ทาโกะยากิ หรือขนมครกญี่ปุ่น อาหารว่างติดครัวของชาวคันไซ
ทาโกะยากิมีต้นกำเนิดมาจากเมืองโอซากา หากท่านได้ไปเที่ยวแถบคันไซ ต่างต้องเคยได้ลิ้มลองอย่างแน่นอน วันนี้เราชวนคุณแก้คิดถึงญี่ปุ่น กับเมนูทำเองได้ง่ายๆ แถมรสชาติยังอร่อยมากๆ เหตุผลที่ทำให้อร่อย เพราะแป้งเราได้คิดค้นและผสมในสูตรเฉพาะของแบรนด์ Nippn คุณแค่เตรียมไส้ที่ชอบ และต้องมีกระทะหลุมสำหรับทำทาโกะยากิ เพียงแค่นี้ คุณก็อร่อยตามแบบโอซาก้าแท้ๆ แป้ง 1 ห่อ ทำได้ประมาณ 40 ลูก
วิธีทำ
1. ใส่แป้งทาโกะยากิ 100 กรัมลงในน้ำ 100 มล. แล้วผสมให้เข้ากัน ใส่กะหล่ำปลีสับ 300 กรัม ไข่ 1 ฟอง และไส้โอโคโนมิยากิที่คุณชื่นชอบ 100 กรัม (ปลาหมึก กุ้ง ปูอัด ฯลฯ)
2. วอร์มเตาด้วยไฟแรง เติมน้ำมันพืชหรือเนยเล็กน้อย แล้วค่อยใส่แป้งลงไปครึ่งหลุม ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที ใส่ไส้ทาโกะยากิ กระหล่ำปลี ขิงซอยเล็กน้อยลงในหลุม
3. รอจนแป้งสุกจนร่อนจากกระทะ พยายามพลิกกลับ ค่อยๆ เติมแป้งจนมีลักษณ์เป็นทรงกลมสวยงาม
4. เมื่อแป้งสุกทุกด้าน ให้จัดใส่จาน ราดซอสทาโกะยากิ มายองเนส สาหร่ายผง และปลาคัตสึโอะหั่นฝอย
ขอเชิญคุณมาสัมผัส "รสชาติใหม่" ของวาซาบิ ที่แตกต่างจากวาซาบิบดแบบเดิม ๆ ค่ะ นี่คือประสบการณ์ของความเผ็ดซ่าที่มาพร้อมกับเนื้อสัมผัสกรุบกรอบในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่คุณไม่ควรพลาดเลยนะคะ
คิซามิ วาซาบิ (Kizami Wasabi) แปลตรงตัวว่า วาซาบิสับ (Chopped Wasabi) เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเอา ก้านและหัววาซาบิแท้ (Hon Wasabi) มาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ หยาบ ๆ แทนการนำไปบดละเอียดแบบที่เราคุ้นเคยกันค่ะ จากนั้นจึงนำไปปรุงรสด้วย โชยุ (Shoyu) และเครื่องปรุงอื่น ๆ ในสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อให้ได้วาซาบิที่มีรสชาติกลมกล่อม มีความเผ็ดซ่าที่ลงตัว และมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของวาซาบิแท้ Kinjirushi เป็นแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านวาซาบิที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนานในประเทศญี่ปุ่น โดยผลิตภัณฑ์ "คิซามิ วาซาบิ รสโชยุ" นี้ เป็นหนึ่งในสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างสูงและมีชื่อเสียงในเรื่องรสชาติที่เข้มข้นจัดจ้าน ทำให้สามารถนำไปใช้ร่วมกับอาหารได้หลากหลายประเภทมากขึ้น
