีความอร่อยในตัวและสัมผัสที่เนียนนุ่มกำลังดี
• สุขภาพดีเต็มถ้วย: แม้จะรสชาติดีกว่าเดิม แต่คุณค่าทางอาหารยังครบถ้วน! นัตโตะ อัดแน่นไปด้วยโปรไบโอติก วิตามิน K2 และเอนไซม์นัตโตะไคเนส ที่ช่วยเรื่องการย่อยอาหารและบำรุงหัวใจให้แข็งแรง
วิธีทำความอร่อยง่าย ๆ
นัตโตะบ๊วยฮามานะสึ พร้อมเป็นมื้ออร่อยของคุณในทุกเช้า:
1. นำนัตโตะมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 30-60 นาที เพื่อให้นัตโตะที่แช่แข็งไว้ละลาย
2. แกะซอง นัตโตะ และเทซอสบ๊วยที่แถมมาลงไป
3. ใช้ตะเกียบคน นัตโตะ อย่างรวดเร็วจนเกิดฟองและเส้นใยเหนียว ๆ
4. ทานคู่กับข้าวสวยญี่ปุ่นร้อน ๆ ได้ทันที! ความเปรี้ยวอมหวานของบ๊วยจะช่วยเปิดต่อมรับรสและทำให้ข้าวอร่อยขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
เคล็ดลับการคนนัตโตะให้ฟู
หัวใจสำคัญของการทาน นัตโตะ คือการคนค่ะ การคนนัตโตะไม่ได้มีแค่เรื่องความเหนียว แต่เป็นการดึงเอาสารอาหารสำคัญอย่าง เอนไซม์นัตโตะไคเนสออกมาทำงาน และยังช่วยให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น
ขั้นตอนที่ 1: คนก่อนปรุงรส
• ตักซอสออกก่อน: นำซอง ซอสรสบ๊วยและมัสตาร์ด (ถ้ามี) ออกจากถ้วยก่อนค่ะ
• เริ่มคนเปล่า ๆ: ใช้ตะเกียบหรือส้อม คนนัตโตะในถ้วยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
- เน้นความเร็ว: ไม่จำเป็นต้องคนวนเป็นวงกลมแบบเป๊ะ ๆ แต่เน้นการคนแบบซิกแซ็กสลับไปมาด้วยความเร็วค่ะ
- จำนวนครั้ง: ให้คนอย่างน้อย 50 ครั้ง ค่ะ พอคนไปเรื่อย ๆ คุณจะสังเกตเห็นว่านัตโตะเริ่มมี ฟองสีขาวขุ่น และ ใยเหนียว ๆ เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก
ขั้นตอนที่ 2: คนพร้อมปรุงรส
• เติมซอสบ๊วย: เมื่อนัตโตะเริ่มเป็นฟองได้ที่แล้ว ให้ใส่ ซอสรสบ๊วย (หรือเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามชอบ) ลงไป
• คนต่ออีก 10-20 ครั้ง: คนผสมให้ซอสเข้ากันดีค่ะ การคนรอบสองนี้จะช่วยให้รสชาติของซอสซึมเข้าไปในถั่วและฟองนัตโตะอย่างทั่วถึง ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ทำไมต้องคนเยอะขนาดนั้น?
การคนนัตโตะจะช่วยกระตุ้นการสร้างใยเมือกเหนียวๆ ซึ่งเป็นตัวการของความอร่อยและสุขภาพดี ใยเหล่านี้คือกรดกลูตามิก ซึ่งเป็นแหล่งของรสอูมามิหรือรสชาติกลมกล่อม ยิ่งคนมาก ใยยิ่งเยอะ รสชาติก็จะยิ่งนุ่มละมุนลิ้น และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น
ลองทำตามดูนะคะ รับรองว่า นัตโตะรสบ๊วย ถ้วยนี้จะอร่อยฟู เหนียวได้ที่ ถูกใจแน่นอนค่ะ!
