สาหร่ายฮิจิกิ ผสมถั่วเหลืองและแครอทต้มสุกปรุงรส
เป็นหนึ่งในเมนุยอดฮิตของชาวญี่ปุ่น มีเอกลักษณ์เป็นสาหร่ายสีดำโดยธรรมชาติ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทำมาผสมกับถั่วเหลือง และแครอท เหมาะสำหรับรับประทานเป็นเครื่องเคียง และยังนิยมนำมาคลุกกับข้าวปั้นโอนิกิริอีกด้วย
คำแนะนำในการเก็บรักษา
• ควรเก็บในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 0-10 องศา
• หลังจากเปิดซองแล้วหากทานไม่หมด แนะนำให้ใส่กล่องปิดให้สนิทและเก็บไว้ในตู้เย็น
• ควรรับประทานให้หมดภายใน 3 วัน หลังจากที่เปิดซอง
ปลาซาร์ดีนเนื้อแน่นจากญี่ปุ่น ปรุงรสโชยุกลมกล่อม
อิวาชิ (Iwashi) หรือปลาซาร์ดีน ปลาอีกชนิดหนึ่งที่คนญี่ปุ่นนิยมรับประทาน เป็นปลาที่อุดมไปด้วย DHA และ EPA เป็นกรดไขมันโอเมก้า 3 สำหรับ Kesennuma Hotei Iwashi Shoyu Ni กระป๋องนี้ ผลิตจากปลาซาร์ดีนภายในประเทศญี่ปุ่น นำมาปรุงรสด้วยซอสฮอนโจโซหรือโชยุที่ใช้กรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม รสชาติไม่เค็มจัดจนเกินไปและมีกลิ่นหอม ผสมด้วยกลิ่นขิงเล็กน้อยผสานกันอย่างลงตัว ให้คุณมีมื้ออร่อยแบบง่ายๆ เพียงเปิดฝาและรับประทานกับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ ค่ะ
น้ำซุปเข้มข้น หอมมัน อร่อยจนหยดสุดท้าย!!
ฟินกับเมนูราเมงได้ง่ายๆที่บ้าน ด้วยน้ำซุปทงคตสึโชยุนำเข้าจากญี่ปุ่นแท้ๆ จากแบรนด์ Bellfoods เพียงผสมน้ำซุปเข้มข้นเข้ากับน้ำร้อนแล้วใส่เส้นพร้อมครื่องเคียงที่ชอบลงไป ราเมงแสนอร่อยก็พร้อมเสิร์ฟ ให้คุณเต็มอิ่มกับน้ำซุปเข้มข้นหอมกรุ่นที่เคี่ยวจากกระดูกหมู ไก่ และสาหร่ายทะเล พร้อมปรุงรสด้วยโชยุฮอนโจโซ (Honjozo Shoyu) ที่ผ่านกระบวนการต้มแบบดั้งเดิมจึงทำให้รสชาติกลมกล่อม เค็มๆ มันๆ เต็มรสอูมามิ เข้ากันได้ดีกับเส้นทุกแบบ
วิธีรับประทาน
• ผสมน้ำซุป 1 ซอง กับน้ำร้อน 300 มล. คนให้เข้ากัน ใส่เส้นราเมงและเครื่องเคียงตามชอบ
• หากต้องการรสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้น สามารถลดปริมาณน้ำร้อนลงได้ตามต้องการ
อร่อยง่ายๆ กับเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่น
ข้าวสวยของคุณจะอร่อยขึ้นกว่าที่เคย
เพียงใส่ Rice Improver หรือซอสปรุงรสสำหรับหุงข้าวขวดนี้ในปริมาณที่กำหนด ผสมเข้ากับน้ำสะอาดและข้าวสารก่อนนำไปหุง จะช่วยให้คุณภาพของข้าวสวยที่ได้ดีขึ้นทั้งในด้านปริมาณที่ดูมากขึ้นกว่าการหุงแบบปกติ, เพิ่มความมันวาว ความสว่าง และความขาวของเม็ดข้าว, ความเหนียวของข้าวลดลงทำให้สามารถนำไปใช้งานได้ง่ายขึ้น และยังช่วยให้สามารถเก็บรักษาข้าวแบบแช่เย็นได้นานขึ้นอีกด้วย
อัตราส่วนการใช้งาน: 5-6% ของน้ำหนักข้าวสาร
•การใช้งาน
1. เตรียมข้าวญี่ปุ่น 1 กก. น้ำสะอาด 1.5 ลิตร และ Rice Improver 50 มล.