จุดเด่นสำคัญของ คิซามิ วาซาบิ คือ เนื้อสัมผัสแบบ "กรุบกรอบ" (Shakishaki) จากชิ้นส่วนของก้านวาซาบิที่ถูกสับหยาบ ๆ ซึ่งให้ความสนุกและมิติใหม่ในการรับประทาน ไม่เหมือนวาซาบิแบบบดที่เป็นเนื้อครีม และด้วยการปรุงรสด้วยโชยุ ทำให้วาซาบิชนิดนี้มีรส อูมามิ (Umami) แทรกอยู่ จึงสามารถใช้เป็นเครื่องปรุงรสหรือเครื่องเคียงได้ทันทีโดยไม่ต้องผสมโชยุเพิ่ม ความเผ็ดซ่าของวาซาบิถูกปรุงให้อยู่ในระดับที่กำลังดี สามารถคงความเผ็ดซ่า (Tsuun) ที่ตีขึ้นจมูกได้ยาวนาน และยังให้กลิ่นหอมที่สดชื่นของวาซาบิแท้อีกด้วยค่ะ
เมนูแนะนำ (Recipe Suggestion)
1.ทานคู่กับเนื้อวัว: เหมาะสำหรับทานคู่กับสเต็กหรือเนื้อย่างวากิว (Wagyu) เพียงแค่แตะวาซาบิเล็กน้อยบนชิ้นเนื้อ ก็จะได้รสชาติที่ลงตัวและเพิ่มความหอมสดชื่น
2.สำหรับเมนูซูชิ/ซาชิมิ: ใช้แทนวาซาบิแบบบด เพื่อเพิ่มความจัดจ้านและรสสัมผัสกรุบ ๆ
3.ท็อปปิ้งอาหาร: โรยบนข้าวหน้าปลาดิบ (Chirashi-don), ข้าวหน้าเนื้อ (Gyudon), เต้าหู้เย็น (Hiyayakko), หรือไข่ตุ๋นแบบญี่ปุ่น (Chawanmushi)
วิธีใช้หรือวิธีเตรียม (Usage Instruction)
1.นำสินค้าออกมาจากช่องแช่แข็งในปริมาณที่ต้องการใช้
2.ปล่อยให้ละลายน้ำแข็งตามธรรมชาติในอุณหภูมิห้อง หรือในตู้เย็น (ใช้เวลา 10-20 นาที)
3.เมื่อละลายแล้ว สามารถเปิดซองและตักวาซาบิพร้อมปรุงรสแล้วมาใช้เป็นเครื่องเคียงได้ทันทีค่ะ
หลังเปิดซองแล้ว ควรกดซิปล็อกปิดปากถุงให้แน่น และเก็บในช่องแช่แข็งตามเดิมเพื่อรักษาคุณภาพและความสดใหม่ของวาซาบิค่ะ
***ข้อควรระวัง: ไม่ควรนำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งซ้ำ
ลองเพิ่ม คิซามิ วาซาบิ เข้าไปในมื้ออาหารของคุณดูสิคะ แล้วคุณจะได้เพลิดเพลินกับรสชาติและเนื้อสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์แบบญี่ปุ่นแท้ ที่จะช่วยยกระดับเมนูโปรดของคุณให้พิเศษยิ่งขึ้นได้ที่บ้านค่ะ
ลิ้มรสชาติโชยุพรีเมี่ยมที่หมักในถังไม้แบบดั้งเดิมนานกว่า 1 ปี
โชยุ จากแบรนด์ ทาเคซัน (Takesan) โชยุพรีเมี่ยมที่หมักในถังไม้แบบดั้งเดิมนานกว่า 1 ปี ผ่านกระบวนการผลิตที่เน้นความสดใหม่ ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ จึงทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นหอมของถั่วเหลืองตามธรรมชาติ ซึ่งได้เลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ถั่วเหลืองเต็มเมล็ด ข้าวสาลี และเกลือทะเล ที่คัดสรรค์มาอย่างดี ผลิตจากเกาะโชโดะชิมะ (Shodoshima) เป็นแหล่งผลิตซอสถั่วเหลืองที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ด้วยกลิ่นหอมและรสชาติที่เข้มข้นของโชยุขวดนี้ทำให้ใช้ปรุงอาหารได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ซอสจิ้มซูชิ ซาซิมิ และเมนูประเภทตุ๋นต่างๆ
ทสึยุสูตรเข้มข้น อร่อย กลมกล่อมยิ่งขึ้น
หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่โปรดปรานอาหารญี่ปุ่นและชอบที่จะได้ลองทำทานเองที่บ้าน สึยุถือเป็นเครื่องปรุงที่จะช่วยให้การทำอาหารญี่ปุ่นของคุณสะดวกและง่ายดายขึ้นมากเลยทีเดียวค่ะ ในสึยุจะประกอบไปด้วยโชยุ มิริน และดาชิ มักจะใช้เป็นซอสเพื่อรับประทานกับอาหารประเภทเส้นของญี่ปุ่นอย่าง โซบะ โซเมน หรืออุด้ง นอกจากนี้ยังนำไปประกอบเมนูอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผัดกับผักหรือเนื้อสัตว์เพื่อทำดงบุริ ทำน้ำซุปหม้อไฟ ต้มหัวปลาแบบญี่ปุ่น ทำเป็นซอสเทมปุระก็ได้เช่นกัน
Sanbishi Awase Dashi Tsuyu สูตรนี้ เป็นดาชิสึยุเข้มข้นถึง 3 เท่า ที่เต็มไปด้วยรสอูมามิจากปลาแห้ง 3 ชนิด ได้แก่ ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล และปลาโบนิโต้ รวมถึงหอยเชลล์และสาหร่าย จนได้รสชาติที่กลมกล่อมยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพียงแค่นำไปผสมน้ำตามอัตราส่วนที่เหมาะสมก็เตรียมรับความอร่อยได้เลยค่ะ
ตัวอย่างอัตราส่วนในการทำเมนูต่างๆ
• ซอส 1: น้ำ 2 สำหรับเมนูบะหมี่เย็น น้ำจิ้มเทมปุระ หรือซอสราดหน้าข้าว (ดงบุริ)
• ซอส 1: น้ำ 4-5 สำหรับเมนูประเภทต้ม เช่น หัวปลาต้มซีอิ๊วแบบญี่ปุ่น
• ซอส 1: น้ำ 5-6 สำหรับเมนูบะหมี่ร้อน
• ซอส 1: น้ำ 7-9 สำหรับเมนูหม้อไฟหรือโอเด้ง
หมายเหตุ : เพื่อให้ได้รสชาติในแบบที่ชอบ สามารถปรับเปลี่ยนอัตราส่วนได้ตามต้องการค่ะ
ทำพิซซ่าญี่ปุ่นใครว่ายาก
แป้งสำเร็จรูปจากแบรนด์ Nippn ห่อนี้ เรานำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้คุณสามารถทำพิซซ่าญี่ปุ่น หรือ โอโคโนมิยากิได้ง่ายๆ แถมรสชาติยังอร่อยมากๆ เหตุผลที่ทำให้อร่อย เพราะแป้งเราได้คิดค้นและผสมในสูตรเฉพาะของเรา ทำให้พิซซ่าญี่ปุ่นของคุณนุ่ม ฟู ไม่แห้งกระด้าง อร่อยในแบบต้นฉบับแท้ๆ แป้ง 1 ห่อ ทำได้ประมาณ 4 ที่
วิธีทำ
1. ใส่แป้งโอโคโนมิยากิ 100 กรัมลงในน้ำ 100 มล. แล้วผสมให้เข้ากัน ใส่กะหล่ำปลีสับ 300 กรัม ไข่ 1 ฟอง ขิงสับละเอียดนิดหน่อย และไส้โอโคโนมิยากิที่คุณชื่นชอบ 100 กรัม (ปลาหมึก กุ้ง หมู ฯลฯ)
2. นำกระทะตั้งไฟให้ร้อน (200C) เติมน้ำมันพืชหรือเนยเล็กน้อย ก่อนตักแป้งโอโคโนมิยากิครึ่งหนึ่งออกเป็นทรงกลม ทิ้งไว้ประมาณ 2 นาที ให้ใส่กระหล่ำปลี และไส้ที่ชอบ ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที
3. พลิกอีกด้านอย่างระมัดระวังและปิดฝากระทะ ทิ้งไว้อีกประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นเปิดฝากระทะ ทิ้งไว้ 1 นาที
4. ตักใส่จาน พร้อมราดซอสโอโคโนมิยากิ มายองเนส และเกล็ดปลาโบนิโตะ
มาลองทำข้าวห่อสาหร่ายกันไหมคะ
เซมเบ้แผ่นบางรสกุ้ง
เซมเบ้แผ่นบางกรอบผสมเนื้อกุ้งทอดจนได้ที่ ยิ่งทานยิ่งเพลิน หมดห่อแบบไม่รู้ตัว 1 ห่อ มี 3 แพ็ค
เบนิฮอปเปะ… สตรอว์เบอร์รี่ที่ทำให้แก้มคุณแดงด้วยความฟิน!