“คางปลาบุรี” ความเรียบง่ายอย่างลงตัว
“บุรี” หรือปลา “ฮามาจิ” คือปลาในตระกูล (Yellow Tail) เป็นปลานำเข้าจากญี่ปุ่นชนิดเดียวในโลกที่มีชื่อเรียกหลากหลายไปตามช่วงอายุ จัดเป็นปลาเนื้อขาวที่มีความมันแทรกอยู่ในเนื้อ
“คางปลาบุรี” เป็นเมนูที่พบได้บ่อยในร้านอาหารญี่ปุ่น และเป็นที่นิยมในงานแต่งงานและงานเฉลิมฉลองอื่นๆ เนื่องจากมีรสชาติอร่อยและเนื้อนุ่มหอม เนื้อใต้คางมีไขมันอยู่มาก ซึ่งทำให้มีรสชาติหวานและเนื้ออร่อย การทำคางปลาบุรี จะใช้วิธีการย่างหรืออบที่ทำให้ผิวเนื้อนอกกรอบและนุ่มอยู่ภายใน มักจะปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยหรือโยชุ หรือเมนูต่างๆอีกมากมาย
วิธีทำคางปลาฮามาจิหรือปลาบุรีย่างเกลือ
1. ตั้งเตาถ่านสำหรับย่าง (ควรตั้งรอประมาณ 45 นาที ไฟจะร้อนพอดี ไม่แรงเกินไป)
2. วางคางปลาบุรีบนตะแกรงย่าง โรยเกลือเล็กน้อย ย่างประมาณ 10 นาที
3. ค่อยๆกลับด้านคางปลา โรยเกลืออีกด้าน แล้วทิ้งไว้อีก 10 นาที กลับด้านทุก 10 นาทีแบบนี้เรื่อยๆ จนสุก (ใช้เวลาทั้งหมด 20-30 นาที แล้วแต่ขนาดของคางปลา)
4. ยกคางปลาฮามาจิลงจาน นำหัวไชเท้าฝอยมาบีบน้ำออก ปั้นเป็นก้อนกลมๆ วางข้างชิ้นปลา พร้อมราดซีอิ๊วบนหัวไชเท้า ก็เสิร์ฟคางปลาบุรีย่างเกลือได้เลย
วิธีการเก็บ
• นำออกมาจากช่องแช่แข็งเฉพาะเท่าที่ต้องการจะประกอบอาหาร ไม่แนะนำให้นำออกมาละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
สปาเก็ตตี้แช่แข็งสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมเสิร์ฟง่ายๆ แค่เข้าไมโครเวฟ!
เมนู “สปาเก็ตตี้ซอสเนยผสมโชยุ” ถือเป็นอีกหนึ่งรสชาติยอดนิยมในญี่ปุ่น ที่ผสมผสานความหอมมันของเนยกับความกลมกล่อมของโชยุ (ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น) ได้อย่างลงตัว มาพร้อมเส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่ม ผัดคลุกเคล้าจนเข้าเนื้อ เสริมด้วยเนื้อสัตว์และผักหลากชนิด ช่วยให้มื้อนี้อร่อยครบในคำเดียว โดยไม่ต้องปรุงเพิ่มเลยแม้แต่น้อย เหมาะสำหรับวันที่เร่งรีบ แต่อยากได้รสชาติที่อร่อยแบบพรีเมียมจากญี่ปุ่นแท้ ๆ อร่อยเต็มคำ อุ่นง่าย พร้อมทานในไม่กี่นาที
วิธีอุ่นอาหารในไมโครเวฟ
ห้ามนำไปอุ่นด้วยเตาแก๊ส หรือเตาอบ【อุ่นทั้งที่ยังแช่แข็ง】
1. ดึงออกจากถุงด้านนอก และอุ่นในไมโครเวฟทั้งที่ยังมีฟิล์มพลาสติกใสปิดอยู่ไม่ต้องฉีกฟิล์มออก
2. ระวังขณะหยิบออกจากไมโครเวฟ ระวังถาดร้อน และอ่อนตัว
3. ใช้ส้อมเจาะรูฟิล์ม แล้วลอกออก คนให้ทั่วก่อนรับประทาน
เวลาที่แนะนำสำหรับการอุ่น (ขึ้นอยู่กับวัตต์ของไมโครเวฟ):
ไมโครเวฟ เวลาที่แนะนำ
