ซอสปลาไหลญี่ปุ่นแท้แบรนด์ Nihon Shokken จากญี่ปุ่น ซอสสูตรต้นตำรับ รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันจากวัตถุดิบคุณภาพดี ให้รสชาติกลมกล่อม หอมหวาน และมีความเข้มข้นกำลังดี เหมาะสำหรับปรุงอาหารหลากหลายเมนู โดยเฉพาะเมนูปลาไหลย่าง (Unagi Don) ที่จะช่วยยกระดับความอร่อยให้เหมือนกับรับประทานที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ
เมนูหลัก:
• ข้าวหน้าปลาไหล: ราดซอสปลาไหลลงบนปลาไหลย่างที่เตรียมไว้ แล้วเสิร์ฟพร้อมข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ และสาหร่าย
• ปลาไหลย่าง: ใช้เป็นซอสสำหรับย่างปลาไหลโดยตรง เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นหอมที่เข้มข้น
เมนูอื่นๆ:
• ข้าวปั้น/ซูชิ: ใช้ราดบนข้าวปั้น หรือซูชิหน้าต่างๆ เพื่อเพิ่มรสชาติและความเงางาม
• ยากิโทริ: ทาซอสขณะย่าง เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้น หอมหวาน
• ผัดผัก/เนื้อสัตว์: ใช้เป็นส่วนผสมในการผัดผัก หรือเนื้อสัตว์ เพื่อเพิ่มรสชาติแบบญี่ปุ่น
• บาร์บีคิวญี่ปุ่น: ใช้เป็นซอสหมัก หรือซอสจิ้มสำหรับเมนูบาร์บีคิวสไตล์ญี่ปุ่น
ขอแนะนำน้ำแร่ธรรมชาติจากแหล่งน้ำคุณภาพของประเทศญี่ปุ่น ที่ผ่านการรังสรรค์จากธรรมชาติอย่างพิถีพิถัน ให้รสสัมผัสที่นุ่มนวลและสดชื่น เหมาะกับการดื่มในทุกวันค่ะ
ผลิตภัณฑ์น้ำแร่ธรรมชาติ (Natural Mineral Water) ชิ้นนี้มาจากแบรนด์ ไอริส โอยามะ (Iris Ohyama) ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในประเทศญี่ปุ่นในฐานะแบรนด์ผู้ผลิตสินค้าคุณภาพหลากหลายประเภท แหล่งกำเนิดของน้ำแร่นี้คือบริเวณรอบ ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) ในจังหวัดชิซูโอกะ (Shizuoka) น้ำซึมซาบผ่านชั้นหินใต้ดินของภูเขาไฟฟูจิเป็นเวลานานหลายปี ทำให้เกิดการกรองตามธรรมชาติอย่างช้า ๆ และดูดซับแร่ธาตุต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมาด้วย
จุดเด่นของน้ำแร่จาก ไอริส โอยามะ คือการคงรสชาติดั้งเดิมของน้ำที่ผ่านการกรองจากชั้นหินใต้ดินของภูเขาไฟฟูจิไว้ให้ได้มากที่สุด น้ำแร่นี้จัดเป็น น้ำอ่อน (Soft Water) ที่มีค่าความกระด้าง (Hardness) อยู่ในระดับต่ำ (โดยทั่วไปประมาณ $50 \text{ mg/L}$) ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของน้ำดื่มในประเทศญี่ปุ่น ทำให้มีรสชาติที่ ดื่มง่าย นุ่มละมุน และไม่มีรสชาติที่รู้สึกหนักลิ้นหรือบาดคอ
นอกจากความนุ่มนวลของรสชาติแล้ว น้ำแร่จากภูเขาไฟฟูจิยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เช่น วานาเดียม (Vanadium) ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มักพบในน้ำที่มาจากแหล่งน้ำภูเขาไฟ และเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบการดูแลสุขภาพในญี่ปุ่น การดื่มน้ำแร่นี้จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งในการเพิ่มแร่ธาตุธรรมชาติเข้าสู่ร่างกายในแต่ละวันได้อย่างง่ายดายค่ะ
