สเต็กไก่ทอดกรุบกรอบ สอดไส้ชีสหอมกรุ่น
สำหรับใครที่มองหาอาหารพร้อมทานไว้เติมสต็อกช่องแช่แข็งที่บ้าน เราขอแนะนำสเต็กไก่ทอดสอดไส้ชีสเยิ้มๆ หอมกรุ่นให้คุณได้ลิ้มลอง มั่นใจในความอร่อยด้วยเนื้อไก่คุณภาพดีคัดสรรจากโรงงานที่ได้มาตรฐานส่งออก นำมาสอดไส้ชีสเค็มๆ มันๆ แล้วคลุกกับเกล็ดขนมปังด้านนอก เพียงทอดไม่กี่นาทีก็พร้อมเสิร์ฟ ราดด้วยซอสทงคัตสึอีกนิด รับประทานคู่กับผักสลัดและข้าวสวยร้อนๆ แค่นี้ก็ได้เมนูเด็ดประจำบ้านเพิ่มแล้วค่ะ
วิธีรับประทาน
• นำสเต๊กลงทอดในน้ำมันปริมาณมากที่ไฟปานกลางหรืออุณหภูมิประมาณ 170-175 องศาเซลเซียส จนเป็นสีเหลืองทองทั้งสองด้าน จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลยค่ะ
• แนะนำให้นำออกมาทอดตามปริมาณที่ต้องการรับประทานในแต่ละครั้ง และเก็บส่วนที่เหลือในช่องแช่แข็งเพื่อคงคุณภาพของสินค้า
• ไม่แนะนำให้นำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
พร้อมเปิดประสบการณ์ความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ
ครีมชีสคุณภาพสูงจากนมวัวฮอกไกโดเข้มข้น หอมมัน และไม่หวานจนเกินไป
สามารถอร่อยได้ทั้งแบบเย็นฉ่ำ และแบบคลายความเย็นเพื่อสัมผัสที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น
ชีสยืดสะใจ ซอสมะเขือเทศหอมเข้มข้น อร่อยสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ
นิปปุ่น แบรนด์อันดับ 1 ด้านพาสต้าแช่แข็งในญี่ปุ่น พาสต้ามาการิต้าชีส คือเมนูรวมความพิถีพิถันแบบญี่ปุ่นไว้ในถาดเดียว! ด้วยเส้นพาสต้าคุณภาพสูง เหนียวนุ่มหนึบ คลุกเคล้ากับซอสมะเขือเทศรสเข้มข้น หอมอร่อยแบบต้นตำรับ พร้อมโรยชีสหลากชนิด เบคอน และผักจัดเต็ม อิ่มอร่อย ฟินง่ายในไม่กี่นาที ไม่ต้องบินไปถึงญี่ปุ่นก็อร่อยได้!
วิธีอุ่นอาหารในไมโครเวฟ
ห้ามนำไปอุ่นด้วยเตาแก๊ส หรือเตาอบ *อุ่นทั้งที่ยังแช่แข็ง*
1. ฉีกซองนำซองพาสต้าออกจากซอง
2. ฉีกฝาออกตามเส้นประ จากนั้นนำเข้าไมโคเวฟ
เวลาที่แนะนำสำหรับการอุ่น (ขึ้นอยู่กับวัตต์ของไมโครเวฟ):
ความร้อน เวลาที่แนะนำ
• 500 W เวลา 5.10 นาที
• 600 W เวลา 4.40 นาที
3. นำออกจากไมโคเวฟ จากนั้นคนให้เข้ากัน พร้อมรับประทาน
แค่ปั้นและวาง ซูชิกุ้งแสนอร่อยก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
กุ้งแดงอาร์เจนตินาเป็นกุ้งที่พบได้มากในทะเลแถบอเมริกาใต้ มีเนื้อกรอบ แน่น หวานอร่อยตามธรรมชาติ จึงนิยมนำมาใช้ทำเมนูซาชิมิหรือซูชิ วันนี้คุณสามารถอร่อยกับกุ้งแดงอาร์เจนตินาได้ง่ายๆ ที่เราจัดมาให้ในรูปแบบแช่แข็ง สะดวกและง่ายดายเพียงแค่นำมาละลายก็พร้อมปรุงเมนูโปรดของคุณได้ทันที โดยไม่ต้องแกะและผ่าเองให้ยุ่งยากค่ะ
วิธีรับประทาน
• นำสินค้าตามปริมาณที่ต้องการรับประทานมาไว้ที่ช่องละลายน้ำแข็งในตู้เย็นประมาณ 8-9 ชั่วโมง หรือวางไว้ที่อุณหภูมิปกติประมาณ 40-50 นาที เมื่อน้ำแข็งละลายแล้วสามารถนำไปปรุงเมนูที่ต้องการได้เลยค่ะ
• แนะนำให้นำออกมาละลายตามปริมาณที่ต้องการรับประทานในแต่ละครั้ง และเก็บส่วนที่เหลือในช่องแช่แข็งเพื่อคงคุณภาพของสินค้า
• ไม่แนะนำให้นำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
โคร็อกเกะผักแสนอร่อยจากญี่ปุ่น
โคร็อกเกะ คืออาหารทอดแสนอร่อย เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมากในหมู่คนญี่ปุ่น เพราะรสชาติแสนอร่อยของโคร็อกเกะผักแสนอร่อยห่อนี้ทำมาจากมันฝรั่งบด แครอท หัวหอม ข้าวโพด และถั่วลันเตา กวนเป็นไส้ในเนื้อเนียน ส่วนด้านนอกชุบด้วยเกร็ดขนมปังทอดให้กรอบเหลือง ทานตอนร้อนๆ ฟินมากๆ ค่ะ
ชีสสติ๊กยืดๆ อร่อยเพลินเกินต้าน
มอสซาเรลลาชีสคุณภาพดีนำมาคลุกเกล็ดขนมปังกรุบกรอบ เพียงทอดไม่กี่นาทีก็พร้อมเสิร์ฟ ให้คุณได้ฟินกับความกรอบอร่อยพร้อมชีสยืดๆ เยิ้มๆ หอมๆ ด้านใน ติดใจแน่นอนค่ะ