• 500W 6 นาที 30 วินาที - 6 นาที 50 วินาที
• 600W 6 นาที - 6 นาที 20 วินาที
• 800W ประมาณ 4 นาที 40 วินาที
ข้อควรระวัง:
• ห้ามใช้ฟอยล์อลูมิเนียม
• ถาดอาจอ่อนตัวได้ อย่าถือด้วยมือเปล่าทันทีหลังอุ่น
• ระวังไอน้ำร้อนขณะเปิดฟิล์ม
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในรสชาติไข่ปลาแซลมอนอันเป็นเอกลักษณ์ ตอนนี้คุณสามารถสัมผัสความอร่อยแบบต้นตำรับญี่ปุ่นได้ง่ายๆได้ที่บ้าน ด้วยไข่ปลาแซลมอน จากแบรนด์ นิสซุย (Nissui) ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารทะเลญี่ปุ่น
ไข่ปลาแซลมอน คืออะไร?
ไข่ปลาแซลมอน (いくら - Ikura - อิคุระ) ของนิสซุยผลิตจากไข่ปลาแซลมอนคุณภาพเยี่ยม ผ่านกระบวนการหมักในซอสโชยุสูตรพิเศษจากแบรนด์นิสซุย ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงรสอาหารทะเลญี่ปุ่น ที่ช่วยดึงรสอูมามิออกมาได้อย่างเต็มที่ ทำให้ได้ไข่ปลาที่มีรสชาติกลมกล่อม หอมมัน และไม่เค็มจนเกินไป
จุดเด่นของไข่ปลาแซลมอนจากแบรนด์นิสซุย
รสชาติแบบต้นตำรับ: ด้วยสูตรการหมักเฉพาะตัว ทำให้ไข่ปลามีรสชาติที่สมดุล และสามารถนำไปรับประทานได้ทันทีโดยไม่ต้องปรุงเพิ่ม
ความสดใหม่คุณภาพสูง: ผลิตจากไข่ปลาแซลมอนที่สดใหม่ ผ่านกรรมวิธีที่ได้มาตรฐานระดับสากล ทำให้ได้เม็ดไข่ปลาที่สวยใส มีผิวสัมผัสแบบ "พุจิ พุจิ" (ปุดๆ) เมื่อกัดจะแตกในปาก มอบความรู้สึกที่น่าประทับใจ
เมนูแนะนำที่ทำได้ง่ายๆ
ด้วยความที่ไข่ปลาของเราปรุงรสมาอย่างพิธีพิถันมาเรียบร้อย จึงสามารถนำไปสร้างสรรค์เมนูญี่ปุ่นยอดนิยมได้อย่างง่ายดาย
ข้าวหน้าไข่ปลา (Ikura Don): ตักไข่ปลาแซลมอนโปะลงบนข้าวสวยญี่ปุ่นร้อน ๆ ก็อร่อยได้ทันที
ซูชิ: ใช้เป็นหน้าซูชิแบบนิกิริ หรือซูชิแบบเรือ (Gunkanmaki)
สลัด: นำไปโรยบนสลัด เพื่อเพิ่มรสชาติและสีสัน
เมนูอื่น ๆ: ใช้เป็นส่วนประกอบในเมนูพาสต้า หรือเป็นกับแกล้มคู่กับเครื่องดื่ม
วิธีใช้เตรียมไข่ปลาเพื่อนำไปประกอบอาหาร
1. นำไข่ปลาแซลมอนออกจากช่องฟรีซ (ช่องแข็ง)
2. นำไปพักไว้ในตู้เย็นช่องปกติประมาณ 30-60 นาที เพื่อให้ไข่ปลาละลายอย่างช้า ๆ เพื่อคงคุณภาพของไข่ปลา
3. เมื่อละลายแล้ว สามารถแกะซองและนำไปรับประทานได้ทันที
ไม่ต้องบินไปถึงญี่ปุ่นก็สัมผัสรสชาติอันล้ำค่าจากท้องทะเลได้ ไข่ปลาแซลมอนนิสซุย พร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนหนึ่งของเมนูพิเศษในทุกโอกาสของคุณ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะ หรืออยากลองสัมผัสรสชาติอันลุ่มลึกของวัตถุดิบระดับพรีเมียม “ตับปลาอังกิโมะ” คือหนึ่งในเมนูที่ห้ามพลาด!