2. ล้างทำความสะอาดข้าวตามคำแนะนำข้างถุง
3. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อหุงข้าว คนให้เข้ากันแล้วแช่ทิ้งไว้ 30 นาที ก่อนกดหุง
???? น้ำหนักสุทธิ: 1 ลิตร
สำหรับคนรักแซลมอนที่มองหาวัตถุดิบคุณภาพสูงสุด พร้อมความสะดวกในการทำอาหาร ปลาแซลมอนแอตแลนติก (Atlantic Salmon) จากแบรนด์ คุก (Cooke) คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด เพราะนี่คือปลาแซลมอนที่เติบโตในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุดในโลก และผ่านการแล่ตัดแต่งอย่างพิถีพิถัน
คุณภาพจากแหล่งกำเนิด: ชิลี (Chile)
ปลาแซลมอนของ Cooke ได้รับการเลี้ยงในแหล่งน้ำที่บริสุทธิ์และเย็นจัดของประเทศ ชิลี โดยเฉพาะในเขตไอเซน (Aysén region) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ห่างไกลและมีสภาพแวดล้อมทางทะเลที่สมบูรณ์ การเลี้ยงในสภาพธรรมชาติที่ดีเยี่ยมนี้ ทำให้ปลาแซลมอนมีเนื้อที่นุ่ม สีส้มสดใส และมีรสชาติที่สะอาด พร้อมไขมัน (Omega-3) ที่สมดุลตามธรรมชาติ
แบรนด์ Cooke ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืน และมีการใช้มาตรฐานการเพาะเลี้ยงอย่างเข้มงวด เพื่อส่งมอบอาหารทะเลคุณภาพสูงสู่ผู้บริโภคทั่วโลก
การแล่ Trim-C เพื่อความสมบูรณ์แบบ
Trim-C คือมาตรฐานการแล่ปลาแซลมอนที่การันตีว่าเนื้อปลาของคุณถูกตัดแต่งอย่างพิถีพิถันสูงสุด
ความสะอาดสูงสุด: เนื้อปลาถูกนำก้างใหญ่ออกทั้งหมด รวมถึงก้างบริเวณท้อง (Belly Bone) และก้างซี่โครง (Pin Bone)
พร้อมใช้งานทันที: ทำให้คุณสามารถนำเนื้อปลาไปหั่นเป็นชิ้นสำหรับทำซาชิมิ ซูชิ หรือนำไปปรุงอาหารได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาเลาะก้างหรือตัดแต่งไขมันส่วนเกินเอง
เมนูอร่อยที่แนะนำ
ด้วยคุณภาพของปลาแซลมอนแอตแลนติกจากชิลี และการตัดแต่งแบบ Trim-C ที่สะอาด ทำให้เนื้อปลาชนิดนี้เหมาะสำหรับทุกเมนู:
ซาชิมิ/ซูชิ: เนื้อปลานุ่ม สีสวย สามารถนำไปหั่นเป็นชิ้นเพื่อสัมผัสความสดใหม่แบบเต็มคำ
สเต็กปลาแซลมอน: นำไปย่างหรือจี่บนกระทะเพื่อดึงรสชาติไขมันธรรมชาติออกมาให้หอมกรุ่น
อบ/เบค: อบพร้อมเครื่องเทศหรือสมุนไพร เพื่อมื้ออาหารที่ทั้งอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ
ไม่ว่าคุณจะทำอาหารในบ้านหรือต้องการวัตถุดิบคุณภาพเพื่อเสิร์ฟในร้านอาหาร ปลาแซลมอนแอตแลนติก Trim-C จาก Cooke คือทางเลือกที่จะช่วยยกระดับทุกเมนูของคุณให้เป็นมื้อพิเศษได้ง่ายดาย
วิธีละลายสินค้าแช่แข็ง
❄️ ละลายในตู้เย็น (แนะนำที่สุด)
- วางสินค้าไว้ในช่องธรรมดาของตู้เย็นประมาณ 6-12 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับขนาด)
- วิธีนี้ช่วยรักษาคุณภาพและความสดของสินค้าได้ดีที่สุด
❄️ ละลายในน้ำเย็น (สำหรับการเร่งเวลา)
- นำสินค้าทั้งถุงแช่ในน้ำเย็น
- เปลี่ยนน้ำใหม่ทุก 30 นาที จนกว่าสินค้าจะคลายตัว
❄️ ละลายในอุณหภูมิห้อง (เฉพาะบางประเภท)
- วางสินค้าไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 40 นาที
สำหรับคนรักแซลมอนที่มองหาวัตถุดิบคุณภาพสูงสุด พร้อมความสะดวกในการทำอาหาร ปลาแซลมอนแอตแลนติก (Atlantic Salmon) จากแบรนด์ คุก (Cooke) คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด เพราะนี่คือปลาแซลมอนที่เติบโตในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุดในโลก และผ่านการแล่ตัดแต่งอย่างพิถีพิถัน
คุณภาพจากแหล่งกำเนิด: ชิลี (Chile)
