เคยลองทานถั่วเน่าญี่ปุ่น (นัตโตะ) หรือยังคะ?
หลายๆ คนที่เคยเดินทางไปญี่ปุ่น เมนูอาหารเช้าเกือบทุกโรงแรมในประเทศญี่ปุ่นต้องมีเสริ์ฟนัตโตะ (Natto) หรือถั่วเหลืองญี่ปุ่นหมัก รู้หรือไม่คะ ว่านัตโตะถือเป็นอาหารสุขภาพที่ชาวญี่ปุ่นต่างยกนิ้วให้ เพราะอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ มีวิตามินบี 12 สารต้านอนุมูลอิสระ และโปรไบโอติกที่ช่วยในการย่อย ทำให้กระเพาะและลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ทำให้นัตโตะถูกยกย่องให้เป็น Super Food
Shindo Fuji Fukuoka Jiman Natto เป็นนัตโตะที่ผลิตจากเมืองฟุกุโอกะ โดยคัดเลือกถั่วเหลืองเม็ดโตของขึ้นชื่อของเมือง นำมาหมักในกรรมวิธีดั้งเดิม จนได้นัตโตะที่มีกลิ่นเฉพาะตัว และรสชาติเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมซอสและมัสตาร์ดให้ได้ทานคู่กัน ใครที่ไม่เคยลอง อยากแนะนำให้เปิดใจค่ะ
เคยลองทานถั่วเน่าญี่ปุ่น (นัตโตะ) หรือยังคะ?
หลายๆ คนที่เคยเดินทางไปญี่ปุ่น เมนูอาหารเช้าเกือบทุกโรงแรมในประเทศญี่ปุ่นต้องมีเสริ์ฟนัตโตะ (Natto) หรือถั่วเหลืองญี่ปุ่นหมัก รู้หรือไม่คะ ว่านัตโตะถือเป็นอาหารสุขภาพที่ชาวญี่ปุ่นต่างยกนิ้วให้ เพราะอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ มีวิตามินบี 12 สารต้านอนุมูลอิสระ และโปรไบโอติกที่ช่วยในการย่อย ทำให้กระเพาะและลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ทำให้นัตโตะถูกยกย่องให้เป็น Super Food
Okina Natto Fukuoka เป็นนัตโตะที่ผลิตจากเมืองฟุกุโอกะ โดยคัดเลือกถั่วเหลืองของขึ้นชื่อของเมือง นำมาหมักในกรรมวิธีดั้งเดิม จนได้นัตโตะที่มีกลิ่นเฉพาะตัว และรสชาติเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมซอสและมัสตาร์ดให้ได้ทานคู่กัน ใครที่ไม่เคยลอง อยากแนะนำให้เปิดใจค่ะ
Natto เคล็ดลับสุขภาพดีของคนญี่ปุ่น
นัตโตะเป็นอาหารที่อัดแน่นไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยในเรื่องของกระดูก ดีต่อสุขภาพหัวใจ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และยังมีโปรไบโอติกที่ช่วยในการย่อย ทำให้กระเพาะและลำไส้ของเราทำงานได้ดีขึ้น ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานนัตโตะเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในมื้อเช้า เพียงแค่มีข้าวสวยร้อนๆ โปะด้วยนัตโตะและราดด้วยโชยุสักหน่อยก็พร้อมอร่อยได้ทันที ถือเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่คุณไม่ควรพลาด
“คางปลาบุรี” ความเรียบง่ายอย่างลงตัว
“บุรี” หรือปลา “ฮามาจิ” คือปลาในตระกูล (Yellow Tail) เป็นปลานำเข้าจากญี่ปุ่นชนิดเดียวในโลกที่มีชื่อเรียกหลากหลายไปตามช่วงอายุ จัดเป็นปลาเนื้อขาวที่มีความมันแทรกอยู่ในเนื้อ
“คางปลาบุรี” เป็นเมนูที่พบได้บ่อยในร้านอาหารญี่ปุ่น และเป็นที่นิยมในงานแต่งงานและงานเฉลิมฉลองอื่นๆ เนื่องจากมีรสชาติอร่อยและเนื้อนุ่มหอม เนื้อใต้คางมีไขมันอยู่มาก ซึ่งทำให้มีรสชาติหวานและเนื้ออร่อย การทำคางปลาบุรี จะใช้วิธีการย่างหรืออบที่ทำให้ผิวเนื้อนอกกรอบและนุ่มอยู่ภายใน มักจะปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยหรือโยชุ หรือเมนูต่างๆอีกมากมาย
วิธีทำคางปลาฮามาจิหรือปลาบุรีย่างเกลือ
1. ตั้งเตาถ่านสำหรับย่าง (ควรตั้งรอประมาณ 45 นาที ไฟจะร้อนพอดี ไม่แรงเกินไป)
2. วางคางปลาบุรีบนตะแกรงย่าง โรยเกลือเล็กน้อย ย่างประมาณ 10 นาที
3. ค่อยๆกลับด้านคางปลา โรยเกลืออีกด้าน แล้วทิ้งไว้อีก 10 นาที กลับด้านทุก 10 นาทีแบบนี้เรื่อยๆ จนสุก (ใช้เวลาทั้งหมด 20-30 นาที แล้วแต่ขนาดของคางปลา)
4. ยกคางปลาฮามาจิลงจาน นำหัวไชเท้าฝอยมาบีบน้ำออก ปั้นเป็นก้อนกลมๆ วางข้างชิ้นปลา พร้อมราดซีอิ๊วบนหัวไชเท้า ก็เสิร์ฟคางปลาบุรีย่างเกลือได้เลย
วิธีการเก็บ
• นำออกมาจากช่องแช่แข็งเฉพาะเท่าที่ต้องการจะประกอบอาหาร ไม่แนะนำให้นำออกมาละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
อร่อยสะดวกกับมิโซะที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่นมานานกว่า 20 ปี
เอ็นจูกุ โคจิ มิโซะ สติ๊ก (Enjuku Koji Miso Stick) จากแบรนด์ฮิคาริมิโซะ (Hikari-Miso) เป็นมิโซะที่บรรจุมาในรูปแบบซองแท่งสำหรับใช้ครั้งเดียว ให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติของซุปมิโซะที่สดใหม่ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยหมดกังวลกับปัญหามิโซะแห้งอันเนื่องมาจากการสัมผัสกับอากาศ เราเลือกใช้เอ็นจูกุ โคจิ มิโซะ หนึ่งในมิโซะที่ขายดีที่สุดมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี มีสีเบจสว่างและรสชาติอันสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างความอูมามิและความหวาน ผสมเข้ากับสาหร่ายทะเลและน้ำซุปดาชิจากปลาโบนิโต้ให้กลมกล่อมยิ่งขึ้น เนื้อมิโซะละลายง่าย เพียงเติมเต้าหู้และสาหร่ายวากาเมะลงไปซุปมิโซะร้อนๆ ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
วาราบิโมจิ (warabi mochi) หนึ่งในขนมพื้นเมืองของญี่ปุ่นที่อยากให้คุณได้ลอง
Honmono Nippon ชวนคุณมาลิ้มลองขนมพื้นเมืองของญี่ปุ่นอย่าง “วาราบิโมจิ” ที่มีเนื้อเนียนนุ่มละมุน มีความยืดหยุ่นมากกว่าโมจิทั่วไป มาพร้อมกับความหอมมันจากผงถั่วคินาโกะที่ทำมาจากถั่วเหลืองญี่ปุ่นคุณภาพดี นำมาบดและคลุกเคล้าด้านนอก ให้รสชาติที่หวานละมุน ไม่ว่าจะรับประทานคู่กับชาร้อนๆ หรือนำมาราดด้วยน้ำเชื่อมคุโรมิตสึก็อร่อยลงตัวค่ะ
วาราบิโมจิ (warabi mochi) หนึ่งในขนมพื้นเมืองของญี่ปุ่นที่อยากให้คุณได้ลอง
วาราบิโมจิ เป็นขนมโบราณดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่น ในยุคเฮอัน วาราบิถือเป็นขนมของชนชั้นสูง ขนมวาราบิโมจิจะมีลักษณะเป็นวุ้นเนื้อเนียนใส ให้สัมผัสเหนียว นุ่ม มีรสชาติหวานอ่อนๆ นำมาคลุกมับผงมัทฉะชั้นดี ที่มีความขมฝาด และให้กลิ่นหอม ตามแบบต้นฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ นิยมทานคู่กับชาร้อน
ปูอัดแท่งเกรดพรีเมียม อร่อยเต็มคำ
ปูอัดแท่งเกรดพรีเมียม ผลิตจากปลาเนื้อขาวคุณภาพดีบดละเอียด ผสมเข้ากับแป้งและเครื่องปรุงรสจนได้ปูอัดเนื้อนุ่มแน่น เกาะตัวเป็นเส้นสวยงาม ไม่เละหรือแข็งกระด้างจนเกินไป รสชาติหวานนิดๆ เค็มหน่อยๆ มีกลิ่นปูชัดเจน ไม่ว่าจะรับประทานกับโชยุและวาซาบิแบบญี่ปุ่น หรือจับคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บก็อร่อยลงตัว นอกจากนี้ยังสามารถนำไปทำสลัดโรลหรือเมนูอื่นๆ ที่คุณชื่นชอบได้อีกด้วย
เมนูสุดฮิตจากญี่ปุ่น มาแล้วค่ะ
