ราชาปูหิมะ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยระดับภัตตาคารถึงบ้านคุณ
"เปิดประสบการณ์รสชาติทะเลลึก! ปูหิมะต้มแช่แข็งนำเข้าจากญี่ปุ่น"
ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้ลิ้มรสชาติหวานละมุนของปูหิมะชั้นดีจากแหล่งน้ำบริสุทธิ์ของญี่ปุ่น ปูหิมะต้มแช่แข็งของเราคัดสรรมาจากแหล่งกำเนิดที่ดีที่สุด และผ่านกระบวนการต้มสุกทันทีด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสม ก่อนจะถูกแช่แข็งอย่างรวดเร็วเพื่อ "ล็อก" ความสดหวานและเนื้อสัมผัสที่แน่นเด้งไว้ครบถ้วน ทำให้เนื้อปูหิมะสีขาวอมชมพู รสหวานละมุนและกลิ่นหอมเฉพาะตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลิ้มรสซีฟู้ดญี่ปุ่นแท้ๆ โดยไม่ต้องเดินทางไกล เราเข้าใจดีว่าความสะดวกสบายคือสิ่งสำคัญปูหิมะนี้จึงถูกต้มมาให้แล้วอย่างสมบูรณ์แบบ คุณจึงไม่ต้องเสียเวลาเตรียมให้ยุ่งยาก เพียงแค่นำมาละลายน้ำแข็ง คุณก็จะได้สัมผัสกับรสชาติปูหิมะที่หวานฉ่ำเหมือนเพิ่งขึ้นมาจากทะเล! ไม่ว่าจะเป็นมื้อพิเศษสำหรับครอบครัว หรือการสร้างสรรค์เมนูอาหารญี่ปุ่นสุดหรู ปูหิมะของเราคือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความพรีเมียมและความง่ายในการทำอาหาร เหมาะสมในการมอบประสบการณ์ความอร่อยที่เต็มอิ่มในทุกคำ
วิธีทาน/ วิธีเตรียมง่ายๆ สู่ความอร่อยในพริบตา:
การละลายน้ำแข็ง :
• นำปูหิมะออกจากช่องแช่แข็งและใส่ในภาชนะ
• แนะนำให้ย้ายลงมาละลายในตู้เย็นช่องธรรมดา (Chill) เป็นเวลา 12-24 ชั่วโมง เพื่อคงคุณภาพเนื้อได้ดีที่สุด
• วิธีเร่งด่วน: สามารถละลายโดยแช่ปูในถุงพลาสติกปิดสนิทลงในน้ำเย็น (ห้ามใช้น้ำอุ่น) ประมาณ 30-60 นาที
วิธีรับประทาน :
• ทานแบบเย็น (ซาชิมิ): เมื่อละลายแล้ว สามารถแกะเนื้อทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดหรือโชยุวาซาบิได้ทันที เพื่อสัมผัสความหวานฉ่ำของเนื้อปู
อุ่นร้อน (เพื่อความหอม):
• นึ่ง: นำไปนึ่งต่อประมาณ 5-7 นาที เพื่อให้ปูอุ่นและหอมกลิ่นทะเล
• ย่าง/อบ: ทาเนยกระเทียมเล็กน้อย แล้วนำไปย่างหรืออบในเตาอบประมาณ 5-10 นาที (ไฟอ่อน) จะได้ปูหิมะเนยกระเทียมรสเลิศ
แนะนำอาหาร
• ปูหิมะนึ่ง/ย่างเนยกระเทียม : ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน
• ซุปมิโซะปูหิมะ : เพิ่มความหอมหวานและเนื้อปูพรีเมียมในซุป
• ข้าวหน้าปูหิมะ : วางเนื้อปูบนข้าวซูชิหรือข้าวญี่ปุ่นสวยงาม โรยไข่ปลา
• สปาเก็ตตี้ซอสครีมปูหิมะ : ใช้เนื้อปูเพิ่มความหรูหราให้กับพาสต้าซอสครีม
ขนมญี่ปุ่นแบบเบาๆ ไม่หวานเลี่ยน และ ได้รสชาติชาเขียวแท้ๆ ต้องไม่พลาด
ใครที่กำลังมองหาของหวานญี่ปุ่นแบบเบาๆทานง่าย และให้ความรู้สึกสดชื่นไม่เหมือนใคร ต้องลอง วาราบิโมจิตัวนี้ ขนมชิ้นเล็กๆนี้จะทำให้วันของคุณสดใสขึ้นแน่นอน วาราบิโมจิเป็นขนมหวานญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ทำจากแป้งวาราบิ(แป้งที่สกัดจากหัววาราบิ) ที่มีจุดเด่นคือ สัมผัสที่นุ่มนิ่มเหมือนเยลลี่ แต่จะมีความเหนียวนุ่มและยืดหยุ่นกว่าโมจิทั่วไป วาราบิโมจิชิ้นนี้พิเศษตรงที่เป็นรสชาเขียวมัทฉะ และถูกนำไปคลุกเคล้ากับผงชาเขียวมัทฉะ หอมๆจนทั่วชิ้น ผงชาเขียวมัทฉะ นั้นมาจากจังหวัดชิซึโอกะซึ่งเป็นแหล่งผลิตชาเขียวคุณภาพเยี่ยมของญี่ปุ่น ทำให้ได้รสชาติเข้มข้น หอมละมุน และมีขมเล็กน้อยแบบเป็นธรรมชาติมาตัดกับความหวานอ่อนๆ ของตัวโมจิได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับเป็นของว่างยามบ่าย ทานคู่กับชาเขียวร้อนที่ไม่หวานเลย หรือจะลองทานคู่กับกาแฟดำก็เข้ากันดี รับรองว่าความนุ่มนิ่มและรสชาติชาเขียวแท้ๆ จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นเหมือนได้นั่งพักผ่อนอยู่ในญี่ปุ่น
วิธีทานวาราบิโมจิ :
• การละลายน้ำแข็ง : นำถุงวาราบิโมจิออกจากช่องแข็ง แล้วย้ายไปใส่ในตู้เย็นช่องธรรมดา หรือวางไว้ที่อุณหภูมิห้อง เพื่อให้ละลายน้ำแข็งอย่างช้า ๆ (ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง)
• ความเย็นคือหัวใจ : ขนมนี้จะอร่อยที่สุดเมื่อทานแบบเย็น เพื่อสัมผัสถึงความนุ่มหนึบและความเย็นชื่นใจ
• พร้อมเสิร์ฟ : เมื่อละลายน้ำแข็งแล้ว สามารถแกะซองและรับประทานได้ทันที
• เพิ่มรสชาติ : หากต้องการรสชาติแบบดั้งเดิมยิ่งขึ้น สามารถราดด้วยน้ำเชื่อมคุโรมิตซึ(น้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดง) ได้ตามความชอบ
เมนูทานคู่แนะนำ
วาราบิโมจิรสชาเขียวมีรสชาติมัทฉะเข้มข้น หอม และหวานอ่อนๆ จึงเข้ากันได้ดีกับเครื่องดื่มและของหวานอื่นๆ ดังนี้:
คู่กับชาญี่ปุ่น :
• มัทฉะร้อน/เย็น : เพื่อเสริมความหอมเข้มของชาเขียวให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
• โฮจิฉะ : ชาเขียวคั่วที่มีกลิ่นหอมอบอุ่น จะช่วยตัดรสหวานได้อย่างลงตัว
• เซนฉะ : ชาเขียวใบที่มีรสชาติบางเบาและสดชื่น
คู่กับกาแฟ:
• กาแฟดำเย็น/ร้อน : ความขมของกาแฟจะช่วยดึงความหวานและความหอมของมัทฉะในโมจิออกมา
• ลาเต้: เข้ากันได้ดีกับความนุ่มละมุนของวาราบิโมจิ
คู่กับของหวานอื่น ๆ:
• ท็อปปิ้งไอศกรีม: นำไปวางบนไอศกรีมรสวานิลลา หรือไอศกรีมถั่วแดง เพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสที่นุ่มหนึบ
• พาร์เฟต์สไตล์ญี่ปุ่น: ใช้เป็นส่วนประกอบในพาร์เฟต์หรือน้ำแข็งไส เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับเมนู
• เครื่องดื่มสร้างสรรค์: ใช้เป็นท็อปปิ้งในเครื่องดื่มประเภทนมหรือชา เช่น มัทฉะลาเต้ หรือบราวน์ชูการ์
เพลิดเพลินกับหนึ่งในขนมพื้นเมืองของญี่ปุ่นที่หลายๆ ต่างก็คนติดใจ
วาราบิ โมจิ (warabi mochi) บราวน์ ชูก้า มาในชิ้นที่พอดีคำ คลุกเคล้าด้วยผงคินาโกะ (ผงถั่วเหลลือง) ทำให้รสชาติที่ได้มีความหวาน หอม ละมุนลิ้น และสัมผัสเหนียวนุ่มที่ยืดหยุ่นมากกว่าโมจิทั่วไป ไม่ว่าจะรับประทานคู่กับชาร้อนๆ หรือนำมาราดด้วยน้ำเชื่อมคุโรมิตสึก็อร่อยลงตัว หรือจะใช้เป็นท็อปปิ้งกับไอศครีมแสนอร่อยก็เข้ากันสุดๆเลยค่ะ
ขอเชิญคุณมาสัมผัส "รสชาติใหม่" ของวาซาบิ ที่แตกต่างจากวาซาบิบดแบบเดิม ๆ ค่ะ นี่คือประสบการณ์ของความเผ็ดซ่าที่มาพร้อมกับเนื้อสัมผัสกรุบกรอบในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่คุณไม่ควรพลาดเลยนะคะ
คิซามิ วาซาบิ (Kizami Wasabi) แปลตรงตัวว่า วาซาบิสับ (Chopped Wasabi) เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเอา ก้านและหัววาซาบิแท้ (Hon Wasabi) มาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ หยาบ ๆ แทนการนำไปบดละเอียดแบบที่เราคุ้นเคยกันค่ะ จากนั้นจึงนำไปปรุงรสด้วย โชยุ (Shoyu) และเครื่องปรุงอื่น ๆ ในสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อให้ได้วาซาบิที่มีรสชาติกลมกล่อม มีความเผ็ดซ่าที่ลงตัว และมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของวาซาบิแท้ Kinjirushi เป็นแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านวาซาบิที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนานในประเทศญี่ปุ่น โดยผลิตภัณฑ์ "คิซามิ วาซาบิ รสโชยุ" นี้ เป็นหนึ่งในสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างสูงและมีชื่อเสียงในเรื่องรสชาติที่เข้มข้นจัดจ้าน ทำให้สามารถนำไปใช้ร่วมกับอาหารได้หลากหลายประเภทมากขึ้น