ทำไม “เบนิฮอปเปะ” ถึงพิเศษกว่าใคร?
เบนิฮอปเปะขึ้นชื่อเรื่อง ความหวานฉ่ำแบบเป็นธรรมชาติ สายพันธุ์นี้จะทรงเรียวยาว สีแดงสดเป็นมันเงา เนื้อแน่น ฉ่ำ หวานนำ เปรี้ยวเล็กน้อย และเนื้อแน่นไม่เละง่าย ทำให้เคี้ยวแล้วได้สัมผัสฟิน ๆ เต็มคำ พร้อมกลิ่นหอมสไตล์ผลไม้ฤดูหนาวของญี่ปุ่น
ฤดูกาลเก็บเกี่ยวช่วงปลายปีถึงต้นปี ทำให้ผลเบอร์รี่รุ่นนี้กลายเป็น “สัญลักษณ์ความสดใหม่ของฤดูหนาว” หลายครอบครัวในญี่ปุ่นนิยมซื้อไปจัดเป็นของขวัญสุดพรีเมียม เพราะความสวย หวาน และดูหรูตั้งแต่แพ็กแรกเห็น สตรอว์เบอร์รี่พันธุ์นี้มีชื่อเรียกว่าสตรอว์เบอร์รี่ “เจ้าหนูแก้มแดง”
ปลูกในดินดี อากาศดี จึงให้รสชาติที่ดี
จังหวัดชิซูโอกะมีดินภูเขาไฟที่อุดมด้วยแร่ธาตุ พร้อมอากาศเย็นสบายเหมาะกับการปลูกสตรอว์เบอร์รี่แบบควบคุมคุณภาพ ทำให้ผลของสายพันธุ์นี้มีความหวานโดดเด่นกว่าสายพันธุ์ทั่วไปทุกลูกผ่านการคัดมือ ใส่ใจตั้งแต่ปลูกจนถึงแพ็ก พร้อมรักษาความสดให้เหมือนเพิ่งเก็บจากสวน
ประโยชน์ที่ได้มากกว่าแค่ความอร่อย
• อุดมด้วยวิตามิน C ช่วยบำรุงผิวและเสริมภูมิคุ้มกัน
• เต็มไปด้วยสารแอนโทไซยานิน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
• ไฟเบอร์สูงดีต่อระบบย่อยอาหาร
• แคลอรี่ต่ำ ทานเพลินแบบไม่รู้สึกผิด
เคล็ดลับเพิ่มความฟิน
แช่เย็นก่อนทาน 1–2 ชั่วโมง รสชาติจะหวานชัด หอมมากขึ้น และเนื้อกรอบขึ้นอีกระดับ เหมาะมากสำหรับทานเล่นระหว่างวัน ฟินแบบไม่ต้องใส่อะไรเพิ่ม
จะทานสดหรือทำเมนูก็อร่อยทุกแบบ เบนิฮอปเปะเป็นหนึ่งในสตรอว์เบอร์รี่ที่คาเฟ่และร้านขนมญี่ปุ่นเลือกใช้มากที่สุด เพราะหน้าตาสวย สีสด และหวานกำลังดี คุณสามารถนำไปทำได้ทั้ง สตรอว์เบอร์รี่ชอร์ตเค้ก สตรอว์เบอร์รี่ไดฟุกุ สตรอว์เบอร์รี่พาร์เฟต์ นมสตรอว์เบอร์รี่โฮมเมด โยเกิร์ตโบลว์ตอนเช้า อยากชวนคุณได้มาลอง และฟินไปด้วยกัน
เพิ่มความสดชื่นแบบไร้คาเฟอีน ด้วยชาข้าวบาร์เลย์จากญี่ปุ่น
สำหรับคนที่ต้องการความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า แต่ไม่อยากรับประทานเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เราขอแนะนำมูกิฉะหรือชาข้าวบาร์เลย์ค่ะ ชาชนิดนี้แท้จริงแล้วไม่มีส่วนผสมของใบชา แต่ผลิตขึ้นจากเมล็ดข้าวบาร์เลย์ที่นำมาคั่วบดแล้วบรรจุใส่ซองชา เพื่อนำมาชงกับน้ำร้อนหรือน้ำเย็น
ฮอนมะ มอน มูกิฉะห่อนี้ โดดเด่นด้วยการใช้ข้าวบาร์เลย์ชนิดเปลือกล่อน อิจิบังโบชิ (Ichibanbochi) จากจังหวัดคางาวะ 100% จึงทำให้มีรสชาติกลมกล่อม ไม่ขมฝาดเหมือนชาอื่นๆ และมาพร้อมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ น้ำชามีสีเหลืองทอง ให้ความรู้สึกสดชื่น ชุ่มคอ ชาวญี่ปุ่นจึงนิยมดื่มมูกิฉะในฤดูร้อน เรียกได้ว่าเป็นเครื่องดื่มแก้วโปรดของทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยทีเดียวค่ะ