คร็อกเก้ (Croquette) หรือ โคร็อกเกะ (コロッケ) ถือเป็นอาหารยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น ตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 นอกจากในญี่ปุ่นแล้ว เมนูนี้ยังฮิตมากในเกาหลีใต้อีกด้วย
วันนี้เราได้นำเข้าโคร็อกเกะจากเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ที่แค่เพียงใช้ไมโครเวฟก็สามารถทานได้ทันที โคร็อกเกะห่อนี้ได้ใช้วัตถุดิบจากฮอกไกโด เริ่มตั้งแต่เนื้อปู นม เนย ครีม ที่ทำจากนมฮอกไกโด จนได้ครีมซอสที่รสชาติเข้มข้น หอมมัน คลุกด้วยเกร็ดขนมปังญี่ปุ่น รสชาติแบบกรอบนอก ด้านในหอมมันเข้มข้น อร่อยมากๆ
สาหร่ายวากาเมะสดแบบแช่แข็งพร้อมนำไปปรุงอาหาร
สาหร่ายชนิดนี้เป็นที่นิยมในการทำอาหารเอเชียโดยเฉพาะในอาหารญี่ปุ่น วากาเมะมีลักษณะกรอบนุ่มและมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
สาหร่ายวากาเมะยังอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย อาทิเช่น โปรตีน ไอโอดีน และใยอาหารที่สูง ในขณะที่ให้พลังงานต่ำ จึงเป็นที่นิยมให้หมู่คนรักสุขภาพ
เหมาะสำหรับนำไปต้นเป็นน้ำซุป, ใส่ในซุปมิโสะ, ทำสลัด, ใช้เป็นเครื่องเคียงในเมนูอื่นๆ
ขั้นตอนในการเตรียมรับประทานใช้
• นำผลิตภัณฑ์ออกจากตู้แช่งแข็ง ทิ้งไว้ให้ละลาย
• แนะนำให้ละลายแค่ปริมานตามที่ต้องการใช้ในครั้งเดียว และเก็บส่วนที่เหลือในตู้แช่แข็งเพื่อรักษาความสดให้คงอยู่
• ไม่แนะนำให้ละลายทั้งถุง แล้วนำกลับมาเก็บไว้ในตู้แช่แข็ง เนื่องจากจะทำให้คุณภาพลดลง
เพลิดเพลินกับหนึ่งในขนมพื้นเมืองของญี่ปุ่นที่หลายๆ ต่างก็คนติดใจ
วาราบิ โมจิ (warabi mochi) บราวน์ ชูก้า มาในชิ้นที่พอดีคำ คลุกเคล้าด้วยผงคินาโกะ (ผงถั่วเหลลือง) ทำให้รสชาติที่ได้มีความหวาน หอม ละมุนลิ้น และสัมผัสเหนียวนุ่มที่ยืดหยุ่นมากกว่าโมจิทั่วไป ไม่ว่าจะรับประทานคู่กับชาร้อนๆ หรือนำมาราดด้วยน้ำเชื่อมคุโรมิตสึก็อร่อยลงตัว หรือจะใช้เป็นท็อปปิ้งกับไอศครีมแสนอร่อยก็เข้ากันสุดๆเลยค่ะ
ไส้กรอกอาราบิกิ เนื้อแน่น เต็มคำ
คนที่ชื่นชอบไส้กรอกคงจะไม่พลาดไส้กรอกอาราบิกิกันใช่ไหมคะ ไส้กรอกอาราบิกิเป็นไส้กรอกสไตล์ญี่ปุ่นที่มีจุดเด่นตรงเนื้อสัมผัสด้านในที่ทำมาจากเนื้อสัตว์บดแบบหยาบๆ ให้เรารู้สึกได้ถึงชื้นเนื้อเต็มคำเวลาเคี้ยว ส่วนหนังด้านนอกจะกรอบและหอมกลิ่นรมควันเป็นพิเศษ สำหรับไส้กรอกอาราบิกิห่อนี้เราใช้หมูอนามัย ปราศจากสารเร่งเนื้อแดง นำมาปรุงด้วยซอสจากแบรนด์ Nihon Shokken ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตซอสอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น บรรจุในไส้แกะแท้ กรอบ หอม อร่อย ลองแล้วจะติดใจค่ะ
วิธีรับประทานและจัดเก็บ
• สะดวกและง่ายดาย เพียงนำไส้กรอกตามปริมาณที่ต้องการมาทอดบนกระทะหรืออุ่นในไมโครเวฟก็พร้อมเสิร์ฟค่ะ
• แนะนำให้นำออกมาทอดตามปริมาณที่ต้องการรับประทานในแต่ละครั้ง และเก็บส่วนที่เหลือในช่องแช่แข็งเพื่อคงคุณภาพของสินค้า
• ไม่แนะนำให้นำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
เมล็ดถั่วแระญี่ปุ่นพร้อมทาน อาหารว่างสารพัดประโยชน์
หลายท่านคงชื่นชอบการรับประทานถั่วแระญี่ปุ่นกันใช่ไหมคะ เพราะนอกจากจะอร่อยแล้วถั่วแระญี่ปุ่นยังอุดมไปด้วยโปรตีน, แร่ธาตุ, วิตามิน, ใยอาหาร, ไขมันดี และสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย เราคัดเลือกถั่วแระญี่ปุ่นคุณภาพดีมาแกะจนเหลือแต่เมล็ด แล้วนำไปแช่แข็งอย่างรวดเร็วเพื่อรักษารสชาติ ความสดใหม่ และคงคุณค่าของสารอาหารต่างๆ ไว้ให้ได้มากที่สุด เพียงนำมาละลายหรืออุ่นด้วยไมโครเวฟไม่กี่นาทีก็พร้อมเสิร์ฟ ไม่ว่าจะรับประทานเป็นของว่าง, เครื่องเคียง, ใส่ในสลัด หรือปรุงเมนูอื่นๆ ก็อร่อยค่ะ
อิคุระ (Ikura) อีกหนึ่งเมนูแสนอร่อยสไตล์ญี่ปุ่น
อิคุระ คือ ไข่ของปลาแซลมอน มีลักษณะเป็นเม็ดกลมสีส้ม ด้านในเป็นน้ำที่เมื่อกัดจะแตกออกมา ผิวสัมผัสด้านนอกกรึบนิดๆ ด้านในมีรสเค็มอ่อนๆ ที่มาจากการดองในโชยุ มิริน และเครื่องปรุงรสอื่นๆ เพื่อให้มีรสชาติอร่อยกลมกล่อมตามสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม เหมาะสำหรับใช้ทำเป็นหน้าซูชิ, ข้าวดงบุริ, ทานคู่กับบะหมี่เย็น (ซารุ ราเมน), สอดไส้โอนิกิริ หรือประยุกต์ใช้ในเมนูอื่นๆ ตามสไตล์ของคุณเองก็ได้ค่ะ
เต้าหู้ทอดอินาริ (Inari) ความอร่อยในแบบฉบับญี่ปุ่น
อินาริ (Inari) หรือเต้าหู้ทอดปรุงรส มีรสชาติหวานเค็มกำลังดี เต้าหู้จะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมเหมือนกระเป๋า เมนูยอดนิยมคือ อินาริซูชิ ซึ่งจะใส่ข้าวซูชิเข้าไปข้างในตัวของแผ่นเต้าหู้และท็อปปิ้งด้วยหน้าต่างๆ หรือเมนูคิทซึเนะอูด้ง อูด้งมีที่วัตถุดิบหลักเป็นเต้าหู้ทอด วางอยู่ด้านบน เพราะรสชาติของเต้าหู้ทอดที่ออกหวานเค็มจะเข้ากันได้อย่างลงตัวกับน้ำซุป หรือจะหั่นเต้าหู้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วทานเป็นชาบูหรือสุกี้ ก็ได้เช่นกันค่ะ
ชีสสติ๊กยืดๆ อร่อยเพลินเกินต้าน
มอสซาเรลลาชีสคุณภาพดีนำมาคลุกเกล็ดขนมปังกรุบกรอบ เพียงทอดไม่กี่นาทีก็พร้อมเสิร์ฟ ให้คุณได้ฟินกับความกรอบอร่อยพร้อมชีสยืดๆ เยิ้มๆ หอมๆ ด้านใน ติดใจแน่นอนค่ะ
วิธีรับประทาน
• นำชีสสติ๊กลงทอดในน้ำมันปริมาณมากที่ไฟปานกลางหรืออุณหภูมิประมาณ 170-175 องศาเซลเซียส จนเป็นสีเหลืองทอง จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลยค่ะ
• แนะนำให้นำออกมาทอดตามปริมาณที่ต้องการรับประทานในแต่ละครั้ง และเก็บส่วนที่เหลือในช่องแช่แข็งเพื่อคงคุณภาพของสินค้า
• ไม่แนะนำให้นำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
ไข่หอยเม่นทะเลแช่แข็ง
อูนิ (Uni) หรือไข่หอยเม่น วัตถุดิบจากทะเลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื้ออูนิจะมีความนุ่มละมุน มีความครีมมี่ กลมกล่อม ละลายในปาก จนเปรียบเทียบได้ว่าเป็น "เนยแห่งท้องทะเล" หากคุณเป็นคนที่ชอบกลิ่นของทะเลและเนื้อสัมผัสที่ละมุนลิ้น อูนิเป็นหนึ่งในสิ่งที่แนะนำให้ลองทานค่ะ
เมนูแนะนำ
• พาสต้าซอสอูนิ : ครีมซอสที่ทำจากอูนิ ใส่ในพาสต้าเพื่อเพิ่มความเข้มข้นและรสชาติที่มีความหรูหรา
• อูนิไข่ตุ๋น : อูนิสามารถวางบนหน้าหรือผสมในไข่ตุ๋นญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มความหอมมัน
• ข้าวหน้าทะเล (Kaisen Don) : เป็นข้าวหน้าซีฟู้ดที่มักใส่อูนิพร้อมกับอาหารทะเลสดอื่นๆ
• ซุป : บางครั้งอูนิจะถูกนำมาใช้ในซุป เพื่อเพิ่มความหอมและรสอูมามิของน้ำซุป
ชีสบอลแสนอร่อย หอมกลิ่นพิซซ่า
