“คางปลาบุรี” ความเรียบง่ายอย่างลงตัว
“บุรี” หรือปลา “ฮามาจิ” คือปลาในตระกูล (Yellow Tail) เป็นปลานำเข้าจากญี่ปุ่นชนิดเดียวในโลกที่มีชื่อเรียกหลากหลายไปตามช่วงอายุ จัดเป็นปลาเนื้อขาวที่มีความมันแทรกอยู่ในเนื้อ
“คางปลาบุรี” เป็นเมนูที่พบได้บ่อยในร้านอาหารญี่ปุ่น และเป็นที่นิยมในงานแต่งงานและงานเฉลิมฉลองอื่นๆ เนื่องจากมีรสชาติอร่อยและเนื้อนุ่มหอม เนื้อใต้คางมีไขมันอยู่มาก ซึ่งทำให้มีรสชาติหวานและเนื้ออร่อย การทำคางปลาบุรี จะใช้วิธีการย่างหรืออบที่ทำให้ผิวเนื้อนอกกรอบและนุ่มอยู่ภายใน มักจะปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยหรือโยชุ หรือเมนูต่างๆอีกมากมาย
วิธีทำคางปลาฮามาจิหรือปลาบุรีย่างเกลือ
1. ตั้งเตาถ่านสำหรับย่าง (ควรตั้งรอประมาณ 45 นาที ไฟจะร้อนพอดี ไม่แรงเกินไป)
2. วางคางปลาบุรีบนตะแกรงย่าง โรยเกลือเล็กน้อย ย่างประมาณ 10 นาที
3. ค่อยๆกลับด้านคางปลา โรยเกลืออีกด้าน แล้วทิ้งไว้อีก 10 นาที กลับด้านทุก 10 นาทีแบบนี้เรื่อยๆ จนสุก (ใช้เวลาทั้งหมด 20-30 นาที แล้วแต่ขนาดของคางปลา)
4. ยกคางปลาฮามาจิลงจาน นำหัวไชเท้าฝอยมาบีบน้ำออก ปั้นเป็นก้อนกลมๆ วางข้างชิ้นปลา พร้อมราดซีอิ๊วบนหัวไชเท้า ก็เสิร์ฟคางปลาบุรีย่างเกลือได้เลย
วิธีการเก็บ
• นำออกมาจากช่องแช่แข็งเฉพาะเท่าที่ต้องการจะประกอบอาหาร ไม่แนะนำให้นำออกมาละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
อาหารจานด่วนในวันที่เร่งรีบ แบบต้นตำรับจากญี่ปุ่น
สปาเก็ตตี้นาโปลิตัน เป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น ซึ่งผสมผสานความเป็นตะวันตกกับวัตถุดิบญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว ซอสมะเขือเทศเข้มข้น ผัดพร้อมเครื่องเนื้อสัตว์และผักหลากชนิด ช่วยเติมเต็มมื้ออาหารให้สมบูรณ์แบบ โดยไม่ต้องเตรียมหรือปรุงให้ยุ่งยาก ด้วยขนาด Big 380 กรัม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความอิ่มจุใจในมื้อเดียว ไม่ว่าจะเป็นมื้อกลางวัน มื้อเย็น หรืออาหารจานด่วนในวันที่เร่งรีบ
วิธีอุ่นอาหารในไมโครเวฟ
ห้ามนำไปอุ่นด้วยเตาแก๊ส หรือเตาอบ【อุ่นทั้งที่ยังแช่แข็ง】
1. ดึงออกจากถุงด้านนอก และอุ่นในไมโครเวฟทั้งที่ยังมีฟิล์มพลาสติกใสปิดอยู่ไม่ต้องฉีกฟิล์มออก
2. ระวังขณะหยิบออกจากไมโครเวฟ ระวังถาดร้อน และอ่อนตัว
3. ใช้ส้อมเจาะรูฟิล์ม แล้วลอกออก คนให้ทั่วก่อนรับประทาน
เวลาที่แนะนำสำหรับการอุ่น (ขึ้นอยู่กับวัตต์ของไมโครเวฟ):
ไมโครเวฟ เวลาที่แนะนำ
• 500W 6 นาที 30 วินาที - 6 นาที 50 วินาที
• 600W 6 นาที - 6 นาที 20 วินาที
• 800W ประมาณ 4 นาที 40 วินาที
ข้อควรระวัง:
• ห้ามใช้ฟอยล์อลูมิเนียม
• ถาดอาจอ่อนตัวได้ อย่าถือด้วยมือเปล่าทันทีหลังอุ่น
• ระวังไอน้ำร้อนขณะเปิดฟิล์ม
สปาเก็ตตี้แช่แข็งสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมเสิร์ฟง่ายๆ แค่เข้าไมโครเวฟ!