วิธีรับประทาน
• นำชีสสติ๊กลงทอดในน้ำมันปริมาณมากที่ไฟปานกลางหรืออุณหภูมิประมาณ 170-175 องศาเซลเซียส จนเป็นสีเหลืองทอง จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลยค่ะ
• แนะนำให้นำออกมาทอดตามปริมาณที่ต้องการรับประทานในแต่ละครั้ง และเก็บส่วนที่เหลือในช่องแช่แข็งเพื่อคงคุณภาพของสินค้า
• ไม่แนะนำให้นำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
ชีสบอลแสนอร่อย หอมกลิ่นพิซซ่า
เอาใจคนรักชีสด้วยชีสบอลแสนอร่อย ให้คุณเพลิดเพลินกับชีสยืดๆ เยิ้มๆ ที่มาพร้อมกลิ่นพิซซ่าหอมๆ ตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี ชิ้นเดียวไม่เคยพอ
วิธีรับประทาน
• นำชีสบอลลงทอดในน้ำมันปริมาณมากที่ไฟปานกลางหรืออุณหภูมิประมาณ 170-175 องศาเซลเซียส จนเป็นสีเหลืองทอง จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลยค่ะ
• แนะนำให้นำออกมาทอดตามปริมาณที่ต้องการรับประทานในแต่ละครั้ง และเก็บส่วนที่เหลือในช่องแช่แข็งเพื่อคงคุณภาพของสินค้า
• ไม่แนะนำให้นำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
โคร็อกเกะกรอบอร่อยเต็มรสแกงกะหรี่
อิ่มอร่อยได้ง่ายๆ กับโคร็อกเกะหรือโครเกตต์ (Korokke, Croquette) ของทอดยอดนิยมอีกเมนูหนึ่งของญี่ปุ่นที่มีต้นกำเนิดมาจากฝรั่งเศส ทำมาจากมันบดปั้นเป็นก้อนทรงกลมหรือรี อาจมีการผสมเนื้อบด, อาหารทะเล หรือผักต่างๆ แล้วนำมาชุบแป้ง, ไข่ และเกล็ดขนมปัง ทอดจนเหลืองกรอบน่ารับประทาน
โคร็อกเกะห่อนี้เป็นสินค้าขายดีของเกียวมุ ซูเปอร์ (Gyomu Super) ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของญี่ปุ่น พิเศษสุดๆ ด้วยไส้แกงกะหรี่เข้มข้น กลมกล่อม เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานความอร่อยได้อย่างลงตัวทีเดียว ให้คุณอร่อยกับเมนูนี้แบบง่ายๆ เพียงนำไปทอดแล้วเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ, จัดใส่เบนโตะ หรือรับประทานคู่กับเครื่องดื่มแก้วโปรดก็ได้เช่นกันค่ะ
วาซาบิดอง จากหัววาซาบิแท้ๆ
คิซามิ วาซาบิ (Kizami Wasabi) หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อเรียกว่า “วาซาบิดอง” ทำมาจากหัววาซาบิแท้ๆ นำมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ หยาบๆ เพื่อให้มีรสสัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว นำมาดองโชยุ และส่วนผสมอื่นๆ จนได้รสชาติสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ใครได้ลองทานรับประกันว่าติดใจทุกคน เพราะมีความเผ็ดฉุนแบบพอดี หอมกลิ่นวาซาบิและโชยุ นิยมทานคู่กับปลาดิบ เช่นเมนูซาชิมิ ซูชิ หรือใส่ในทาโกะ เป็นเมนูทาโกะวาซาบิ ทานคู่กับเนื้อวากิว
พาสต้าโชยุบัตเตอร์ทะเลรวม หอมกลมกล่อม พร้อมทานใน 6 นาที
อยากกินอาหารญี่ปุ่นดี ๆ โดยไม่ต้องออกจากบ้านไหม ลองเมนูนี้เลย! “โอ้วมาย! โชยุบัตเตอร์ซีฟู้ดพาสต้า” จากแบรนด์นิปปุ่น พาสต้าที่มียอดขายอันดับ 1 จากญี่ปุ่น รังสรรค์ด้วยความใส่ใจตามแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ ๆ เส้นเหนียวนุ่ม คลุกเคล้าซอสรสโชยุเข้มข้น หอมกลิ่นเนยอบอุ่น พร้อมด้วยกุ้ง ปลาหมึก และหอยสด ๆ จากทะเล ฟินได้ทุกวัน ไม่ต้องจองตั๋วบินก็อร่อยแบบญี่ปุ่นได้ทันที
วิธีอุ่นอาหารในไมโครเวฟ
ห้ามนำไปอุ่นด้วยเตาแก๊ส หรือเตาอบ *อุ่นทั้งที่ยังแช่แข็ง*
1. ฉีกซองนำซองพาสต้าออกจากซอง
2. ฉีกฝาออกตามเส้นประ จากนั้นนำเข้าไมโคเวฟ
เวลาที่แนะนำสำหรับการอุ่น (ขึ้นอยู่กับวัตต์ของไมโครเวฟ):
ความร้อน เวลาที่แนะนำ
• 500 W เวลา 5.10 นาที
• 600 W เวลา 4.40 นาที
3. นำออกจากไมโคเวฟ จากนั้นคนให้เข้ากัน พร้อมรับประทาน
คราฟ มิโซะ ทำเมนูไหนก็อร่อยยย!