ความนุ่มนวลเป็นพิเศษ: จัดเป็นน้ำอ่อน (Soft Water) ที่มีรสชาติเป็นกลาง ทำให้ดื่มง่ายและไม่ทำให้รสชาติของอาหารหรือเครื่องดื่มที่นำไปผสมเปลี่ยนไป
แร่ธาตุจากธรรมชาติ: อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ถูกดูดซับผ่านชั้นหินของภูเขาไฟฟูจิ เช่น วานาเดียม ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติในแหล่งกำเนิด
ความบริสุทธิ์ของแหล่งน้ำ: มาจากแหล่งน้ำบาดาลธรรมชาติบริเวณภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำแร่ที่ได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพ
ลองเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความสดชื่นและบริสุทธิ์จากแหล่งน้ำธรรมชาติของญี่ปุ่นดูสิคะ น้ำแร่จากภูเขาไฟฟูจินี้ จะช่วยให้คุณได้เพลิดเพลินกับรสชาติของน้ำแบบญี่ปุ่นแท้ ที่สามารถเติมเต็มความสุขเล็ก ๆ ให้กับชีวิตประจำวันของคุณได้ค่ะ
ขอแนะนำน้ำแร่ธรรมชาติจากแหล่งน้ำคุณภาพของประเทศญี่ปุ่น ที่ผ่านการรังสรรค์จากธรรมชาติอย่างพิถีพิถัน ให้รสสัมผัสที่นุ่มนวลและสดชื่น เหมาะกับการดื่มในทุกวันค่ะ
ผลิตภัณฑ์น้ำแร่ธรรมชาติ (Natural Mineral Water) ชิ้นนี้มาจากแบรนด์ ไอริส โอยามะ (Iris Ohyama) ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในประเทศญี่ปุ่นในฐานะแบรนด์ผู้ผลิตสินค้าคุณภาพหลากหลายประเภท แหล่งกำเนิดของน้ำแร่นี้คือบริเวณรอบ ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) ในจังหวัดชิซูโอกะ (Shizuoka) น้ำซึมซาบผ่านชั้นหินใต้ดินของภูเขาไฟฟูจิเป็นเวลานานหลายปี ทำให้เกิดการกรองตามธรรมชาติอย่างช้า ๆ และดูดซับแร่ธาตุต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมาด้วย
จุดเด่นของน้ำแร่จาก ไอริส โอยามะ คือการคงรสชาติดั้งเดิมของน้ำที่ผ่านการกรองจากชั้นหินใต้ดินของภูเขาไฟฟูจิไว้ให้ได้มากที่สุด น้ำแร่นี้จัดเป็น น้ำอ่อน (Soft Water) ที่มีค่าความกระด้าง (Hardness) อยู่ในระดับต่ำ (โดยทั่วไปประมาณ $50 \text{ mg/L}$) ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของน้ำดื่มในประเทศญี่ปุ่น ทำให้มีรสชาติที่ ดื่มง่าย นุ่มละมุน และไม่มีรสชาติที่รู้สึกหนักลิ้นหรือบาดคอ
นอกจากความนุ่มนวลของรสชาติแล้ว น้ำแร่จากภูเขาไฟฟูจิยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เช่น วานาเดียม (Vanadium) ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มักพบในน้ำที่มาจากแหล่งน้ำภูเขาไฟ และเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบการดูแลสุขภาพในญี่ปุ่น การดื่มน้ำแร่นี้จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งในการเพิ่มแร่ธาตุธรรมชาติเข้าสู่ร่างกายในแต่ละวันได้อย่างง่ายดายค่ะ
ความนุ่มนวลเป็นพิเศษ: จัดเป็นน้ำอ่อน (Soft Water) ที่มีรสชาติเป็นกลาง ทำให้ดื่มง่ายและไม่ทำให้รสชาติของอาหารหรือเครื่องดื่มที่นำไปผสมเปลี่ยนไป