ปลาแซลมอนของ Cooke ได้รับการเลี้ยงในแหล่งน้ำที่บริสุทธิ์และเย็นจัดของประเทศ ชิลี โดยเฉพาะในเขตไอเซน (Aysén region) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ห่างไกลและมีสภาพแวดล้อมทางทะเลที่สมบูรณ์ การเลี้ยงในสภาพธรรมชาติที่ดีเยี่ยมนี้ ทำให้ปลาแซลมอนมีเนื้อที่นุ่ม สีส้มสดใส และมีรสชาติที่สะอาด พร้อมไขมัน (Omega-3) ที่สมดุลตามธรรมชาติ
แบรนด์ Cooke ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืน และมีการใช้มาตรฐานการเพาะเลี้ยงอย่างเข้มงวด เพื่อส่งมอบอาหารทะเลคุณภาพสูงสู่ผู้บริโภคทั่วโลก
การแล่ Trim-C เพื่อความสมบูรณ์แบบ
Trim-C คือมาตรฐานการแล่ปลาแซลมอนที่การันตีว่าเนื้อปลาของคุณถูกตัดแต่งอย่างพิถีพิถันสูงสุด
ความสะอาดสูงสุด: เนื้อปลาถูกนำก้างใหญ่ออกทั้งหมด รวมถึงก้างบริเวณท้อง (Belly Bone) และก้างซี่โครง (Pin Bone)
พร้อมใช้งานทันที: ทำให้คุณสามารถนำเนื้อปลาไปหั่นเป็นชิ้นสำหรับทำซาชิมิ ซูชิ หรือนำไปปรุงอาหารได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาเลาะก้างหรือตัดแต่งไขมันส่วนเกินเอง
เมนูอร่อยที่แนะนำ
ด้วยคุณภาพของปลาแซลมอนแอตแลนติกจากชิลี และการตัดแต่งแบบ Trim-C ที่สะอาด ทำให้เนื้อปลาชนิดนี้เหมาะสำหรับทุกเมนู:
ซาชิมิ/ซูชิ: เนื้อปลานุ่ม สีสวย สามารถนำไปหั่นเป็นชิ้นเพื่อสัมผัสความสดใหม่แบบเต็มคำ
สเต็กปลาแซลมอน: นำไปย่างหรือจี่บนกระทะเพื่อดึงรสชาติไขมันธรรมชาติออกมาให้หอมกรุ่น
อบ/เบค: อบพร้อมเครื่องเทศหรือสมุนไพร เพื่อมื้ออาหารที่ทั้งอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ
ไม่ว่าคุณจะทำอาหารในบ้านหรือต้องการวัตถุดิบคุณภาพเพื่อเสิร์ฟในร้านอาหาร ปลาแซลมอนแอตแลนติก Trim-C จาก Cooke คือทางเลือกที่จะช่วยยกระดับทุกเมนูของคุณให้เป็นมื้อพิเศษได้ง่ายดาย
วิธีละลายสินค้าแช่แข็ง
❄️ ละลายในตู้เย็น (แนะนำที่สุด)
- วางสินค้าไว้ในช่องธรรมดาของตู้เย็นประมาณ 6-12 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับขนาด)
- วิธีนี้ช่วยรักษาคุณภาพและความสดของสินค้าได้ดีที่สุด
❄️ ละลายในน้ำเย็น (สำหรับการเร่งเวลา)
- นำสินค้าทั้งถุงแช่ในน้ำเย็น
- เปลี่ยนน้ำใหม่ทุก 30 นาที จนกว่าสินค้าจะคลายตัว
❄️ ละลายในอุณหภูมิห้อง (เฉพาะบางประเภท)
- วางสินค้าไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 40 นาที
ขอเชิญคุณมาสัมผัส "รสชาติใหม่" ของวาซาบิ ที่แตกต่างจากวาซาบิบดแบบเดิม ๆ ค่ะ นี่คือประสบการณ์ของความเผ็ดซ่าที่มาพร้อมกับเนื้อสัมผัสกรุบกรอบในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่คุณไม่ควรพลาดเลยนะคะ
คิซามิ วาซาบิ (Kizami Wasabi) แปลตรงตัวว่า วาซาบิสับ (Chopped Wasabi) เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเอา ก้านและหัววาซาบิแท้ (Hon Wasabi) มาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ หยาบ ๆ แทนการนำไปบดละเอียดแบบที่เราคุ้นเคยกันค่ะ จากนั้นจึงนำไปปรุงรสด้วย โชยุ (Shoyu) และเครื่องปรุงอื่น ๆ ในสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อให้ได้วาซาบิที่มีรสชาติกลมกล่อม มีความเผ็ดซ่าที่ลงตัว และมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของวาซาบิแท้ Kinjirushi เป็นแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านวาซาบิที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนานในประเทศญี่ปุ่น โดยผลิตภัณฑ์ "คิซามิ วาซาบิ รสโชยุ" นี้ เป็นหนึ่งในสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างสูงและมีชื่อเสียงในเรื่องรสชาติที่เข้มข้นจัดจ้าน ทำให้สามารถนำไปใช้ร่วมกับอาหารได้หลากหลายประเภทมากขึ้น