จุดเด่นสำคัญของ คิซามิ วาซาบิ คือ เนื้อสัมผัสแบบ "กรุบกรอบ" (Shakishaki) จากชิ้นส่วนของก้านวาซาบิที่ถูกสับหยาบ ๆ ซึ่งให้ความสนุกและมิติใหม่ในการรับประทาน ไม่เหมือนวาซาบิแบบบดที่เป็นเนื้อครีม และด้วยการปรุงรสด้วยโชยุ ทำให้วาซาบิชนิดนี้มีรส อูมามิ (Umami) แทรกอยู่ จึงสามารถใช้เป็นเครื่องปรุงรสหรือเครื่องเคียงได้ทันทีโดยไม่ต้องผสมโชยุเพิ่ม ความเผ็ดซ่าของวาซาบิถูกปรุงให้อยู่ในระดับที่กำลังดี สามารถคงความเผ็ดซ่า (Tsuun) ที่ตีขึ้นจมูกได้ยาวนาน และยังให้กลิ่นหอมที่สดชื่นของวาซาบิแท้อีกด้วยค่ะ
เมนูแนะนำ (Recipe Suggestion)
1.ทานคู่กับเนื้อวัว: เหมาะสำหรับทานคู่กับสเต็กหรือเนื้อย่างวากิว (Wagyu) เพียงแค่แตะวาซาบิเล็กน้อยบนชิ้นเนื้อ ก็จะได้รสชาติที่ลงตัวและเพิ่มความหอมสดชื่น
2.สำหรับเมนูซูชิ/ซาชิมิ: ใช้แทนวาซาบิแบบบด เพื่อเพิ่มความจัดจ้านและรสสัมผัสกรุบ ๆ
3.ท็อปปิ้งอาหาร: โรยบนข้าวหน้าปลาดิบ (Chirashi-don), ข้าวหน้าเนื้อ (Gyudon), เต้าหู้เย็น (Hiyayakko), หรือไข่ตุ๋นแบบญี่ปุ่น (Chawanmushi)
วิธีใช้หรือวิธีเตรียม (Usage Instruction)
1.นำสินค้าออกมาจากช่องแช่แข็งในปริมาณที่ต้องการใช้
2.ปล่อยให้ละลายน้ำแข็งตามธรรมชาติในอุณหภูมิห้อง หรือในตู้เย็น (ใช้เวลา 10-20 นาที)
3.เมื่อละลายแล้ว สามารถเปิดซองและตักวาซาบิพร้อมปรุงรสแล้วมาใช้เป็นเครื่องเคียงได้ทันทีค่ะ
หลังเปิดซองแล้ว ควรกดซิปล็อกปิดปากถุงให้แน่น และเก็บในช่องแช่แข็งตามเดิมเพื่อรักษาคุณภาพและความสดใหม่ของวาซาบิค่ะ
***ข้อควรระวัง: ไม่ควรนำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งซ้ำ
ลองเพิ่ม คิซามิ วาซาบิ เข้าไปในมื้ออาหารของคุณดูสิคะ แล้วคุณจะได้เพลิดเพลินกับรสชาติและเนื้อสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์แบบญี่ปุ่นแท้ ที่จะช่วยยกระดับเมนูโปรดของคุณให้พิเศษยิ่งขึ้นได้ที่บ้านค่ะ
เต้าหู้ทอดอินาริ (Inari) ความอร่อยในแบบฉบับญี่ปุ่น
อินาริ (Inari) หรือเต้าหู้ทอดปรุงรส มีรสชาติหวานเค็มกำลังดี เต้าหู้จะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมเหมือนกระเป๋า เมนูยอดนิยมคือ อินาริซูชิ ซึ่งจะใส่ข้าวซูชิเข้าไปข้างในตัวของแผ่นเต้าหู้และท็อปปิ้งด้วยหน้าต่างๆ หรือเมนูคิทซึเนะอูด้ง อูด้งมีที่วัตถุดิบหลักเป็นเต้าหู้ทอด วางอยู่ด้านบน เพราะรสชาติของเต้าหู้ทอดที่ออกหวานเค็มจะเข้ากันได้อย่างลงตัวกับน้ำซุป หรือจะหั่นเต้าหู้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วทานเป็นชาบูหรือสุกี้ ก็ได้เช่นกันค่ะ
หมูชาชูสไลซ์แช่แข็ง ความอร่อยง่ายๆ ที่ควรมีติดบ้านคุณ
เติมความอร่อยให้อาหารจานโปรดของคุณด้วยหมูชาชูสไลซ์สไตล์ญี่ปุ่น เราคัดสรรมาเฉพาะเนื้อส่วนท้อง (Belly) ที่มีความมันกำลังดี นำมาผ่านกรรมวิธีการหมักอย่างพิถีพิถันจนรสชาติกลมกล่อมเข้าเนื้อตามสไตล์ญี่ปุ่น
สามารถนำไปทำได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นราเมง, ข้าวหน้าหมูชาชู, ข้าวหน้าแกงกะหรี่, หรือเมนูไทยๆ อย่างผัดผัก, ผัดกะเพรา, ต้มยำ ก็อร่อยได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถนำมาทานคู่กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบง่ายๆ ช่วยเพิ่มความครบเครื่องในมื้อเร่งรีบของคุณได้เป็นอย่างดีค่ะ
แฟนตาซี ปูอัด อร่อยง่ายๆได้หลากหลายเมนู
ปูอัด จากแบรนด์ คิบุน (Kibun) เป็นปูอัดรสชาติต้นตำรับสไตล์ญี่ปุ่น ผลิตจากเนื้อปลาบด ไขมันต่ำ ให้พลังงานสูง สามารถประยุกต์ทานได้อย่างหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะรับประทานกับโชยุและวาซาบิแบบญี่ปุ่น หรือจับคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บก็อร่อยลงตัว นอกจากนี้ยังสามารถนำไปทำสลัดโรล ซูชิ ชุบแป้งทอด ใส่ในโอเด้ง (หม้อไฟญี่ปุ่น) หรือเมนูอื่นๆ ที่คุณชื่นชอบได้อีกด้วย
ไส้กรอกอาราบิกิ เนื้อแน่น เต็มคำ
คนที่ชื่นชอบไส้กรอกคงจะไม่พลาดไส้กรอกอาราบิกิกันใช่ไหมคะ ไส้กรอกอาราบิกิเป็นไส้กรอกสไตล์ญี่ปุ่นที่มีจุดเด่นตรงเนื้อสัมผัสด้านในที่ทำมาจากเนื้อสัตว์บดแบบหยาบๆ ให้เรารู้สึกได้ถึงชื้นเนื้อเต็มคำเวลาเคี้ยว ส่วนหนังด้านนอกจะกรอบและหอมกลิ่นรมควันเป็นพิเศษ สำหรับไส้กรอกอาราบิกิห่อนี้เราใช้หมูอนามัย ปราศจากสารเร่งเนื้อแดง นำมาปรุงด้วยซอสจากแบรนด์ Nihon Shokken ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตซอสอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น บรรจุในไส้แกะแท้ กรอบ หอม อร่อย ลองแล้วจะติดใจค่ะ
วิธีรับประทานและจัดเก็บ
• สะดวกและง่ายดาย เพียงนำไส้กรอกตามปริมาณที่ต้องการมาทอดบนกระทะหรืออุ่นในไมโครเวฟก็พร้อมเสิร์ฟค่ะ
• แนะนำให้นำออกมาทอดตามปริมาณที่ต้องการรับประทานในแต่ละครั้ง และเก็บส่วนที่เหลือในช่องแช่แข็งเพื่อคงคุณภาพของสินค้า
• ไม่แนะนำให้นำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
ชาที่ดื่มง่าย อร่อยลงตัว จนคนญี่ปุ่นยกให้เป็นชาชั้นเลิศ
ชาเขียวใบชนิดซอง เกียวคุโระ ของญี่ปุ่นทำไมต้อง "ยาบุกิตะ"
หากคุณเป็นผู้หลงใหลในชาเขียวญี่ปุ่นแท้ๆ "ยาบุกิตะ" คือ ราชินีแห่งชาเขียวของญี่ปุ่น เป็นระดับชาที่ปลูกด้วยเทคนิคการบังแสงแดดก่อนเก็บเกี่ยว ทำให้ใบชามีคลอโรฟิลล์สูง อูมามิที่เข้มข้น และความหวานนุ่มนวลที่โดดเด่น ผสานกับกลิ่นหอมละมุนฟุ้งที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยเทคโนโลยีถุงชาตาข่ายแบบใหม่ ทำให้คุณสามารถชงชาเขียวคุณภาพระดับญี่ปุ่นออกมาได้ง่ายๆในทุกแก้ว ไม่ว่าจะชงร้อนเพื่อความผ่อนคลาย หรือ ชงแบบเย็น (สกัดเย็น) เพื่อความสดชื่น เพียงเติมน้ำ ก็พร้อมเสิร์ฟ สะดวก พกพาง่าย ดื่มได้ทุกที่ ทุกเวลา เหมาะสำหรับดื่มคู่กับอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่มอื่นๆได้ตามสไตล์คุณ
เคล็ดลับการชงแบบร้อน และ แบบเย็น(สกัดเย็น)
ชาเขียวญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องชงด้วยน้ำร้อนเสมอไป! ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นแนะนำให้ลองชงชาเขียวแบบ "น้ำสกัดเย็น" ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมาก การชงด้วยน้ำเย็นจะช่วยดึงรสอูมามิ และสารคาเทชิน ที่ให้รสหวานออกมาได้มาก ในขณะที่รสขมและคาเฟอีนจะละลายออกมาน้อยลง ทำให้ได้ชาที่มีรสชาติกลมกล่อม นุ่มนวล และสดชื่นเป็นพิเศษ
วิธีชงแบบร้อน :
1. ต้มน้ำให้เดือด แล้วรอให้น้ำเย็นลงเหลือประมาณ 70-80 องศาเซลเซียส (หากไม่มีเทอร์โมมิเตอร์ สามารถต้มน้ำเดือดแล้วทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที)
2. ใส่ถุงชา 1 ซอง ลงในแก้วหรือถ้วยชา
3. ค่อย ๆ รินน้ำร้อน ประมาณ 150-200 มิลลิลิตร ลงไป
4. แช่ถุงชาทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที (ไม่ควรแช่นานเกินไป เพราะจะทำให้ชามีรสขมฝาด)
5. นำถุงชาออก (อาจจะบีบเบา ๆ ก่อนนำออก) และพร้อมดื่ม
วิธีชงแบบน้ำ(สกัดเย็น) :
1. ใส่ถุงชา 1-2 ซอง ลงในขวดหรือภาชนะที่มีฝาปิดสนิท
2. เติมน้ำเย็นอุณหภูมิห้อง หรือ น้ำเย็นจัด ปริมาณประมาณ 300-500 มิลลิลิตร
3. ปิดฝาแล้วนำไปแช่ในตู้เย็น
4. รอเวลาทิ้งไว้ให้สกัดเย็นเป็นเวลา 3-6 ชั่วโมง หรืออาจจะแช่ข้ามคืน 8-12 ชั่วโมง เพื่อให้ได้รสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้น
(หากแช่นานเกิน 12 ชั่วโมง อาจเริ่มมีรสฝาดออกมาบ้าง)
5. เมื่อได้ความเข้มข้นที่ต้องการแล้ว ให้นำถุงชาออก พร้อมดื่มได้ทันที
ข้อดีของการสกัดเย็น:
รสชาติ : รสชาตินุ่มนวล หวาน อูมามิเด่นชัด และมีรสขมฝาดน้อยมาก
คาเฟอีน : ระดับคาเฟอีนจะต่ำกว่าการชงแบบร้อน
แค่ปั้นและวาง ซูชิกุ้งแสนอร่อยก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