คราฟ มิโซะ นามะ โคจิ จากแบรนด์ Hikari ตัวมิโซะทำจากข้าวบาร์เลย์ออร์แกนิก และถั่วเหลืองออร์แกนิก มีรสชาติหวานกลมกล่อมและมีกลิ่นหอมของบาร์เลย์ ไม่ว่าจะประยุกต์ใช้กับเมนูไหนก็อร่อยอย่างลงตัวค่ะ
สัมผัสรสชาติอันลุ่มลึกของเกียวโต ในมัทฉะเทอร์รีน
เทอร์รีนเนื้อเนียนนุ่ม สัมผัสเข้มข้น รังสรรค์จาก มัทฉะแท้คุณภาพสูงจากเกียวโต
กลิ่นหอมและรสสัมผัสที่พิเศษไม่เหมือนใคร ให้รสชาติขมปลายลิ้นที่เป็นเอกลักษณ์ของมัทฉะเกรดพรีเมียม
ผสมผสานอย่างลงตัวกับความหวานที่พอดี จากไวท์ช็อกโกแลต ได้รสชาติที่ลุ่มลึก ไม่เลี่ยน
“คางปลาบุรี” ความเรียบง่ายอย่างลงตัว
“บุรี” หรือปลา “ฮามาจิ” คือปลาในตระกูล (Yellow Tail) เป็นปลานำเข้าจากญี่ปุ่นชนิดเดียวในโลกที่มีชื่อเรียกหลากหลายไปตามช่วงอายุ จัดเป็นปลาเนื้อขาวที่มีความมันแทรกอยู่ในเนื้อ
“คางปลาบุรี” เป็นเมนูที่พบได้บ่อยในร้านอาหารญี่ปุ่น และเป็นที่นิยมในงานแต่งงานและงานเฉลิมฉลองอื่นๆ เนื่องจากมีรสชาติอร่อยและเนื้อนุ่มหอม เนื้อใต้คางมีไขมันอยู่มาก ซึ่งทำให้มีรสชาติหวานและเนื้ออร่อย การทำคางปลาบุรี จะใช้วิธีการย่างหรืออบที่ทำให้ผิวเนื้อนอกกรอบและนุ่มอยู่ภายใน มักจะปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยหรือโยชุ หรือเมนูต่างๆอีกมากมาย
วิธีทำคางปลาฮามาจิหรือปลาบุรีย่างเกลือ
1. ตั้งเตาถ่านสำหรับย่าง (ควรตั้งรอประมาณ 45 นาที ไฟจะร้อนพอดี ไม่แรงเกินไป)
2. วางคางปลาบุรีบนตะแกรงย่าง โรยเกลือเล็กน้อย ย่างประมาณ 10 นาที
3. ค่อยๆกลับด้านคางปลา โรยเกลืออีกด้าน แล้วทิ้งไว้อีก 10 นาที กลับด้านทุก 10 นาทีแบบนี้เรื่อยๆ จนสุก (ใช้เวลาทั้งหมด 20-30 นาที แล้วแต่ขนาดของคางปลา)
4. ยกคางปลาฮามาจิลงจาน นำหัวไชเท้าฝอยมาบีบน้ำออก ปั้นเป็นก้อนกลมๆ วางข้างชิ้นปลา พร้อมราดซีอิ๊วบนหัวไชเท้า ก็เสิร์ฟคางปลาบุรีย่างเกลือได้เลย
วิธีการเก็บ
• นำออกมาจากช่องแช่แข็งเฉพาะเท่าที่ต้องการจะประกอบอาหาร ไม่แนะนำให้นำออกมาละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
มาลองชิมไก่ทอดทัตสึตะอาเกะสไตล์ญี่ปุ่นกันค่ะ
เมนูไก่ทอดเป็นอาหารจานโปรดของใครหลายๆ คน เนื้อไก่นุ่มๆ ชุ่มฉ่ำ ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้แป้งกรอบๆ แค่คิดก็ฟินแล้วใช่ไหมล่ะคะ ยิ่งเมนูไก่ชุบแป้งทอดสไตล์ญี่ปุ่นนี่บอกเลยว่าพลาดไม่ได้ ไม่ว่าจะรับประทานเป็นมื้อหลักหรือเอาไว้เป็นของทานเล่นก็เคี้ยวเพลินไม่ต่างกัน
เราขอแนะนำไก่ทอดทัตสึตะอาเกะรสชาติเยี่ยมเกรดส่งออก ทำจากสะโพกไก่เนื้อนุ่ม นำมาปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลืองสูตรพิเศษให้อร่อยกลมกล่อม เพิ่มความสมบูรณ์แบบด้วยกลิ่นหอมจากกระเทียมและขิงที่ผสานเข้ากันเป็นอย่างดี เคลือบด้วยแป้งที่ไม่หนาจนเกินไป ให้สัมผัสกรอบนอกนุ่มใน ไม่เลี่ยน ไม่ว่าจะอุ่นร้อนด้วยไมโครเวฟ นำเข้าหม้อทอดไร้น้ำมัน หรือทอดในน้ำมันร้อนๆ ก็อิ่มอร่อยได้ง่ายๆ ค่ะ
ผสานความอร่อยของมันฝรั่งและฟักทองฮอกไกโดเนื้อเนียน เหนียวนุ่ม กรอบอร่อยกำลังพอดี