จุดเด่นสำคัญของ คิซามิ วาซาบิ คือ เนื้อสัมผัสแบบ "กรุบกรอบ" (Shakishaki) จากชิ้นส่วนของก้านวาซาบิที่ถูกสับหยาบ ๆ ซึ่งให้ความสนุกและมิติใหม่ในการรับประทาน ไม่เหมือนวาซาบิแบบบดที่เป็นเนื้อครีม และด้วยการปรุงรสด้วยโชยุ ทำให้วาซาบิชนิดนี้มีรส อูมามิ (Umami) แทรกอยู่ จึงสามารถใช้เป็นเครื่องปรุงรสหรือเครื่องเคียงได้ทันทีโดยไม่ต้องผสมโชยุเพิ่ม ความเผ็ดซ่าของวาซาบิถูกปรุงให้อยู่ในระดับที่กำลังดี สามารถคงความเผ็ดซ่า (Tsuun) ที่ตีขึ้นจมูกได้ยาวนาน และยังให้กลิ่นหอมที่สดชื่นของวาซาบิแท้อีกด้วยค่ะ
เมนูแนะนำ (Recipe Suggestion)
1.ทานคู่กับเนื้อวัว: เหมาะสำหรับทานคู่กับสเต็กหรือเนื้อย่างวากิว (Wagyu) เพียงแค่แตะวาซาบิเล็กน้อยบนชิ้นเนื้อ ก็จะได้รสชาติที่ลงตัวและเพิ่มความหอมสดชื่น
2.สำหรับเมนูซูชิ/ซาชิมิ: ใช้แทนวาซาบิแบบบด เพื่อเพิ่มความจัดจ้านและรสสัมผัสกรุบ ๆ
3.ท็อปปิ้งอาหาร: โรยบนข้าวหน้าปลาดิบ (Chirashi-don), ข้าวหน้าเนื้อ (Gyudon), เต้าหู้เย็น (Hiyayakko), หรือไข่ตุ๋นแบบญี่ปุ่น (Chawanmushi)
วิธีใช้หรือวิธีเตรียม (Usage Instruction)
1.นำสินค้าออกมาจากช่องแช่แข็งในปริมาณที่ต้องการใช้
2.ปล่อยให้ละลายน้ำแข็งตามธรรมชาติในอุณหภูมิห้อง หรือในตู้เย็น (ใช้เวลา 10-20 นาที)
3.เมื่อละลายแล้ว สามารถเปิดซองและตักวาซาบิพร้อมปรุงรสแล้วมาใช้เป็นเครื่องเคียงได้ทันทีค่ะ
หลังเปิดซองแล้ว ควรกดซิปล็อกปิดปากถุงให้แน่น และเก็บในช่องแช่แข็งตามเดิมเพื่อรักษาคุณภาพและความสดใหม่ของวาซาบิค่ะ
***ข้อควรระวัง: ไม่ควรนำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งซ้ำ
ลองเพิ่ม คิซามิ วาซาบิ เข้าไปในมื้ออาหารของคุณดูสิคะ แล้วคุณจะได้เพลิดเพลินกับรสชาติและเนื้อสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์แบบญี่ปุ่นแท้ ที่จะช่วยยกระดับเมนูโปรดของคุณให้พิเศษยิ่งขึ้นได้ที่บ้านค่ะ
อิ่มครบจบในถ้วยเดียว! ????
มารุจัง QTTA รสโชยุเข้มข้น บะหมี่ถ้วยเส้นหนานุ่ม พร้อมซุปโชยุญี่ปุ่นหอมเข้มข้น ให้รสกลมกล่อมแบบ "โคคุ" สไตล์ญี่ปุ่นแท้ ใส่เครื่องเต็มคำทั้ง ผัก กุ้ง และ ลูกชิ้น พร้อมเสิร์ฟความฟินใน 3 นาที ไม่ว่าจะที่ทำงาน หรือระหว่างเดินทางก็อร่อยได้ทุกเวลา
วิธีประเพื่อรับประทาน
1. เปิดฝานำซองเครื่องปรุงออกจากถ้วย
2. จากนั้นเทน้ำร้อนลงไป 280 ml. หรือจนถึงเส้นภายในถ้วย และปิลฝาถ้วย รอประนาณ 3 นาที หรือจนเส้นนิ่ม
3. จากนั้นเปิดฝาแล้วฉีกของเครื่องปรุงรสเทลงไป คนให้เข้ากัน พร้อมรับประทาน
ลิ้มรสชาติโชยุพรีเมี่ยมที่หมักในถังไม้แบบดั้งเดิมนานกว่า 1 ปี
โชยุ จากแบรนด์ ทาเคซัน (Takesan) โชยุพรีเมี่ยมที่หมักในถังไม้แบบดั้งเดิมนานกว่า 1 ปี ผ่านกระบวนการผลิตที่เน้นความสดใหม่ ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ จึงทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นหอมของถั่วเหลืองตามธรรมชาติ ซึ่งได้เลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ถั่วเหลืองเต็มเมล็ด ข้าวสาลี และเกลือทะเล ที่คัดสรรค์มาอย่างดี ผลิตจากเกาะโชโดะชิมะ (Shodoshima) เป็นแหล่งผลิตซอสถั่วเหลืองที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ด้วยกลิ่นหอมและรสชาติที่เข้มข้นของโชยุขวดนี้ทำให้ใช้ปรุงอาหารได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ซอสจิ้มซูชิ ซาซิมิ และเมนูประเภทตุ๋นต่างๆ
"วากาเมะ ราเมน โกมะ โชยุ" ราเมนกึ่งสำเร็จรูป รสโชยุผสมสาหร่ายและงา ความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นที่คุณไม่ควรพลาด!