แร่ธาตุจากธรรมชาติ: อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ถูกดูดซับผ่านชั้นหินของภูเขาไฟฟูจิ เช่น วานาเดียม ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติในแหล่งกำเนิด
ความบริสุทธิ์ของแหล่งน้ำ: มาจากแหล่งน้ำบาดาลธรรมชาติบริเวณภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำแร่ที่ได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพ
ลองเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความสดชื่นและบริสุทธิ์จากแหล่งน้ำธรรมชาติของญี่ปุ่นดูสิคะ น้ำแร่จากภูเขาไฟฟูจินี้ จะช่วยให้คุณได้เพลิดเพลินกับรสชาติของน้ำแบบญี่ปุ่นแท้ ที่สามารถเติมเต็มความสุขเล็ก ๆ ให้กับชีวิตประจำวันของคุณได้ค่ะ
การทำซุปมิโซะจะไม่ยากอีกต่อไป
ซุปมิโซะผสมสาหร่ายวากาเมะ จากแบรนด์ ฮิคาริ มิโซะ (Hikari Miso) การทานซุปมิโซะกับอาหารญี่ปุ่นนั้นถือเป็นของคู่กัน นี่คือวิธีที่คุณจะได้ลิ้มรสซุปมิโซะที่ดีที่สุด ทั้งสะดวก ง่าย และรวดเร็ว ซองเล็กพกติดตัวได้ ในแพ็คจะมีทั้งหมด 12 ซอง สำหรับการทาน 12 ที่
วิธีทำ
1. เทมิโซะลงในถ้วยซุป
2. เติมน้ำร้อนประมาณ 160 มล. คนให้เข้ากัน เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทานแล้วค่ะ
หากคุณชอบทานราเมนของนิสชิน นี่คือรสชาติที่คุณห้ามพลาด
นิสชิน (Nissin) ถือเป็นแบรนด์บะหมี่ชื่อดังระดับโลกที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ในซีรีส์ Demae Ramen Bar Noodle นี้ได้นำเสนอราเมงเส้นตรงที่ไม่ผ่านการทอด เมื่อนำมาต้มเพียงไม่กี่นาทีคุณจะได้สัมผัสกับเส้นราเมงเหนียวนุ่มที่เข้ากันได้ดีกับน้ำซุปรสชาติกลมกล่อม สำหรับห่อสีดำนี้เป็นรสซุปทงคตสึที่เคี่ยวจากกระดูกหมูจนได้รสอูมามิเข้มข้น เพิ่มความหอมด้วยงาและน้ำมันกระเทียมดำที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะวิตามินซี, ซีลีเนียม และโพแทสเซียม ช่วยลดไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือด, ลดความดันโลหิต, ลดน้ำตาลในเลือด, และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดในร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น น้ำซุปกลมกล่อมทานคู่กับเส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม เพียงเติมเนื้อสัตว์และผักที่ชอบอีกนิดก็อร่อยลงตัวแล้วค่ะ วิธีอร่อยกับ Nissin Bar Ramen 1. ต้มน้ำ 450 มล. ให้เดือด จากนั้นใส่เส้นราเมงลงไปต้มประมาณ 3 นาที ฉีกซองซุปผง (Soup Base) ใส่ลงในถ้วย 2. เมื่อเส้นสุกได้ที่ ยกลงจากเตา เทน้ำร้อนลงในถ้วยที่เตรียมไว้เพื่อละลายผงซุป จากนั้นใส่เส้นราเมงลงไป คนให้เข้ากัน 3. ฉีกซองน้ำมันกระเทียมดำ (Black Garlic Oil) ใส่ลงในถ้วย เติมเนื้อสัตว์ ผัก หรือท้อปปิ้งอื่นๆ ตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะ หรืออยากลองสัมผัสรสชาติอันลุ่มลึกของวัตถุดิบระดับพรีเมียม “ตับปลาอังกิโมะ” คือหนึ่งในเมนูที่ห้ามพลาด!