โคร็อกเกะจากแบรนด์ซันมารูโกะห่อนี้ ผลิตโดยใช้วัตถุดิบคุณภาพดีอย่างมันฝรั่งบารอน (だんしゃく, Danshaku) และฟักทองฮอกไกโด ทำให้ได้เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม รสชาติหวานมันกลมกล่อมกำลังพอดี นำมาคลุกแป้งและเกล็ดขนมปังแล้วทอดจนเหลืองกรอบ ปราศจากสารเคมีแต่งกลิ่น สี และวัตถุกันเสีย อร่อยง่ายๆ เพียงอุ่นในไมโครเวฟ เสิร์ฟพร้อมซอสมะเขือเทศหรือมายองเนส นิยมจัดใส่เบนโตะเป็นอาหารกลางวันของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รับประทานเป็นของว่าง หรือรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ ก็เข้ากันได้ดีค่ะ
กุ้งหวานญี่ปุ่น เนื้อเด้ง ใส พร้อมเสริ์ฟแล้วค่ะ
กุ้งหวานญี่ปุ่น (Ama Ebi) เป็นกุ้งขนาดเล็กสีชมพู เปลือกนิ่ม เป็นกุ้งที่อาศัยอยู่ในน้ำเย็น และต้องเป็นแหล่งน้ำที่สะอาดมากๆ ทำให้กุ้งหวานไม่มีกลิ่นคาว มีรสชาติหวานเป็นเอกลักษณ์ เนื้อนุ่ม ให้รสสัมผัสเด้งกรอบ นิยมทานโดยไม่ปรุงเพื่อสัมผัสรสชาติความหวานของกุ้งมากที่สุด เมนูที่นิยมมากที่สุดคือการทานดิบแบบซูชิ หรือซาชิมิ
สาหร่ายญี่ปุ่นในตำนาน เนื้อกรอบ เด้ง หาทานยาก!!
สาหร่ายโตซากะ หรือ สาหร่ายไคโซ เป็นสาหร่ายน้ำลึกประมาณ 5-10 เมตร จะเติบโตได้ในแหล่งน้ำที่สะอาด มีลักษณะกิ่งก้านคล้ายต้นไม้ มีใบหนา รสสัมผัสกรุบกรอบ คล้ายแมงกระพรุน สาหร่ายโตชากะยังถือว่าเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม มีใยอาหาร วิตามิน เกลือแร่ที่สูงกว่าสาหร่ายวากาเมะ เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง นิยมทานแบบสดๆ เพราะจะให้ความสดชื่น หรือทำเป็นสลัดสาหร่าย ราดด้วยน้ำสลัดงาสไตล์ญี่ปุ่น
ข้อแนะนำ
• เนื่องจากสาหร่ายได้ผ่านกรรมวิธีหมักเกลือเพื่อคงความสดใหม่ ก่อนรับประทานควรล้างน้ำหลายๆ ครั้งเพื่อให้เกลือออกก่อน จากนั้นสามารถนำไปปรุงอาหารตามเมนูที่ต้องการได้เลยค่ะ
สาหร่ายโตซากะสีเขียว เนื้อกรอบ เด้ง เคี้ยวเพลิน
สาหร่ายโตซากะหรือสาหร่ายไคโซ เป็นสาหร่ายทะเลน้ำลึกประมาณ 5-10 เมตร เติบโตได้ดีในแหล่งน้ำสะอาด มีลักษณะกิ่งก้านคล้ายต้นไม้ ใบหนา สัมผัสคล้ายแมงกะพรุน นอกจากเนื้อที่กรอบ เด้ง เคี้ยวเพลินแล้ว สาหร่ายโตซากะยังถือว่าเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม มีใยอาหาร วิตามิน และเกลือแร่ ที่สูงกว่าสาหร่ายวากาเมะ เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง นิยมรับประทานแบบสดๆ หรือนำไปทำเป็นสลัดสาหร่ายควบคู่กับผักชนิดอื่น ราดด้วยน้ำสลัดงาสไตล์ญี่ปุ่นยิ่งเข้ากันได้ดี ให้ความรู้สึกสดชื่นเวลารับประทานค่ะ
ข้อแนะนำ
• เนื่องจากสาหร่ายได้ผ่านกรรมวิธีหมักเกลือเพื่อคงความสดใหม่ ก่อนรับประทานควรล้างน้ำหลายๆ ครั้งเพื่อให้เกลือออกก่อน จากนั้นสามารถนำไปปรุงอาหารตามเมนูที่ต้องการได้เลยค่ะ
อาหารจานด่วนในวันที่เร่งรีบ แบบต้นตำรับจากญี่ปุ่น
