สำหรับผู้ที่ชื่นชอบปลาแซลมอน และกำลังมองหาวัตถุดิบคุณภาพดีที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ ปลาแซลมอนโคโฮ (Coho Salmon) จากแบรนด์ไอเซน (AYSEN) คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะนี่คือปลาที่เลี้ยงในแหล่งน้ำที่สะอาดและได้รับการรับรองคุณภาพ ทำให้คุณมั่นใจในความสดใหม่และรสชาติแบบพรีเมียม
ปลาแซลมอนโคโฮ ไอเซน คืออะไร?
ปลาแซลมอนโคโฮเป็นปลาแซลมอนอีกสายพันธุ์หนึ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยปลาจากแบรนด์ไอเซน มาจากฟาร์มเลี้ยงในประเทศชิลี ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคไอเซน (Aysén) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในแหล่งน้ำที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก ทำให้ได้ปลาที่มีคุณภาพสูง เนื้อปลามีสีส้มอมแดงเข้มคล้ายแซลมอนซ็อกอาย (Sockeye Salmon) แต่มีจุดเด่นคือ มีไขมันแทรกน้อยกว่าแซลมอนแอตแลนติก ทำให้เนื้อสัมผัสมีความแน่น ไม่เลี่ยน และเหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนักหรือรักสุขภาพ
ปลาแซลมอนโคโฮ ไอเซน ดียังไง?
• ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ: ด้วยปริมาณไขมันที่น้อยกว่า ทำให้เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีที่มีแคลอรีต่ำ และยังคงอุดมไปด้วย Omega-3 ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
• คุณภาพระดับซาชิมิ (Sashimi Quality): ปลาแซลมอนของเราได้รับการแปรรูปภายใน 8 ชั่วโมงหลังการจับ และทำทุกขั้นตอนในห้องคุมอุณหภูมิ ทำให้มั่นใจในความสดใหม่และคุณภาพที่เหมาะสำหรับการนำไปทำซาชิมิ
• Trim C: คือมาตรฐานการแล่ปลาที่มีการตัดแต่งอย่างพิถีพิถัน โดยมีการนำก้างใหญ่ออกทั้งหมด รวมถึงก้างปลาบริเวณท้อง (Belly Bone) และก้างซี่โครง (Pin Bone) ทำให้คุณสามารถนำเนื้อปลาไปทำอาหารได้ทันที โดยไม่ต้องมาเสียเวลาเลาะก้างเอง
เมนูแนะนำ
เนื้อปลาแซลมอนโคโฮ Trim C เหมาะสำหรับทำอาหารได้หลากหลายเมนู
• ซาชิมิ หรือ ซูชิ: ด้วยคุณภาพระดับซาชิมิ จึงสามารถหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ เพื่อทานแบบดิบได้อย่างปลอดภัย
• สเต๊กปลาแซลมอน: นำไปย่างหรือทอดในกระทะ จะได้เนื้อที่แน่นและหนังกรอบ
• ปลาแซลมอนอบ: นำไปอบในเตาอบพร้อมกับเครื่องเทศที่คุณชื่นชอบ
• เมนูอื่น ๆ: นำไปประกอบเมนูผัด หรือยำแบบไทย ๆ ก็อร่อยเข้ากัน
วิธีเตรียมปลา
1. นำปลาออกจากช่องแช่แข็ง และนำไปพักในตู้เย็นช่องธรรมดาเพื่อละลายน้ำแข็ง
2. เมื่อปลาละลายน้ำแข็งแล้ว สามารถนำไปล้างและซับน้ำให้แห้ง
3. หั่นเป็นชิ้นตามต้องการ แล้วนำไปประกอบอาหารได้ทันที
สัมผัสความอร่อยจากทะเลชิลีในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ปลาแซลมอนคุณภาพเยี่ยมที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพในครัวของคุณ
สะดวก อร่อย พร้อมทานในไม่กี่นาที
"ปลาทูน่าย่าง" เคลือบด้วยซอสเทอริยากิ รสชาติกลมกล่อม เข้มข้น อร่อย หอมหวานจากซอสเทอริยากิที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารญี่ปุ่น ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับรสชาติอร่อยกลมกล่อมในทุกคำ และได้สัมผัสรสชาติญี่ปุ่นแท้ๆไม่ต้องออกไปไหน แค่เพียงอุ่นและก็พร้อมทานแล้วค่ะ!