เมนู “สปาเก็ตตี้ซอสเนยผสมโชยุ” ถือเป็นอีกหนึ่งรสชาติยอดนิยมในญี่ปุ่น ที่ผสมผสานความหอมมันของเนยกับความกลมกล่อมของโชยุ (ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น) ได้อย่างลงตัว มาพร้อมเส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่ม ผัดคลุกเคล้าจนเข้าเนื้อ เสริมด้วยเนื้อสัตว์และผักหลากชนิด ช่วยให้มื้อนี้อร่อยครบในคำเดียว โดยไม่ต้องปรุงเพิ่มเลยแม้แต่น้อย เหมาะสำหรับวันที่เร่งรีบ แต่อยากได้รสชาติที่อร่อยแบบพรีเมียมจากญี่ปุ่นแท้ ๆ อร่อยเต็มคำ อุ่นง่าย พร้อมทานในไม่กี่นาที
วิธีอุ่นอาหารในไมโครเวฟ
ห้ามนำไปอุ่นด้วยเตาแก๊ส หรือเตาอบ【อุ่นทั้งที่ยังแช่แข็ง】
1. ดึงออกจากถุงด้านนอก และอุ่นในไมโครเวฟทั้งที่ยังมีฟิล์มพลาสติกใสปิดอยู่ไม่ต้องฉีกฟิล์มออก
2. ระวังขณะหยิบออกจากไมโครเวฟ ระวังถาดร้อน และอ่อนตัว
3. ใช้ส้อมเจาะรูฟิล์ม แล้วลอกออก คนให้ทั่วก่อนรับประทาน
เวลาที่แนะนำสำหรับการอุ่น (ขึ้นอยู่กับวัตต์ของไมโครเวฟ):
ไมโครเวฟ เวลาที่แนะนำ
• 500W 6 นาที 30 วินาที - 6 นาที 50 วินาที
• 600W 6 นาที - 6 นาที 20 วินาที
• 800W ประมาณ 4 นาที 40 วินาที
ข้อควรระวัง:
• ห้ามใช้ฟอยล์อลูมิเนียม
• ถาดอาจอ่อนตัวได้ อย่าถือด้วยมือเปล่าทันทีหลังอุ่น
• ระวังไอน้ำร้อนขณะเปิดฟิล์ม
มื้อเร่งรีบก็อร่อยได้ ไม่ต้องง้อร้านหรู
สปาเก็ตตี้ราดซอสคาร์โบนาราเข้มข้นจากญี่ปุ่น มาพร้อมเบคอนและผักโขม เส้นสปาเก็ตตี้หนา เหนียวนุ่ม ซึมซับซอสได้ดี เหมาะ สำหรับมื้อเร่งรีบ หรือวันที่อยากกินอะไรอร่อยๆแบบไม่ต้องทำอาหาร ถาดบรรจุภัณฑ์สามารถอุ่นได้ทันทีในไมโครเวฟ แม้ว่าคุณจะหิวมาก คุณก็เพลิดเพลินกับสปาเก็ตตี้แสนอร่อยได้อย่างรวดเร็วและไม่ยุ่งยาก เป็นทั้งมื้อกลางวัน มื้อดึก หรือวันที่อยากพักจากการทำกับข้าว อร่อยง่าย สะดวก ไม่ต้องล้างจาน
วิธีอุ่นอาหารในไมโครเวฟ
ห้ามนำไปอุ่นด้วยเตาแก๊ส หรือเตาอบ【อุ่นทั้งที่ยังแช่แข็ง】
1. ดึงออกจากถุงด้านนอก และอุ่นในไมโครเวฟทั้งที่ยังมีฟิล์มพลาสติกใสปิดอยู่ไม่ต้องฉีกฟิล์มออก
2. ระวังขณะหยิบออกจากไมโครเวฟ ระวังถาดร้อน และอ่อนตัว
3. ใช้ส้อมเจาะรูฟิล์ม แล้วลอกออก คนให้ทั่วก่อนรับประทาน
เวลาที่แนะนำสำหรับการอุ่น (ขึ้นอยู่กับวัตต์ของไมโครเวฟ):
ไมโครเวฟ เวลาที่แนะนำ
• 500W 6 นาที 30 วินาที - 6 นาที 50 วินาที
• 600W 6 นาที - 6 นาที 20 วินาที
• 800W ประมาณ 4 นาที 40 วินาที
ข้อควรระวัง:
• ห้ามใช้ฟอยล์อลูมิเนียม
• ถาดอาจอ่อนตัวได้ อย่าถือด้วยมือเปล่าทันทีหลังอุ่น
• ระวังไอน้ำร้อนขณะเปิดฟิล์ม
หวานนุ่มละลายในปาก…รสชาติอบอุ่นเหมือนกินที่ญี่ปุ่น
มันหวานญี่ปุ่น หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ซัตสึมะอิโมะ” เป็นหนึ่งในอาหารพื้นบ้านของญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ด้วยเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม รสชาติหวานตามธรรมชาติ และกลิ่นหอมเฉพาะตัว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับทานเล่น หรือเป็นของหวานหลังมื้ออาหาร สินค้าชิ้นนี้คัดเลือกจากมันหวานสายพันธุ์ดีของญี่ปุ่น ผ่านการต้มสุกอย่างพิถีพิถัน พร้อมปรุงรสหวานอ่อนๆ ตามแบบฉบับดั้งเดิม บรรจุในแพ็กสุญญากาศเพื่อคงความสดใหม่และรสชาติไว้ครบถ้วน รับประทานได้ทันทีจากแพ็ก หรืออุ่นร้อนเพียงเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความหอมนุ่ม