เอาใจคนรักชีสด้วยชีสบอลแสนอร่อย ให้คุณเพลิดเพลินกับชีสยืดๆ เยิ้มๆ ที่มาพร้อมกลิ่นพิซซ่าหอมๆ ตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี ชิ้นเดียวไม่เคยพอ
วิธีรับประทาน
• นำชีสบอลลงทอดในน้ำมันปริมาณมากที่ไฟปานกลางหรืออุณหภูมิประมาณ 170-175 องศาเซลเซียส จนเป็นสีเหลืองทอง จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลยค่ะ
• แนะนำให้นำออกมาทอดตามปริมาณที่ต้องการรับประทานในแต่ละครั้ง และเก็บส่วนที่เหลือในช่องแช่แข็งเพื่อคงคุณภาพของสินค้า
• ไม่แนะนำให้นำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
หมูชาชูสไลซ์แช่แข็ง ความอร่อยง่ายๆ ที่ควรมีติดบ้านคุณ
เติมความอร่อยให้อาหารจานโปรดของคุณด้วยหมูชาชูสไลซ์สไตล์ญี่ปุ่น เราคัดสรรมาเฉพาะเนื้อส่วนท้อง (Belly) ที่มีความมันกำลังดี นำมาผ่านกรรมวิธีการหมักอย่างพิถีพิถันจนรสชาติกลมกล่อมเข้าเนื้อตามสไตล์ญี่ปุ่น
สามารถนำไปทำได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นราเมง, ข้าวหน้าหมูชาชู, ข้าวหน้าแกงกะหรี่, หรือเมนูไทยๆ อย่างผัดผัก, ผัดกะเพรา, ต้มยำ ก็อร่อยได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถนำมาทานคู่กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบง่ายๆ ช่วยเพิ่มความครบเครื่องในมื้อเร่งรีบของคุณได้เป็นอย่างดีค่ะ
สเต็กไก่ทอดกรุบกรอบ สอดไส้ชีสหอมกรุ่น
สำหรับใครที่มองหาอาหารพร้อมทานไว้เติมสต็อกช่องแช่แข็งที่บ้าน เราขอแนะนำสเต็กไก่ทอดสอดไส้ชีสเยิ้มๆ หอมกรุ่นให้คุณได้ลิ้มลอง มั่นใจในความอร่อยด้วยเนื้อไก่คุณภาพดีคัดสรรจากโรงงานที่ได้มาตรฐานส่งออก นำมาสอดไส้ชีสเค็มๆ มันๆ แล้วคลุกกับเกล็ดขนมปังด้านนอก เพียงทอดไม่กี่นาทีก็พร้อมเสิร์ฟ ราดด้วยซอสทงคัตสึอีกนิด รับประทานคู่กับผักสลัดและข้าวสวยร้อนๆ แค่นี้ก็ได้เมนูเด็ดประจำบ้านเพิ่มแล้วค่ะ
วิธีรับประทาน
• นำสเต๊กลงทอดในน้ำมันปริมาณมากที่ไฟปานกลางหรืออุณหภูมิประมาณ 170-175 องศาเซลเซียส จนเป็นสีเหลืองทองทั้งสองด้าน จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลยค่ะ
• แนะนำให้นำออกมาทอดตามปริมาณที่ต้องการรับประทานในแต่ละครั้ง และเก็บส่วนที่เหลือในช่องแช่แข็งเพื่อคงคุณภาพของสินค้า
• ไม่แนะนำให้นำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
สำหรับคนที่ชอบทานปลาไหลญี่ปุ่นย่างซีอิ๊ว มาทางนี้ค่ะ
ที่ประเทศญี่ปุ่น จะมีเทศกาลวันทานปลาไหล ในช่วงฤดูร้อน เพราะเชื่อว่าหากทานในช่วงเวลานี้จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงตลอดทั้งปี เพราะปลาไหลอุดมด้วยคุณค่าทางอาหาร ช่วยให้ร่างกายไม่อ่อนเพลียจากอากาศที่ร้อน วันนี้เรามีปลาไหลน้ำจืดสายพันธุ์ญี่ปุ่น ที่เนื้อนุ่มแน่น คัดเฉพาะไซส์ใหญ่พิเศษ นำมาย่างจนมีกลิ่นหอม ทาด้วยซีอิ๊วรสชาติเค็มๆ หวานๆ ตามสูตรลับเฉพาะของทางแบรนด์ ยิ่งทาน ยิ่งอร่อย ที่สำคัญราคาไม่แพง!! เพราะราคานี้ ท่านจะได้ทานปลาไหล 1 ตัว!!! ที่สำคัญทำง่ายมาก เพียงแค่ฉีกซอง อุ่นร้อนในไมโครเวฟ เพื่อความอร่อยยิ่งขึ้น ทานคู่กับข้าวญี่ปุ่น เนื้อนุ่มเคี้ยวหนุบ ยิ่งอร่อยค่ะ
ขอเชิญคุณมาสัมผัส "รสชาติใหม่" ของวาซาบิ ที่แตกต่างจากวาซาบิบดแบบเดิม ๆ ค่ะ นี่คือประสบการณ์ของความเผ็ดซ่าที่มาพร้อมกับเนื้อสัมผัสกรุบกรอบในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่คุณไม่ควรพลาดเลยนะคะ
คิซามิ วาซาบิ (Kizami Wasabi) แปลตรงตัวว่า วาซาบิสับ (Chopped Wasabi) เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเอา ก้านและหัววาซาบิแท้ (Hon Wasabi) มาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ หยาบ ๆ แทนการนำไปบดละเอียดแบบที่เราคุ้นเคยกันค่ะ จากนั้นจึงนำไปปรุงรสด้วย โชยุ (Shoyu) และเครื่องปรุงอื่น ๆ ในสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อให้ได้วาซาบิที่มีรสชาติกลมกล่อม มีความเผ็ดซ่าที่ลงตัว และมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของวาซาบิแท้ Kinjirushi เป็นแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านวาซาบิที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนานในประเทศญี่ปุ่น โดยผลิตภัณฑ์ "คิซามิ วาซาบิ รสโชยุ" นี้ เป็นหนึ่งในสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างสูงและมีชื่อเสียงในเรื่องรสชาติที่เข้มข้นจัดจ้าน ทำให้สามารถนำไปใช้ร่วมกับอาหารได้หลากหลายประเภทมากขึ้น
จุดเด่นสำคัญของ คิซามิ วาซาบิ คือ เนื้อสัมผัสแบบ "กรุบกรอบ" (Shakishaki) จากชิ้นส่วนของก้านวาซาบิที่ถูกสับหยาบ ๆ ซึ่งให้ความสนุกและมิติใหม่ในการรับประทาน ไม่เหมือนวาซาบิแบบบดที่เป็นเนื้อครีม และด้วยการปรุงรสด้วยโชยุ ทำให้วาซาบิชนิดนี้มีรส อูมามิ (Umami) แทรกอยู่ จึงสามารถใช้เป็นเครื่องปรุงรสหรือเครื่องเคียงได้ทันทีโดยไม่ต้องผสมโชยุเพิ่ม ความเผ็ดซ่าของวาซาบิถูกปรุงให้อยู่ในระดับที่กำลังดี สามารถคงความเผ็ดซ่า (Tsuun) ที่ตีขึ้นจมูกได้ยาวนาน และยังให้กลิ่นหอมที่สดชื่นของวาซาบิแท้อีกด้วยค่ะ
เมนูแนะนำ (Recipe Suggestion)
1.ทานคู่กับเนื้อวัว: เหมาะสำหรับทานคู่กับสเต็กหรือเนื้อย่างวากิว (Wagyu) เพียงแค่แตะวาซาบิเล็กน้อยบนชิ้นเนื้อ ก็จะได้รสชาติที่ลงตัวและเพิ่มความหอมสดชื่น
2.สำหรับเมนูซูชิ/ซาชิมิ: ใช้แทนวาซาบิแบบบด เพื่อเพิ่มความจัดจ้านและรสสัมผัสกรุบ ๆ
3.ท็อปปิ้งอาหาร: โรยบนข้าวหน้าปลาดิบ (Chirashi-don), ข้าวหน้าเนื้อ (Gyudon), เต้าหู้เย็น (Hiyayakko), หรือไข่ตุ๋นแบบญี่ปุ่น (Chawanmushi)
วิธีใช้หรือวิธีเตรียม (Usage Instruction)
1.นำสินค้าออกมาจากช่องแช่แข็งในปริมาณที่ต้องการใช้
2.ปล่อยให้ละลายน้ำแข็งตามธรรมชาติในอุณหภูมิห้อง หรือในตู้เย็น (ใช้เวลา 10-20 นาที)
3.เมื่อละลายแล้ว สามารถเปิดซองและตักวาซาบิพร้อมปรุงรสแล้วมาใช้เป็นเครื่องเคียงได้ทันทีค่ะ
หลังเปิดซองแล้ว ควรกดซิปล็อกปิดปากถุงให้แน่น และเก็บในช่องแช่แข็งตามเดิมเพื่อรักษาคุณภาพและความสดใหม่ของวาซาบิค่ะ
***ข้อควรระวัง: ไม่ควรนำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งซ้ำ
ลองเพิ่ม คิซามิ วาซาบิ เข้าไปในมื้ออาหารของคุณดูสิคะ แล้วคุณจะได้เพลิดเพลินกับรสชาติและเนื้อสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์แบบญี่ปุ่นแท้ ที่จะช่วยยกระดับเมนูโปรดของคุณให้พิเศษยิ่งขึ้นได้ที่บ้านค่ะ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะ หรืออยากลองสัมผัสรสชาติอันลุ่มลึกของวัตถุดิบระดับพรีเมียม “ตับปลาอังกิโมะ” คือหนึ่งในเมนูที่ห้ามพลาด!