กุ้งแดงอาร์เจนตินาเป็นกุ้งที่พบได้มากในทะเลแถบอเมริกาใต้ มีเนื้อกรอบ แน่น หวานอร่อยตามธรรมชาติ จึงนิยมนำมาใช้ทำเมนูซาชิมิหรือซูชิ วันนี้คุณสามารถอร่อยกับกุ้งแดงอาร์เจนตินาได้ง่ายๆ ที่เราจัดมาให้ในรูปแบบแช่แข็ง สะดวกและง่ายดายเพียงแค่นำมาละลายก็พร้อมปรุงเมนูโปรดของคุณได้ทันที โดยไม่ต้องแกะและผ่าเองให้ยุ่งยากค่ะ
วิธีรับประทาน
• นำสินค้าตามปริมาณที่ต้องการรับประทานมาไว้ที่ช่องละลายน้ำแข็งในตู้เย็นประมาณ 8-9 ชั่วโมง หรือวางไว้ที่อุณหภูมิปกติประมาณ 40-50 นาที เมื่อน้ำแข็งละลายแล้วสามารถนำไปปรุงเมนูที่ต้องการได้เลยค่ะ
• แนะนำให้นำออกมาละลายตามปริมาณที่ต้องการรับประทานในแต่ละครั้ง และเก็บส่วนที่เหลือในช่องแช่แข็งเพื่อคงคุณภาพของสินค้า
• ไม่แนะนำให้นำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
ทูน่าพรีเมียมที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยถึงบ้าน
สำหรับคนที่หลงรักเมนูซาชิมิ และกำลังมองหาทูน่าคุณภาพดีที่พร้อมทานได้ทันที ทูน่าซาคุ (Tuna Saku) เกรด AAA คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ เพราะนี่คือเนื้อปลาที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีที่สุด เพื่อให้คุณได้สัมผัสความสดใหม่ในทุกคำจากทะเลอินโด-แปซิฟิก
ทูน่าซาคุ คือ เนื้อปลาทูน่าที่ถูกแล่มาเป็นบล็อกทรงสี่เหลี่ยมอย่างดี พร้อมให้คุณนำไปหั่นเป็นชิ้นสำหรับทำซาชิมิได้อย่างง่ายดาย ส่วน เกรด AAA คือการรับประกันคุณภาพสูงสุดของปลาทูน่า โดยพิจารณาจากสีเนื้อที่แดงสด เนื้อที่แน่น และมีปริมาณไขมันที่สมดุล ทำให้ได้รสชาติที่นุ่มละมุนลิ้น
ความสดใหม่จากแหล่งน้ำชั้นยอด: ทูน่าของเรามาจากมหาสมุทรอินโด-แปซิฟิก ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของปลาทูน่าที่มีความสมบูรณ์และบริสุทธิ์ ทำให้ปลาเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ และมีเนื้อที่แน่น พร้อมรสชาติที่สะอาด
คุณภาพสูงสุดของทูน่า: ด้วยเกรด AAA ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับประทานเนื้อทูน่าที่ดีที่สุด ทั้งในเรื่องของสีสันที่สวยงามและรสชาติที่ไม่เป็นรองใคร
ความสะดวกที่มาพร้อมความอร่อย: รูปแบบซาคุถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการใช้งานโดยเฉพาะ คุณสามารถนำไปหั่นเป็นซาชิมิ ซูชิ หรือโปเกะโบลว์ได้ทันที
อุดมด้วยประโยชน์: เนื้อทูน่าเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม และอุดมไปด้วยกรดไขมัน Omega-3 ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
เมนูที่แนะนำ
ซาชิมิ: เมนูยอดนิยมที่ทำได้ง่ายที่สุด เพียงแค่นำไปหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ก็พร้อมทาน
ซูชิ/นิกิริ: นำชิ้นทูน่าไปวางบนข้าวปั้นซูชิ เพื่อความอร่อยแบบเต็มคำ
ทูน่าทาทากิ: นำเนื้อทูน่าไปจี่บนกระทะให้ผิวสุกเล็กน้อย แต่ด้านในยังคงดิบอยู่
โปเกะโบลว์: หั่นเป็นลูกเต๋าแล้วนำไปผสมกับเครื่องปรุงที่คุณชอบ พร้อมผักและข้าวสวย
วิธีใช้งานเบื้องต้น
สินค้ามาในรูปแบบแช่แข็ง:
- นำเนื้อทูน่าออกจากช่องฟรีซ (ช่องแข็ง)
- นำไปพักในตู้เย็นช่องปกติประมาณ 6-8 ชั่วโมง หรือจนกว่าเนื้อปลาจะนิ่มลง
- นำเนื้อปลาออกมาจากตู้เย็น และซับน้ำที่เกาะอยู่ให้แห้งก่อนนำไปใช้งาน
ไม่ว่าจะเป็นมื้อพิเศษหรือมื้อธรรมดา “ทูน่าซาคุ” นี้ ก็พร้อมยกระดับความอร่อยให้คุณได้สัมผัสความสุขแบบพรีเมียมในทุก ๆ คำ
✨ สัมผัสรสชาติหวานธรรมชาติ จากท้องทะเลญี่ปุ่น ✨
หอยเชลล์ฮอกไกโด ถูกขนานนามว่าเป็น "ราชาแห่งหอยญี่ปุ่น" ในมหาสมุทรที่เย็นยะเยือกและบริสุทธิ์แห่งฮอกไกโด ที่นี่คือแหล่งกำเนิดของหอยเชลล์ที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลก หอยเชลล์คุณภาพเยี่ยมที่เติบโตอย่างช้าๆ ในแหล่งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทำให้ได้หอยเชลล์ฮอกไกโด ที่มีเนื้อแน่น เด้งดุจไข่มุก และหวานราวกับหยาดน้ำค้างจากท้องทะเล หอยเชลล์แต่ละตัวผ่านกระบวนการแช่แข็งแบบพิเศษที่เรียกว่า อุโมงค์แช่แข็ง (Tunnel Freezer) ทันทีที่จับขึ้นจากทะเล เพื่อตรึงความสด รสชาติ และเนื้อสัมผัสชั้นเลิศเอาไว้ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าหอยเชลล์เกรดซาซิมินี้สะอาด ปลอดภัย และอุดมไปด้วยโปรตีนสูง ไขมันต่ำ โอเมก้า 3 และแร่ธาตุที่ดีต่อร่างกายที่ดีต่อสุขภาพ เมนูแนะนำทานแบบ ซาซิมิ ก็สัมผัสได้ถึงรสชาติหวานละมุนที่ละลายในปาก หรือจะนำไปย่างเนยกระเทียมเพียงไม่กี่วินาที เนื้อหอยก็จะยังคงความนุ่มฉ่ำด้านใน พร้อมกลิ่นหอมกรุ่น เป็นประสบการณ์ความอร่อยระดับพรีเมียมที่พร้อมเสิร์ฟถึงบ้านคุณ
เมนูแนะนำ :
• แบบดิบ (ซาชิมิ/ซูชิ): ละลายน้ำแข็งช้า ๆ ในตู้เย็น หั่นเป็นชิ้น ทานกับโชยุและวาซาบิ
• แบบสุก: นำไปย่างกระทะ/เตาย่าง ใส่เนย ซีอิ๊วญี่ปุ่น หรือทำเป็นหอยเชลล์อบชีส
• เมนูอื่น: ใส่ในพาสต้า ราเมง ข้าวผัด หรือซุปซีฟู้ด
วิธีการละลาย :
• วิธีที่ดีที่สุด: นำหอยเชลล์ออกจากช่องฟรีซ แล้วย้ายมาไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา ข้ามคืน เพื่อให้ละลายอย่างช้าๆ
จะช่วยคงคุณภาพและรสชาติได้ดีที่สุด
• วิธีเร่งด่วน: หากต้องการใช้ทันที ให้แช่ถุงหอยเชลล์ในน้ำเย็น (ห้ามใช้น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนเด็ดขาด)
ประมาณ 30-45 นาที
** เมื่อละลายแล้ว สามารถนำไปทำอาหารได้ทันที ไม่ต้องล้างน้ำซ้ำ **
ข้อควรระวังในการใช้
• เวลาละลายน้ำแข็ง ควรละลายช้า ๆ ที่อุณหภูมิต่ำ เพื่อรักษาความสด
• หลีกเลี่ยงการละลายน้ำแข็งด้วยน้ำร้อนหรือไมโครเวฟ เพราะอาจทำให้คุณภาพเนื้อเปลี่ยนไป
• หลังจากละลายน้ำแข็งแล้ว ควรเก็บไว้ในตู้เย็นและบริโภคโดยเร็ว
• ห้ามนำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งซ้ำ
สัมผัสความอร่อยต้นตำรับจากญี่ปุ่น ด้วยดังโงะไส้งาดำคั่ว หอม มัน ลงตัว
หากคุณกำลังมองหาขนมญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์จากประเทศญี่ปุ่นแท้ๆ "ขนมดังโงะไส้งาดำคั่วบด" ขนมชื่อดังจากจังหวัดอิวาเตะ ที่มีขนาดพอดีคำที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านโชเอโดะ ร้านเก่าแก่ที่สืบทอดสูตรขนมพื้นบ้านมานานหลายชั่วอายุคน คือจุดเริ่มต้นของขนมดังโงะ ที่จะพาคุณย้อนเวลากลับไปสัมผัสเสน่ห์ของญี่ปุ่นในอดีต ขนมดังโงะแต่ละลูกถูกปั้นอย่างประณีตจากแป้งที่ผสมข้าวเหนียวกับข้าวเจ้าตามสูตรลับ ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่ม หนึบหนับ และเคี้ยวง่าย สอดไส้ด้านในด้วยงาดำที่ผ่านการคั่วและบดละเอียดจนหอมกรุ่น ผสมคลุกเคล้ากับโชยุ(ซอสถั่วเหลือง)อย่างพอดีจนได้รสกลมกล่อม หอมหวานกำลังดี ทำให้เมื่อกัดเข้าไปไส้จะทะลักออกมา สร้างความสนุกและความอร่อยในคำเดียว
วิธีการรับประทาน
เนื่องจากขนมดังโงะ ส่วนใหญ่มักจะถูกจำหน่ายในรูปแบบแช่แข็ง เพื่อคงความสดใหม่ของไส้ทะลักและเนื้อสัมผัสที่หนึบหนับ วิธีรับประทานที่ดีที่สุดคือ :
• ทานทั้งคำ : ควรทานทั้งลูกในคำเดียว ป้องกันไม่ให้ไส้งาดำที่หอมหวานและเนื้อละมุนไหลออกมา
• ละลายน้ำแข็ง : นำออกจากช่องแช่แข็งและวางไว้ในอุณหภูมิห้องประมาณ 1-2 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
• อุ่นไมโครเวฟ : ควรใช้ไฟอ่อนถึงปานกลาง (ประมาณ 500-600 วัตต์) ระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 30 วินาที - 1 นาที
คำแนะนำ : เมื่อละลายน้ำแข็งแล้ว ควรเก็บในตู้เย็นและรับประทานให้หมดภายใน 4 วัน(นับรวมวันที่ละลาย) การนำกลับไปแช่แข็งซ้ำ จะทำให้รสชาติและเนื้อสัมผัสแย่ลงอย่างมาก ห้ามทำซ้ำโดยเด็ดขาด!