เหมาะสำหรับทุกวัย ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ จะทานคู่กับชาเขียวร้อนในวันพักผ่อน หรือใส่ในเบนโตะเป็นของหวานท้ายมื้อ ก็เติมเต็มความสุขได้ทุกคำอย่างลงตัว มันหวานญี่ปุ่นถือเป็นของว่างยอดนิยมที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ สินค้าชิ้นนี้ผ่านการต้มสุกพร้อมปรุงรสแบบญี่ปุ่น ให้รสหวานธรรมชาติ นุ่มละมุน หอมเฉพาะตัว เหมาะกับการทานคู่กับชาเขียวหรือรับประทานเล่นได้ทุกเวลา
วิธีรับประทาน
1. พร้อมทานทันที
• สามารถรับประทานได้เลยหลังนำออกจากตู้เย็น โดยไม่ต้องอุ่น
• เหมาะสำหรับทานเป็นของว่างเย็น ๆ หรือของหวานเบา ๆ
2. อุ่นก่อนรับประทาน (เพิ่มความหอมนุ่ม)
• ไมโครเวฟ : ฉีกถุงหรือตักใส่ภาชนะที่เข้าไมโครเวฟได้ อุ่นประมาณ 20–30 วินาที (ขึ้นอยู่กับปริมาณ)
• นึ่ง / อุ่นในหม้อ : นำทั้งแพ็ก (ยังไม่เปิดถุง) อุ่นในหม้อน้ำร้อนประมาณ 2–3 นาที หรือแกะใส่ภาชนะแล้วนึ่งสั้น ๆ จนร้อนทั่ว
3. เคล็ดลับเสริมความอร่อย
• ทานคู่กับชาเขียวร้อน หรือโยเกิร์ตรสธรรมชาติ
• โรยผงอบเชย หรือราดน้ำผึ้งเล็กน้อย เพิ่มความหอมหวานแบบฟิวชัน
พร้อมเสิร์ฟความอร่อย! ถึงบ้านคุณ
เมนูแช่แข็งสุดยอดฮิตจากญี่ปุ่น ที่รวมความอร่อยของเนื้อปลานุ่มๆ กับเนื้อกุ้งบดแน่นๆ ปรุงรสด้วยซอสทาร์ทาร์สูตรต้นตำรับ กรอบนอก นุ่มใน หอมมันลงตัว ด้านนอกชุบเกล็ดขนมปังทอดจนกรอบ หอม อร่อย ทอดมาเรียบร้อยแล้ว พร้อมอุ่นรับประทานได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาเตรียมอาหาร แค่เวฟ หรืออบด้วยหม้อทอดลมร้อนก็ฟินได้เลย เหมาะสำหรับเป็นของว่าง มื้อเร่งด่วน หรือเสิร์ฟคู่ข้าวและสลัดก็อร่อยไม่แพ้เมนูร้านอาหาร!
♨️ วิธีการอุ่นด้วยไมโครเวฟ
• ไม่ต้องละลายน้ำแข็งก่อน (สามารถอุ่นจากแช่แข็งได้เลย)
• จัดวางบนจานที่สามารถใช้กับไมโครเวฟได้ โดยให้เว้นระยะระหว่างชิ้นเล็กน้อย
• ครอบด้วยพลาสติกแรปสำหรับไมโครเวฟ เพื่อคงความชุ่มชื้น (ถ้าต้องการให้กรอบ อาจเว้นการคลุม)
⏱️เวลาที่ใช้ในการอุ่น:
• ไมโครเวฟ 500 W :
1 ชิ้น ประมาณ 30 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 40 วินาที
3 ชิ้น ประมาณ 1 นาที
• ไมโครเวฟ 600 W :
1 ชิ้น ประมาณ 20 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 30 วินาที
3 ชิ้น ประมาณ 50 วินาที
(พักไว้สักครู่ก่อนทาน เพราะไส้ด้านในอาจร้อนมาก)
แแป้งสาลีญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยม และบอกต่อมากที่สุด!
ผัดร้อน ๆ กลิ่นหอมชวนหิว! ยากิโซบะสไตล์ญี่ปุ่นแท้ พร้อมเสิร์ฟในพริบตา
ยากิโซบะ เป็นอาหารจานด่วนสไตล์ญี่ปุ่นที่เป็นที่นิยมอย่างมากทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ใช้เส้นบะหมี่บางและเหนียวนุ่มที่พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์นี้โดยเฉพาะ กระบวนการผัดทำให้ยากิโซบะแท้ๆ นี้มีรสชาติเข้มข้น พร้อมหอมกลิ่นซอส รสกลมกล่อม ผัดพร้อมเนื้อหมูสไลซ์, กะหล่ำปลี และแครอท, โรยหน้าด้วยขิงดอง (เบนิโชกะ), สาหร่ายผง (อะโอโนริ), และมายองเนส เสิร์ฟคู่กับไข่ดาว หรือโคร็อกเกะ เหมาะสำหรับรับประทานในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นมื้อกลางวัน มื้อเย็น หรือเมนูในร้านอาหาร เหมาะสำหรับครอบครัวหรือร้านอาหารที่ต้องการความสะดวกและรสชาติอร่อยแบบต้นตำรับ
วิธีการปรุงอาหาร :