วิธีการชงแบบร้อน
• ต้มน้ำ 1.5 ลิตรให้เดือด ใส่ฮอนมะ มอน มูกิฉะ 1 ซอง แล้วต้มต่อไปอีกประมาณ 3-5 นาที จากนั้นยกลงจากเตา สามารถดื่มแบบร้อนหรือนำไปแช่เย็นก่อนดื่มก็ได้ค่ะ
วิธีการชงแบบเย็น
• ใส่ฮอนมะ มอน มูกิฉะ 1 ซอง ลงในน้ำเย็น 1 ลิตร แล้วนำไปแช่เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง พร้อมดื่มค่ะ
ชวนคุณมาลิ้มลองยากิโซบะรูปแบบใหม่ๆ อย่างยากิอุด้งห่อนี้ค่ะ
หลายๆ คนคงถูกใจในรสชาติอันเข้มข้นของบะหมี่ผัดสไตล์ญี่ปุ่นอย่างยากิโซบะกันใช่ไหมคะ แต่หากคุณเบื่อสัมผัสในแบบเดิมๆ ของเส้นโซบะ และอยากจะลองเส้นบะหมี่ที่ออกไปในทางหนานุ่มแทนบ้าง เราขอแนะนำเมนูยากิอุด้งค่ะ เมนูนี้ถือเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างซอสผัดรสชาติเข้มข้นกับเส้นอุด้งเหนียวนุ่ม หนึบหนับ ให้คุณอิ่มอร่อยได้ง่ายๆ แค่เทเส้นและซอสลงไปผัดกับเนื้อสัตว์หรือผักที่ชอบ เพียงไม่นานก็พร้อมเสิร์ฟค่ะ
วิธีอร่อยกับยากิอุด้ง (สำหรับ 1 ที่)
1. เทน้ำมันลงในกระทะเล็กน้อย พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่เนื้อสัตว์และผักลงไปผัดจนสุก
2. เทเส้นอุด้งลงไป ผัดจนเส้นเริ่มคลายตัว เทซอสที่อยู่ในซองลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. ตักใส่จาน ยากิอุด้งแสนอร่อยพร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
(หากต้องการให้เส้นนิ่มยิ่งขึ้น สามารถเติมน้ำได้เล็กน้อย)
เพลิดเพลินกับแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแท้ๆ แบบเต็มรสชาติได้ง่ายๆ แค่อุ่น
สนุกกับการทำโอโคโนมิยากิได้ง่ายๆ ที่บ้านคุณ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะ หรืออยากลองสัมผัสรสชาติอันลุ่มลึกของวัตถุดิบระดับพรีเมียม “ตับปลาอังกิโมะ” คือหนึ่งในเมนูที่ห้ามพลาด!
อังกิโมะคืออะไร?
อังกิโมะ (Ankimo) คือตับของปลาอังโกะ (Anko Fish) หรือ มังค์ฟิช (Monkfish) ซึ่งเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในทะเลลึก ถือเป็นหนึ่งในอาหารชินมิ (Chinmi) หรืออาหารเลิศรสที่หาทานได้ยากของญี่ปุ่น ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล" เพราะมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มคล้ายตับห่าน มีรสชาติเค็มอ่อน ๆ และมีความหอมมันอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ทำไมถึงอร่อยและพิเศษ?