สปาเก็ตตี้นาโปลิตัน เป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น ซึ่งผสมผสานความเป็นตะวันตกกับวัตถุดิบญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว ซอสมะเขือเทศเข้มข้น ผัดพร้อมเครื่องเนื้อสัตว์และผักหลากชนิด ช่วยเติมเต็มมื้ออาหารให้สมบูรณ์แบบ โดยไม่ต้องเตรียมหรือปรุงให้ยุ่งยาก ด้วยขนาด Big 380 กรัม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความอิ่มจุใจในมื้อเดียว ไม่ว่าจะเป็นมื้อกลางวัน มื้อเย็น หรืออาหารจานด่วนในวันที่เร่งรีบ
วิธีอุ่นอาหารในไมโครเวฟ
ห้ามนำไปอุ่นด้วยเตาแก๊ส หรือเตาอบ【อุ่นทั้งที่ยังแช่แข็ง】
1. ดึงออกจากถุงด้านนอก และอุ่นในไมโครเวฟทั้งที่ยังมีฟิล์มพลาสติกใสปิดอยู่ไม่ต้องฉีกฟิล์มออก
2. ระวังขณะหยิบออกจากไมโครเวฟ ระวังถาดร้อน และอ่อนตัว
3. ใช้ส้อมเจาะรูฟิล์ม แล้วลอกออก คนให้ทั่วก่อนรับประทาน
เวลาที่แนะนำสำหรับการอุ่น (ขึ้นอยู่กับวัตต์ของไมโครเวฟ):
ไมโครเวฟ เวลาที่แนะนำ
• 500W 6 นาที 30 วินาที - 6 นาที 50 วินาที
• 600W 6 นาที - 6 นาที 20 วินาที
• 800W ประมาณ 4 นาที 40 วินาที
ข้อควรระวัง:
• ห้ามใช้ฟอยล์อลูมิเนียม
• ถาดอาจอ่อนตัวได้ อย่าถือด้วยมือเปล่าทันทีหลังอุ่น
• ระวังไอน้ำร้อนขณะเปิดฟิล์ม
✨ ข้าวผัดกุ้งสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมทาน แค่เวฟก็อร่อย! ✨
ข้าวผัดกลิ่นหอมเนย ผัดกับกุ้งตัวโตๆ ไข่ และผักรวมมีสีสันสวยงาม พร้อมรสชาติกลมกล่อมจากซอสสูตรเฉพาะแบบญี่ปุ่นแท้ๆ นอกจากนี้คุณยังสามารถสัมผัสถึงข้าวและส่วนผสมที่เคี้ยวหนึบเล็กน้อยก็สามารถดูดซับรสชาติอาหารทะเลได้อย่างดี คุณสามารถเพลิดเพลินกับเนื้อสัมผัสที่หลากหลายได้ในคราวเดียวด้วยกุ้งตัวอ้วนและถั่วเขียวกรุบกรอบ ถั่วเขียวยังเพิ่มรสชาติที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ในขณะที่กำลังอุ่นอาหารในไมโครเวฟ กลิ่นหอมแรงของกุ้งกับเนยก็ลอยมาในอากาศ รับรองว่าจะต้องเรียกน้ำย่อยอย่างแน่นอน
สิ่งใหม่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้คือถุงบรรจุภัณฑ์สามารถตั้งได้ด้วยตัวเอง โดยปกติแล้วคุณจะต้องนำข้าวผัดออกจากถุง แต่เนื่องจาก Wild Dish ยังทำหน้าที่เป็นภาชนะได้ด้วย จึงทำให้สามารถคงตำแหน่งตั้งตรงได้ เพื่อทำให้ภาชนะเสร็จสมบูรณ์ให้ใช้กรรไกรตัดตามเส้นตัดสีขาวที่พิมพ์ไว้บนบรรจุภัณฑ์ เท่านี้ก็พร้อมตักทานได้เลยค่ะ
♨️ วิธีการอุ่นด้วยไมโครเวฟ
• ห้ามฉีกถุงก่อนอุ่น
• ให้นำเข้าไมโครเวฟทั้งถุง โดยหันด้านที่ระบุไว้ขึ้นด้านบน
• หลังจากอุ่นเสร็จ ใช้กรรไกรตัดตามจุดประที่กำหนด โดยจับถุงในตำแหน่งที่แนะนำ
⏱️เวลาที่ใช้ในการอุ่น:
• ไมโครเวฟ 500W: ประมาณ 3 นาที 30 วินาที
• ไมโครเวฟ 600W: ประมาณ 3 นาที 10 วินาที
คำเดียวไม่พอ ต้องขอต่ออีกลูก
อยากกินอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ แต่ไม่มีเวลา ลูกชิ้นสอดไส้กุ้ง เนื้อปลา ผักรวม และสาหร่ายฮิจิกิ คือคำตอบ! ทำจากวัตถุดิบคุณภาพ เนื้อปลาบด กุ้งสด ผักรวม และเพิ่มรสชาติพิเศษด้วยสาหร่ายฮิจิกิ ที่อุดมไปด้วยใยอาหารและแร่ธาตุ ทานง่าย รสกลมกล่อม ได้ทั้งความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการในหนึ่งคำทุกคำ เหมาะเป็นของทานเล่น ข้าวกล่อง เบนโตะ หรือเสิร์ฟกับมื้ออาหารหลัก
วิธีการปรุงอาหาร