1. ต้มน้ำในหม้อปริมาณให้ท่วมซองยากิโซบะให้เดือด นำซองยากิโซบะ 1 กก. ใส่ลงไปรอประมาร 15 นาที หรือรอจนเส้นร้อน นำออกมาฉีกซองเทใส่จาน
2. นำผักปละเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้มาผัดจนสุก
3. นำเส้นที่อุ่นแล้ว มาผักรวมกับผักและเนื้อสัตว์คนให้เข้ากันจากนั้นเทใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
คำแนะนำในการปรุงอาหาร :
• ต้ม : ใส่ทั้งถุงแช่แข็งลงในน้ำเดือดและอุ่นให้ร้อน เวลาที่คาดไว้ 1 กิโลกรัม: ประมาณ 15 นาที
• เตาอบพาความร้อน : วางผลิตภัณฑ์แช่แข็งที่ละลายน้ำแข็งไว้ในเตาอบพาความร้อนที่อุณหภูมิปานกลาง
(โหมดไอน้ำ 100°C) เวลาที่คาดไว้ 1 กิโลกรัม: ประมาณ 20 นาที
• วิธีพิเศษ : หลังจากต้มในน้ำร้อนแล้ว ให้ทอดเบาๆ ในกระทะอีกครั้งเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้น
ข้อแนะนำในการเก็บรักษา:
• ควรเก็บในช่องแช่แข็งที่อุณหภูมิ -18°C หรือต่ำกว่า
• ไม่ควรนำกลับไปแช่แข็งใหม่หลังจากละลายน้ำแข็งแล้ว
ปลาเนื้อขาวทอดผสมซอสทาร์ทาร์
สัมผัสความอร่อยของปลาเนื้อขาวราดด้วยซอสทาร์ทาร์รสเข้มข้นกลมกล่อม นำมาชุบแป้งทอดจนกรุบกรอบ ให้คุณเพลิดเพลินได้แบบง่ายๆ ตามปริมาณที่ต้องการด้วยถาดแบบแยกชิ้น ไม่ว่าจะอุ่นด้วยไมโครเวฟหรือเพียงแค่ปล่อยให้ละลายตามธรรมชาติก็พร้อมเสิร์ฟ นิยมจัดใส่กล่องเบนโตะเป็นมื้อกลางวัน รับประทานเป็นกับข้าว และนำไปประกบกับขนมปังเป็นแซนวิชหรือเบอร์เกอร์ก็ได้เช่นกันค่ะ
เพลิดเพลินกับแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแท้ๆ แบบเต็มรสชาติได้ง่ายๆ แค่อุ่น
เคอร์รี ยะ (Curry-ya) เป็นซีรีส์แกงกะหรี่พร้อมทานจากแบรนด์ House ที่มียอดขายอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นมากว่า 19 ปี ด้วยรสชาติอันกลมกล่อมเข้มข้นจากเครื่องเทศถึง 29 ชนิด กระบวนการผลิตที่พิถีพิถันกว่า 3 ขั้นตอน ส่วนผสมและระดับความเผ็ดอันหลากหลาย ทำให้คุณสามารถอร่อยกับแกงกะหรี่แบบเต็มรสชาติเหมือนสั่งจากร้านอาหารได้ง่ายๆ ที่บ้าน
สำหรับกล่องสีส้มรสไก่นี้ มีความเผ็ดระดับ 3 (จาก 5 ระดับ) ภายในซองบรรจุมาแบบครบเครื่องทั้งเนื้อไก่ แครอท และมันฝรั่ง เพียงอุ่นด้วยไมโครเวฟหรือน้ำร้อนไม่กี่นาทีแล้วเสิร์ฟกับข้าวญี่ปุ่น หรือจะนำไปทำเมนูอื่นๆ อย่างข้าวแกงกะหรี่อบชีส, ยากิโซบะแกงกะหรี่, อุด้งแกงกะหรี่ หรือกราแตงแกงกะหรี่ก็ได้เช่นกันค่ะ
วิธีรับประทาน
• อุ่นโดยไมโครเวฟ
1. เปิดฝากล่องตรงรอยประ โดยไม่ต้องฉีกปากซองแกงกะหรี่ออก
2. นำกล่องที่บรรจุซองแกงกะหรี่เข้าไมโครเวฟ โดยให้รูที่อยู่มุมซองอยู่ด้านบน
3. อุ่นโดยใช้กำลังไฟและเวลาดังนี้
• กำลังไฟ 500 วัตต์ ใช้เวลา 1 นาที 50 วินาที
• กำลังไฟ 600 วัตต์ ใช้เวลา 1 นาที 20 วินาที
• กำลังไฟ 700 วัตต์ ใช้เวลา 1 นาที
4. นำออกจากไมโครเวฟ ฉีกซอง เทใส่ชามที่เตรียมไว้ พร้อมรับประทาน
• อุ่นโดยการต้มในน้ำร้อน
1. เปิดฝากล่องแล้วนำซองแกงกะหรี่ออกมา
2. ใส่น้ำในหม้อ โดยกะปริมาณให้ท่วมซองแกงกะหรี่ ต้มน้ำให้เดือด
3. นำซองแกงกะหรี่ลงไปแช่ในน้ำเดือด ต้มต่อประมาณ 3-5 นาที
4. นำซองแกงกะหรี่ออกจากหม้อ ฉีกซอง เทใส่ชามที่เตรียมไว้ พร้อมรับประทาน
** ควรฉีกซองด้วยความระมัดระวัง เพราะซอสแกงกะหรี่บางส่วนอาจกระเด็นหรือมีไอน้ำร้อนออกมาได้ **
ความอร่อยสดชื่นแบบญี่ปุ่น ที่ลงตัวด้วยซอสยูสุพอนซึ
