โคร็อกเกะกรอบอร่อยเต็มรสแกงกะหรี่
อิ่มอร่อยได้ง่ายๆ กับโคร็อกเกะหรือโครเกตต์ (Korokke, Croquette) ของทอดยอดนิยมอีกเมนูหนึ่งของญี่ปุ่นที่มีต้นกำเนิดมาจากฝรั่งเศส ทำมาจากมันบดปั้นเป็นก้อนทรงกลมหรือรี อาจมีการผสมเนื้อบด, อาหารทะเล หรือผักต่างๆ แล้วนำมาชุบแป้ง, ไข่ และเกล็ดขนมปัง ทอดจนเหลืองกรอบน่ารับประทาน
โคร็อกเกะห่อนี้เป็นสินค้าขายดีของเกียวมุ ซูเปอร์ (Gyomu Super) ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของญี่ปุ่น พิเศษสุดๆ ด้วยไส้แกงกะหรี่เข้มข้น กลมกล่อม เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานความอร่อยได้อย่างลงตัวทีเดียว ให้คุณอร่อยกับเมนูนี้แบบง่ายๆ เพียงนำไปทอดแล้วเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ, จัดใส่เบนโตะ หรือรับประทานคู่กับเครื่องดื่มแก้วโปรดก็ได้เช่นกันค่ะ
หม้อไฟสไตล์ฮากาตะ อาหารขึ้นชื่อของเมืองฟุกุโอกะ
เคยลองทานถั่วเน่าญี่ปุ่น (นัตโตะ) หรือยังคะ?
หลายๆ คนที่เคยเดินทางไปญี่ปุ่น เมนูอาหารเช้าเกือบทุกโรงแรมในประเทศญี่ปุ่นต้องมีเสริ์ฟนัตโตะ (Natto) หรือถั่วเหลืองญี่ปุ่นหมัก รู้หรือไม่คะ ว่านัตโตะถือเป็นอาหารสุขภาพที่ชาวญี่ปุ่นต่างยกนิ้วให้ เพราะอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ มีวิตามินบี 12 สารต้านอนุมูลอิสระ และโปรไบโอติกที่ช่วยในการย่อย ทำให้กระเพาะและลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ทำให้นัตโตะถูกยกย่องให้เป็น Super Food
Okina Natto Fukuoka เป็นนัตโตะที่ผลิตจากเมืองฟุกุโอกะ โดยคัดเลือกถั่วเหลืองของขึ้นชื่อของเมือง นำมาหมักในกรรมวิธีดั้งเดิม จนได้นัตโตะที่มีกลิ่นเฉพาะตัว และรสชาติเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมซอสและมัสตาร์ดให้ได้ทานคู่กัน ใครที่ไม่เคยลอง อยากแนะนำให้เปิดใจค่ะ
เคยลองทานถั่วเน่าญี่ปุ่น (นัตโตะ) หรือยังคะ?
หลายๆ คนที่เคยเดินทางไปญี่ปุ่น เมนูอาหารเช้าเกือบทุกโรงแรมในประเทศญี่ปุ่นต้องมีเสริ์ฟนัตโตะ (Natto) หรือถั่วเหลืองญี่ปุ่นหมัก รู้หรือไม่คะ ว่านัตโตะถือเป็นอาหารสุขภาพที่ชาวญี่ปุ่นต่างยกนิ้วให้ เพราะอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ มีวิตามินบี 12 สารต้านอนุมูลอิสระ และโปรไบโอติกที่ช่วยในการย่อย ทำให้กระเพาะและลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ทำให้นัตโตะถูกยกย่องให้เป็น Super Food
Shindo Fuji Fukuoka Jiman Natto เป็นนัตโตะที่ผลิตจากเมืองฟุกุโอกะ โดยคัดเลือกถั่วเหลืองเม็ดโตของขึ้นชื่อของเมือง นำมาหมักในกรรมวิธีดั้งเดิม จนได้นัตโตะที่มีกลิ่นเฉพาะตัว และรสชาติเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมซอสและมัสตาร์ดให้ได้ทานคู่กัน ใครที่ไม่เคยลอง อยากแนะนำให้เปิดใจค่ะ
ซุปทงคตสึกลมกล่อม เข้มข้น อร่อยจนหยดสุดท้าย!