♥ ไม่ต้องรอนาน แค่เพียงอุ่นหรืออบ คุณก็ได้สัมผัสความอร่อยของปลาทูน่าย่างแท้ๆ เคลือบซอสเทอริยากิหวานเข้มข้น
♥ สะดวกสุดๆ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ก็พร้อมทานอร่อยที่บ้าน
♥ เหมือนทานที่ร้านญี่ปุ่น ไม่ต้องออกไปไหนก็ได้ลิ้มรสอาหารระดับพรีเมียม
วิธีการปรุง
1. ฉีกซองนำนำสินค้าออกจากถุง แยกถาดแต่ละชิ้นปลา ตามรอยปรุ
2. อุ่นด้วยไมโครเวฟ (ถุงผลิตภัณฑ์ไม่สามารถใช้กับไมโคเวฟได้)
• 0.50 - 1.50 นาที กำลังไฟ 500 วัตต์
• 0.40 - 1.40 นาที กำลังไฟ 600 วัตต์
3. รับประทานให้อร่อยค่ะ จะอร่อยยิ่งขึ้นเมื่อทานคู่กับ ข้าวญี่ปุ่น และซุปมิโซะ
พร้อมเสิร์ฟความอร่อย! ถึงบ้านคุณ
เมนูแช่แข็งสุดยอดฮิตจากญี่ปุ่น ที่รวมความอร่อยของเนื้อปลานุ่มๆ กับเนื้อกุ้งบดแน่นๆ ปรุงรสด้วยซอสทาร์ทาร์สูตรต้นตำรับ กรอบนอก นุ่มใน หอมมันลงตัว ด้านนอกชุบเกล็ดขนมปังทอดจนกรอบ หอม อร่อย ทอดมาเรียบร้อยแล้ว พร้อมอุ่นรับประทานได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาเตรียมอาหาร แค่เวฟ หรืออบด้วยหม้อทอดลมร้อนก็ฟินได้เลย เหมาะสำหรับเป็นของว่าง มื้อเร่งด่วน หรือเสิร์ฟคู่ข้าวและสลัดก็อร่อยไม่แพ้เมนูร้านอาหาร!
♨️ วิธีการอุ่นด้วยไมโครเวฟ
• ไม่ต้องละลายน้ำแข็งก่อน (สามารถอุ่นจากแช่แข็งได้เลย)
• จัดวางบนจานที่สามารถใช้กับไมโครเวฟได้ โดยให้เว้นระยะระหว่างชิ้นเล็กน้อย
• ครอบด้วยพลาสติกแรปสำหรับไมโครเวฟ เพื่อคงความชุ่มชื้น (ถ้าต้องการให้กรอบ อาจเว้นการคลุม)
⏱️เวลาที่ใช้ในการอุ่น:
• ไมโครเวฟ 500 W :
1 ชิ้น ประมาณ 30 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 40 วินาที
3 ชิ้น ประมาณ 1 นาที
• ไมโครเวฟ 600 W :
1 ชิ้น ประมาณ 20 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 30 วินาที
3 ชิ้น ประมาณ 50 วินาที
(พักไว้สักครู่ก่อนทาน เพราะไส้ด้านในอาจร้อนมาก)
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในรสชาติไข่ปลาแซลมอนอันเป็นเอกลักษณ์ ตอนนี้คุณสามารถสัมผัสความอร่อยแบบต้นตำรับญี่ปุ่นได้ง่ายๆได้ที่บ้าน ด้วยไข่ปลาแซลมอน จากแบรนด์ นิสซุย (Nissui) ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารทะเลญี่ปุ่น
ไข่ปลาแซลมอน คืออะไร?