ถ้าคุณชอบรสชาติเปรี้ยวอมหวาน หอมกลิ่นเลม่อนญี่ปุ่นอย่างยูซุ ต้องไม่พลาด นัตโตะรสชาติใหม่จากแบรนด์ฮามานะสึ เพราะนี่คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างถั่วเหลืองหมักเพื่อสุขภาพ กับซอสยูสุพอนซึที่ให้ความรู้สึกสดชื่นไม่เหมือนใคร ทำให้ทานง่ายและอร่อยจนหยุดไม่ได้
นัตโตะถ้วยนี้ถูกยกระดับความอร่อยขึ้นไปอีกขั้นด้วยซอสยูสุพอนซึสูตรพิเศษ :
• ความสดชื่นของยูซุ: จุดเด่นคือ ซอสปอนซุรสยูซุ ที่มีรสเปรี้ยวอมหวานและกลิ่นหอมของยูซุที่สดชื่นมากๆ ทำให้ความรู้สึกหนัก ๆ ของนัตโตะเปลี่ยนไป กลายเป็นรสชาติที่สว่างและเบา ทานได้เรื่อย ๆ
• ถั่วเหลืองเม็ดเล็กคุณภาพ: นัตโตะใช้ถั่วเหลืองเม็ดเล็ก (Kotsubu Daizu) คุณภาพดีจาก ฮอกไกโด ซึ่งเป็นแหล่งผลิตถั่วชั้นเยี่ยม ทำให้ถั่วมีความเนียนนุ่มและคลุกเคล้ากับซอสได้อย่างง่ายดาย
• ทานง่ายแม้เป็นมือใหม่: รสเปรี้ยวหอมของยูซุช่วยตัดกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของนัตโตะได้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นอีกตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นลองทาน
• ประโยชน์เต็มถ้วย: นัตโตะ เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีเยี่ยม และเต็มไปด้วยสารอาหารสำคัญอย่างโปรไบโอติก วิตามิน K2 และเอนไซม์นัตโตะไคเนส ที่ช่วยดูแลสุขภาพลำไส้และระบบไหลเวียนโลหิต
วิธีเตรียมและอร่อยกับนัตโตะ
สินค้าจัดส่งแบบแช่แข็ง เพื่อรักษาความสดใหม่ ดังนั้นควรเตรียมสินค้าตามขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนการเตรียม:
1. นำนัตโตะ ออกจากช่องฟรีซ (ช่องแข็ง)
2. พักไว้ที่อุณหภูมิห้องสักครู่ เพื่อให้คลายความเย็นจนนิ่มลง หรือนำไปพักในตู้เย็นช่องธรรมดา
3. เมื่อถั่วละลายและนิ่มแล้ว จึงนำมาทาน
เคล็ดลับการคนนัตโตะให้ฟู
หัวใจสำคัญของการทาน นัตโตะ คือการคนค่ะ การคนนัตโตะไม่ได้มีแค่เรื่องความเหนียว แต่เป็นการดึงเอาสารอาหารสำคัญอย่าง เอนไซม์นัตโตะไคเนสออกมาทำงาน และยังช่วยให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
ขั้นตอนที่ 1: คนก่อนปรุงรส
• ตักซอสออกก่อน: นำซอง ซอสรสบ๊วยและมัสตาร์ด (ถ้ามี) ออกจากถ้วยก่อนค่ะ
• เริ่มคนเปล่า ๆ: ใช้ตะเกียบหรือส้อม คนนัตโตะในถ้วยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
- เน้นความเร็ว: ไม่จำเป็นต้องคนวนเป็นวงกลมแบบเป๊ะ ๆ แต่เน้นการคนแบบซิกแซ็กสลับไปมาด้วยความเร็วค่ะ
- จำนวนครั้ง: ให้คนอย่างน้อย 50 ครั้ง ค่ะ พอคนไปเรื่อย ๆ คุณจะสังเกตเห็นว่านัตโตะเริ่มมี ฟองสีขาวขุ่น และ ใยเหนียว ๆ เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก
ขั้นตอนที่ 2: คนพร้อมปรุงรส
• เติมซอสบ๊วย: เมื่อนัตโตะเริ่มเป็นฟองได้ที่แล้ว ให้ใส่ ซอสรสบ๊วย (หรือเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามชอบ) ลงไป
• คนต่ออีก 10-20 ครั้ง: คนผสมให้ซอสเข้ากันดีค่ะ การคนรอบสองนี้จะช่วยให้รสชาติของซอสซึมเข้าไปในถั่วและฟองนัตโตะอย่างทั่วถึง ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ถ้าคุณพร้อมที่จะเปิดรับความอร่อยใหม่ที่ทั้งสดชื่นและดีต่อสุขภาพ ลองให้ นัตโตะซอสยูซุ เป็นตัวเลือกในมื้อต่อไป รับรองว่าถูกใจสายเฮลตี้ที่ชอบรสชาติเปรี้ยวอมหวานอย่างแน่นอน"
อาหารเพื่อสุขภาพจากญี่ปุ่น ที่กินง่ายและอร่อยลงตัว