อังกิโมะคืออะไร?
อังกิโมะ (Ankimo) คือตับของปลาอังโกะ (Anko Fish) หรือ มังค์ฟิช (Monkfish) ซึ่งเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในทะเลลึก ถือเป็นหนึ่งในอาหารชินมิ (Chinmi) หรืออาหารเลิศรสที่หาทานได้ยากของญี่ปุ่น ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล" เพราะมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มคล้ายตับห่าน มีรสชาติเค็มอ่อน ๆ และมีความหอมมันอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ทำไมถึงอร่อยและพิเศษ?
ตับปลาอังกิโมะของเรา เป็นสินค้าที่ผ่านกระบวนการปรุงรสและต้มมาอย่างพิถีพิถันจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน จึงมีรสชาติที่กลมกล่อมและพร้อมรับประทานทันที ไม่ต้องนำมาปรุงเพิ่มให้ยุ่งยาก ทำให้คุณได้สัมผัสกับรสชาติแบบดั้งเดิมของอังกิโมะได้อย่างง่ายดาย นอกจากความอร่อยแล้ว อังกิโมะยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เช่น วิตามิน A, วิตามิน D และไขมันดีในปริมาณที่สูงอีกด้วย
เมนูที่ทำได้ง่ายๆ
เมนูจากตับปลาอังกิโมะสามารถทำได้หลากหลาย และแต่ละเมนูล้วนช่วยดึงรสชาติความอร่อยออกมาได้อย่างเต็มที่
- ทานเป็นกับแกล้ม: เสิร์ฟอังกิโมะแช่เย็นคู่กับต้นหอมซอย, โมมิจิโอโรชิ (หัวไชเท้าขูดผสมพริก) และซอสพอนสึ (Ponzu Sauce) เพื่อเพิ่มความสดชื่นและตัดความมัน
- ทำเป็นนิกิริซูชิ: วางชิ้นอังกิโมะบนข้าวปั้นซูชิ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมในร้านซูชิระดับพรีเมียม
- ทำเป็นสลัด: หั่นอังกิโมะเป็นชิ้นพอดีคำ วางบนสลัดผัก ราดด้วยน้ำสลัดงา หรือซอสพอนสึ
วิธีเตรียมตับปลา
1. นำอังกิโมะออกจากตู้เย็น วางไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 30-40 นาที เพื่อทำการละลาย
2. แกะซองและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
3. จัดวางบนจาน และนำไปใช้ประกอบเมนูได้ตามต้องการ
*สินค้าบรรจุมาในซองสุญญากาศแบบพร้อมทาน
เปิดประสบการณ์ความอร่อยสุดพิเศษจากท้องทะเลลึกได้แล้ววันนี้! ตับปลาอังกิโมะ พร้อมให้คุณได้ลิ้มลองความอร่อยแบบต้นตำรับญี่ปุ่นได้ง่าย ๆ ที่บ้านของคุณ
เปรี้ยวสดชื่น เคล็ดลับความอร่อยระดับพรีเมียมที่เชฟญี่ปุ่นไม่เคยบอกคุณ!
ยูสุ เป็นผลไม้ตระกูลซิตรัสที่มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในจังหวัดโคจิและโทคุชิมะ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกยูสุที่ขึ้นชื่อที่สุดในประเทศ นิยมใช้ยูสุในอาหารระดับพรีเมียม เปลือกยูสุมีรสเปรี้ยวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ถูกนำมาหั่นเป็นเส้นอย่างประณีตและนำมาแช่แข็งในสภาพที่ยังไม่ผ่านความร้อน เพื่อรักษากลิ่นหอมและรสชาติให้สดใหม่ เพื่อคงความหอมสดชื่นราวกับเพิ่งเก็บจากต้น ทำให้สามารถเติมเต็มกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมให้กับทุกจานอาหารได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะนำมาปรุงกับซุปนาเบะ โซบะ ปลาย่าง หรือแม้แต่ทำซอสยูสุปองสึ น้ำสลัด เครื่องดื่ม และของหวาน ก็ยกระดับรสชาติให้นุ่มละมุนและหอมสดชื่นขึ้นทำให้ทุกจานของคุณพิเศษกว่าที่เคย
จุดเด่นสำคัญ:
• กลิ่นหอมแรง : เปลือกยูซุมีความหอมสดชื่นเป็นพิเศษ และการแช่แข็งแบบดิบช่วยล็อคกลิ่นนี้ไว้
• ลดความขม : มีการกำจัดส่วนที่เป็นใยสีขาวด้านในออกอย่างดี ทำให้ได้เฉพาะเปลือกสีเหลืองสดที่มีกลิ่นหอมแต่ไม่ขม
• สะดวกต่อการใช้ : เป็นแบบแช่แข็งที่สามารถ ตักออกมาใช้ได้ตามปริมาณที่ต้องการโดยไม่ต้องละลาย ทำให้ใช้งานง่ายมาก
วิธีใช้ :
• นำออกจากช่องแช่แข็ง และละลายเล็กน้อยก่อนใช้
• โรยบนปลาย่าง โซบะ ซุป หรืออาหารญี่ปุ่นอื่นๆ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่น
• ผสมในเครื่องดื่ม เช่น ชาเขียว ยูซุโซดา หรือม็อกเทลเพื่อรสเปรี้ยวหอม
• ใช้แต่งขนมหวาน เช่น เค้ก ไอศกรีม หรือยูซุมูส เพื่อเพิ่มความละมุน
• แค่เพียงสัมผัสเดียว คุณก็จะได้กลิ่นหอมสดใสแบบญี่ปุ่นแท้ — ความพิเศษที่เชฟและคนรักอาหารญี่ปุ่นทั่วโลกเลือกใช้
แนะนำอาหารที่เข้ากัน :
• ปลาดิบหรือปลาย่างเกลือ (เพิ่มกลิ่นหอมสดชื่น)
• ยำสาหร่ายยูซุ
• สลัดผักยูซุดรสซิ่ง
• ชาเย็นยูซุโซดา
• ยูซุมูสเค้กหรือยูซุมาการอง
ขนมญี่ปุ่นแบบเบาๆ ไม่หวานเลี่ยน และ ได้รสชาติชาเขียวแท้ๆ ต้องไม่พลาด
ใครที่กำลังมองหาของหวานญี่ปุ่นแบบเบาๆทานง่าย และให้ความรู้สึกสดชื่นไม่เหมือนใคร ต้องลอง วาราบิโมจิตัวนี้ ขนมชิ้นเล็กๆนี้จะทำให้วันของคุณสดใสขึ้นแน่นอน วาราบิโมจิเป็นขนมหวานญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ทำจากแป้งวาราบิ(แป้งที่สกัดจากหัววาราบิ) ที่มีจุดเด่นคือ สัมผัสที่นุ่มนิ่มเหมือนเยลลี่ แต่จะมีความเหนียวนุ่มและยืดหยุ่นกว่าโมจิทั่วไป วาราบิโมจิชิ้นนี้พิเศษตรงที่เป็นรสชาเขียวมัทฉะ และถูกนำไปคลุกเคล้ากับผงชาเขียวมัทฉะ หอมๆจนทั่วชิ้น ผงชาเขียวมัทฉะ นั้นมาจากจังหวัดชิซึโอกะซึ่งเป็นแหล่งผลิตชาเขียวคุณภาพเยี่ยมของญี่ปุ่น ทำให้ได้รสชาติเข้มข้น หอมละมุน และมีขมเล็กน้อยแบบเป็นธรรมชาติมาตัดกับความหวานอ่อนๆ ของตัวโมจิได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับเป็นของว่างยามบ่าย ทานคู่กับชาเขียวร้อนที่ไม่หวานเลย หรือจะลองทานคู่กับกาแฟดำก็เข้ากันดี รับรองว่าความนุ่มนิ่มและรสชาติชาเขียวแท้ๆ จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นเหมือนได้นั่งพักผ่อนอยู่ในญี่ปุ่น