ไข่ปลาแซลมอน (いくら - Ikura - อิคุระ) ของนิสซุยผลิตจากไข่ปลาแซลมอนคุณภาพเยี่ยม ผ่านกระบวนการหมักในซอสโชยุสูตรพิเศษจากแบรนด์นิสซุย ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงรสอาหารทะเลญี่ปุ่น ที่ช่วยดึงรสอูมามิออกมาได้อย่างเต็มที่ ทำให้ได้ไข่ปลาที่มีรสชาติกลมกล่อม หอมมัน และไม่เค็มจนเกินไป
จุดเด่นของไข่ปลาแซลมอนจากแบรนด์นิสซุย
รสชาติแบบต้นตำรับ: ด้วยสูตรการหมักเฉพาะตัว ทำให้ไข่ปลามีรสชาติที่สมดุล และสามารถนำไปรับประทานได้ทันทีโดยไม่ต้องปรุงเพิ่ม
ความสดใหม่คุณภาพสูง: ผลิตจากไข่ปลาแซลมอนที่สดใหม่ ผ่านกรรมวิธีที่ได้มาตรฐานระดับสากล ทำให้ได้เม็ดไข่ปลาที่สวยใส มีผิวสัมผัสแบบ "พุจิ พุจิ" (ปุดๆ) เมื่อกัดจะแตกในปาก มอบความรู้สึกที่น่าประทับใจ
เมนูแนะนำที่ทำได้ง่ายๆ
ด้วยความที่ไข่ปลาของเราปรุงรสมาอย่างพิธีพิถันมาเรียบร้อย จึงสามารถนำไปสร้างสรรค์เมนูญี่ปุ่นยอดนิยมได้อย่างง่ายดาย
ข้าวหน้าไข่ปลา (Ikura Don): ตักไข่ปลาแซลมอนโปะลงบนข้าวสวยญี่ปุ่นร้อน ๆ ก็อร่อยได้ทันที
ซูชิ: ใช้เป็นหน้าซูชิแบบนิกิริ หรือซูชิแบบเรือ (Gunkanmaki)
สลัด: นำไปโรยบนสลัด เพื่อเพิ่มรสชาติและสีสัน
เมนูอื่น ๆ: ใช้เป็นส่วนประกอบในเมนูพาสต้า หรือเป็นกับแกล้มคู่กับเครื่องดื่ม
วิธีใช้เตรียมไข่ปลาเพื่อนำไปประกอบอาหาร
1. นำไข่ปลาแซลมอนออกจากช่องฟรีซ (ช่องแข็ง)
2. นำไปพักไว้ในตู้เย็นช่องปกติประมาณ 30-60 นาที เพื่อให้ไข่ปลาละลายอย่างช้า ๆ เพื่อคงคุณภาพของไข่ปลา
3. เมื่อละลายแล้ว สามารถแกะซองและนำไปรับประทานได้ทันที
ไม่ต้องบินไปถึงญี่ปุ่นก็สัมผัสรสชาติอันล้ำค่าจากท้องทะเลได้ ไข่ปลาแซลมอนนิสซุย พร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนหนึ่งของเมนูพิเศษในทุกโอกาสของคุณ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะ หรืออยากลองสัมผัสรสชาติอันลุ่มลึกของวัตถุดิบระดับพรีเมียม “ตับปลาอังกิโมะ” คือหนึ่งในเมนูที่ห้ามพลาด!
อังกิโมะคืออะไร?
อังกิโมะ (Ankimo) คือตับของปลาอังโกะ (Anko Fish) หรือ มังค์ฟิช (Monkfish) ซึ่งเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในทะเลลึก ถือเป็นหนึ่งในอาหารชินมิ (Chinmi) หรืออาหารเลิศรสที่หาทานได้ยากของญี่ปุ่น ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล" เพราะมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มคล้ายตับห่าน มีรสชาติเค็มอ่อน ๆ และมีความหอมมันอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ทำไมถึงอร่อยและพิเศษ?