อังกิโมะคืออะไร?
อังกิโมะ (Ankimo) คือตับของปลาอังโกะ (Anko Fish) หรือ มังค์ฟิช (Monkfish) ซึ่งเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในทะเลลึก ถือเป็นหนึ่งในอาหารชินมิ (Chinmi) หรืออาหารเลิศรสที่หาทานได้ยากของญี่ปุ่น ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล" เพราะมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มคล้ายตับห่าน มีรสชาติเค็มอ่อน ๆ และมีความหอมมันอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ทำไมถึงอร่อยและพิเศษ?
ตับปลาอังกิโมะของเรา เป็นสินค้าที่ผ่านกระบวนการปรุงรสและต้มมาอย่างพิถีพิถันจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน จึงมีรสชาติที่กลมกล่อมและพร้อมรับประทานทันที ไม่ต้องนำมาปรุงเพิ่มให้ยุ่งยาก ทำให้คุณได้สัมผัสกับรสชาติแบบดั้งเดิมของอังกิโมะได้อย่างง่ายดาย นอกจากความอร่อยแล้ว อังกิโมะยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เช่น วิตามิน A, วิตามิน D และไขมันดีในปริมาณที่สูงอีกด้วย
เมนูที่ทำได้ง่ายๆ
เมนูจากตับปลาอังกิโมะสามารถทำได้หลากหลาย และแต่ละเมนูล้วนช่วยดึงรสชาติความอร่อยออกมาได้อย่างเต็มที่
- ทานเป็นกับแกล้ม: เสิร์ฟอังกิโมะแช่เย็นคู่กับต้นหอมซอย, โมมิจิโอโรชิ (หัวไชเท้าขูดผสมพริก) และซอสพอนสึ (Ponzu Sauce) เพื่อเพิ่มความสดชื่นและตัดความมัน
- ทำเป็นนิกิริซูชิ: วางชิ้นอังกิโมะบนข้าวปั้นซูชิ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมในร้านซูชิระดับพรีเมียม
- ทำเป็นสลัด: หั่นอังกิโมะเป็นชิ้นพอดีคำ วางบนสลัดผัก ราดด้วยน้ำสลัดงา หรือซอสพอนสึ
วิธีเตรียมตับปลา
1. นำอังกิโมะออกจากตู้เย็น วางไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 30-40 นาที เพื่อทำการละลาย
2. แกะซองและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
3. จัดวางบนจาน และนำไปใช้ประกอบเมนูได้ตามต้องการ
*สินค้าบรรจุมาในซองสุญญากาศแบบพร้อมทาน
เปิดประสบการณ์ความอร่อยสุดพิเศษจากท้องทะเลลึกได้แล้ววันนี้! ตับปลาอังกิโมะ พร้อมให้คุณได้ลิ้มลองความอร่อยแบบต้นตำรับญี่ปุ่นได้ง่าย ๆ ที่บ้านของคุณ
อิซูโมะ โซบะ รสชาติแห่งวัฒนธรรมท้องถิ่นจากอิซูโมะ
“อิซูโมะ โซบะ” (Izomo Soba) คือหนึ่งในวัฒนธรรมอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคอิซูโมะ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การโม่แป้งจากเมล็ดโซบะทั้งเมล็ด ส่งผลให้เส้นโซบะมีสีเข้ม มีกลิ่นหอมโดดเด่นเฉพาะตัว และอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าเส้นที่ทำจากแป้งผสมทั่วไป
เปิดประสบการณ์รสชาติของข้าวญี่ปุ่นแท้ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น "ราชาแห่งข้าว" ของประเทศญี่ปุ่น ด้วยคุณภาพที่โดดเด่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ
ข้าวชิ้นนี้คือ ข้าวโคชิฮิคาริ (Koshihikari) ซึ่งเป็นข้าวพันธุ์ยอดนิยมและมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าวที่มาจากจังหวัด นีงาตะ (Niigata) ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงด้านคุณภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น จังหวัดนีงาตะได้รับพรจากสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปลูกข้าวชั้นดี เช่น ดินที่อุดมสมบูรณ์จากตะกอนแม่น้ำสำคัญอย่างแม่น้ำชินาโนะ (Shinano River) และแม่น้ำอะงาโนะ (Agano River) รวมถึงมีน้ำบริสุทธิ์จากหิมะที่ละลาย (Snowmelt Water) และที่สำคัญคือ ความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืน ที่สูง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาความหวานและรสชาติของข้าว
ข้าวโคชิฮิคาริสายพันธุ์นีงาตะมีจุดเด่นหลัก ๆ ที่ทำให้เป็นที่รักของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน
ความเหนียวและหนึบ (Stickiness): มีสัมผัสที่ เหนียวหนึบ (Mochimochi) และยืดหยุ่นกำลังดี ไม่แข็งกระด้าง
ความหวานและอูมามิ (Sweetness & Umami): มีรสหวานตามธรรมชาติที่ชัดเจน และมีรส อูมามิ (Umami) ที่เข้มข้นในทุกเม็ด
กลิ่นหอมและเงางาม: เมื่อหุงสุกแล้วจะมี กลิ่นหอมที่ละมุน และเมล็ดข้าวจะมีความ เงางามเป็นประกาย น่ารับประทาน
ด้วยรสชาติที่โดดเด่นและสมดุล ทำให้ข้าวโคชิฮิคาริจากนีงาตะอร่อยมากแม้ว่าจะทานเปล่า ๆ โดยไม่ต้องมีกับข้าวค่ะ นอกจากนี้ยังรักษาความอร่อยไว้ได้ดีแม้จะเย็นลง จึงเหมาะมากสำหรับทำข้าวปั้น โอนิกิริ (Onigiri) หรือใส่ในกล่องข้าวเบนโตะ (Bento)
เมนูแนะนำ (Recipe Suggestion)
ข้าวโคชิฮิคาริมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่สมดุล ทำให้เข้ากันได้ดีกับอาหารหลากหลายประเภทค่ะ:
ข้าวสวย (Plain White Rice): ทานเปล่า ๆ คู่กับเครื่องเคียงง่าย ๆ อย่างซุปมิโสะ (Miso Soup) และผักดอง (Tsukemono) เพื่อสัมผัสรสชาติแท้ ๆ ของข้าว
ซูชิ (Sushi) และโอนิกิริ (Onigiri): ด้วยความเหนียวหนึบ ทำให้ปั้นได้ง่ายและคงรูปได้ดีเมื่อเย็นลง
เมนูอาหารญี่ปุ่นทั่วไป: เหมาะสำหรับทานคู่กับอาหารญี่ปุ่นแทบทุกชนิด เช่น ปลาย่าง, เทมปุระ (Tempura) หรือข้าวหน้าต่าง ๆ (Donburi)
วิธีใช้หรือวิธีเตรียม (Usage Instruction)
เพื่อให้ได้ข้าวที่อร่อยที่สุด ควรทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
1. ซาวข้าว (Rinsing): ซาวข้าวอย่างเบามือเพื่อล้างฝุ่นออก เปลี่ยนน้ำประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำเริ่มใส
2. แช่น้ำ (Soaking): แช่ข้าวในน้ำสะอาดทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ในฤดูร้อน หรือ 60 นาที ในฤดูหนาว เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำอย่างเต็มที่
3. หุง (Cooking): หุงตามอัตราส่วนน้ำที่ระบุบนเครื่องหุงข้าว หรือใช้อัตราส่วนข้าว 1 ส่วนต่อน้ำประมาณ 1.1 - 1.2 ส่วน
4. พักข้าว (Steaming): เมื่อหุงเสร็จแล้ว ห้ามเปิดฝา ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ไอน้ำระอุและข้าวสุกทั่วถึง ก่อนจะใช้ไม้พายคลุกเบา ๆ ก่อนตักเสิร์ฟค่ะ
ลองนำข้าวโคชิฮิคาริจากนีงาตะไปหุงดูสิคะ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมข้าวญี่ปุ่นแท้ ๆ ถึงมีเสน่ห์และเป็นหัวใจสำคัญของวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น ที่คุณก็สามารถสร้างสรรค์ความอร่อยนี้ได้ที่บ้านค่ะ
เพิ่มความอร่อยของทุกเมนูผัดแบบง่ายๆ แค่มีขวดนี้!