ราเมนกึ่งสำเร็จรูปรสโชยุผสมสาหร่ายและงาถ้วยนี้ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ด้วยน้ำซุปหอมกรุ่นจากโชยุ ผสมผสานอย่างลงตัวกับวากาเมะ และกลิ่มหอมของงา ให้รสชาติที่เข้มข้น เส้นราเมนนุ่มอร่อยเข้ากันได้อย่างลงตัวกับน้ำซุป บอกเลยว่าห้ามพลาดค่ะ
วิธีทำ
1. เปิดฝาออก เทน้ำร้อนลงไป 410 มล.
2. ปิดฝา รอประมาณ 3 นาที
3. เติมเครื่องปรุงรส และเครื่องเคียงลงไป จากนั้นคนให้เข้ากัน เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทานแล้วค่ะ
ข้าวเกรียบโฮลเกรนกรอบอร่อยปรุงรสโชยุสูตรพิเศษ
ข้าวเกรียบแผ่นบางกรอบนี้ผลิตด้วยวิธี ‘Whole Grain’ ที่ใช้ข้าวทั้งเมล็ด จึงได้เนื้อสัมผัสกรุบเบาๆ จากนั้นนำมาปรุงรสด้วยโชยุทามาริ ก่อนจะย่างด้วยไฟอ่อนจนผิวหอมไหม้นิดๆ แล้วเคลือบด้วยโชยุสูตรพิเศษที่ผ่านการหมักซ้ำ ทำให้ได้ข้าวเกรียบหอมกรุ่นและอร่อยกลมกล่อม
อร่อยง่ายๆ กับราเมนโชยุวีแกน พร้อมซุปเข้มข้นสไตล์ญี่ปุ่น
ราเมนกึ่งสำเร็จรูปวีแกนถ้วยนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มองหามื้ออาหารที่ทั้งรวดเร็วและอร่อย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์วีแกน ตัวเส้นทำจากข้าวสาลี เนื้อสัมผัสนุ่มและเคี้ยวอร่อย เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปโชยุรสชาติเข้มข้นแบบดั้งเดิม เติมความกลมกล่อมด้วยผักอย่างหัวหอม แครอท และเห็ด
• ปรุงง่าย รวดเร็ว
• เหมาะสำหรับผู้ทานวีแกน
• น้ำซุปโชยุเข้มข้น
• อร่อยเข้ากันได้ดีกับเห็ด ผักต่างๆ
ขั้นตอนการทำ
• ต้มน้ำประมาณ 550 มล.จนเดือด จากนั้นใส่เส้นราเมนลงไปต้ม 3 นาที หรือจนเส้นนุ่ม
• ฉีกซองซุปเทลงไป และคนให้เข้ากัน
• เทเส้นราเมนใส่ถ้วย เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทาน
ราเมง ซุปไก่โชยุ รสชาติกลมกล่อม
เส้นราเมนไม่ทอดหอมกลิ่นข้าวสาลี เส้นราเมนแบบเส้นเล็ก มีกลิ่นหอมของข้าวสาลี เสิร์ฟในน้ำซุปโชยุที่ใส จากเบสซุปไก่ รสกลมกล่อม เป็นสุดยอดเมนูสุดเบสิกที่ทานได้ไม่มีเบื่อ
โทยามะ แบล็ค ราเมน ซุปโชยุเข้มข้น เส้นหนึบอร่อยกลมกล่อมแบบญี่ปุ่นแท้ๆ
โทยามะ แบล็ค ราเม็ง (Toyama Black Ramen) ราเมนสูตรพิเศษจากจังหวัดโทยามะ (Toyama) ที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติเข้มข้นของซุปโชยุน้ำดำ โดยเลือกใช้โชยุแท้จาก "Yamagen Marudaizu Shoyu" ซึ่งผลิตจากถั่วเหลืองคุณภาพโดยยามาเก็น (Yamagen) ช่วยเสริมรสชาติให้ลุ่มลึกและกลมกล่อมยิ่งขึ้น ด้วยความหอมมันจากไขมันสันหลังหมูและเครื่องเทศที่คัดสรรอย่างพิถีพิถัน และเส้นราเมนที่ใช้เป็นเส้นที่ไม่ผ่านการทอด ทำให้ได้เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่ม เหมือนเส้นสดแท้ๆ เข้ากันอย่างลงตัวกับซุปโชยุน้ำดำเข้มข้น เป็นอีกหนึ่งถ้วยราเมนที่คุณไม่ควรพลาด!