น้ำซุปทงคตสึสูตรพิเศษเคี่ยวจากกระดูกหมูเข้มข้นเต็มรสชาติ ส่งตรงจากญี่ปุ่นให้คุณทำเมนูทงคตสึแสนอร่อยแบบง่ายๆ ไม่ต้องปรุงเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นราเมน, ซุปหม้อไฟ หรือนำไปผัดเมนูต่างๆ ก็อร่อยกลมกล่อมตามแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ ค่ะ
อัตราส่วนที่แนะนำ
• สำหรับเมนูราเมน – ซุปเข้มข้น 1 ส่วน : น้ำ 12 ส่วน
• สำหรับเป็นน้ำซุปหม้อไฟ – ซุปเข้มข้น 1 ส่วน : น้ำ 12 ส่วน
• สำหรับเมนูผัด – ใช้ 10% ของน้ำหนักวัตถุดิบ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะ หรืออยากลองสัมผัสรสชาติอันลุ่มลึกของวัตถุดิบระดับพรีเมียม “ตับปลาอังกิโมะ” คือหนึ่งในเมนูที่ห้ามพลาด!
อังกิโมะคืออะไร?
อังกิโมะ (Ankimo) คือตับของปลาอังโกะ (Anko Fish) หรือ มังค์ฟิช (Monkfish) ซึ่งเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในทะเลลึก ถือเป็นหนึ่งในอาหารชินมิ (Chinmi) หรืออาหารเลิศรสที่หาทานได้ยากของญี่ปุ่น ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล" เพราะมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มคล้ายตับห่าน มีรสชาติเค็มอ่อน ๆ และมีความหอมมันอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ทำไมถึงอร่อยและพิเศษ?
ตับปลาอังกิโมะของเรา เป็นสินค้าที่ผ่านกระบวนการปรุงรสและต้มมาอย่างพิถีพิถันจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน จึงมีรสชาติที่กลมกล่อมและพร้อมรับประทานทันที ไม่ต้องนำมาปรุงเพิ่มให้ยุ่งยาก ทำให้คุณได้สัมผัสกับรสชาติแบบดั้งเดิมของอังกิโมะได้อย่างง่ายดาย นอกจากความอร่อยแล้ว อังกิโมะยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เช่น วิตามิน A, วิตามิน D และไขมันดีในปริมาณที่สูงอีกด้วย
เมนูที่ทำได้ง่ายๆ
เมนูจากตับปลาอังกิโมะสามารถทำได้หลากหลาย และแต่ละเมนูล้วนช่วยดึงรสชาติความอร่อยออกมาได้อย่างเต็มที่
- ทานเป็นกับแกล้ม: เสิร์ฟอังกิโมะแช่เย็นคู่กับต้นหอมซอย, โมมิจิโอโรชิ (หัวไชเท้าขูดผสมพริก) และซอสพอนสึ (Ponzu Sauce) เพื่อเพิ่มความสดชื่นและตัดความมัน
- ทำเป็นนิกิริซูชิ: วางชิ้นอังกิโมะบนข้าวปั้นซูชิ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมในร้านซูชิระดับพรีเมียม
- ทำเป็นสลัด: หั่นอังกิโมะเป็นชิ้นพอดีคำ วางบนสลัดผัก ราดด้วยน้ำสลัดงา หรือซอสพอนสึ
วิธีเตรียมตับปลา
1. นำอังกิโมะออกจากตู้เย็น วางไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 30-40 นาที เพื่อทำการละลาย
2. แกะซองและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
3. จัดวางบนจาน และนำไปใช้ประกอบเมนูได้ตามต้องการ