ตับปลาอังกิโมะของเรา เป็นสินค้าที่ผ่านกระบวนการปรุงรสและต้มมาอย่างพิถีพิถันจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน จึงมีรสชาติที่กลมกล่อมและพร้อมรับประทานทันที ไม่ต้องนำมาปรุงเพิ่มให้ยุ่งยาก ทำให้คุณได้สัมผัสกับรสชาติแบบดั้งเดิมของอังกิโมะได้อย่างง่ายดาย นอกจากความอร่อยแล้ว อังกิโมะยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เช่น วิตามิน A, วิตามิน D และไขมันดีในปริมาณที่สูงอีกด้วย
เมนูที่ทำได้ง่ายๆ
เมนูจากตับปลาอังกิโมะสามารถทำได้หลากหลาย และแต่ละเมนูล้วนช่วยดึงรสชาติความอร่อยออกมาได้อย่างเต็มที่
- ทานเป็นกับแกล้ม: เสิร์ฟอังกิโมะแช่เย็นคู่กับต้นหอมซอย, โมมิจิโอโรชิ (หัวไชเท้าขูดผสมพริก) และซอสพอนสึ (Ponzu Sauce) เพื่อเพิ่มความสดชื่นและตัดความมัน
- ทำเป็นนิกิริซูชิ: วางชิ้นอังกิโมะบนข้าวปั้นซูชิ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมในร้านซูชิระดับพรีเมียม
- ทำเป็นสลัด: หั่นอังกิโมะเป็นชิ้นพอดีคำ วางบนสลัดผัก ราดด้วยน้ำสลัดงา หรือซอสพอนสึ
วิธีเตรียมตับปลา
1. นำอังกิโมะออกจากตู้เย็น วางไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 30-40 นาที เพื่อทำการละลาย
2. แกะซองและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
3. จัดวางบนจาน และนำไปใช้ประกอบเมนูได้ตามต้องการ
*สินค้าบรรจุมาในซองสุญญากาศแบบพร้อมทาน
เปิดประสบการณ์ความอร่อยสุดพิเศษจากท้องทะเลลึกได้แล้ววันนี้! ตับปลาอังกิโมะ พร้อมให้คุณได้ลิ้มลองความอร่อยแบบต้นตำรับญี่ปุ่นได้ง่าย ๆ ที่บ้านของคุณ
ผัดร้อน ๆ กลิ่นหอมชวนหิว! ยากิโซบะสไตล์ญี่ปุ่นแท้ พร้อมเสิร์ฟในพริบตา
ยากิโซบะ เป็นอาหารจานด่วนสไตล์ญี่ปุ่นที่เป็นที่นิยมอย่างมากทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ใช้เส้นบะหมี่บางและเหนียวนุ่มที่พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์นี้โดยเฉพาะ กระบวนการผัดทำให้ยากิโซบะแท้ๆ นี้มีรสชาติเข้มข้น พร้อมหอมกลิ่นซอส รสกลมกล่อม ผัดพร้อมเนื้อหมูสไลซ์, กะหล่ำปลี และแครอท, โรยหน้าด้วยขิงดอง (เบนิโชกะ), สาหร่ายผง (อะโอโนริ), และมายองเนส เสิร์ฟคู่กับไข่ดาว หรือโคร็อกเกะ เหมาะสำหรับรับประทานในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นมื้อกลางวัน มื้อเย็น หรือเมนูในร้านอาหาร เหมาะสำหรับครอบครัวหรือร้านอาหารที่ต้องการความสะดวกและรสชาติอร่อยแบบต้นตำรับ
วิธีการปรุงอาหาร :
1. ต้มน้ำในหม้อปริมาณให้ท่วมซองยากิโซบะให้เดือด นำซองยากิโซบะ 1 กก. ใส่ลงไปรอประมาร 15 นาที หรือรอจนเส้นร้อน นำออกมาฉีกซองเทใส่จาน
2. นำผักปละเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้มาผัดจนสุก
3. นำเส้นที่อุ่นแล้ว มาผักรวมกับผักและเนื้อสัตว์คนให้เข้ากันจากนั้นเทใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
คำแนะนำในการปรุงอาหาร :
• ต้ม : ใส่ทั้งถุงแช่แข็งลงในน้ำเดือดและอุ่นให้ร้อน เวลาที่คาดไว้ 1 กิโลกรัม: ประมาณ 15 นาที
• เตาอบพาความร้อน : วางผลิตภัณฑ์แช่แข็งที่ละลายน้ำแข็งไว้ในเตาอบพาความร้อนที่อุณหภูมิปานกลาง
(โหมดไอน้ำ 100°C) เวลาที่คาดไว้ 1 กิโลกรัม: ประมาณ 20 นาที
• วิธีพิเศษ : หลังจากต้มในน้ำร้อนแล้ว ให้ทอดเบาๆ ในกระทะอีกครั้งเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้น
ข้อแนะนำในการเก็บรักษา:
• ควรเก็บในช่องแช่แข็งที่อุณหภูมิ -18°C หรือต่ำกว่า
• ไม่ควรนำกลับไปแช่แข็งใหม่หลังจากละลายน้ำแข็งแล้ว