โชยุเข้มข้น เพิ่มความอร่อยให้ซาชิมิจานโปรดของคุณ
ชวนคุณมาลิ้มลองยากิโซบะรูปแบบใหม่ๆ อย่างยากิอุด้งห่อนี้ค่ะ
หลายๆ คนคงถูกใจในรสชาติอันเข้มข้นของบะหมี่ผัดสไตล์ญี่ปุ่นอย่างยากิโซบะกันใช่ไหมคะ แต่หากคุณเบื่อสัมผัสในแบบเดิมๆ ของเส้นโซบะ และอยากจะลองเส้นบะหมี่ที่ออกไปในทางหนานุ่มแทนบ้าง เราขอแนะนำเมนูยากิอุด้งค่ะ เมนูนี้ถือเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างซอสผัดรสชาติเข้มข้นกับเส้นอุด้งเหนียวนุ่ม หนึบหนับ ให้คุณอิ่มอร่อยได้ง่ายๆ แค่เทเส้นและซอสลงไปผัดกับเนื้อสัตว์หรือผักที่ชอบ เพียงไม่นานก็พร้อมเสิร์ฟค่ะ
วิธีอร่อยกับยากิอุด้ง (สำหรับ 1 ที่)
1. เทน้ำมันลงในกระทะเล็กน้อย พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่เนื้อสัตว์และผักลงไปผัดจนสุก
2. เทเส้นอุด้งลงไป ผัดจนเส้นเริ่มคลายตัว เทซอสที่อยู่ในซองลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. ตักใส่จาน ยากิอุด้งแสนอร่อยพร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
(หากต้องการให้เส้นนิ่มยิ่งขึ้น สามารถเติมน้ำได้เล็กน้อย)
สึโกะเมง ทงคตสึโชยุ อาจิ สไตล์เมืองโยโกฮาม่า ซุปกลมกล่อม เส้นเหนียวนุ่มอร่อย!
สึโกะเมง ทงคตสึโชยุ อาจิ สไตล์เมืองโยโกฮาม่า (Yokohama) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีน้ำซุปที่ผสมผสานระหว่างน้ำซุปทงคตสึโชยุ ผสมน้ำมันไก่ ให้รสเข้มข้นและกลมกล่อมอย่างเป็นเอกลักษณ์ ตัวเส้นราเมนมีความเหนียวนุ่มและเข้ากันได้อย่างลงตัวกับน้ำซุป มาพร้อมทอปปิ้งผักอบแห้ง และสาหร่ายย่างหอมๆ เป็นอีกหนึ่งถ้วยราเมนที่คุณไม่ควรพลาด!
เส้นเหนียวนุ่ม ซุปจัดจ้าน อร่อยเหมือนทานที่ร้าน
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Yumepirika ถือเป็นพันธุ์ข้าวระดับไฮเอนด์ที่ใช้สุดยอดเทคโนโลยีการเพาะสายพันธุ์ข้าวในฮอกไกโด
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ยูเมะพิริกะ (Yumepirika) จากแบรนด์ โฮคุเรน (Hokuren) เป็นข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์พรีเมียมที่ปลูกในจังหวัดฮอกไกโด ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอากาศหนาวเย็นและดินที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ข้าวมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นข้าวเกรดสูงที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น
ลักษณะเด่นของ Yumepirika
• เมล็ดอวบอ้วน และเงางาม - เมล็ดข้าวมีขนาดปานกลางถึงใหญ่ เมื่อหุงแล้วจะเงางามและมีความหนึบที่โดดเด่น
• เนื้อนุ่มแต่ไม่เละ - ข้าวมีความเหนียวและนุ่มในระดับที่พอดี ไม่ร่วนหรือแข็งเกินไป
• รสหวานธรรมชาติ - มีรสชาติอ่อนๆ และหวานธรรมชาติ แม้ทานเปล่าๆ ก็ยังอร่อย
• กลิ่นหอมพิเศษ - มีกลิ่นหอมที่แตกต่างจากข้าวพันธุ์อื่น
• ปลูกในอากาศหนาวเย็น - อุณหภูมิที่เย็นของฮอกไกโดช่วยให้ข้าวมีคุณภาพดีขึ้นและสามารถเก็บรักษาได้นาน
รางวัลและมาตรฐานคุณภาพ
• Yumepirika ได้รับการรับรองมาตรฐาน 特A (Toku A) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของข้าวญี่ปุ่น
• เป็นข้าวที่ได้รับความนิยมในร้านอาหารระดับพรีเมียมทั่วญี่ปุ่น
• ได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลฮอกไกโดให้เป็นข้าวเกรดพรีเมียมของภูมิภาค
เมนูที่เหมาะกับ Yumepirika
เนื่องจาก Yumepirika เป็นข้าวที่มีความเหนียวนุ่มและมีรสหวานในตัว จึงเหมาะกับอาหารที่ต้องการข้าวคุณภาพสูง เช่น
• ข้าวสวย (Cooked Rice) - เมล็ดข้าวสวย เมื่อหุงสุกจะมีความเงาสวย เหมาะสำหรับทานแบบข้าวสวย
• ซูชิ (Sushi) - เมล็ดข้าวเหนียวกำลังดี จับตัวได้ง่าย ไม่แฉะเกินไป
• ข้าวปั้น (Onigiri) - รสชาติหวานธรรมชาติทำให้กินเปล่าๆ ก็อร่อย
• ข้าวญี่ปุ่นธรรมดา (Gohan) - เหมาะสำหรับทานคู่กับปลาย่างหรืออาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
• ข้าวหน้าอาหารทะเล (Kaisendon/Donburi) - ความหนึบของข้าวช่วยเสริมรสชาติของปลาดิบได้ดี