วิธีทานวาราบิโมจิ :
• การละลายน้ำแข็ง : นำถุงวาราบิโมจิออกจากช่องแข็ง แล้วย้ายไปใส่ในตู้เย็นช่องธรรมดา หรือวางไว้ที่อุณหภูมิห้อง เพื่อให้ละลายน้ำแข็งอย่างช้า ๆ (ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง)
• ความเย็นคือหัวใจ : ขนมนี้จะอร่อยที่สุดเมื่อทานแบบเย็น เพื่อสัมผัสถึงความนุ่มหนึบและความเย็นชื่นใจ
• พร้อมเสิร์ฟ : เมื่อละลายน้ำแข็งแล้ว สามารถแกะซองและรับประทานได้ทันที
• เพิ่มรสชาติ : หากต้องการรสชาติแบบดั้งเดิมยิ่งขึ้น สามารถราดด้วยน้ำเชื่อมคุโรมิตซึ(น้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดง) ได้ตามความชอบ
เมนูทานคู่แนะนำ
วาราบิโมจิรสชาเขียวมีรสชาติมัทฉะเข้มข้น หอม และหวานอ่อนๆ จึงเข้ากันได้ดีกับเครื่องดื่มและของหวานอื่นๆ ดังนี้:
คู่กับชาญี่ปุ่น :
• มัทฉะร้อน/เย็น : เพื่อเสริมความหอมเข้มของชาเขียวให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
• โฮจิฉะ : ชาเขียวคั่วที่มีกลิ่นหอมอบอุ่น จะช่วยตัดรสหวานได้อย่างลงตัว
• เซนฉะ : ชาเขียวใบที่มีรสชาติบางเบาและสดชื่น
คู่กับกาแฟ:
• กาแฟดำเย็น/ร้อน : ความขมของกาแฟจะช่วยดึงความหวานและความหอมของมัทฉะในโมจิออกมา
• ลาเต้: เข้ากันได้ดีกับความนุ่มละมุนของวาราบิโมจิ
คู่กับของหวานอื่น ๆ:
• ท็อปปิ้งไอศกรีม: นำไปวางบนไอศกรีมรสวานิลลา หรือไอศกรีมถั่วแดง เพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสที่นุ่มหนึบ
• พาร์เฟต์สไตล์ญี่ปุ่น: ใช้เป็นส่วนประกอบในพาร์เฟต์หรือน้ำแข็งไส เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับเมนู
• เครื่องดื่มสร้างสรรค์: ใช้เป็นท็อปปิ้งในเครื่องดื่มประเภทนมหรือชา เช่น มัทฉะลาเต้ หรือบราวน์ชูการ์
โคร็อกเกะครีมกุ้งเมนูที่ควรมีติดบ้าน
โคร็อกเกะกรอบนอกนุ่มใน สอดไส้ครีมซอส หอม มัน รสชาติกลมกล่อมนุ่มนวล พร้อมเนื้อกุ้งเน้นๆ เต็มคำ
สัมผัสความอร่อยต้นตำรับจากญี่ปุ่น ด้วยดังโงะไส้งาดำคั่ว หอม มัน ลงตัว
หากคุณกำลังมองหาขนมญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์จากประเทศญี่ปุ่นแท้ๆ "ขนมดังโงะไส้งาดำคั่วบด" ขนมชื่อดังจากจังหวัดอิวาเตะ ที่มีขนาดพอดีคำที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านโชเอโดะ ร้านเก่าแก่ที่สืบทอดสูตรขนมพื้นบ้านมานานหลายชั่วอายุคน คือจุดเริ่มต้นของขนมดังโงะ ที่จะพาคุณย้อนเวลากลับไปสัมผัสเสน่ห์ของญี่ปุ่นในอดีต ขนมดังโงะแต่ละลูกถูกปั้นอย่างประณีตจากแป้งที่ผสมข้าวเหนียวกับข้าวเจ้าตามสูตรลับ ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่ม หนึบหนับ และเคี้ยวง่าย สอดไส้ด้านในด้วยงาดำที่ผ่านการคั่วและบดละเอียดจนหอมกรุ่น ผสมคลุกเคล้ากับโชยุ(ซอสถั่วเหลือง)อย่างพอดีจนได้รสกลมกล่อม หอมหวานกำลังดี ทำให้เมื่อกัดเข้าไปไส้จะทะลักออกมา สร้างความสนุกและความอร่อยในคำเดียว
วิธีการรับประทาน
เนื่องจากขนมดังโงะ ส่วนใหญ่มักจะถูกจำหน่ายในรูปแบบแช่แข็ง เพื่อคงความสดใหม่ของไส้ทะลักและเนื้อสัมผัสที่หนึบหนับ วิธีรับประทานที่ดีที่สุดคือ :
• ทานทั้งคำ : ควรทานทั้งลูกในคำเดียว ป้องกันไม่ให้ไส้งาดำที่หอมหวานและเนื้อละมุนไหลออกมา
• ละลายน้ำแข็ง : นำออกจากช่องแช่แข็งและวางไว้ในอุณหภูมิห้องประมาณ 1-2 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
• อุ่นไมโครเวฟ : ควรใช้ไฟอ่อนถึงปานกลาง (ประมาณ 500-600 วัตต์) ระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 30 วินาที - 1 นาที
คำแนะนำ : เมื่อละลายน้ำแข็งแล้ว ควรเก็บในตู้เย็นและรับประทานให้หมดภายใน 4 วัน(นับรวมวันที่ละลาย) การนำกลับไปแช่แข็งซ้ำ จะทำให้รสชาติและเนื้อสัมผัสแย่ลงอย่างมาก ห้ามทำซ้ำโดยเด็ดขาด!
แนะนำอาหาร
• ทานคู่กับชาเขียวร้อน (มัทฉะ หรือเซ็นฉะ) จะช่วยเสริมความหวานของไส้งาดำและสร้างสมดุลรสชาติ
• ทานคู่กับนมสดอุ่นๆ หรือกาแฟดำสำหรับมื้อของว่างยามบ่าย
• เสิร์ฟพร้อมกับผลไม้สดตามฤดูกาล เช่น สตรอว์เบอร์รี่ หรือองุ่น เพื่อเพิ่มความสดชื่น
นี่คือของฝากที่คุณไม่ควรพลาด เพราะเป็นมากกว่าแค่ขนม แต่คือเรื่องราวของภูมิปัญญาและวัฒนธรรมการกินจากเมืองแห่งโมจิอย่าง อิชิโนเซกิ จังหวัดอิวาเตะ ของญี่ปุ่นแท้ๆ ค่ะ!
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในรสชาติไข่ปลาแซลมอนอันเป็นเอกลักษณ์ ตอนนี้คุณสามารถสัมผัสความอร่อยแบบต้นตำรับญี่ปุ่นได้ง่ายๆได้ที่บ้าน ด้วยไข่ปลาแซลมอน จากแบรนด์ นิสซุย (Nissui) ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารทะเลญี่ปุ่น
ไข่ปลาแซลมอน คืออะไร?