• นำสินค้าที่แช่แข็งออกมา ตัดถาดออก และวางไว้ที่ขอบจานหมุน (turntable) โดยไม่ต้องห่อพลาสติก และอุ่นให้ร้อน
• หากไม่มีจานหมุน (turntable) ให้วางไว้ตรงกลางของเตาไมโครเวฟ
• หลังจากการปรุงอาหาร หากยังเย็นอยู่ ให้อุ่นเพิ่มทีละ 10 วินาทีจนกว่าจะอุ่นได้ที่
คำแนะนำสำหรับเตาไมโครเวฟ:
กำลังไฟ 500 วัตต์ 600 วัตต์
1 ชิ้น ประมาณ 40 วินาที ประมาณ 40 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 1 นาที ประมาณ 50 วินาที
4 ชิ้น ประมาณ 1.20 นาที ประมาณ 1.10 นาที
5 ชิ้น ประมาณ 1.50 นาที ประมาณ 1.40 นาที
กรอบนอก นุ่มใน กัดแล้วหยุดไม่ได้
อาหารทานเล่นยอดนิยมจากญี่ปุ่น ที่ผสมผสานรสชาติของเนื้อปลา ปลาหมึก และเผือกได้อย่างลงตัว กัดคำแรกสัมผัสได้ถึงความกรอบนอกนุ่มใน พร้อมรสชาติกลมกล่อม หอมขิงและซอสญี่ปุ่น สูตรเฉพาะของอาจิโนะโมะโต๊ะ เหมาะสำหรับทุกมื้ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นกับข้าว อาหารทานเล่น ใส่ในกล่องเบนโตะเพิ่มสีสันให้อาหารกลางวัน หรือทานคู่ข้าวสวยร้อน ๆ ก็อร่อยกลมกล่อม เสิร์ฟคู่กับซอสโชยุ มายองเนสญี่ปุ่น หรือซอสพริกก็เข้ากันสุด ๆ ถูกใจทุกคนในครอบครัวแน่นอน
วิธีการปรุงอาหาร
• นำสินค้าที่แช่แข็งออกมาตัดถาดออกและวางไว้ที่ขอบจานหมุน โดยไม่ต้องห่อพลาสติก และอุ่นให้ร้อน
• หากไม่มีจานหมุน (turntable) ให้วางไว้ตรงกลางของเตาไมโครเวฟ
• หลังจากการปรุงอาหาร หากยังเย็นอยู่ ให้อุ่นเพิ่มทีละ 10 วินาทีจนกว่าจะอุ่นได้ที่
คำแนะนำสำหรับเตาไมโครเวฟ:
กำลังไฟ 500 วัตต์ 600 วัตต์
1 ชิ้น ประมาณ 40 วินาที ประมาณ 40 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 1 นาที ประมาณ 50 วินาที
4 ชิ้น ประมาณ 1.20 นาที ประมาณ 1.10 นาที
5 ชิ้น ประมาณ 1.50 นาที ประมาณ 1.40 นาที
ปลาเนื้อขาวทอดผสมซอสทาร์ทาร์
สัมผัสความอร่อยของปลาเนื้อขาวราดด้วยซอสทาร์ทาร์รสเข้มข้นกลมกล่อม นำมาชุบแป้งทอดจนกรุบกรอบ ให้คุณเพลิดเพลินได้แบบง่ายๆ ตามปริมาณที่ต้องการด้วยถาดแบบแยกชิ้น ไม่ว่าจะอุ่นด้วยไมโครเวฟหรือเพียงแค่ปล่อยให้ละลายตามธรรมชาติก็พร้อมเสิร์ฟ นิยมจัดใส่กล่องเบนโตะเป็นมื้อกลางวัน รับประทานเป็นกับข้าว และนำไปประกบกับขนมปังเป็นแซนวิชหรือเบอร์เกอร์ก็ได้เช่นกันค่ะ
สุดยอดนัตโตะจากถั่วเหลืองซุซึมารุ คุณภาพระดับพรีเมียม
สำหรับคนรักสุขภาพและผู้ที่อยากลิ้มลองรสชาติ นัตโตะ (Natto) แบบต้นตำรับแท้ ๆ เราขอแนะนำ นัตโตะ จากแบรนด์ ฮามานะสึ (Hamanasu) สูตรพิเศษจาก ฮอกไกโด เพราะนี่คือสุดยอดถั่วเหลืองหมักที่มาพร้อมความอร่อยแบบธรรมชาติและคุณค่าที่ล้ำเลิศ
ความลับของนัตโตะฮอกไกโด
ความพิเศษของนัตโตะถ้วยนี้อยู่ที่การคัดสรร ถั่วเหลืองเม็ดเล็ก สายพันธุ์ ""ซูซูมารุ"" (Suzumaru) ซึ่งเป็นถั่วเหลืองคุณภาพสูงที่ปลูกในเมืองมุคาวะ จังหวัดฮอกไกโด ถั่วที่เติบโตในสภาพอากาศที่บริสุทธิ์ของฮอกไกโดนี้ ทำให้ได้รสชาติที่นุ่มนวลและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เมื่อนำมาผ่านกระบวนการหมักแบบดั้งเดิม จึงได้นัตโตะที่มีเนื้อสัมผัสเหนียวนุ่มกำลังดี
ทำไมต้องนัตโตะสูตรนี้?