สำหรับใครที่อยากลองทาน นัตโตะ (Natto) แต่ยังกังวลเรื่องกลิ่นหรือเนื้อสัมผัส เราขอแนะนำ นัตโตะ ฮามานะสึ (Hamanasu) สูตรเม็ดเล็กพิเศษ เพราะนี่คือตัวเลือกที่ถูกใจคนญี่ปุ่นและเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับมือใหม่ ที่สำคัญคือมาพร้อมกับคุณประโยชน์ด้านสุขภาพแบบเต็มๆ
นัตโตะคือเคล็ดลับสุขภาพดีของคนญี่ปุ่น เป็นถั่วเหลืองหมักที่อัดแน่นไปด้วยโปรไบโอติกและเอนไซม์ นัตโตะไคเนส ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหารให้ทำงานดีขึ้น และยังดีต่อสุขภาพหัวใจ รวมถึงเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและบำรุงกระดูกให้แข็งแรงอีกด้วย
จุดเด่น
• เม็ดเล็ก เคี้ยวง่าย: นัตโตะของฮามานะสึเป็นแบบเม็ดเล็กพิเศษ (Gokukotsubu) ทำให้เนื้อสัมผัสมีความละเอียดกว่าแบบเม็ดใหญ่ และผสมเข้ากับซอสได้ง่ายกว่า ถูกปากคนที่ไม่คุ้นเคยกับความเหนียวของนัตโตะ
• รสชาติกลมกล่อมลงตัว: นัตโตะถ้วยนี้มาพร้อมกับซอสสูตรพิเศษที่ให้รสอูมามิ ทำให้รสชาติของถั่วเหลืองหมักมีความกลมกล่อมและอร่อยยิ่งขึ้น เพียงแค่เติมซอสและมัสตาร์ดที่มาในแพ็กเกจ ก็พร้อมทานได้ทันที
• คุณภาพญี่ปุ่นแท้ๆ: สินค้านี้ถูกนำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าให้ความสำคัญกับคุณภาพและความสะอาดในกระบวนการผลิต ทำให้คุณมั่นใจได้ว่านัตโตะที่คุณทานนั้น สดใหม่และได้มาตรฐาน
วิธีทำความอร่อยง่ายๆ สไตล์ญี่ปุ่น
ชาวญี่ปุ่นนิยมทาน นัตโตะ ในมื้อเช้า เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์ไปตลอดวัน วิธีทานก็ง่ายมากๆ
1. นำนัตโตะมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 30-60 นาที เพื่อให้นัตโตะที่แช่แข็งไว้ละลาย
2. เปิดฝาและเทซอสกับมัสตาร์ดที่แถมมาลงไป
3. ใช้ตะเกียบคน นัตโตะ อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องจนเกิดฟองและความเหนียวเป็นเส้นใย
4. ตักวางบนข้าวสวยญี่ปุ่นร้อน ๆ หรือจะทานคู่กับไข่แดงและต้นหอมซอยก็อร่อยลงตัว
คล็ดลับการคนนัตโตะให้ฟู
หัวใจสำคัญของการทาน นัตโตะ คือการคนค่ะ การคนนัตโตะไม่ได้มีแค่เรื่องความเหนียว แต่เป็นการดึงเอาสารอาหารสำคัญอย่าง เอนไซม์นัตโตะไคเนสออกมาทำงาน และยังช่วยให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
ขั้นตอนที่ 1: คนก่อนปรุงรส
• ตักซอสออกก่อน: นำซอง ซอสรสบ๊วยและมัสตาร์ด (ถ้ามี) ออกจากถ้วยก่อนค่ะ
• เริ่มคนเปล่า ๆ: ใช้ตะเกียบหรือส้อม คนนัตโตะในถ้วยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
- เน้นความเร็ว: ไม่จำเป็นต้องคนวนเป็นวงกลมแบบเป๊ะ ๆ แต่เน้นการคนแบบซิกแซ็กสลับไปมาด้วยความเร็วค่ะ
- จำนวนครั้ง: ให้คนอย่างน้อย 50 ครั้ง ค่ะ พอคนไปเรื่อย ๆ คุณจะสังเกตเห็นว่านัตโตะเริ่มมี ฟองสีขาวขุ่น และ ใยเหนียว ๆ เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก
ขั้นตอนที่ 2: คนพร้อมปรุงรส
• เติมซอสบ๊วย: เมื่อนัตโตะเริ่มเป็นฟองได้ที่แล้ว ให้ใส่ ซอสรสบ๊วย (หรือเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามชอบ) ลงไป
• คนต่ออีก 10-20 ครั้ง: คนผสมให้ซอสเข้ากันดีค่ะ การคนรอบสองนี้จะช่วยให้รสชาติของซอสซึมเข้าไปในถั่วและฟองนัตโตะอย่างทั่วถึง ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นมื้อไหน นัตโตะฮามานะสึ ก็พร้อมเป็นสุดยอดอาหารสุขภาพที่ทำให้คุณรู้สึกดีได้ทุกวัน ลองสั่งไปชิม แล้วคุณจะติดใจกับความอร่อยที่มีประโยชน์ต่อร่างกายถ้วยนี้เลย!"