*สินค้าบรรจุมาในซองสุญญากาศแบบพร้อมทาน
เปิดประสบการณ์ความอร่อยสุดพิเศษจากท้องทะเลลึกได้แล้ววันนี้! ตับปลาอังกิโมะ พร้อมให้คุณได้ลิ้มลองความอร่อยแบบต้นตำรับญี่ปุ่นได้ง่าย ๆ ที่บ้านของคุณ
ซุปมิโซะขาว อร่อยกลมกล่อม หอมสดชื่น
การทำซุปมิโซะจะไม่ยากอีกต่อไป
ซุปมิโซะผสมสาหร่ายวากาเมะ จากแบรนด์ ฮิคาริ มิโซะ (Hikari Miso) การทานซุปมิโซะกับอาหารญี่ปุ่นนั้นถือเป็นของคู่กัน นี่คือวิธีที่คุณจะได้ลิ้มรสซุปมิโซะที่ดีที่สุด ทั้งสะดวก ง่าย และรวดเร็ว ซองเล็กพกติดตัวได้ ในแพ็คจะมีทั้งหมด 12 ซอง สำหรับการทาน 12 ที่
วิธีทำ
1. เทมิโซะลงในถ้วยซุป
2. เติมน้ำร้อนประมาณ 160 มล. คนให้เข้ากัน เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทานแล้วค่ะ
หากคุณชอบทานราเมนของนิสชิน นี่คือรสชาติที่คุณห้ามพลาด
นิสชิน (Nissin) ถือเป็นแบรนด์บะหมี่ชื่อดังระดับโลกที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ในซีรีส์ Demae Ramen Bar Noodle นี้ได้นำเสนอราเมงเส้นตรงที่ไม่ผ่านการทอด เมื่อนำมาต้มเพียงไม่กี่นาทีคุณจะได้สัมผัสกับเส้นราเมงเหนียวนุ่มที่เข้ากันได้ดีกับน้ำซุปรสชาติกลมกล่อม สำหรับห่อสีดำนี้เป็นรสซุปทงคตสึที่เคี่ยวจากกระดูกหมูจนได้รสอูมามิเข้มข้น เพิ่มความหอมด้วยงาและน้ำมันกระเทียมดำที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะวิตามินซี, ซีลีเนียม และโพแทสเซียม ช่วยลดไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือด, ลดความดันโลหิต, ลดน้ำตาลในเลือด, และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดในร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น น้ำซุปกลมกล่อมทานคู่กับเส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม เพียงเติมเนื้อสัตว์และผักที่ชอบอีกนิดก็อร่อยลงตัวแล้วค่ะ วิธีอร่อยกับ Nissin Bar Ramen 1. ต้มน้ำ 450 มล. ให้เดือด จากนั้นใส่เส้นราเมงลงไปต้มประมาณ 3 นาที ฉีกซองซุปผง (Soup Base) ใส่ลงในถ้วย 2. เมื่อเส้นสุกได้ที่ ยกลงจากเตา เทน้ำร้อนลงในถ้วยที่เตรียมไว้เพื่อละลายผงซุป จากนั้นใส่เส้นราเมงลงไป คนให้เข้ากัน 3. ฉีกซองน้ำมันกระเทียมดำ (Black Garlic Oil) ใส่ลงในถ้วย เติมเนื้อสัตว์ ผัก หรือท้อปปิ้งอื่นๆ ตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ
น้ำสลัดสไตล์ญี่ปุ่น แบบไร้น้ำมัน แคลลอรี่ต่ำ เหมาะกับคนควมคุมน้ำหนัก
น้ำสลัดปราศจากน้ำมัน อร่อยง่าย ได้ประโยชน์
น้ำสลัดปราศจากน้ำมัน อร่อยง่าย ได้ประโยชน์
เอาใจคนไม่กินเผ็ดกับซอสปิ้งย่างรสเผ็ดน้อยรสหวานนวล
มาตามคำเรียกร้องสำหรับซอสปิ้งย่างรสเผ็ดกลาง
ชวนชิมซอสทงคัตสึในตำนานที่ผลิตมากว่า 100 ปี!!!
ชวนชิมซอสทงคัตสึในตำนานที่ผลิตมากว่า 100 ปี!!!