ไข่ปลาแซลมอน (いくら - Ikura - อิคุระ) ของนิสซุยผลิตจากไข่ปลาแซลมอนคุณภาพเยี่ยม ผ่านกระบวนการหมักในซอสโชยุสูตรพิเศษจากแบรนด์นิสซุย ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงรสอาหารทะเลญี่ปุ่น ที่ช่วยดึงรสอูมามิออกมาได้อย่างเต็มที่ ทำให้ได้ไข่ปลาที่มีรสชาติกลมกล่อม หอมมัน และไม่เค็มจนเกินไป
จุดเด่นของไข่ปลาแซลมอนจากแบรนด์นิสซุย
รสชาติแบบต้นตำรับ: ด้วยสูตรการหมักเฉพาะตัว ทำให้ไข่ปลามีรสชาติที่สมดุล และสามารถนำไปรับประทานได้ทันทีโดยไม่ต้องปรุงเพิ่ม
ความสดใหม่คุณภาพสูง: ผลิตจากไข่ปลาแซลมอนที่สดใหม่ ผ่านกรรมวิธีที่ได้มาตรฐานระดับสากล ทำให้ได้เม็ดไข่ปลาที่สวยใส มีผิวสัมผัสแบบ "พุจิ พุจิ" (ปุดๆ) เมื่อกัดจะแตกในปาก มอบความรู้สึกที่น่าประทับใจ
เมนูแนะนำที่ทำได้ง่ายๆ
ด้วยความที่ไข่ปลาของเราปรุงรสมาอย่างพิธีพิถันมาเรียบร้อย จึงสามารถนำไปสร้างสรรค์เมนูญี่ปุ่นยอดนิยมได้อย่างง่ายดาย
ข้าวหน้าไข่ปลา (Ikura Don): ตักไข่ปลาแซลมอนโปะลงบนข้าวสวยญี่ปุ่นร้อน ๆ ก็อร่อยได้ทันที
ซูชิ: ใช้เป็นหน้าซูชิแบบนิกิริ หรือซูชิแบบเรือ (Gunkanmaki)
สลัด: นำไปโรยบนสลัด เพื่อเพิ่มรสชาติและสีสัน
เมนูอื่น ๆ: ใช้เป็นส่วนประกอบในเมนูพาสต้า หรือเป็นกับแกล้มคู่กับเครื่องดื่ม
วิธีใช้เตรียมไข่ปลาเพื่อนำไปประกอบอาหาร
1. นำไข่ปลาแซลมอนออกจากช่องฟรีซ (ช่องแข็ง)
2. นำไปพักไว้ในตู้เย็นช่องปกติประมาณ 30-60 นาที เพื่อให้ไข่ปลาละลายอย่างช้า ๆ เพื่อคงคุณภาพของไข่ปลา
3. เมื่อละลายแล้ว สามารถแกะซองและนำไปรับประทานได้ทันที
ไม่ต้องบินไปถึงญี่ปุ่นก็สัมผัสรสชาติอันล้ำค่าจากท้องทะเลได้ ไข่ปลาแซลมอนนิสซุย พร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนหนึ่งของเมนูพิเศษในทุกโอกาสของคุณ
ทูน่าพรีเมียมที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยถึงบ้าน
สำหรับคนที่หลงรักเมนูซาชิมิ และกำลังมองหาทูน่าคุณภาพดีที่พร้อมทานได้ทันที ทูน่าซาคุ (Tuna Saku) เกรด AAA คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ เพราะนี่คือเนื้อปลาที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีที่สุด เพื่อให้คุณได้สัมผัสความสดใหม่ในทุกคำจากทะเลอินโด-แปซิฟิก
ทูน่าซาคุ คือ เนื้อปลาทูน่าที่ถูกแล่มาเป็นบล็อกทรงสี่เหลี่ยมอย่างดี พร้อมให้คุณนำไปหั่นเป็นชิ้นสำหรับทำซาชิมิได้อย่างง่ายดาย ส่วน เกรด AAA คือการรับประกันคุณภาพสูงสุดของปลาทูน่า โดยพิจารณาจากสีเนื้อที่แดงสด เนื้อที่แน่น และมีปริมาณไขมันที่สมดุล ทำให้ได้รสชาติที่นุ่มละมุนลิ้น
ความสดใหม่จากแหล่งน้ำชั้นยอด: ทูน่าของเรามาจากมหาสมุทรอินโด-แปซิฟิก ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของปลาทูน่าที่มีความสมบูรณ์และบริสุทธิ์ ทำให้ปลาเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ และมีเนื้อที่แน่น พร้อมรสชาติที่สะอาด
คุณภาพสูงสุดของทูน่า: ด้วยเกรด AAA ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับประทานเนื้อทูน่าที่ดีที่สุด ทั้งในเรื่องของสีสันที่สวยงามและรสชาติที่ไม่เป็นรองใคร
ความสะดวกที่มาพร้อมความอร่อย: รูปแบบซาคุถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการใช้งานโดยเฉพาะ คุณสามารถนำไปหั่นเป็นซาชิมิ ซูชิ หรือโปเกะโบลว์ได้ทันที
อุดมด้วยประโยชน์: เนื้อทูน่าเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม และอุดมไปด้วยกรดไขมัน Omega-3 ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
เมนูที่แนะนำ
ซาชิมิ: เมนูยอดนิยมที่ทำได้ง่ายที่สุด เพียงแค่นำไปหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ก็พร้อมทาน
ซูชิ/นิกิริ: นำชิ้นทูน่าไปวางบนข้าวปั้นซูชิ เพื่อความอร่อยแบบเต็มคำ
ทูน่าทาทากิ: นำเนื้อทูน่าไปจี่บนกระทะให้ผิวสุกเล็กน้อย แต่ด้านในยังคงดิบอยู่
โปเกะโบลว์: หั่นเป็นลูกเต๋าแล้วนำไปผสมกับเครื่องปรุงที่คุณชอบ พร้อมผักและข้าวสวย
วิธีใช้งานเบื้องต้น
สินค้ามาในรูปแบบแช่แข็ง:
- นำเนื้อทูน่าออกจากช่องฟรีซ (ช่องแข็ง)
- นำไปพักในตู้เย็นช่องปกติประมาณ 6-8 ชั่วโมง หรือจนกว่าเนื้อปลาจะนิ่มลง
- นำเนื้อปลาออกมาจากตู้เย็น และซับน้ำที่เกาะอยู่ให้แห้งก่อนนำไปใช้งาน
ไม่ว่าจะเป็นมื้อพิเศษหรือมื้อธรรมดา “ทูน่าซาคุ” นี้ ก็พร้อมยกระดับความอร่อยให้คุณได้สัมผัสความสุขแบบพรีเมียมในทุก ๆ คำ
นัตโตะ พร้อมซอสสูตรพิเศษจากซากุระ
ฮามานะสึ นัตโตะ ได้คัดสรรเมล็ดถั่วเหลืองที่มีคุณภาพจากฮอกไกโด เป็นแบบเม็ดเล็กมาพร้อมกับซอสสูตรพิเศษที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆของซากุระ ทำให้การทานนัตโตะง่ายขึ้น
นัตโตะเป็นอาหารที่อัดแน่นไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยในเรื่องของกระดูก ดีต่อสุขภาพหัวใจ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และยังมีโปรไบโอติกที่ช่วยในการย่อย ทำให้กระเพาะและลำไส้ของเราทำงานได้ดีขึ้น ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานนัตโตะเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในมื้อเช้า เพียงแค่มีข้าวสวยร้อนๆ โปะด้วยนัตโตะและราดด้วยโชยุสักหน่อยก็พร้อมอร่อยได้ทันที ถือเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่คุณไม่ควรพลาด
✨ สัมผัสรสชาติหวานธรรมชาติ จากท้องทะเลญี่ปุ่น ✨
หอยเชลล์ฮอกไกโด ถูกขนานนามว่าเป็น "ราชาแห่งหอยญี่ปุ่น" ในมหาสมุทรที่เย็นยะเยือกและบริสุทธิ์แห่งฮอกไกโด ที่นี่คือแหล่งกำเนิดของหอยเชลล์ที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลก หอยเชลล์คุณภาพเยี่ยมที่เติบโตอย่างช้าๆ ในแหล่งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทำให้ได้หอยเชลล์ฮอกไกโด ที่มีเนื้อแน่น เด้งดุจไข่มุก และหวานราวกับหยาดน้ำค้างจากท้องทะเล หอยเชลล์แต่ละตัวผ่านกระบวนการแช่แข็งแบบพิเศษที่เรียกว่า อุโมงค์แช่แข็ง (Tunnel Freezer) ทันทีที่จับขึ้นจากทะเล เพื่อตรึงความสด รสชาติ และเนื้อสัมผัสชั้นเลิศเอาไว้ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าหอยเชลล์เกรดซาซิมินี้สะอาด ปลอดภัย และอุดมไปด้วยโปรตีนสูง ไขมันต่ำ โอเมก้า 3 และแร่ธาตุที่ดีต่อร่างกายที่ดีต่อสุขภาพ เมนูแนะนำทานแบบ ซาซิมิ ก็สัมผัสได้ถึงรสชาติหวานละมุนที่ละลายในปาก หรือจะนำไปย่างเนยกระเทียมเพียงไม่กี่วินาที เนื้อหอยก็จะยังคงความนุ่มฉ่ำด้านใน พร้อมกลิ่นหอมกรุ่น เป็นประสบการณ์ความอร่อยระดับพรีเมียมที่พร้อมเสิร์ฟถึงบ้านคุณ
เมนูแนะนำ :
• แบบดิบ (ซาชิมิ/ซูชิ): ละลายน้ำแข็งช้า ๆ ในตู้เย็น หั่นเป็นชิ้น ทานกับโชยุและวาซาบิ
• แบบสุก: นำไปย่างกระทะ/เตาย่าง ใส่เนย ซีอิ๊วญี่ปุ่น หรือทำเป็นหอยเชลล์อบชีส
• เมนูอื่น: ใส่ในพาสต้า ราเมง ข้าวผัด หรือซุปซีฟู้ด
วิธีการละลาย :
• วิธีที่ดีที่สุด: นำหอยเชลล์ออกจากช่องฟรีซ แล้วย้ายมาไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา ข้ามคืน เพื่อให้ละลายอย่างช้าๆ