แนะนำอาหาร
• ทานคู่กับชาเขียวร้อน (มัทฉะ หรือเซ็นฉะ) จะช่วยเสริมความหวานของไส้งาดำและสร้างสมดุลรสชาติ
• ทานคู่กับนมสดอุ่นๆ หรือกาแฟดำสำหรับมื้อของว่างยามบ่าย
• เสิร์ฟพร้อมกับผลไม้สดตามฤดูกาล เช่น สตรอว์เบอร์รี่ หรือองุ่น เพื่อเพิ่มความสดชื่น
นี่คือของฝากที่คุณไม่ควรพลาด เพราะเป็นมากกว่าแค่ขนม แต่คือเรื่องราวของภูมิปัญญาและวัฒนธรรมการกินจากเมืองแห่งโมจิอย่าง อิชิโนเซกิ จังหวัดอิวาเตะ ของญี่ปุ่นแท้ๆ ค่ะ!
หิวเมื่อไหร่ แค่เวฟก็สุดฟิน!
เนื้อไก่นุ่มๆทอด กรอบนอก ฉ่ำใน กับซอสมายองเนส และ ราดด้วยซอสเทอริยากิหวานเผ็ด(เล็กน้อย) สูตรพิเศษแบบญี่ปุ่นแท้ๆ การอุ่นอาหารก็แสนจะง่าย เพียงนำออกมาวางไว้อุณหภูมิห้อง 20 นาที และ นำอาหารเข้าไมโครเวฟ แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟ และยังเข้ากันได้ดีกับข้าว และ มีรูปทรงสะดวกทำให้ใส่กล่องข้าวได้ง่าย เหมาะสำหรับกล่องอาหารกลางวัน และยังเป็นเครื่องเคียงที่รวดเร็วอีกด้วยค่ะ ✨
♨️ วิธีการอุ่นด้วยไมโครเวฟ
ฉีกซองแล้วนำผลิตภัณฑ์ออกจากถุงแล้วนำไปวางบนถาดในไมโคเวฟ ตามจำนวนชิ้น ดังนี้
⏱️เวลาที่ใช้ในการอุ่น:
• ไมโครเวฟ 500 W :
1 ชิ้น ประมาณ 20 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 40 วินาที
3 ชิ้น ประมาณ 50 วินาที
• ไมโครเวฟ 600 W :
1 ชิ้น ประมาณ 20 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 30 วินาที
3 ชิ้น ประมาณ 40 วินาที
(พักไว้สักครู่ก่อนทาน เพราะไส้ด้านในอาจร้อนมาก)
สัมผัสความอร่อยระดับพรีเมียม ที่ชาวญี่ปุ่นหลงรัก
“อิคุระ” คือไข่ปลาแซลมอน เป็นวัตถุดิบระดับพรีเมียมที่ชาวญี่ปุ่นนิยมใช้ในอาหารมานานหลายศตวรรษ ด้วยเม็ดไข่สีส้มใสที่ระยิบระยับเหมือนอัญมณี และรสชาติกลมกล่อมเค็มนุ่มติดหวานละมุนในแบบทะเลเหนือแท้ ๆ ไข่ปลาแซลมอนถูกหมักด้วยโชยุสูตรเฉพาะ ทำให้รสชาติเข้มข้นขึ้นอีกระดับ ทั้งหอม ทั้งนัว ลักษณะเม็ดโตใส เนื้อสัมผัสเด้งดึ๋ง แตกโพละในปาก พร้อมรสชาติอูมามิจากโชยุชั้นดี แค่โรยบนข้าวสวยร้อนๆ ก็เปลี่ยนมื้ออาหารธรรมดาให้เป็นเมนูระดับภัตตาคารได้ทันที เหมาะกับอาหารญี่ปุ่นแทบทุกชนิด ตั้งแต่ด้ง ซูชิ ไปจนถึงเมนูสไตล์ฟิวชัน ไข่ปลาแซลมอนกล่องนี้ ยังเหมาะกับคนรักอาหารญี่ปุ่นที่อยากสนุกกับการทำอาหารเองที่บ้าน แค่เปิดกล่อง ก็พร้อมเสิร์ฟความพรีเมียมในไม่กี่วินาที และยังเต็มไปด้วยโอเมก้า-3 ช่วยบำรุงสมองและหัวใจอีกด้วย ถ้าคุณกำลังมองหาวัตถุดิบระดับร้านอาหาร บอกเลยว่า “อิคุระ” คือคำตอบที่ใช่ อร่อย ทานง่าย พรีเมียม ทานได้ทุกโอกาส
ไข่ปลาแซลมอนหมักโชยุคืออะไร?
• คือไข่ของปลาแซลมอน (Salmon Roe) ที่ผ่านกระบวนการทำความสะอาดและนำไป หมักในน้ำซอสโชยุปรุงรสสูตรพิเศษ ของญี่ปุ่น ทำให้ไข่ปลามีรสเค็มกลมกล่อมและอูมามิ (รสชาติอร่อยล้ำลึก) โดยไม่ต้องปรุงเพิ่ม
• ทำไมต้องหมักโชยุ : การหมักโชยุเป็นการถนอมอาหารและเพิ่มรสชาติแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ทำให้ได้รสชาติที่ลงตัวที่สุด พร้อมรับประทานได้เลยทันทีที่ละลายน้ำแข็ง
• Ikura ต่างจาก Mentaiko อย่างไร : Ikura คือไข่ปลาแซลมอนเม็ดใหญ่ สีส้มแดงใส รสชาติเค็มกลมกล่อม แตกโพละในปาก ส่วน Mentaiko (เมนไทโกะ) คือไข่ปลาค็อดหรือปลา Pollock ที่มีขนาดเล็กกว่าและมักมีรสเผ็ด
การละลายน้ำแข็ง (สำคัญมาก!)
• วิธีที่ดีที่สุด: ย้ายอิกุระจากช่องแช่แข็งไปไว้ใน ช่องแช่เย็น (ตู้เย็นธรรมดา) ทิ้งไว้ข้ามคืน (ประมาณ 8-12 ชั่วโมง) เพื่อให้ละลายช้าๆ การละลายแบบนี้จะรักษาคุณภาพและเนื้อสัมผัสของไข่ปลาได้ดีที่สุด
• สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง: ห้ามแช่น้ำร้อน หรือวางทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง เพราะจะทำให้ไข่ปลาเสียเนื้อสัมผัสและความสด
วิธีรับประทาน (ง่ายและอร่อย)
• เริ่มต้นง่ายๆ: Ikura Don (ข้าวหน้าอิกุระ) ตักไข่ปลาแซลมอนโรยบนข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆ ที่ปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชูข้าวเล็กน้อย
• เพิ่มความพรีเมียม: ใช้เป็นท็อปปิ้งบนซูชิ (เช่น Gunkan Maki), แซลมอนซาชิมิ, หรือใช้ผสมกับสลัดญี่ปุ่น
หนึ่งในเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ยำสาหร่ายญี่ปุ่นหรือชูกะวากาเมะ (Chuka Wakame) เป็นเมนูเครื่องเคียงที่ขาดไม่ได้ประจำร้านอาหารญี่ปุ่น เราคัดเลือกสาหร่ายคุณภาพดีนำมาปรุงรสชาติจนกลมกล่อมทั้งเค็ม หวาน และเผ็ดนิดๆ หอมกลิ่นน้ำมันงา เหมาะกับการทานเล่นแกล้มกับเครื่องดื่มแก้วโปรด, รับประทานกับข้าวร้อนๆ, ใส่เป็นเครื่องเคียงในเบนโตะ, หรือใช้ทำเป็นหน้าซูชิก็ได้เช่นกันค่ะ
นัตโตะ พร้อมซอสสูตรพิเศษจากซากุระ
ฮามานะสึ นัตโตะ ได้คัดสรรเมล็ดถั่วเหลืองที่มีคุณภาพจากฮอกไกโด เป็นแบบเม็ดเล็กมาพร้อมกับซอสสูตรพิเศษที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆของซากุระ ทำให้การทานนัตโตะง่ายขึ้น
นัตโตะเป็นอาหารที่อัดแน่นไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยในเรื่องของกระดูก ดีต่อสุขภาพหัวใจ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และยังมีโปรไบโอติกที่ช่วยในการย่อย ทำให้กระเพาะและลำไส้ของเราทำงานได้ดีขึ้น ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานนัตโตะเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในมื้อเช้า เพียงแค่มีข้าวสวยร้อนๆ โปะด้วยนัตโตะและราดด้วยโชยุสักหน่อยก็พร้อมอร่อยได้ทันที ถือเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่คุณไม่ควรพลาด
ไข่หวานเนื้อเนียน หอมกรุ่น แค่อุ่นก็พร้อมเสิร์ฟ
Tamagoyaki หรือไข่หวานย่าง เมนูคู่ร้านอาหารญี่ปุ่นที่หลายๆ คนติดใจ ไข่เนื้อนุ่ม หอมกรุ่น มีรสหวานนิดๆ เหมาะสำหรับใช้เป็นหน้าซูชิหรือจัดเซ็ตเบนโตะก็เหมาะเจาะลงตัว เป็นเมนูที่ดูง่ายๆ แต่ถ้าจะทำให้น่าทานและอร่อยกลมกล่อมก็อาจต้องใช้ฝีมือและความชำนาญไม่น้อย วันนี้เรามีตัวช่วยสำหรับคนที่ชอบทานไข่หวานแต่ไม่ถนัดทำอาหารหรือต้องการประหยัดเวลาด้วยไข่หวานแบบแช่แข็ง เพียงแค่นำมาอุ่นในไมโครเวฟก็พร้อมทาน สะดวก อร่อย มีติดตู้เย็นไว้อุ่นใจแน่นอนค่ะ
คำเดียวไม่พอ ต้องขอต่ออีกลูก
อยากกินอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ แต่ไม่มีเวลา ลูกชิ้นสอดไส้กุ้ง เนื้อปลา ผักรวม และสาหร่ายฮิจิกิ คือคำตอบ! ทำจากวัตถุดิบคุณภาพ เนื้อปลาบด กุ้งสด ผักรวม และเพิ่มรสชาติพิเศษด้วยสาหร่ายฮิจิกิ ที่อุดมไปด้วยใยอาหารและแร่ธาตุ ทานง่าย รสกลมกล่อม ได้ทั้งความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการในหนึ่งคำทุกคำ เหมาะเป็นของทานเล่น ข้าวกล่อง เบนโตะ หรือเสิร์ฟกับมื้ออาหารหลัก
วิธีการปรุงอาหาร
• นำสินค้าที่แช่แข็งออกมา ตัดถาดออก และวางไว้ที่ขอบจานหมุน (turntable) โดยไม่ต้องห่อพลาสติก และอุ่นให้ร้อน
• หากไม่มีจานหมุน (turntable) ให้วางไว้ตรงกลางของเตาไมโครเวฟ
• หลังจากการปรุงอาหาร หากยังเย็นอยู่ ให้อุ่นเพิ่มทีละ 10 วินาทีจนกว่าจะอุ่นได้ที่
คำแนะนำสำหรับเตาไมโครเวฟ:
กำลังไฟ 500 วัตต์ 600 วัตต์
1 ชิ้น ประมาณ 40 วินาที ประมาณ 40 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 1 นาที ประมาณ 50 วินาที
4 ชิ้น ประมาณ 1.20 นาที ประมาณ 1.10 นาที
5 ชิ้น ประมาณ 1.50 นาที ประมาณ 1.40 นาที
Natto เคล็ดลับสุขภาพดีของคนญี่ปุ่น
นัตโตะเป็นอาหารที่อัดแน่นไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยในเรื่องของกระดูก ดีต่อสุขภาพหัวใจ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และยังมีโปรไบโอติกที่ช่วยในการย่อย ทำให้กระเพาะและลำไส้ของเราทำงานได้ดีขึ้น ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานนัตโตะเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในมื้อเช้า เพียงแค่มีข้าวสวยร้อนๆ โปะด้วยนัตโตะและราดด้วยโชยุสักหน่อยก็พร้อมอร่อยได้ทันที ถือเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่คุณไม่ควรพลาด
ถั่วหมัก (นัตโตะ) หนึ่งในเคล็ดลับสุขภาพดีของคนญี่ปุ่น
นัตโตะหรือถั่วหมักสไตล์ญี่ปุ่นได้รับการยอมรับว่าเป็น Superfood เพราะอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมายที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี 12 วิตามิน K สารต้านอนุมูลอิสระ และโปรไบโอติกที่ช่วยในการย่อย ทำให้กระเพาะและลำไส้ของเราทำงานได้ดีขึ้น ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานนัตโตะเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในมื้อเช้า เพียงแค่มีข้าวสวยร้อนๆ โปะด้วยนัตโตะและราดด้วยโชยุสักหน่อยก็พร้อมอร่อยได้ทันที ถือเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่คุณไม่ควรพลาด
Daruma เป็นแบรนด์นัตโตะที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานในญี่ปุ่น Hakodate Hikiwari Natto กล่องนี้ทำมาจากถั่วเหลืองที่ปลูกในเมืองฮาโกดาเตะ ฮอกไกโด นำมาสับหยาบๆ และหมักด้วยกรรมวิธีแบบดั้งเดิมซึ่งจะดึงรสชาติตามธรรมชาติของถั่วเหลืองออกมา เป็นนัตโตะที่เหมาะสำหรับทุกคนแม้กระทั่งมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มรับประทาน มาพร้อมซอสและมัสตาร์ดในกล่องค่ะ
วิธีอร่อยกับดารุมะนัตโตะ
1. นำนัตโตะออกจากช่องแช่แข็ง ตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องจนคลายความเย็น ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
2. เทซอสและมัสตาร์ดลงไปบนนัตโตะแล้วคนให้เข้ากัน
3. รับประทานได้ทันทีค่
เมล็ดถั่วแระญี่ปุ่นพร้อมทาน อาหารว่างสารพัดประโยชน์
หลายท่านคงชื่นชอบการรับประทานถั่วแระญี่ปุ่นกันใช่ไหมคะ เพราะนอกจากจะอร่อยแล้วถั่วแระญี่ปุ่นยังอุดมไปด้วยโปรตีน, แร่ธาตุ, วิตามิน, ใยอาหาร, ไขมันดี และสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย เราคัดเลือกถั่วแระญี่ปุ่นคุณภาพดีมาแกะจนเหลือแต่เมล็ด แล้วนำไปแช่แข็งอย่างรวดเร็วเพื่อรักษารสชาติ ความสดใหม่ และคงคุณค่าของสารอาหารต่างๆ ไว้ให้ได้มากที่สุด เพียงนำมาละลายหรืออุ่นด้วยไมโครเวฟไม่กี่นาทีก็พร้อมเสิร์ฟ ไม่ว่าจะรับประทานเป็นของว่าง, เครื่องเคียง, ใส่ในสลัด หรือปรุงเมนูอื่นๆ ก็อร่อยค่ะ
พร้อมเสิร์ฟความอร่อย! ถึงบ้านคุณ
เมนูแช่แข็งสุดยอดฮิตจากญี่ปุ่น ที่รวมความอร่อยของเนื้อปลานุ่มๆ กับเนื้อกุ้งบดแน่นๆ ปรุงรสด้วยซอสทาร์ทาร์สูตรต้นตำรับ กรอบนอก นุ่มใน หอมมันลงตัว ด้านนอกชุบเกล็ดขนมปังทอดจนกรอบ หอม อร่อย ทอดมาเรียบร้อยแล้ว พร้อมอุ่นรับประทานได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาเตรียมอาหาร แค่เวฟ หรืออบด้วยหม้อทอดลมร้อนก็ฟินได้เลย เหมาะสำหรับเป็นของว่าง มื้อเร่งด่วน หรือเสิร์ฟคู่ข้าวและสลัดก็อร่อยไม่แพ้เมนูร้านอาหาร!
♨️ วิธีการอุ่นด้วยไมโครเวฟ
• ไม่ต้องละลายน้ำแข็งก่อน (สามารถอุ่นจากแช่แข็งได้เลย)
• จัดวางบนจานที่สามารถใช้กับไมโครเวฟได้ โดยให้เว้นระยะระหว่างชิ้นเล็กน้อย
• ครอบด้วยพลาสติกแรปสำหรับไมโครเวฟ เพื่อคงความชุ่มชื้น (ถ้าต้องการให้กรอบ อาจเว้นการคลุม)
⏱️เวลาที่ใช้ในการอุ่น:
• ไมโครเวฟ 500 W :
1 ชิ้น ประมาณ 30 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 40 วินาที
3 ชิ้น ประมาณ 1 นาที
• ไมโครเวฟ 600 W :
1 ชิ้น ประมาณ 20 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 30 วินาที
3 ชิ้น ประมาณ 50 วินาที
(พักไว้สักครู่ก่อนทาน เพราะไส้ด้านในอาจร้อนมาก)
กรอบนอก นุ่มใน กัดแล้วหยุดไม่ได้
อาหารทานเล่นยอดนิยมจากญี่ปุ่น ที่ผสมผสานรสชาติของเนื้อปลา ปลาหมึก และเผือกได้อย่างลงตัว กัดคำแรกสัมผัสได้ถึงความกรอบนอกนุ่มใน พร้อมรสชาติกลมกล่อม หอมขิงและซอสญี่ปุ่น สูตรเฉพาะของอาจิโนะโมะโต๊ะ เหมาะสำหรับทุกมื้ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นกับข้าว อาหารทานเล่น ใส่ในกล่องเบนโตะเพิ่มสีสันให้อาหารกลางวัน หรือทานคู่ข้าวสวยร้อน ๆ ก็อร่อยกลมกล่อม เสิร์ฟคู่กับซอสโชยุ มายองเนสญี่ปุ่น หรือซอสพริกก็เข้ากันสุด ๆ ถูกใจทุกคนในครอบครัวแน่นอน
วิธีการปรุงอาหาร
• นำสินค้าที่แช่แข็งออกมาตัดถาดออกและวางไว้ที่ขอบจานหมุน โดยไม่ต้องห่อพลาสติก และอุ่นให้ร้อน
• หากไม่มีจานหมุน (turntable) ให้วางไว้ตรงกลางของเตาไมโครเวฟ
• หลังจากการปรุงอาหาร หากยังเย็นอยู่ ให้อุ่นเพิ่มทีละ 10 วินาทีจนกว่าจะอุ่นได้ที่
คำแนะนำสำหรับเตาไมโครเวฟ:
กำลังไฟ 500 วัตต์ 600 วัตต์
1 ชิ้น ประมาณ 40 วินาที ประมาณ 40 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 1 นาที ประมาณ 50 วินาที
4 ชิ้น ประมาณ 1.20 นาที ประมาณ 1.10 นาที
5 ชิ้น ประมาณ 1.50 นาที ประมาณ 1.40 นาที
เส้นอุด้ง สไตล์อินานิวะ เส้นเหนียวนุ่ม!!