Yumepirika ถือเป็นข้าวที่ให้รสชาติที่ดีที่สุดของฮอกไกโด ถ้าคุณต้องการข้าวที่นุ่ม หอม และมีคุณภาพสูง Yumepirika คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
• ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
• ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบาๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
• กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
• ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำเวลาหุงข้าวจะนุ่มไม่กระด้าง
• หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆ คนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
• เก็บในที่แห้งและเย็น
• ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
• หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
• คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
• ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
• ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์
กินเหมือนบรรยากาศในร้าน ซุปเข้มข้น เส้นเหนียวหนึบ
น้ำซุปเข้มข้น ซัปโปโรโชยุราเมง อร่อย กลมกลม ในแบบของญี่ปุ่นแท้ๆ
ฟินกับเมนูราเมงได้ง่ายๆที่บ้าน ด้วยซุปซัปโปโรโชยุราเมง รสชาติอันเข้มข้นที่ได้จากโชยุหมักแบบธรรมชาติ ผสานกับกลิ่นหอมของผักเครื่องเทศที่ผัดจนหอมกรุ่น จากแบรนด์ Bellfoods เพียงผสมน้ำซุปเข้มข้นเข้ากับน้ำร้อนแล้วใส่เส้นพร้อมกับเครื่องเคียงที่ชอบลงไป เพียงเท่านี้ราเมงแสนอร่อยก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
วิธีรับประทาน
• ผสมน้ำซุป 1 ซอง กับน้ำร้อน 300 มล. คนให้เข้ากัน ใส่เส้นราเมงและเครื่องเคียงตามชอบ
• หากต้องการรสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้น สามารถลดปริมาณน้ำร้อนลงได้ตามต้องการ
ราเมนสไตล์อิเคอิ จากเมืองโยโกฮาม่า ซุปกลมกล่อม เส้นนุ่มอร่อย!
ราเมนรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของราเมนสไตล์อิเคอิ (Iekei)จากเมืองโยโกฮาม่า (Yokohama) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีน้ำซุปที่ผสมผสานระหว่างน้ำซุปกระดูกหมู โชยุ และเบสซุปไก่ ทำให้ตัวซุปมีรสชาติที่กลมกล่อมอย่างเป็นเอกลักษณ์ ตัวเส้นทำจากข้าวสาลีที่มีคุณภาพ ทำให้เส้นนุ่มและเข้ากันได้อย่างลงตัวกับน้ำซุป มาพร้อมทอปปิ้ง สาหร่าย ชาชู และต้นหอม เป็นอีกหนึ่งถ้วยราเมนที่คุณไม่ควรพลาด!
ซอสเกี๊ยวซ่า (Gyoza Sauce) แบรนด์ เบลฟู้ดส์ (Bell Foods) เป็นเครื่องปรุงรสสำเร็จรูปที่คิดค้นขึ้นเพื่อใช้เป็นน้ำจิ้มสำหรับเกี๊ยวซ่าโดยเฉพาะ เป็นที่ทราบกันดีว่า เกี๊ยวซ่าในประเทศญี่ปุ่นมักจะรับประทานคู่กับน้ำจิ้มที่มีส่วนผสมหลักของโชยุ (Shoyu) หรือซีอิ๊วญี่ปุ่น น้ำส้มสายชู (Vinegar) และน้ำมันพริกเผาญี่ปุ่นที่เรียกว่ารายุ (Rāyu) แต่สำหรับซอสเกี๊ยวซ่าของเบลฟู้ดส์นี้ ได้ถูกปรุงรสชาติมาอย่างพิถีพิถันจากส่วนผสมที่ลงตัว เพื่อให้ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
จุดเด่นของซอสเกี๊ยวซ่าเบลฟู้ดส์คือการผสมผสานรสชาติที่สมดุลระหว่างความเค็ม อมเปรี้ยว และเผ็ดเล็กน้อย โดยรสชาติที่โดดเด่นมาจากโชยุญี่ปุ่นที่มีคุณภาพ ผสมกับความเปรี้ยวจากน้ำส้มสายชูหมัก และความเผ็ดหอมของน้ำมันรายุ ซึ่งช่วยเติมเต็มรสอูมามิของเกี๊ยวซ่าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์นี้จึงมีความสะดวกอย่างยิ่ง เพราะไม่ต้องเสียเวลาผสมโชยุ น้ำส้มสายชู และรายุเอง ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับเกี๊ยวซ่ารสชาติดีได้ทันที
แม้ซอสนี้จะถูกออกแบบมาสำหรับเกี๊ยวซ่า แต่ด้วยรสชาติที่เข้มข้นกลมกล่อม ก็สามารถนำไปใช้เป็นน้ำจิ้มหรือน้ำราดสำหรับอาหารประเภทอื่น ๆ ได้อย่างลงตัว เช่น น้ำจิ้มสำหรับสเต็กแฮมเบิร์ก (Hamburg Steak) หรือใช้เป็นซอสสำหรับราดเต้าหู้เย็น (Hiyayakko) เพื่อเพิ่มรสชาติที่สดชื่น
วิธีใช้ซอสเกี๊ยวซ่า
1. จัดเรียงเกี๊ยวซ่าที่ทอดหรือนึ่งเสร็จแล้วลงในจาน
2. เทซอสเกี๊ยวซ่าลงในถ้วยเล็ก ๆ