สุดยอดนัตโตะจากถั่วเหลืองซุซึมารุ คุณภาพระดับพรีเมียม
สำหรับคนรักสุขภาพและผู้ที่อยากลิ้มลองรสชาติ นัตโตะ (Natto) แบบต้นตำรับแท้ ๆ เราขอแนะนำ นัตโตะ จากแบรนด์ ฮามานะสึ (Hamanasu) สูตรพิเศษจาก ฮอกไกโด เพราะนี่คือสุดยอดถั่วเหลืองหมักที่มาพร้อมความอร่อยแบบธรรมชาติและคุณค่าที่ล้ำเลิศ
ความลับของนัตโตะฮอกไกโด
ความพิเศษของนัตโตะถ้วยนี้อยู่ที่การคัดสรร ถั่วเหลืองเม็ดเล็ก สายพันธุ์ ""ซูซูมารุ"" (Suzumaru) ซึ่งเป็นถั่วเหลืองคุณภาพสูงที่ปลูกในเมืองมุคาวะ จังหวัดฮอกไกโด ถั่วที่เติบโตในสภาพอากาศที่บริสุทธิ์ของฮอกไกโดนี้ ทำให้ได้รสชาติที่นุ่มนวลและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เมื่อนำมาผ่านกระบวนการหมักแบบดั้งเดิม จึงได้นัตโตะที่มีเนื้อสัมผัสเหนียวนุ่มกำลังดี
ทำไมต้องนัตโตะสูตรนี้?
ถั่วเหลืองซูซูมารุ: การเลือกใช้ถั่วเหลืองสายพันธุ์นี้ เป็นการการันตีคุณภาพและความใส่ใจในวัตถุดิบ ทำให้ได้รสอูมามิที่เข้มข้น และเนื้อสัมผัสที่เนียนกว่า
เม็ดเล็ก ทานง่าย: ถั่วแบบเม็ดเล็กทำให้ง่ายต่อการคลุกเคล้ากับซอส และทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ได้อย่างลงตัว เป็นรูปแบบที่คนญี่ปุ่นนิยมทานมากที่สุด
ประโยชน์เต็มถ้วย: นัตโตะยังเป็นซูเปอร์ฟู้ดที่อุดมไปด้วยโปรไบโอติกที่ดีต่อลำไส้ และเอนไซม์นัตโตะไคเนสที่ช่วยเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้คุณได้ทั้งความอร่อยและสุขภาพดีในทุก ๆ คำ
พร้อมทาน สะดวกสุด ๆ: ในแพ็กเกจมีทั้งซอส (Tare) และมัสตาร์ด (Karashi) มาให้พร้อมสรรพ คุณไม่ต้องหาเครื่องปรุงเพิ่ม ก็อร่อยได้ทันที
วิธีเตรียมและอร่อยกับนัตโตะ
สินค้าจัดส่งแบบแช่แข็ง เพื่อรักษาความสดใหม่ ดังนั้นควรเตรียมสินค้าตามขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนการเตรียม:
1. นำ นัตโตะ ออกจากช่องฟรีซ (ช่องแข็ง)
2. พักไว้ที่อุณหภูมิห้องสักครู่ เพื่อให้คลายความเย็นจนนิ่มลง หรือนำไปพักในตู้เย็นช่องธรรมดา
3. เมื่อถั่วละลายและนิ่มแล้ว จึงนำมาทาน
เคล็ดลับการคนนัตโตะให้ฟู
หัวใจสำคัญของการทาน นัตโตะ คือการคนค่ะ การคนนัตโตะไม่ได้มีแค่เรื่องความเหนียว แต่เป็นการดึงเอาสารอาหารสำคัญอย่าง เอนไซม์นัตโตะไคเนสออกมาทำงาน และยังช่วยให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
ขั้นตอนที่ 1: คนก่อนปรุงรส
• ตักซอสออกก่อน: นำซอง ซอสและมัสตาร์ด (ถ้ามี) ออกจากถ้วยก่อนค่ะ
• เริ่มคนเปล่า ๆ: ใช้ตะเกียบหรือส้อม คนนัตโตะในถ้วยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
- เน้นความเร็ว: ไม่จำเป็นต้องคนวนเป็นวงกลมแบบเป๊ะ ๆ แต่เน้นการคนแบบซิกแซ็กสลับไปมาด้วยความเร็วค่ะ
- จำนวนครั้ง: ให้คนอย่างน้อย 50 ครั้ง ค่ะ พอคนไปเรื่อย ๆ คุณจะสังเกตเห็นว่านัตโตะเริ่มมี ฟองสีขาวขุ่น และ ใยเหนียว ๆ เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก
ขั้นตอนที่ 2: คนพร้อมปรุงรส
• เติมซอสบ๊วย: เมื่อนัตโตะเริ่มเป็นฟองได้ที่แล้ว ให้ใส่ ซอสรสบ๊วย (หรือเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามชอบ) ลงไป
• คนต่ออีก 10-20 ครั้ง: คนผสมให้ซอสเข้ากันดีค่ะ การคนรอบสองนี้จะช่วยให้รสชาติของซอสซึมเข้าไปในถั่วและฟองนัตโตะอย่างทั่วถึง ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ให้นัตโตะฮอกไกโดเป็นอาหารเช้าหรือมื้อเสริมเพื่อสุขภาพของคุณ แล้วคุณจะค้นพบความลับของการมีสุขภาพดีสไตล์คนญี่ปุ่นได้ง่าย ๆ ที่บ้านเลย
เพลิดเพลินกับแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแท้ๆ แบบเต็มรสชาติได้ง่ายๆ แค่อุ่น