ถั่วเหลืองซูซูมารุ: การเลือกใช้ถั่วเหลืองสายพันธุ์นี้ เป็นการการันตีคุณภาพและความใส่ใจในวัตถุดิบ ทำให้ได้รสอูมามิที่เข้มข้น และเนื้อสัมผัสที่เนียนกว่า
เม็ดเล็ก ทานง่าย: ถั่วแบบเม็ดเล็กทำให้ง่ายต่อการคลุกเคล้ากับซอส และทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ได้อย่างลงตัว เป็นรูปแบบที่คนญี่ปุ่นนิยมทานมากที่สุด
ประโยชน์เต็มถ้วย: นัตโตะยังเป็นซูเปอร์ฟู้ดที่อุดมไปด้วยโปรไบโอติกที่ดีต่อลำไส้ และเอนไซม์นัตโตะไคเนสที่ช่วยเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้คุณได้ทั้งความอร่อยและสุขภาพดีในทุก ๆ คำ
พร้อมทาน สะดวกสุด ๆ: ในแพ็กเกจมีทั้งซอส (Tare) และมัสตาร์ด (Karashi) มาให้พร้อมสรรพ คุณไม่ต้องหาเครื่องปรุงเพิ่ม ก็อร่อยได้ทันที
วิธีเตรียมและอร่อยกับนัตโตะ
สินค้าจัดส่งแบบแช่แข็ง เพื่อรักษาความสดใหม่ ดังนั้นควรเตรียมสินค้าตามขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนการเตรียม:
1. นำ นัตโตะ ออกจากช่องฟรีซ (ช่องแข็ง)
2. พักไว้ที่อุณหภูมิห้องสักครู่ เพื่อให้คลายความเย็นจนนิ่มลง หรือนำไปพักในตู้เย็นช่องธรรมดา
3. เมื่อถั่วละลายและนิ่มแล้ว จึงนำมาทาน
เคล็ดลับการคนนัตโตะให้ฟู
หัวใจสำคัญของการทาน นัตโตะ คือการคนค่ะ การคนนัตโตะไม่ได้มีแค่เรื่องความเหนียว แต่เป็นการดึงเอาสารอาหารสำคัญอย่าง เอนไซม์นัตโตะไคเนสออกมาทำงาน และยังช่วยให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
ขั้นตอนที่ 1: คนก่อนปรุงรส
• ตักซอสออกก่อน: นำซอง ซอสรสบ๊วยและมัสตาร์ด (ถ้ามี) ออกจากถ้วยก่อนค่ะ
• เริ่มคนเปล่า ๆ: ใช้ตะเกียบหรือส้อม คนนัตโตะในถ้วยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
- เน้นความเร็ว: ไม่จำเป็นต้องคนวนเป็นวงกลมแบบเป๊ะ ๆ แต่เน้นการคนแบบซิกแซ็กสลับไปมาด้วยความเร็วค่ะ
- จำนวนครั้ง: ให้คนอย่างน้อย 50 ครั้ง ค่ะ พอคนไปเรื่อย ๆ คุณจะสังเกตเห็นว่านัตโตะเริ่มมี ฟองสีขาวขุ่น และ ใยเหนียว ๆ เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก
ขั้นตอนที่ 2: คนพร้อมปรุงรส
• เติมซอสบ๊วย: เมื่อนัตโตะเริ่มเป็นฟองได้ที่แล้ว ให้ใส่ ซอสรสบ๊วย (หรือเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามชอบ) ลงไป
• คนต่ออีก 10-20 ครั้ง: คนผสมให้ซอสเข้ากันดีค่ะ การคนรอบสองนี้จะช่วยให้รสชาติของซอสซึมเข้าไปในถั่วและฟองนัตโตะอย่างทั่วถึง ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ให้นัตโตะฮอกไกโดเป็นอาหารเช้าหรือมื้อเสริมเพื่อสุขภาพของคุณ แล้วคุณจะค้นพบความลับของการมีสุขภาพดีสไตล์คนญี่ปุ่นได้ง่าย ๆ ที่บ้านเลย
นัตโตะรสบ๊วยสดชื่น ที่ทำให้คุณตกหลุมรักได้ง่ายขึ้น
สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นทาน นัตโตะ (Natto) แต่ยังกังวลกับกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ หรือผู้ที่ทานนัตโตะอยู่แล้วแต่อยากได้รสชาติใหม่ ๆ ที่ทานง่ายและอร่อยสดชื่น เราขอแนะนำ นัตโตะบ๊วย ฮามานะสึ (Hamanasu) สูตรพิเศษจากญี่ปุ่น ที่จะทำให้ประสบการณ์ทานนัตโตะของคุณเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ความลับของความอร่อยที่ลงตัว นัตโตะบ๊วยถ้วยนี้ถูกออกแบบมาเพื่อความอร่อยที่ทานง่ายที่สุด