3. จิ้มเกี๊ยวซ่ากับซอส และรับประทานได้ทันที
ลองเปิดประสบการณ์รสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ ด้วยซอสเกี๊ยวซ่าสำเร็จรูปขวดนี้ ที่จะช่วยให้การทำเกี๊ยวซ่าที่บ้านของคุณสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
เปิดประสบการณ์รสชาติของข้าวญี่ปุ่นแท้ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น "ราชาแห่งข้าว" ของประเทศญี่ปุ่น ด้วยคุณภาพที่โดดเด่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ
ข้าวชิ้นนี้คือ ข้าวโคชิฮิคาริ (Koshihikari) ซึ่งเป็นข้าวพันธุ์ยอดนิยมและมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าวที่มาจากจังหวัด นีงาตะ (Niigata) ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงด้านคุณภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น จังหวัดนีงาตะได้รับพรจากสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปลูกข้าวชั้นดี เช่น ดินที่อุดมสมบูรณ์จากตะกอนแม่น้ำสำคัญอย่างแม่น้ำชินาโนะ (Shinano River) และแม่น้ำอะงาโนะ (Agano River) รวมถึงมีน้ำบริสุทธิ์จากหิมะที่ละลาย (Snowmelt Water) และที่สำคัญคือ ความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืน ที่สูง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาความหวานและรสชาติของข้าว
ข้าวโคชิฮิคาริสายพันธุ์นีงาตะมีจุดเด่นหลัก ๆ ที่ทำให้เป็นที่รักของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน
ความเหนียวและหนึบ (Stickiness): มีสัมผัสที่ เหนียวหนึบ (Mochimochi) และยืดหยุ่นกำลังดี ไม่แข็งกระด้าง
ความหวานและอูมามิ (Sweetness & Umami): มีรสหวานตามธรรมชาติที่ชัดเจน และมีรส อูมามิ (Umami) ที่เข้มข้นในทุกเม็ด
กลิ่นหอมและเงางาม: เมื่อหุงสุกแล้วจะมี กลิ่นหอมที่ละมุน และเมล็ดข้าวจะมีความ เงางามเป็นประกาย น่ารับประทาน
ด้วยรสชาติที่โดดเด่นและสมดุล ทำให้ข้าวโคชิฮิคาริจากนีงาตะอร่อยมากแม้ว่าจะทานเปล่า ๆ โดยไม่ต้องมีกับข้าวค่ะ นอกจากนี้ยังรักษาความอร่อยไว้ได้ดีแม้จะเย็นลง จึงเหมาะมากสำหรับทำข้าวปั้น โอนิกิริ (Onigiri) หรือใส่ในกล่องข้าวเบนโตะ (Bento)
เมนูแนะนำ (Recipe Suggestion)
ข้าวโคชิฮิคาริมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่สมดุล ทำให้เข้ากันได้ดีกับอาหารหลากหลายประเภทค่ะ:
ข้าวสวย (Plain White Rice): ทานเปล่า ๆ คู่กับเครื่องเคียงง่าย ๆ อย่างซุปมิโสะ (Miso Soup) และผักดอง (Tsukemono) เพื่อสัมผัสรสชาติแท้ ๆ ของข้าว
ซูชิ (Sushi) และโอนิกิริ (Onigiri): ด้วยความเหนียวหนึบ ทำให้ปั้นได้ง่ายและคงรูปได้ดีเมื่อเย็นลง
เมนูอาหารญี่ปุ่นทั่วไป: เหมาะสำหรับทานคู่กับอาหารญี่ปุ่นแทบทุกชนิด เช่น ปลาย่าง, เทมปุระ (Tempura) หรือข้าวหน้าต่าง ๆ (Donburi)
วิธีใช้หรือวิธีเตรียม (Usage Instruction)
เพื่อให้ได้ข้าวที่อร่อยที่สุด ควรทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
1. ซาวข้าว (Rinsing): ซาวข้าวอย่างเบามือเพื่อล้างฝุ่นออก เปลี่ยนน้ำประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำเริ่มใส
2. แช่น้ำ (Soaking): แช่ข้าวในน้ำสะอาดทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ในฤดูร้อน หรือ 60 นาที ในฤดูหนาว เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำอย่างเต็มที่
3. หุง (Cooking): หุงตามอัตราส่วนน้ำที่ระบุบนเครื่องหุงข้าว หรือใช้อัตราส่วนข้าว 1 ส่วนต่อน้ำประมาณ 1.1 - 1.2 ส่วน
4. พักข้าว (Steaming): เมื่อหุงเสร็จแล้ว ห้ามเปิดฝา ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ไอน้ำระอุและข้าวสุกทั่วถึง ก่อนจะใช้ไม้พายคลุกเบา ๆ ก่อนตักเสิร์ฟค่ะ
ลองนำข้าวโคชิฮิคาริจากนีงาตะไปหุงดูสิคะ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมข้าวญี่ปุ่นแท้ ๆ ถึงมีเสน่ห์และเป็นหัวใจสำคัญของวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น ที่คุณก็สามารถสร้างสรรค์ความอร่อยนี้ได้ที่บ้านค่ะ