ซอสพิซซ่าญี่ปุ่นที่พัฒนาสูตรร่วมกับลูกค้ากว่า 1,000 ราย
น้ำสลัดสไตล์ญี่ปุ่น แบบไร้น้ำมัน แคลลอรี่ต่ำ เหมาะกับคนควมคุมน้ำหนัก
น้ำสลัดปราศจากน้ำมัน อร่อยง่าย ได้ประโยชน์
น้ำสลัดปราศจากน้ำมัน อร่อยง่าย ได้ประโยชน์
มาทำพิซซ่าญี่ปุ่น (Okonomiyaki) กันเถอะ!
อร่อยกลมกล่อมกับทาโกะยากิจานโปรดของคุณ
เวทมนตร์ความอร่อย จากซอสเทริยากิ
เอาใจคนไม่กินเผ็ดกับซอสปิ้งย่างรสเผ็ดน้อยรสหวานนวล
มาตามคำเรียกร้องสำหรับซอสปิ้งย่างรสเผ็ดกลาง
เพิ่มความกรุบกรอบให้อาหารจานโปรดของคุณอร่อยขึ้นกว่าเดิม
เคล็ดลับความอร่อยกับซอสที่มียอดขายอันดับ 1 ของญี่ปุ่น
ชวนชิมซอสทงคัตสึในตำนานที่ผลิตมากว่า 100 ปี!!!
ชวนชิมซอสทงคัตสึในตำนานที่ผลิตมากว่า 100 ปี!!!
มาทำข้าวปั้นซูชิกันค่ะ
น้ำสลัดรสแครอทผสมหัวหอมและกระเทียม
น้ำสลัดที่ผ่านการนำวัตถุดิบมาผสมผสานกันอย่างลงตัว
จาก แบรนด์ Bull-Dog ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำซอส
เบสมาจากแอปเปิ้ลวิเนการ์ และปรุงรสสไตล์ตะวันตก
เพิ่มความครีมมี่ด้วยรสชาติเข้มข้นจากหอมใหญ่ แครอท และกระเทียม
สนุกกับการทำโอโคโนมิยากิได้ง่ายๆ ที่บ้านคุณ
สนุกกับการทำทาโกะยากิได้ง่ายๆ ที่บ้านคุณ
ชวนคุณมาสนุกและอิ่มอร่อยกับทาโกะยากิแบบง่ายๆ ด้วย Otafuku Takoyaki Kodawari Set ที่มีเคล็ดลับความอร่อยจาก 4 ส่วนผสมพิเศษ ได้แก่
1. แป้งทาโกะยากิสูตรพิเศษของโอตาฟุกุ กรอบนอกนุ่มใน
2. การผสมผสานกันระหว่างผงหมึกซูรุเมะ 100% และแป้งหมึกเทมปุระกรุบกรอบ ให้รสชาติที่เข้มข้นและล้ำลึก
3. สาหร่ายที่ผลิตในญี่ปุ่น 100% มีสีเขียวสดและกลิ่นหอมของทะเล เพิ่มสัมผัสให้ครบเครื่อง
4. เพิ่มสีสันด้วยขิงแดงดองให้สีสันที่น่ารับประทานและรสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้น
เพียงเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมก็มาอร่อยกันได้เลยค่ะ