อังกิโมะคืออะไร?
อังกิโมะ (Ankimo) คือตับของปลาอังโกะ (Anko Fish) หรือ มังค์ฟิช (Monkfish) ซึ่งเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในทะเลลึก ถือเป็นหนึ่งในอาหารชินมิ (Chinmi) หรืออาหารเลิศรสที่หาทานได้ยากของญี่ปุ่น ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล" เพราะมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มคล้ายตับห่าน มีรสชาติเค็มอ่อน ๆ และมีความหอมมันอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ทำไมถึงอร่อยและพิเศษ?
ตับปลาอังกิโมะของเรา เป็นสินค้าที่ผ่านกระบวนการปรุงรสและต้มมาอย่างพิถีพิถันจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน จึงมีรสชาติที่กลมกล่อมและพร้อมรับประทานทันที ไม่ต้องนำมาปรุงเพิ่มให้ยุ่งยาก ทำให้คุณได้สัมผัสกับรสชาติแบบดั้งเดิมของอังกิโมะได้อย่างง่ายดาย นอกจากความอร่อยแล้ว อังกิโมะยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เช่น วิตามิน A, วิตามิน D และไขมันดีในปริมาณที่สูงอีกด้วย
เมนูที่ทำได้ง่ายๆ
เมนูจากตับปลาอังกิโมะสามารถทำได้หลากหลาย และแต่ละเมนูล้วนช่วยดึงรสชาติความอร่อยออกมาได้อย่างเต็มที่
- ทานเป็นกับแกล้ม: เสิร์ฟอังกิโมะแช่เย็นคู่กับต้นหอมซอย, โมมิจิโอโรชิ (หัวไชเท้าขูดผสมพริก) และซอสพอนสึ (Ponzu Sauce) เพื่อเพิ่มความสดชื่นและตัดความมัน
- ทำเป็นนิกิริซูชิ: วางชิ้นอังกิโมะบนข้าวปั้นซูชิ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมในร้านซูชิระดับพรีเมียม
- ทำเป็นสลัด: หั่นอังกิโมะเป็นชิ้นพอดีคำ วางบนสลัดผัก ราดด้วยน้ำสลัดงา หรือซอสพอนสึ
วิธีเตรียมตับปลา
1. นำอังกิโมะออกจากตู้เย็น วางไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 30-40 นาที เพื่อทำการละลาย
2. แกะซองและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
3. จัดวางบนจาน และนำไปใช้ประกอบเมนูได้ตามต้องการ
*สินค้าบรรจุมาในซองสุญญากาศแบบพร้อมทาน
เปิดประสบการณ์ความอร่อยสุดพิเศษจากท้องทะเลลึกได้แล้ววันนี้! ตับปลาอังกิโมะ พร้อมให้คุณได้ลิ้มลองความอร่อยแบบต้นตำรับญี่ปุ่นได้ง่าย ๆ ที่บ้านของคุณ