• รสชาติไม่จำเจ: จุดเด่นคือการใช้ ซอสบ๊วย (Ume) ที่ทำจากบ๊วยบดพิเศษ ช่วยเพิ่มความเปรี้ยวอมหวานและความหอมสดชื่น (香り爽やか) เข้ามาตัดกับกลิ่นของถั่วเหลืองหมักได้อย่างลงตัว ทำให้ทานง่ายกว่านัตโตะทั่วไปมาก
• ถั่วคุณภาพดีจากฮอกไกโด: คัดสรรถั่วเหลืองเม็ดเล็ก (Kotsubu Daizu) คุณภาพเยี่ยมจาก ฮอกไกโด ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสะอาดและคุณภาพของวัตถุดิบ ทำให้ถั่วมีความอร่อยในตัวและสัมผัสที่เนียนนุ่มกำลังดี
• สุขภาพดีเต็มถ้วย: แม้จะรสชาติดีกว่าเดิม แต่คุณค่าทางอาหารยังครบถ้วน! นัตโตะ อัดแน่นไปด้วยโปรไบโอติก วิตามิน K2 และเอนไซม์นัตโตะไคเนส ที่ช่วยเรื่องการย่อยอาหารและบำรุงหัวใจให้แข็งแรง
วิธีทำความอร่อยง่าย ๆ
นัตโตะบ๊วยฮามานะสึ พร้อมเป็นมื้ออร่อยของคุณในทุกเช้า:
1. นำนัตโตะมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 30-60 นาที เพื่อให้นัตโตะที่แช่แข็งไว้ละลาย
2. แกะซอง นัตโตะ และเทซอสบ๊วยที่แถมมาลงไป
3. ใช้ตะเกียบคน นัตโตะ อย่างรวดเร็วจนเกิดฟองและเส้นใยเหนียว ๆ
4. ทานคู่กับข้าวสวยญี่ปุ่นร้อน ๆ ได้ทันที! ความเปรี้ยวอมหวานของบ๊วยจะช่วยเปิดต่อมรับรสและทำให้ข้าวอร่อยขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
เคล็ดลับการคนนัตโตะให้ฟู
หัวใจสำคัญของการทาน นัตโตะ คือการคนค่ะ การคนนัตโตะไม่ได้มีแค่เรื่องความเหนียว แต่เป็นการดึงเอาสารอาหารสำคัญอย่าง เอนไซม์นัตโตะไคเนสออกมาทำงาน และยังช่วยให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น
ขั้นตอนที่ 1: คนก่อนปรุงรส
• ตักซอสออกก่อน: นำซอง ซอสรสบ๊วยและมัสตาร์ด (ถ้ามี) ออกจากถ้วยก่อนค่ะ
• เริ่มคนเปล่า ๆ: ใช้ตะเกียบหรือส้อม คนนัตโตะในถ้วยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
- เน้นความเร็ว: ไม่จำเป็นต้องคนวนเป็นวงกลมแบบเป๊ะ ๆ แต่เน้นการคนแบบซิกแซ็กสลับไปมาด้วยความเร็วค่ะ
- จำนวนครั้ง: ให้คนอย่างน้อย 50 ครั้ง ค่ะ พอคนไปเรื่อย ๆ คุณจะสังเกตเห็นว่านัตโตะเริ่มมี ฟองสีขาวขุ่น และ ใยเหนียว ๆ เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก
ขั้นตอนที่ 2: คนพร้อมปรุงรส
• เติมซอสบ๊วย: เมื่อนัตโตะเริ่มเป็นฟองได้ที่แล้ว ให้ใส่ ซอสรสบ๊วย (หรือเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามชอบ) ลงไป
• คนต่ออีก 10-20 ครั้ง: คนผสมให้ซอสเข้ากันดีค่ะ การคนรอบสองนี้จะช่วยให้รสชาติของซอสซึมเข้าไปในถั่วและฟองนัตโตะอย่างทั่วถึง ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ทำไมต้องคนเยอะขนาดนั้น?
การคนนัตโตะจะช่วยกระตุ้นการสร้างใยเมือกเหนียวๆ ซึ่งเป็นตัวการของความอร่อยและสุขภาพดี ใยเหล่านี้คือกรดกลูตามิก ซึ่งเป็นแหล่งของรสอูมามิหรือรสชาติกลมกล่อม ยิ่งคนมาก ใยยิ่งเยอะ รสชาติก็จะยิ่งนุ่มละมุนลิ้น และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น
ลองทำตามดูนะคะ รับรองว่า นัตโตะรสบ๊วย ถ้วยนี้จะอร่อยฟู เหนียวได้ที่ ถูกใจแน่นอนค่ะ!