อินานิวะ อุด้ง (Inaniwa Udon) เป็นอุด้งที่มีชื่อเสียงมากชนิดหนึ่งของญี่ปุ่น ความพิเศษของตัวเส้นคือเส้นบางเหนียวนุ่ม และมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ทำจากแป้งสาลีคุณภาพดี ผ่านกรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม ทำให้ได้เส้นอุด้งที่มีคุณภาพ สามารถทำได้ทั้งเมนูอุด้งเย็นและอุด้งร้อน สะดวก และง่ายต่อการทำเมนูอุด้งสไตล์ญี่ปุ่น
วิธีการทาน
1. ซารุอุด้ง (อุด้งเย็น)
• นำเส้นแช่แข็งออกมาวางไว้บนกระชอน
• เปิดน้ำให้ไหลผ่านเส้นอุด้ง เพื่อทำละลาย ประมาณ 2-3 นาที (เวลาของการละลายจะแตกต่างกันไปตามอุณหภูมิของน้ำ)
• รอจนเส้นแยกออกจากกัน เพียงเท่านี้ก็สามารถนำมาเสิร์ฟพร้อมซอส หรือซุปตามความชอบได้เลยค่ะ
2. คาเคะอุด้ง (อุด้งร้อน)
• ละลายเส้นแช่แข็งด้วยน้ำเดือด ประมาณ 1 นาที
• เตรียมน้ำซุปสำหรับทำอุด้งร้อน
• นำเส้นอุด้งที่ละลายแล้วเทใส่ถ้วย จากนั้นเทน้ำซุปที่เตรียมไว้ พร้อมกับท็อปปิ้ง หรือเครื่องเคียงตามความชอบได้เลยค่ะ
บอกลาเช้าที่น่าเบื่อของคุณด้วยแพนเค้กแสนอร่อย
เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยมีวันที่เร่งรีบจนไม่มีเวลาทำอาหารเช้ากันใช่ไหมคะ ปัญหานี้จะหมดไปเพียงแค่มีมินิแพนเค้กห่อนี้ติดช่องแช่แข็งเอาไว้ คุณก็จะได้ทานแพนเค้กเนื้อเนียนนุ่มพร้อมกลิ่นเนยหอมกรุ่น และรสชาติหวานนิดๆ โดยไม่ต้องมานั่งผสมแป้งเองให้เสียเวลา มาในขนาดมินิ น้ำหนักชิ้นละประมาณ 20 กรัม อิ่มพอดีๆ ไม่ว่าจะทานคู่กับวิปครีม ผลไม้สด ราดน้ำผึ้ง ทาแยม หรือจะประยุกต์เป็นเมนูอื่นๆ ก็ง่าย สะดวก อร่อยได้ทั้งครอบครัวค่ะ
วิธีอร่อยกับมินิแพนเค้ก
• รับประทานแบบอุณหภูมิปกติ: นำแพนเค้กออกจากช่องแช่แข็ง ตั้งไว้ในอุณหภูมิห้องประมาณ 30-40 นาที
• รับประทานแบบอุ่น: นำแพนเค้กออกมาใส่ภาชนะสำหรับนำเข้าไมโครเวฟ ใช้เวลาอุ่นประมาณ 1-2 นาที (ขึ้นอยู่กับกำลังไฟของไมโครเวฟ)
✨ ข้าวผัดกุ้งสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมทาน แค่เวฟก็อร่อย! ✨
ข้าวผัดกลิ่นหอมเนย ผัดกับกุ้งตัวโตๆ ไข่ และผักรวมมีสีสันสวยงาม พร้อมรสชาติกลมกล่อมจากซอสสูตรเฉพาะแบบญี่ปุ่นแท้ๆ นอกจากนี้คุณยังสามารถสัมผัสถึงข้าวและส่วนผสมที่เคี้ยวหนึบเล็กน้อยก็สามารถดูดซับรสชาติอาหารทะเลได้อย่างดี คุณสามารถเพลิดเพลินกับเนื้อสัมผัสที่หลากหลายได้ในคราวเดียวด้วยกุ้งตัวอ้วนและถั่วเขียวกรุบกรอบ ถั่วเขียวยังเพิ่มรสชาติที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ในขณะที่กำลังอุ่นอาหารในไมโครเวฟ กลิ่นหอมแรงของกุ้งกับเนยก็ลอยมาในอากาศ รับรองว่าจะต้องเรียกน้ำย่อยอย่างแน่นอน
สิ่งใหม่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้คือถุงบรรจุภัณฑ์สามารถตั้งได้ด้วยตัวเอง โดยปกติแล้วคุณจะต้องนำข้าวผัดออกจากถุง แต่เนื่องจาก Wild Dish ยังทำหน้าที่เป็นภาชนะได้ด้วย จึงทำให้สามารถคงตำแหน่งตั้งตรงได้ เพื่อทำให้ภาชนะเสร็จสมบูรณ์ให้ใช้กรรไกรตัดตามเส้นตัดสีขาวที่พิมพ์ไว้บนบรรจุภัณฑ์ เท่านี้ก็พร้อมตักทานได้เลยค่ะ
♨️ วิธีการอุ่นด้วยไมโครเวฟ
• ห้ามฉีกถุงก่อนอุ่น
• ให้นำเข้าไมโครเวฟทั้งถุง โดยหันด้านที่ระบุไว้ขึ้นด้านบน
• หลังจากอุ่นเสร็จ ใช้กรรไกรตัดตามจุดประที่กำหนด โดยจับถุงในตำแหน่งที่แนะนำ
⏱️เวลาที่ใช้ในการอุ่น:
• ไมโครเวฟ 500W: ประมาณ 3 นาที 30 วินาที
• ไมโครเวฟ 600W: ประมาณ 3 นาที 10 วินาที
ของทานเล่นเพื่อสุขภาพ ที่อร่อยและได้รับความนิยมมากที่สุด!!
หากเอ่ยถึงถั่วแระญี่ปุ่น หรือ Edamame เชื่อว่าสายอาหารญี่ปุ่นต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะมักจะถูกเสริ์ฟมาเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย หรือ กับแกล้มตามร้าน Izakaya ด้วยรสชาติมันๆ หวานๆ เพิ่มเกลือให้เค็มอีกนิด อีกทั้งยังอุดมด้วยวิตามิน เกลือแร่ ใยอาหาร แคลอรี่ต่ำ และปราศจากคลอเรสเตอรอล เรียกว่าเป็นของทานเล่นที่เต็มไปด้วยประโยชน์นานาชนิด
อิคุระ (Ikura) อีกหนึ่งเมนูแสนอร่อยสไตล์ญี่ปุ่น
อิคุระ คือ ไข่ของปลาแซลมอน มีลักษณะเป็นเม็ดกลมสีส้ม ด้านในเป็นน้ำที่เมื่อกัดจะแตกออกมา ผิวสัมผัสด้านนอกกรึบนิดๆ ด้านในมีรสเค็มอ่อนๆ ที่มาจากการดองในโชยุ มิริน และเครื่องปรุงรสอื่นๆ เพื่อให้มีรสชาติอร่อยกลมกล่อมตามสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม เหมาะสำหรับใช้ทำเป็นหน้าซูชิ, ข้าวดงบุริ, ทานคู่กับบะหมี่เย็น (ซารุ ราเมน), สอดไส้โอนิกิริ หรือประยุกต์ใช้ในเมนูอื่นๆ ตามสไตล์ของคุณเองก็ได้ค่ะ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะ หรืออยากลองสัมผัสรสชาติอันลุ่มลึกของวัตถุดิบระดับพรีเมียม “ตับปลาอังกิโมะ” คือหนึ่งในเมนูที่ห้ามพลาด!
อังกิโมะคืออะไร?
อังกิโมะ (Ankimo) คือตับของปลาอังโกะ (Anko Fish) หรือ มังค์ฟิช (Monkfish) ซึ่งเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในทะเลลึก ถือเป็นหนึ่งในอาหารชินมิ (Chinmi) หรืออาหารเลิศรสที่หาทานได้ยากของญี่ปุ่น ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล" เพราะมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มคล้ายตับห่าน มีรสชาติเค็มอ่อน ๆ และมีความหอมมันอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ทำไมถึงอร่อยและพิเศษ?
ตับปลาอังกิโมะของเรา เป็นสินค้าที่ผ่านกระบวนการปรุงรสและต้มมาอย่างพิถีพิถันจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน จึงมีรสชาติที่กลมกล่อมและพร้อมรับประทานทันที ไม่ต้องนำมาปรุงเพิ่มให้ยุ่งยาก ทำให้คุณได้สัมผัสกับรสชาติแบบดั้งเดิมของอังกิโมะได้อย่างง่ายดาย นอกจากความอร่อยแล้ว อังกิโมะยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เช่น วิตามิน A, วิตามิน D และไขมันดีในปริมาณที่สูงอีกด้วย
เมนูที่ทำได้ง่ายๆ
เมนูจากตับปลาอังกิโมะสามารถทำได้หลากหลาย และแต่ละเมนูล้วนช่วยดึงรสชาติความอร่อยออกมาได้อย่างเต็มที่
- ทานเป็นกับแกล้ม: เสิร์ฟอังกิโมะแช่เย็นคู่กับต้นหอมซอย, โมมิจิโอโรชิ (หัวไชเท้าขูดผสมพริก) และซอสพอนสึ (Ponzu Sauce) เพื่อเพิ่มความสดชื่นและตัดความมัน
- ทำเป็นนิกิริซูชิ: วางชิ้นอังกิโมะบนข้าวปั้นซูชิ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมในร้านซูชิระดับพรีเมียม
- ทำเป็นสลัด: หั่นอังกิโมะเป็นชิ้นพอดีคำ วางบนสลัดผัก ราดด้วยน้ำสลัดงา หรือซอสพอนสึ
วิธีเตรียมตับปลา
1. นำอังกิโมะออกจากตู้เย็น วางไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 30-40 นาที เพื่อทำการละลาย
2. แกะซองและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
3. จัดวางบนจาน และนำไปใช้ประกอบเมนูได้ตามต้องการ
*สินค้าบรรจุมาในซองสุญญากาศแบบพร้อมทาน
เปิดประสบการณ์ความอร่อยสุดพิเศษจากท้องทะเลลึกได้แล้ววันนี้! ตับปลาอังกิโมะ พร้อมให้คุณได้ลิ้มลองความอร่อยแบบต้นตำรับญี่ปุ่นได้ง่าย ๆ ที่บ้านของคุณ
ทาโกะยากิสำเร็จรูป สะดวก อร่อย แบบมืออาชีพ
ทาโกะยากิสำเร็จรูปแช่แข็ง ลูกใหญ่ เนื้อแน่น น้ำหนักต่อลูกประมาณ 20 กรัม ด้านในสอดไส้ด้วยหนวดหมึกยักษ์ชิ้นใหญ่เต็มคำ เพียงนำออกมาละลายแล้วเข้าเตาไมโครเวฟ, อบในเตาอบ, ทอดในหม้อทอดไร้น้ำมัน หรือทอดบนกระทะที่ใส่น้ำมันเพียงเล็กน้อย จัดเสิร์ฟโดยโรยหน้าด้วยคัตสึโอะบุชิ (ปลาแห้งญี่ปุ่น), สาหร่ายอาโอโนริ, ราดซอสทาโกะยากิและมายองเนส เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทาน ประหยัดเวลาแบบสุดๆ ค่ะ
หอยเชลล์ต้มเนื้อแน่น ทำเมนูอะไรก็อร่อย
หอยเชลล์สายพันธุ์ญี่ปุ่นถือว่าเป็นหอยเชลล์ที่มีคุณภาพดีระดับโลก เพราะมีเนื้อนุ่มแน่น รสชาติหวานตามธรรมชาติ จะนำไปทำเมนูอะไรก็อร่อยถูกใจ ไม่ว่าจะเป็นหอยเชลล์ย่างซอสเทริยากิ ซอสยากินิคุ หรือประยุกต์เข้ากับเมนูไทยๆ อย่างผัดฉ่า ผัดกะเพรา ก็เข้ากันได้เป็นอย่างดีค่ะ
สุดยอดนัตโตะจากถั่วเหลืองซุซึมารุ คุณภาพระดับพรีเมียม
สำหรับคนรักสุขภาพและผู้ที่อยากลิ้มลองรสชาติ นัตโตะ (Natto) แบบต้นตำรับแท้ ๆ เราขอแนะนำ นัตโตะ จากแบรนด์ ฮามานะสึ (Hamanasu) สูตรพิเศษจาก ฮอกไกโด เพราะนี่คือสุดยอดถั่วเหลืองหมักที่มาพร้อมความอร่อยแบบธรรมชาติและคุณค่าที่ล้ำเลิศ
ความลับของนัตโตะฮอกไกโด
ความพิเศษของนัตโตะถ้วยนี้อยู่ที่การคัดสรร ถั่วเหลืองเม็ดเล็ก สายพันธุ์ ""ซูซูมารุ"" (Suzumaru) ซึ่งเป็นถั่วเหลืองคุณภาพสูงที่ปลูกในเมืองมุคาวะ จังหวัดฮอกไกโด ถั่วที่เติบโตในสภาพอากาศที่บริสุทธิ์ของฮอกไกโดนี้ ทำให้ได้รสชาติที่นุ่มนวลและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เมื่อนำมาผ่านกระบวนการหมักแบบดั้งเดิม จึงได้นัตโตะที่มีเนื้อสัมผัสเหนียวนุ่มกำลังดี
ทำไมต้องนัตโตะสูตรนี้?