น้ำสลัดรสแครอทผสมหัวหอมและกระเทียม
น้ำสลัดที่ผ่านการนำวัตถุดิบมาผสมผสานกันอย่างลงตัว
จาก แบรนด์ Bull-Dog ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำซอส
เบสมาจากแอปเปิ้ลวิเนการ์ และปรุงรสสไตล์ตะวันตก
เพิ่มความครีมมี่ด้วยรสชาติเข้มข้นจากหอมใหญ่ แครอท และกระเทียม
เปิดประสบการณ์รสชาติของข้าวญี่ปุ่นแท้ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น "ราชาแห่งข้าว" ของประเทศญี่ปุ่น ด้วยคุณภาพที่โดดเด่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ
ข้าวชิ้นนี้คือ ข้าวโคชิฮิคาริ (Koshihikari) ซึ่งเป็นข้าวพันธุ์ยอดนิยมและมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าวที่มาจากจังหวัด นีงาตะ (Niigata) ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงด้านคุณภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น จังหวัดนีงาตะได้รับพรจากสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปลูกข้าวชั้นดี เช่น ดินที่อุดมสมบูรณ์จากตะกอนแม่น้ำสำคัญอย่างแม่น้ำชินาโนะ (Shinano River) และแม่น้ำอะงาโนะ (Agano River) รวมถึงมีน้ำบริสุทธิ์จากหิมะที่ละลาย (Snowmelt Water) และที่สำคัญคือ ความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืน ที่สูง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาความหวานและรสชาติของข้าว
ข้าวโคชิฮิคาริสายพันธุ์นีงาตะมีจุดเด่นหลัก ๆ ที่ทำให้เป็นที่รักของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน
ความเหนียวและหนึบ (Stickiness): มีสัมผัสที่ เหนียวหนึบ (Mochimochi) และยืดหยุ่นกำลังดี ไม่แข็งกระด้าง
ความหวานและอูมามิ (Sweetness & Umami): มีรสหวานตามธรรมชาติที่ชัดเจน และมีรส อูมามิ (Umami) ที่เข้มข้นในทุกเม็ด
กลิ่นหอมและเงางาม: เมื่อหุงสุกแล้วจะมี กลิ่นหอมที่ละมุน และเมล็ดข้าวจะมีความ เงางามเป็นประกาย น่ารับประทาน
ด้วยรสชาติที่โดดเด่นและสมดุล ทำให้ข้าวโคชิฮิคาริจากนีงาตะอร่อยมากแม้ว่าจะทานเปล่า ๆ โดยไม่ต้องมีกับข้าวค่ะ นอกจากนี้ยังรักษาความอร่อยไว้ได้ดีแม้จะเย็นลง จึงเหมาะมากสำหรับทำข้าวปั้น โอนิกิริ (Onigiri) หรือใส่ในกล่องข้าวเบนโตะ (Bento)
เมนูแนะนำ (Recipe Suggestion)
ข้าวโคชิฮิคาริมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่สมดุล ทำให้เข้ากันได้ดีกับอาหารหลากหลายประเภทค่ะ:
ข้าวสวย (Plain White Rice): ทานเปล่า ๆ คู่กับเครื่องเคียงง่าย ๆ อย่างซุปมิโสะ (Miso Soup) และผักดอง (Tsukemono) เพื่อสัมผัสรสชาติแท้ ๆ ของข้าว
ซูชิ (Sushi) และโอนิกิริ (Onigiri): ด้วยความเหนียวหนึบ ทำให้ปั้นได้ง่ายและคงรูปได้ดีเมื่อเย็นลง
เมนูอาหารญี่ปุ่นทั่วไป: เหมาะสำหรับทานคู่กับอาหารญี่ปุ่นแทบทุกชนิด เช่น ปลาย่าง, เทมปุระ (Tempura) หรือข้าวหน้าต่าง ๆ (Donburi)
วิธีใช้หรือวิธีเตรียม (Usage Instruction)
เพื่อให้ได้ข้าวที่อร่อยที่สุด ควรทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
1. ซาวข้าว (Rinsing): ซาวข้าวอย่างเบามือเพื่อล้างฝุ่นออก เปลี่ยนน้ำประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำเริ่มใส
2. แช่น้ำ (Soaking): แช่ข้าวในน้ำสะอาดทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ในฤดูร้อน หรือ 60 นาที ในฤดูหนาว เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำอย่างเต็มที่
3. หุง (Cooking): หุงตามอัตราส่วนน้ำที่ระบุบนเครื่องหุงข้าว หรือใช้อัตราส่วนข้าว 1 ส่วนต่อน้ำประมาณ 1.1 - 1.2 ส่วน
4. พักข้าว (Steaming): เมื่อหุงเสร็จแล้ว ห้ามเปิดฝา ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ไอน้ำระอุและข้าวสุกทั่วถึง ก่อนจะใช้ไม้พายคลุกเบา ๆ ก่อนตักเสิร์ฟค่ะ
ลองนำข้าวโคชิฮิคาริจากนีงาตะไปหุงดูสิคะ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมข้าวญี่ปุ่นแท้ ๆ ถึงมีเสน่ห์และเป็นหัวใจสำคัญของวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น ที่คุณก็สามารถสร้างสรรค์ความอร่อยนี้ได้ที่บ้านค่ะ