จะช่วยคงคุณภาพและรสชาติได้ดีที่สุด
• วิธีเร่งด่วน: หากต้องการใช้ทันที ให้แช่ถุงหอยเชลล์ในน้ำเย็น (ห้ามใช้น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนเด็ดขาด)
ประมาณ 30-45 นาที
** เมื่อละลายแล้ว สามารถนำไปทำอาหารได้ทันที ไม่ต้องล้างน้ำซ้ำ **
ข้อควรระวังในการใช้
• เวลาละลายน้ำแข็ง ควรละลายช้า ๆ ที่อุณหภูมิต่ำ เพื่อรักษาความสด
• หลีกเลี่ยงการละลายน้ำแข็งด้วยน้ำร้อนหรือไมโครเวฟ เพราะอาจทำให้คุณภาพเนื้อเปลี่ยนไป
• หลังจากละลายน้ำแข็งแล้ว ควรเก็บไว้ในตู้เย็นและบริโภคโดยเร็ว
• ห้ามนำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งซ้ำ
สุดยอดขนมญี่ปุ่นคลายร้อน! อร่อยง่าย ๆ แค่คลายความเย็น
วาราบิโมจิ คือขนมหวานดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ด้วยเนื้อสัมผัสนุ่มละลาย ผสานความหวานลึกของน้ำตาลทรายแดง และกลิ่นหอมของถั่วเหลืองคั่ว เป็นขนมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในทุกฤดูกาล หัวใจสำคัญของวาราบิโมจิอยู่ที่ “แป้งวาราบิ” ซึ่งได้จากรากของพืชตระกูลเฟิร์นญี่ปุ่น เมื่อนำมาผ่านกระบวนการนวดอย่างพิถีพิถัน จะได้เนื้อสัมผัสที่นุ่ม หนึบ เด้งและละลายในปาก แตกต่างจากโมจิทั่วไปที่ทำจากข้าวเหนียว ด้วยความอ่อนโยนของเนื้อแป้ง จึงให้สัมผัสที่ละเอียดและพรีเมียมยิ่งกว่า ความพิเศษอีกขั้นอยู่ที่การใช้น้ำตาลทรายแดงจากโอกินาว่า หรือ “คุโระซาโตะ” ซึ่งไม่ได้ใช้เป็นแค่น้ำเชื่อมราดเท่านั้น แต่ถูกนวดผสมเข้าไปในเนื้อวาราบิโมจิตั้งแต่ขั้นตอนการทำ ทำให้ขนมมีสีน้ำตาลอ่อน กลิ่นหอมเฉพาะตัวของอ้อย และรสหวานที่ลึก กลมกล่อม ไม่ฉูดฉาด ซึมซับอยู่ในทุกคำที่กัด และที่ขาดไม่ได้ของวาราบิโมจิ นั่นคือการโรย “คินาโกะ”หรือผงถั่วเหลืองคั่วอย่างดี ที่มีกลิ่นหอมถั่วคั่ว และ รสสัมผัสที่นุ่มนวล มันๆ ซึ่งช่วยเสริมให้รสหวานของน้ำตาลทรายแดงมีความสมดุล หอมละมุน และลุ่มลึกยิ่งขึ้น
วิธีทานวาราบิโมจิแบบอร่อย :
• การละลายน้ำแข็ง : นำถุงวาราบิโมจิออกจากช่องแข็ง แล้วย้ายไปใส่ในตู้เย็นช่องธรรมดา หรือวางไว้ที่อุณหภูมิห้อง เพื่อให้ละลายน้ำแข็งอย่างช้า ๆ (ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง)
• ความเย็นคือหัวใจ : ขนมนี้จะอร่อยที่สุดเมื่อทานแบบเย็น เพื่อสัมผัสถึงความนุ่มหนึบและความเย็นชื่นใจ
• พร้อมเสิร์ฟ : เมื่อละลายน้ำแข็งแล้ว สามารถแกะซองและรับประทานได้ทันที
• เพิ่มรสชาติ : หากต้องการรสชาติแบบดั้งเดิมยิ่งขึ้น สามารถราดด้วยน้ำเชื่อมคุโรมิตซึ(น้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดง) ได้ตามความชอบ
เคล็ดลับการรับประทาน
• เสิร์ฟตอนเย็น ๆ จะให้รสสัมผัสสดชื่น เหมาะกับอากาศร้อน
• รับประทานคู่กับชาเขียวร้อน จะช่วยตัดรสหวานได้ดี
• หากเหลือ อย่าแช่แข็งซ้ำ ให้เก็บในตู้เย็นและรับประทานภายใน 1 วัน เพื่อคงคุณภาพ
เมนูทานคู่แนะนำ :
คู่กับชาญี่ปุ่น :
• มัทฉะร้อน/เย็น : เพื่อเสริมความหอมเข้มของชาเขียวให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
• โฮจิฉะ : ชาเขียวคั่วที่มีกลิ่นหอมอบอุ่น จะช่วยตัดรสหวานได้อย่างลงตัว
• เซนฉะ : ชาเขียวใบที่มีรสชาติบางเบาและสดชื่น
วาราบิโมจิ คือขนมที่หลอมรวมวัตถุดิบธรรมชาติและศิลปะการทำขนมของญี่ปุ่นเอาไว้อย่างลงตัว ละมุนในทุกคำ นุ่มหนึบทุกสัมผัส หวานหอมอย่างมีระดับ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบปลาแซลมอน และกำลังมองหาวัตถุดิบคุณภาพดีที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ ปลาแซลมอนโคโฮ (Coho Salmon) จากแบรนด์ไอเซน (AYSEN) คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะนี่คือปลาที่เลี้ยงในแหล่งน้ำที่สะอาดและได้รับการรับรองคุณภาพ ทำให้คุณมั่นใจในความสดใหม่และรสชาติแบบพรีเมียม
ปลาแซลมอนโคโฮ ไอเซน คืออะไร?
ปลาแซลมอนโคโฮเป็นปลาแซลมอนอีกสายพันธุ์หนึ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยปลาจากแบรนด์ไอเซน มาจากฟาร์มเลี้ยงในประเทศชิลี ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคไอเซน (Aysén) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในแหล่งน้ำที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก ทำให้ได้ปลาที่มีคุณภาพสูง เนื้อปลามีสีส้มอมแดงเข้มคล้ายแซลมอนซ็อกอาย (Sockeye Salmon) แต่มีจุดเด่นคือ มีไขมันแทรกน้อยกว่าแซลมอนแอตแลนติก ทำให้เนื้อสัมผัสมีความแน่น ไม่เลี่ยน และเหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนักหรือรักสุขภาพ
ปลาแซลมอนโคโฮ ไอเซน ดียังไง?
• ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ: ด้วยปริมาณไขมันที่น้อยกว่า ทำให้เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีที่มีแคลอรีต่ำ และยังคงอุดมไปด้วย Omega-3 ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
• คุณภาพระดับซาชิมิ (Sashimi Quality): ปลาแซลมอนของเราได้รับการแปรรูปภายใน 8 ชั่วโมงหลังการจับ และทำทุกขั้นตอนในห้องคุมอุณหภูมิ ทำให้มั่นใจในความสดใหม่และคุณภาพที่เหมาะสำหรับการนำไปทำซาชิมิ
• Trim C: คือมาตรฐานการแล่ปลาที่มีการตัดแต่งอย่างพิถีพิถัน โดยมีการนำก้างใหญ่ออกทั้งหมด รวมถึงก้างปลาบริเวณท้อง (Belly Bone) และก้างซี่โครง (Pin Bone) ทำให้คุณสามารถนำเนื้อปลาไปทำอาหารได้ทันที โดยไม่ต้องมาเสียเวลาเลาะก้างเอง
เมนูแนะนำ
เนื้อปลาแซลมอนโคโฮ Trim C เหมาะสำหรับทำอาหารได้หลากหลายเมนู
• ซาชิมิ หรือ ซูชิ: ด้วยคุณภาพระดับซาชิมิ จึงสามารถหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ เพื่อทานแบบดิบได้อย่างปลอดภัย
• สเต๊กปลาแซลมอน: นำไปย่างหรือทอดในกระทะ จะได้เนื้อที่แน่นและหนังกรอบ
• ปลาแซลมอนอบ: นำไปอบในเตาอบพร้อมกับเครื่องเทศที่คุณชื่นชอบ
• เมนูอื่น ๆ: นำไปประกอบเมนูผัด หรือยำแบบไทย ๆ ก็อร่อยเข้ากัน
วิธีเตรียมปลา
1. นำปลาออกจากช่องแช่แข็ง และนำไปพักในตู้เย็นช่องธรรมดาเพื่อละลายน้ำแข็ง
2. เมื่อปลาละลายน้ำแข็งแล้ว สามารถนำไปล้างและซับน้ำให้แห้ง
3. หั่นเป็นชิ้นตามต้องการ แล้วนำไปประกอบอาหารได้ทันที
สัมผัสความอร่อยจากทะเลชิลีในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ปลาแซลมอนคุณภาพเยี่ยมที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพในครัวของคุณ
คำเดียวไม่พอ ต้องขอต่ออีกลูก
อยากกินอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ แต่ไม่มีเวลา ลูกชิ้นสอดไส้กุ้ง เนื้อปลา ผักรวม และสาหร่ายฮิจิกิ คือคำตอบ! ทำจากวัตถุดิบคุณภาพ เนื้อปลาบด กุ้งสด ผักรวม และเพิ่มรสชาติพิเศษด้วยสาหร่ายฮิจิกิ ที่อุดมไปด้วยใยอาหารและแร่ธาตุ ทานง่าย รสกลมกล่อม ได้ทั้งความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการในหนึ่งคำทุกคำ เหมาะเป็นของทานเล่น ข้าวกล่อง เบนโตะ หรือเสิร์ฟกับมื้ออาหารหลัก
วิธีการปรุงอาหาร
• นำสินค้าที่แช่แข็งออกมา ตัดถาดออก และวางไว้ที่ขอบจานหมุน (turntable) โดยไม่ต้องห่อพลาสติก และอุ่นให้ร้อน