ถั่วเหลืองซูซูมารุ: การเลือกใช้ถั่วเหลืองสายพันธุ์นี้ เป็นการการันตีคุณภาพและความใส่ใจในวัตถุดิบ ทำให้ได้รสอูมามิที่เข้มข้น และเนื้อสัมผัสที่เนียนกว่า
เม็ดเล็ก ทานง่าย: ถั่วแบบเม็ดเล็กทำให้ง่ายต่อการคลุกเคล้ากับซอส และทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ได้อย่างลงตัว เป็นรูปแบบที่คนญี่ปุ่นนิยมทานมากที่สุด
ประโยชน์เต็มถ้วย: นัตโตะยังเป็นซูเปอร์ฟู้ดที่อุดมไปด้วยโปรไบโอติกที่ดีต่อลำไส้ และเอนไซม์นัตโตะไคเนสที่ช่วยเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้คุณได้ทั้งความอร่อยและสุขภาพดีในทุก ๆ คำ
พร้อมทาน สะดวกสุด ๆ: ในแพ็กเกจมีทั้งซอส (Tare) และมัสตาร์ด (Karashi) มาให้พร้อมสรรพ คุณไม่ต้องหาเครื่องปรุงเพิ่ม ก็อร่อยได้ทันที
วิธีเตรียมและอร่อยกับนัตโตะ
สินค้าจัดส่งแบบแช่แข็ง เพื่อรักษาความสดใหม่ ดังนั้นควรเตรียมสินค้าตามขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนการเตรียม:
1. นำ นัตโตะ ออกจากช่องฟรีซ (ช่องแข็ง)
2. พักไว้ที่อุณหภูมิห้องสักครู่ เพื่อให้คลายความเย็นจนนิ่มลง หรือนำไปพักในตู้เย็นช่องธรรมดา
3. เมื่อถั่วละลายและนิ่มแล้ว จึงนำมาทาน
เคล็ดลับการคนนัตโตะให้ฟู
หัวใจสำคัญของการทาน นัตโตะ คือการคนค่ะ การคนนัตโตะไม่ได้มีแค่เรื่องความเหนียว แต่เป็นการดึงเอาสารอาหารสำคัญอย่าง เอนไซม์นัตโตะไคเนสออกมาทำงาน และยังช่วยให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
ขั้นตอนที่ 1: คนก่อนปรุงรส
• ตักซอสออกก่อน: นำซอง ซอสและมัสตาร์ด (ถ้ามี) ออกจากถ้วยก่อนค่ะ
• เริ่มคนเปล่า ๆ: ใช้ตะเกียบหรือส้อม คนนัตโตะในถ้วยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
- เน้นความเร็ว: ไม่จำเป็นต้องคนวนเป็นวงกลมแบบเป๊ะ ๆ แต่เน้นการคนแบบซิกแซ็กสลับไปมาด้วยความเร็วค่ะ
- จำนวนครั้ง: ให้คนอย่างน้อย 50 ครั้ง ค่ะ พอคนไปเรื่อย ๆ คุณจะสังเกตเห็นว่านัตโตะเริ่มมี ฟองสีขาวขุ่น และ ใยเหนียว ๆ เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก
ขั้นตอนที่ 2: คนพร้อมปรุงรส
• เติมซอสบ๊วย: เมื่อนัตโตะเริ่มเป็นฟองได้ที่แล้ว ให้ใส่ ซอสรสบ๊วย (หรือเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามชอบ) ลงไป
• คนต่ออีก 10-20 ครั้ง: คนผสมให้ซอสเข้ากันดีค่ะ การคนรอบสองนี้จะช่วยให้รสชาติของซอสซึมเข้าไปในถั่วและฟองนัตโตะอย่างทั่วถึง ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ให้นัตโตะฮอกไกโดเป็นอาหารเช้าหรือมื้อเสริมเพื่อสุขภาพของคุณ แล้วคุณจะค้นพบความลับของการมีสุขภาพดีสไตล์คนญี่ปุ่นได้ง่าย ๆ ที่บ้านเลย
ความอร่อยสดชื่นแบบญี่ปุ่น ที่ลงตัวด้วยซอสยูสุพอนซึ
ถ้าคุณชอบรสชาติเปรี้ยวอมหวาน หอมกลิ่นเลม่อนญี่ปุ่นอย่างยูซุ ต้องไม่พลาด นัตโตะรสชาติใหม่จากแบรนด์ฮามานะสึ เพราะนี่คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างถั่วเหลืองหมักเพื่อสุขภาพ กับซอสยูสุพอนซึที่ให้ความรู้สึกสดชื่นไม่เหมือนใคร ทำให้ทานง่ายและอร่อยจนหยุดไม่ได้
นัตโตะถ้วยนี้ถูกยกระดับความอร่อยขึ้นไปอีกขั้นด้วยซอสยูสุพอนซึสูตรพิเศษ :
• ความสดชื่นของยูซุ: จุดเด่นคือ ซอสปอนซุรสยูซุ ที่มีรสเปรี้ยวอมหวานและกลิ่นหอมของยูซุที่สดชื่นมากๆ ทำให้ความรู้สึกหนัก ๆ ของนัตโตะเปลี่ยนไป กลายเป็นรสชาติที่สว่างและเบา ทานได้เรื่อย ๆ
• ถั่วเหลืองเม็ดเล็กคุณภาพ: นัตโตะใช้ถั่วเหลืองเม็ดเล็ก (Kotsubu Daizu) คุณภาพดีจาก ฮอกไกโด ซึ่งเป็นแหล่งผลิตถั่วชั้นเยี่ยม ทำให้ถั่วมีความเนียนนุ่มและคลุกเคล้ากับซอสได้อย่างง่ายดาย
• ทานง่ายแม้เป็นมือใหม่: รสเปรี้ยวหอมของยูซุช่วยตัดกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของนัตโตะได้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นอีกตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นลองทาน
• ประโยชน์เต็มถ้วย: นัตโตะ เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีเยี่ยม และเต็มไปด้วยสารอาหารสำคัญอย่างโปรไบโอติก วิตามิน K2 และเอนไซม์นัตโตะไคเนส ที่ช่วยดูแลสุขภาพลำไส้และระบบไหลเวียนโลหิต
วิธีเตรียมและอร่อยกับนัตโตะ
สินค้าจัดส่งแบบแช่แข็ง เพื่อรักษาความสดใหม่ ดังนั้นควรเตรียมสินค้าตามขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนการเตรียม:
1. นำนัตโตะ ออกจากช่องฟรีซ (ช่องแข็ง)
2. พักไว้ที่อุณหภูมิห้องสักครู่ เพื่อให้คลายความเย็นจนนิ่มลง หรือนำไปพักในตู้เย็นช่องธรรมดา
3. เมื่อถั่วละลายและนิ่มแล้ว จึงนำมาทาน
เคล็ดลับการคนนัตโตะให้ฟู
หัวใจสำคัญของการทาน นัตโตะ คือการคนค่ะ การคนนัตโตะไม่ได้มีแค่เรื่องความเหนียว แต่เป็นการดึงเอาสารอาหารสำคัญอย่าง เอนไซม์นัตโตะไคเนสออกมาทำงาน และยังช่วยให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
ขั้นตอนที่ 1: คนก่อนปรุงรส
• ตักซอสออกก่อน: นำซอง ซอสรสบ๊วยและมัสตาร์ด (ถ้ามี) ออกจากถ้วยก่อนค่ะ
• เริ่มคนเปล่า ๆ: ใช้ตะเกียบหรือส้อม คนนัตโตะในถ้วยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
- เน้นความเร็ว: ไม่จำเป็นต้องคนวนเป็นวงกลมแบบเป๊ะ ๆ แต่เน้นการคนแบบซิกแซ็กสลับไปมาด้วยความเร็วค่ะ
- จำนวนครั้ง: ให้คนอย่างน้อย 50 ครั้ง ค่ะ พอคนไปเรื่อย ๆ คุณจะสังเกตเห็นว่านัตโตะเริ่มมี ฟองสีขาวขุ่น และ ใยเหนียว ๆ เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก
ขั้นตอนที่ 2: คนพร้อมปรุงรส
• เติมซอสบ๊วย: เมื่อนัตโตะเริ่มเป็นฟองได้ที่แล้ว ให้ใส่ ซอสรสบ๊วย (หรือเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามชอบ) ลงไป
• คนต่ออีก 10-20 ครั้ง: คนผสมให้ซอสเข้ากันดีค่ะ การคนรอบสองนี้จะช่วยให้รสชาติของซอสซึมเข้าไปในถั่วและฟองนัตโตะอย่างทั่วถึง ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ถ้าคุณพร้อมที่จะเปิดรับความอร่อยใหม่ที่ทั้งสดชื่นและดีต่อสุขภาพ ลองให้ นัตโตะซอสยูซุ เป็นตัวเลือกในมื้อต่อไป รับรองว่าถูกใจสายเฮลตี้ที่ชอบรสชาติเปรี้ยวอมหวานอย่างแน่นอน"
อาหารเพื่อสุขภาพจากญี่ปุ่น ที่กินง่ายและอร่อยลงตัว
สำหรับใครที่อยากลองทาน นัตโตะ (Natto) แต่ยังกังวลเรื่องกลิ่นหรือเนื้อสัมผัส เราขอแนะนำ นัตโตะ ฮามานะสึ (Hamanasu) สูตรเม็ดเล็กพิเศษ เพราะนี่คือตัวเลือกที่ถูกใจคนญี่ปุ่นและเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับมือใหม่ ที่สำคัญคือมาพร้อมกับคุณประโยชน์ด้านสุขภาพแบบเต็มๆ