นัตโตะรสบ๊วยสดชื่น ที่ทำให้คุณตกหลุมรักได้ง่ายขึ้น
สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นทาน นัตโตะ (Natto) แต่ยังกังวลกับกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ หรือผู้ที่ทานนัตโตะอยู่แล้วแต่อยากได้รสชาติใหม่ ๆ ที่ทานง่ายและอร่อยสดชื่น เราขอแนะนำ นัตโตะบ๊วย ฮามานะสึ (Hamanasu) สูตรพิเศษจากญี่ปุ่น ที่จะทำให้ประสบการณ์ทานนัตโตะของคุณเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ความลับของความอร่อยที่ลงตัว นัตโตะบ๊วยถ้วยนี้ถูกออกแบบมาเพื่อความอร่อยที่ทานง่ายที่สุด
• รสชาติไม่จำเจ: จุดเด่นคือการใช้ ซอสบ๊วย (Ume) ที่ทำจากบ๊วยบดพิเศษ ช่วยเพิ่มความเปรี้ยวอมหวานและความหอมสดชื่น (香り爽やか) เข้ามาตัดกับกลิ่นของถั่วเหลืองหมักได้อย่างลงตัว ทำให้ทานง่ายกว่านัตโตะทั่วไปมาก
• ถั่วคุณภาพดีจากฮอกไกโด: คัดสรรถั่วเหลืองเม็ดเล็ก (Kotsubu Daizu) คุณภาพเยี่ยมจาก ฮอกไกโด ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสะอาดและคุณภาพของวัตถุดิบ ทำให้ถั่วมีความอร่อยในตัวและสัมผัสที่เนียนนุ่มกำลังดี
• สุขภาพดีเต็มถ้วย: แม้จะรสชาติดีกว่าเดิม แต่คุณค่าทางอาหารยังครบถ้วน! นัตโตะ อัดแน่นไปด้วยโปรไบโอติก วิตามิน K2 และเอนไซม์นัตโตะไคเนส ที่ช่วยเรื่องการย่อยอาหารและบำรุงหัวใจให้แข็งแรง
วิธีทำความอร่อยง่าย ๆ
นัตโตะบ๊วยฮามานะสึ พร้อมเป็นมื้ออร่อยของคุณในทุกเช้า:
1. นำนัตโตะมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 30-60 นาที เพื่อให้นัตโตะที่แช่แข็งไว้ละลาย
2. แกะซอง นัตโตะ และเทซอสบ๊วยที่แถมมาลงไป
3. ใช้ตะเกียบคน นัตโตะ อย่างรวดเร็วจนเกิดฟองและเส้นใยเหนียว ๆ
4. ทานคู่กับข้าวสวยญี่ปุ่นร้อน ๆ ได้ทันที! ความเปรี้ยวอมหวานของบ๊วยจะช่วยเปิดต่อมรับรสและทำให้ข้าวอร่อยขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
เคล็ดลับการคนนัตโตะให้ฟู
หัวใจสำคัญของการทาน นัตโตะ คือการคนค่ะ การคนนัตโตะไม่ได้มีแค่เรื่องความเหนียว แต่เป็นการดึงเอาสารอาหารสำคัญอย่าง เอนไซม์นัตโตะไคเนสออกมาทำงาน และยังช่วยให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น
ขั้นตอนที่ 1: คนก่อนปรุงรส
• ตักซอสออกก่อน: นำซอง ซอสรสบ๊วยและมัสตาร์ด (ถ้ามี) ออกจากถ้วยก่อนค่ะ
• เริ่มคนเปล่า ๆ: ใช้ตะเกียบหรือส้อม คนนัตโตะในถ้วยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
- เน้นความเร็ว: ไม่จำเป็นต้องคนวนเป็นวงกลมแบบเป๊ะ ๆ แต่เน้นการคนแบบซิกแซ็กสลับไปมาด้วยความเร็วค่ะ
- จำนวนครั้ง: ให้คนอย่างน้อย 50 ครั้ง ค่ะ พอคนไปเรื่อย ๆ คุณจะสังเกตเห็นว่านัตโตะเริ่มมี ฟองสีขาวขุ่น และ ใยเหนียว ๆ เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก
ขั้นตอนที่ 2: คนพร้อมปรุงรส
• เติมซอสบ๊วย: เมื่อนัตโตะเริ่มเป็นฟองได้ที่แล้ว ให้ใส่ ซอสรสบ๊วย (หรือเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามชอบ) ลงไป
• คนต่ออีก 10-20 ครั้ง: คนผสมให้ซอสเข้ากันดีค่ะ การคนรอบสองนี้จะช่วยให้รสชาติของซอสซึมเข้าไปในถั่วและฟองนัตโตะอย่างทั่วถึง ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ทำไมต้องคนเยอะขนาดนั้น?
การคนนัตโตะจะช่วยกระตุ้นการสร้างใยเมือกเหนียวๆ ซึ่งเป็นตัวการของความอร่อยและสุขภาพดี ใยเหล่านี้คือกรดกลูตามิก ซึ่งเป็นแหล่งของรสอูมามิหรือรสชาติกลมกล่อม ยิ่งคนมาก ใยยิ่งเยอะ รสชาติก็จะยิ่งนุ่มละมุนลิ้น และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น
ลองทำตามดูนะคะ รับรองว่า นัตโตะรสบ๊วย ถ้วยนี้จะอร่อยฟู เหนียวได้ที่ ถูกใจแน่นอนค่ะ!