• หากไม่มีจานหมุน (turntable) ให้วางไว้ตรงกลางของเตาไมโครเวฟ
• หลังจากการปรุงอาหาร หากยังเย็นอยู่ ให้อุ่นเพิ่มทีละ 10 วินาทีจนกว่าจะอุ่นได้ที่
คำแนะนำสำหรับเตาไมโครเวฟ:
กำลังไฟ 500 วัตต์ 600 วัตต์
1 ชิ้น ประมาณ 40 วินาที ประมาณ 40 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 1 นาที ประมาณ 50 วินาที
4 ชิ้น ประมาณ 1.20 นาที ประมาณ 1.10 นาที
5 ชิ้น ประมาณ 1.50 นาที ประมาณ 1.40 นาที
สำหรับคนรักแซลมอนที่มองหาวัตถุดิบคุณภาพสูงสุด พร้อมความสะดวกในการทำอาหาร ปลาแซลมอนแอตแลนติก (Atlantic Salmon) จากแบรนด์ คุก (Cooke) คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด เพราะนี่คือปลาแซลมอนที่เติบโตในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุดในโลก และผ่านการแล่ตัดแต่งอย่างพิถีพิถัน
คุณภาพจากแหล่งกำเนิด: ชิลี (Chile)
ปลาแซลมอนของ Cooke ได้รับการเลี้ยงในแหล่งน้ำที่บริสุทธิ์และเย็นจัดของประเทศ ชิลี โดยเฉพาะในเขตไอเซน (Aysén region) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ห่างไกลและมีสภาพแวดล้อมทางทะเลที่สมบูรณ์ การเลี้ยงในสภาพธรรมชาติที่ดีเยี่ยมนี้ ทำให้ปลาแซลมอนมีเนื้อที่นุ่ม สีส้มสดใส และมีรสชาติที่สะอาด พร้อมไขมัน (Omega-3) ที่สมดุลตามธรรมชาติ
แบรนด์ Cooke ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืน และมีการใช้มาตรฐานการเพาะเลี้ยงอย่างเข้มงวด เพื่อส่งมอบอาหารทะเลคุณภาพสูงสู่ผู้บริโภคทั่วโลก
การแล่ Trim-C เพื่อความสมบูรณ์แบบ
Trim-C คือมาตรฐานการแล่ปลาแซลมอนที่การันตีว่าเนื้อปลาของคุณถูกตัดแต่งอย่างพิถีพิถันสูงสุด
ความสะอาดสูงสุด: เนื้อปลาถูกนำก้างใหญ่ออกทั้งหมด รวมถึงก้างบริเวณท้อง (Belly Bone) และก้างซี่โครง (Pin Bone)
พร้อมใช้งานทันที: ทำให้คุณสามารถนำเนื้อปลาไปหั่นเป็นชิ้นสำหรับทำซาชิมิ ซูชิ หรือนำไปปรุงอาหารได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาเลาะก้างหรือตัดแต่งไขมันส่วนเกินเอง
เมนูอร่อยที่แนะนำ
ด้วยคุณภาพของปลาแซลมอนแอตแลนติกจากชิลี และการตัดแต่งแบบ Trim-C ที่สะอาด ทำให้เนื้อปลาชนิดนี้เหมาะสำหรับทุกเมนู:
ซาชิมิ/ซูชิ: เนื้อปลานุ่ม สีสวย สามารถนำไปหั่นเป็นชิ้นเพื่อสัมผัสความสดใหม่แบบเต็มคำ
สเต็กปลาแซลมอน: นำไปย่างหรือจี่บนกระทะเพื่อดึงรสชาติไขมันธรรมชาติออกมาให้หอมกรุ่น
อบ/เบค: อบพร้อมเครื่องเทศหรือสมุนไพร เพื่อมื้ออาหารที่ทั้งอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ
ไม่ว่าคุณจะทำอาหารในบ้านหรือต้องการวัตถุดิบคุณภาพเพื่อเสิร์ฟในร้านอาหาร ปลาแซลมอนแอตแลนติก Trim-C จาก Cooke คือทางเลือกที่จะช่วยยกระดับทุกเมนูของคุณให้เป็นมื้อพิเศษได้ง่ายดาย
วิธีละลายสินค้าแช่แข็ง
❄️ ละลายในตู้เย็น (แนะนำที่สุด)
- วางสินค้าไว้ในช่องธรรมดาของตู้เย็นประมาณ 6-12 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับขนาด)
- วิธีนี้ช่วยรักษาคุณภาพและความสดของสินค้าได้ดีที่สุด
❄️ ละลายในน้ำเย็น (สำหรับการเร่งเวลา)
- นำสินค้าทั้งถุงแช่ในน้ำเย็น
- เปลี่ยนน้ำใหม่ทุก 30 นาที จนกว่าสินค้าจะคลายตัว
❄️ ละลายในอุณหภูมิห้อง (เฉพาะบางประเภท)
- วางสินค้าไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 40 นาที
นัตโตะรสบ๊วยสดชื่น ที่ทำให้คุณตกหลุมรักได้ง่ายขึ้น
สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นทาน นัตโตะ (Natto) แต่ยังกังวลกับกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ หรือผู้ที่ทานนัตโตะอยู่แล้วแต่อยากได้รสชาติใหม่ ๆ ที่ทานง่ายและอร่อยสดชื่น เราขอแนะนำ นัตโตะบ๊วย ฮามานะสึ (Hamanasu) สูตรพิเศษจากญี่ปุ่น ที่จะทำให้ประสบการณ์ทานนัตโตะของคุณเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ความลับของความอร่อยที่ลงตัว นัตโตะบ๊วยถ้วยนี้ถูกออกแบบมาเพื่อความอร่อยที่ทานง่ายที่สุด
• รสชาติไม่จำเจ: จุดเด่นคือการใช้ ซอสบ๊วย (Ume) ที่ทำจากบ๊วยบดพิเศษ ช่วยเพิ่มความเปรี้ยวอมหวานและความหอมสดชื่น (香り爽やか) เข้ามาตัดกับกลิ่นของถั่วเหลืองหมักได้อย่างลงตัว ทำให้ทานง่ายกว่านัตโตะทั่วไปมาก
• ถั่วคุณภาพดีจากฮอกไกโด: คัดสรรถั่วเหลืองเม็ดเล็ก (Kotsubu Daizu) คุณภาพเยี่ยมจาก ฮอกไกโด ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสะอาดและคุณภาพของวัตถุดิบ ทำให้ถั่วมีความอร่อยในตัวและสัมผัสที่เนียนนุ่มกำลังดี
• สุขภาพดีเต็มถ้วย: แม้จะรสชาติดีกว่าเดิม แต่คุณค่าทางอาหารยังครบถ้วน! นัตโตะ อัดแน่นไปด้วยโปรไบโอติก วิตามิน K2 และเอนไซม์นัตโตะไคเนส ที่ช่วยเรื่องการย่อยอาหารและบำรุงหัวใจให้แข็งแรง
วิธีทำความอร่อยง่าย ๆ
นัตโตะบ๊วยฮามานะสึ พร้อมเป็นมื้ออร่อยของคุณในทุกเช้า:
1. นำนัตโตะมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 30-60 นาที เพื่อให้นัตโตะที่แช่แข็งไว้ละลาย
2. แกะซอง นัตโตะ และเทซอสบ๊วยที่แถมมาลงไป
3. ใช้ตะเกียบคน นัตโตะ อย่างรวดเร็วจนเกิดฟองและเส้นใยเหนียว ๆ
4. ทานคู่กับข้าวสวยญี่ปุ่นร้อน ๆ ได้ทันที! ความเปรี้ยวอมหวานของบ๊วยจะช่วยเปิดต่อมรับรสและทำให้ข้าวอร่อยขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
เคล็ดลับการคนนัตโตะให้ฟู
หัวใจสำคัญของการทาน นัตโตะ คือการคนค่ะ การคนนัตโตะไม่ได้มีแค่เรื่องความเหนียว แต่เป็นการดึงเอาสารอาหารสำคัญอย่าง เอนไซม์นัตโตะไคเนสออกมาทำงาน และยังช่วยให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น
ขั้นตอนที่ 1: คนก่อนปรุงรส
• ตักซอสออกก่อน: นำซอง ซอสรสบ๊วยและมัสตาร์ด (ถ้ามี) ออกจากถ้วยก่อนค่ะ
• เริ่มคนเปล่า ๆ: ใช้ตะเกียบหรือส้อม คนนัตโตะในถ้วยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
- เน้นความเร็ว: ไม่จำเป็นต้องคนวนเป็นวงกลมแบบเป๊ะ ๆ แต่เน้นการคนแบบซิกแซ็กสลับไปมาด้วยความเร็วค่ะ
- จำนวนครั้ง: ให้คนอย่างน้อย 50 ครั้ง ค่ะ พอคนไปเรื่อย ๆ คุณจะสังเกตเห็นว่านัตโตะเริ่มมี ฟองสีขาวขุ่น และ ใยเหนียว ๆ เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก
ขั้นตอนที่ 2: คนพร้อมปรุงรส
• เติมซอสบ๊วย: เมื่อนัตโตะเริ่มเป็นฟองได้ที่แล้ว ให้ใส่ ซอสรสบ๊วย (หรือเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามชอบ) ลงไป
• คนต่ออีก 10-20 ครั้ง: คนผสมให้ซอสเข้ากันดีค่ะ การคนรอบสองนี้จะช่วยให้รสชาติของซอสซึมเข้าไปในถั่วและฟองนัตโตะอย่างทั่วถึง ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ทำไมต้องคนเยอะขนาดนั้น?
การคนนัตโตะจะช่วยกระตุ้นการสร้างใยเมือกเหนียวๆ ซึ่งเป็นตัวการของความอร่อยและสุขภาพดี ใยเหล่านี้คือกรดกลูตามิก ซึ่งเป็นแหล่งของรสอูมามิหรือรสชาติกลมกล่อม ยิ่งคนมาก ใยยิ่งเยอะ รสชาติก็จะยิ่งนุ่มละมุนลิ้น และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น
ลองทำตามดูนะคะ รับรองว่า นัตโตะรสบ๊วย ถ้วยนี้จะอร่อยฟู เหนียวได้ที่ ถูกใจแน่นอนค่ะ!