นัตโตะคือเคล็ดลับสุขภาพดีของคนญี่ปุ่น เป็นถั่วเหลืองหมักที่อัดแน่นไปด้วยโปรไบโอติกและเอนไซม์ นัตโตะไคเนส ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหารให้ทำงานดีขึ้น และยังดีต่อสุขภาพหัวใจ รวมถึงเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและบำรุงกระดูกให้แข็งแรงอีกด้วย
จุดเด่น
• เม็ดเล็ก เคี้ยวง่าย: นัตโตะของฮามานะสึเป็นแบบเม็ดเล็กพิเศษ (Gokukotsubu) ทำให้เนื้อสัมผัสมีความละเอียดกว่าแบบเม็ดใหญ่ และผสมเข้ากับซอสได้ง่ายกว่า ถูกปากคนที่ไม่คุ้นเคยกับความเหนียวของนัตโตะ
• รสชาติกลมกล่อมลงตัว: นัตโตะถ้วยนี้มาพร้อมกับซอสสูตรพิเศษที่ให้รสอูมามิ ทำให้รสชาติของถั่วเหลืองหมักมีความกลมกล่อมและอร่อยยิ่งขึ้น เพียงแค่เติมซอสและมัสตาร์ดที่มาในแพ็กเกจ ก็พร้อมทานได้ทันที
• คุณภาพญี่ปุ่นแท้ๆ: สินค้านี้ถูกนำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าให้ความสำคัญกับคุณภาพและความสะอาดในกระบวนการผลิต ทำให้คุณมั่นใจได้ว่านัตโตะที่คุณทานนั้น สดใหม่และได้มาตรฐาน
วิธีทำความอร่อยง่ายๆ สไตล์ญี่ปุ่น
ชาวญี่ปุ่นนิยมทาน นัตโตะ ในมื้อเช้า เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์ไปตลอดวัน วิธีทานก็ง่ายมากๆ
1. นำนัตโตะมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 30-60 นาที เพื่อให้นัตโตะที่แช่แข็งไว้ละลาย
2. เปิดฝาและเทซอสกับมัสตาร์ดที่แถมมาลงไป
3. ใช้ตะเกียบคน นัตโตะ อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องจนเกิดฟองและความเหนียวเป็นเส้นใย
4. ตักวางบนข้าวสวยญี่ปุ่นร้อน ๆ หรือจะทานคู่กับไข่แดงและต้นหอมซอยก็อร่อยลงตัว
คล็ดลับการคนนัตโตะให้ฟู
หัวใจสำคัญของการทาน นัตโตะ คือการคนค่ะ การคนนัตโตะไม่ได้มีแค่เรื่องความเหนียว แต่เป็นการดึงเอาสารอาหารสำคัญอย่าง เอนไซม์นัตโตะไคเนสออกมาทำงาน และยังช่วยให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
ขั้นตอนที่ 1: คนก่อนปรุงรส
• ตักซอสออกก่อน: นำซอง ซอสรสบ๊วยและมัสตาร์ด (ถ้ามี) ออกจากถ้วยก่อนค่ะ
• เริ่มคนเปล่า ๆ: ใช้ตะเกียบหรือส้อม คนนัตโตะในถ้วยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
- เน้นความเร็ว: ไม่จำเป็นต้องคนวนเป็นวงกลมแบบเป๊ะ ๆ แต่เน้นการคนแบบซิกแซ็กสลับไปมาด้วยความเร็วค่ะ
- จำนวนครั้ง: ให้คนอย่างน้อย 50 ครั้ง ค่ะ พอคนไปเรื่อย ๆ คุณจะสังเกตเห็นว่านัตโตะเริ่มมี ฟองสีขาวขุ่น และ ใยเหนียว ๆ เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก
ขั้นตอนที่ 2: คนพร้อมปรุงรส
• เติมซอสบ๊วย: เมื่อนัตโตะเริ่มเป็นฟองได้ที่แล้ว ให้ใส่ ซอสรสบ๊วย (หรือเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามชอบ) ลงไป
• คนต่ออีก 10-20 ครั้ง: คนผสมให้ซอสเข้ากันดีค่ะ การคนรอบสองนี้จะช่วยให้รสชาติของซอสซึมเข้าไปในถั่วและฟองนัตโตะอย่างทั่วถึง ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นมื้อไหน นัตโตะฮามานะสึ ก็พร้อมเป็นสุดยอดอาหารสุขภาพที่ทำให้คุณรู้สึกดีได้ทุกวัน ลองสั่งไปชิม แล้วคุณจะติดใจกับความอร่อยที่มีประโยชน์ต่อร่างกายถ้วยนี้เลย!"
นัตโตะรสบ๊วยสดชื่น ที่ทำให้คุณตกหลุมรักได้ง่ายขึ้น
สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นทาน นัตโตะ (Natto) แต่ยังกังวลกับกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ หรือผู้ที่ทานนัตโตะอยู่แล้วแต่อยากได้รสชาติใหม่ ๆ ที่ทานง่ายและอร่อยสดชื่น เราขอแนะนำ นัตโตะบ๊วย ฮามานะสึ (Hamanasu) สูตรพิเศษจากญี่ปุ่น ที่จะทำให้ประสบการณ์ทานนัตโตะของคุณเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ความลับของความอร่อยที่ลงตัว นัตโตะบ๊วยถ้วยนี้ถูกออกแบบมาเพื่อความอร่อยที่ทานง่ายที่สุด
• รสชาติไม่จำเจ: จุดเด่นคือการใช้ ซอสบ๊วย (Ume) ที่ทำจากบ๊วยบดพิเศษ ช่วยเพิ่มความเปรี้ยวอมหวานและความหอมสดชื่น (香り爽やか) เข้ามาตัดกับกลิ่นของถั่วเหลืองหมักได้อย่างลงตัว ทำให้ทานง่ายกว่านัตโตะทั่วไปมาก
• ถั่วคุณภาพดีจากฮอกไกโด: คัดสรรถั่วเหลืองเม็ดเล็ก (Kotsubu Daizu) คุณภาพเยี่ยมจาก ฮอกไกโด ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสะอาดและคุณภาพของวัตถุดิบ ทำให้ถั่วมีความอร่อยในตัวและสัมผัสที่เนียนนุ่มกำลังดี
• สุขภาพดีเต็มถ้วย: แม้จะรสชาติดีกว่าเดิม แต่คุณค่าทางอาหารยังครบถ้วน! นัตโตะ อัดแน่นไปด้วยโปรไบโอติก วิตามิน K2 และเอนไซม์นัตโตะไคเนส ที่ช่วยเรื่องการย่อยอาหารและบำรุงหัวใจให้แข็งแรง
วิธีทำความอร่อยง่าย ๆ
นัตโตะบ๊วยฮามานะสึ พร้อมเป็นมื้ออร่อยของคุณในทุกเช้า:
1. นำนัตโตะมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 30-60 นาที เพื่อให้นัตโตะที่แช่แข็งไว้ละลาย
2. แกะซอง นัตโตะ และเทซอสบ๊วยที่แถมมาลงไป
3. ใช้ตะเกียบคน นัตโตะ อย่างรวดเร็วจนเกิดฟองและเส้นใยเหนียว ๆ
4. ทานคู่กับข้าวสวยญี่ปุ่นร้อน ๆ ได้ทันที! ความเปรี้ยวอมหวานของบ๊วยจะช่วยเปิดต่อมรับรสและทำให้ข้าวอร่อยขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
เคล็ดลับการคนนัตโตะให้ฟู
หัวใจสำคัญของการทาน นัตโตะ คือการคนค่ะ การคนนัตโตะไม่ได้มีแค่เรื่องความเหนียว แต่เป็นการดึงเอาสารอาหารสำคัญอย่าง เอนไซม์นัตโตะไคเนสออกมาทำงาน และยังช่วยให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น
ขั้นตอนที่ 1: คนก่อนปรุงรส
• ตักซอสออกก่อน: นำซอง ซอสรสบ๊วยและมัสตาร์ด (ถ้ามี) ออกจากถ้วยก่อนค่ะ
• เริ่มคนเปล่า ๆ: ใช้ตะเกียบหรือส้อม คนนัตโตะในถ้วยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
- เน้นความเร็ว: ไม่จำเป็นต้องคนวนเป็นวงกลมแบบเป๊ะ ๆ แต่เน้นการคนแบบซิกแซ็กสลับไปมาด้วยความเร็วค่ะ
- จำนวนครั้ง: ให้คนอย่างน้อย 50 ครั้ง ค่ะ พอคนไปเรื่อย ๆ คุณจะสังเกตเห็นว่านัตโตะเริ่มมี ฟองสีขาวขุ่น และ ใยเหนียว ๆ เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก
ขั้นตอนที่ 2: คนพร้อมปรุงรส
• เติมซอสบ๊วย: เมื่อนัตโตะเริ่มเป็นฟองได้ที่แล้ว ให้ใส่ ซอสรสบ๊วย (หรือเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามชอบ) ลงไป
• คนต่ออีก 10-20 ครั้ง: คนผสมให้ซอสเข้ากันดีค่ะ การคนรอบสองนี้จะช่วยให้รสชาติของซอสซึมเข้าไปในถั่วและฟองนัตโตะอย่างทั่วถึง ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ทำไมต้องคนเยอะขนาดนั้น?
การคนนัตโตะจะช่วยกระตุ้นการสร้างใยเมือกเหนียวๆ ซึ่งเป็นตัวการของความอร่อยและสุขภาพดี ใยเหล่านี้คือกรดกลูตามิก ซึ่งเป็นแหล่งของรสอูมามิหรือรสชาติกลมกล่อม ยิ่งคนมาก ใยยิ่งเยอะ รสชาติก็จะยิ่งนุ่มละมุนลิ้น และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น
ลองทำตามดูนะคะ รับรองว่า นัตโตะรสบ๊วย ถ้วยนี้จะอร่อยฟู เหนียวได้ที่ ถูกใจแน่นอนค่ะ!