ตับปลาอังกิโมะของเรา เป็นสินค้าที่ผ่านกระบวนการปรุงรสและต้มมาอย่างพิถีพิถันจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน จึงมีรสชาติที่กลมกล่อมและพร้อมรับประทานทันที ไม่ต้องนำมาปรุงเพิ่มให้ยุ่งยาก ทำให้คุณได้สัมผัสกับรสชาติแบบดั้งเดิมของอังกิโมะได้อย่างง่ายดาย นอกจากความอร่อยแล้ว อังกิโมะยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เช่น วิตามิน A, วิตามิน D และไขมันดีในปริมาณที่สูงอีกด้วย
เมนูที่ทำได้ง่ายๆ
เมนูจากตับปลาอังกิโมะสามารถทำได้หลากหลาย และแต่ละเมนูล้วนช่วยดึงรสชาติความอร่อยออกมาได้อย่างเต็มที่
- ทานเป็นกับแกล้ม: เสิร์ฟอังกิโมะแช่เย็นคู่กับต้นหอมซอย, โมมิจิโอโรชิ (หัวไชเท้าขูดผสมพริก) และซอสพอนสึ (Ponzu Sauce) เพื่อเพิ่มความสดชื่นและตัดความมัน
- ทำเป็นนิกิริซูชิ: วางชิ้นอังกิโมะบนข้าวปั้นซูชิ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมในร้านซูชิระดับพรีเมียม
- ทำเป็นสลัด: หั่นอังกิโมะเป็นชิ้นพอดีคำ วางบนสลัดผัก ราดด้วยน้ำสลัดงา หรือซอสพอนสึ
วิธีเตรียมตับปลา
1. นำอังกิโมะออกจากตู้เย็น วางไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 30-40 นาที เพื่อทำการละลาย
2. แกะซองและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
3. จัดวางบนจาน และนำไปใช้ประกอบเมนูได้ตามต้องการ
*สินค้าบรรจุมาในซองสุญญากาศแบบพร้อมทาน
เปิดประสบการณ์ความอร่อยสุดพิเศษจากท้องทะเลลึกได้แล้ววันนี้! ตับปลาอังกิโมะ พร้อมให้คุณได้ลิ้มลองความอร่อยแบบต้นตำรับญี่ปุ่นได้ง่าย ๆ ที่บ้านของคุณ
ราเมนรสซีฟู้ดสไตล์เกาหลี ที่ถูกใจของใครหลายๆ คน
นิสชิน (Nissin) ถือเป็นแบรนด์บะหมี่ชื่อดังระดับโลกที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี วันนี้เรานำเข้าราเมนหลากหลายรสชาติมาจากฮ่องกง เพื่อให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติที่แตกต่างไปจากที่เคยรับประทาน หนึ่งในราเมนรสเด็ดของนิสชินคือรสสไปซี่ซีฟู้ดห่อนี้ ด้วยน้ำซุปที่ทำจากน้ำสต๊อกอาหารทะเลเข้มข้น เพิ่มรสอูมามิด้วยโชยุ หอมกลิ่นถั่วเหลือง ผสานความเผ็ดร้อนจากพริกและเครื่องเทศจนน้ำซุปแซ่บกลมกล่อม ได้รสชาติของทะเลแบบเต็มๆ เพียงเติมเนื้อสัตว์และผักที่คุณชอบไปอีกนิด เชื่อว่าคุณจะเก็บนิสชินราเมนรสนี้ไว้เป็น 1 ในรสชาติโปรดของคุณแน่นอนค่ะ
วิธีอร่อยกับ Nissin Ramen
1. ต้มน้ำ 500 มล. ให้เดือด จากนั้นใส่เส้นราเมนลงไปต้มประมาณ 3 นาที
2. ใส่เครื่องปรุงและซุปลงในชาม เทน้ำร้อนลงไป คนให้ละลายเข้ากันดีแล้วใส่เส้นราเมน
3. เสิร์ฟพร้อมเนื้อสัตว์และผักตามต้องการ
ชาเขียวเซนฉะแบบใบ จากเมืองชิซูโอกะ
ชาเขียวญี่ปุ่น จากเมือง Shizuoka ถือเป็นชาเขียวคุณภาพดี มีชื่อเสียงทั้งในประเทศญี่ปุ่น และต่างประเทศ เราคัดเลือกแต่ยอดอ่อนของใบชา ผ่านกรรมวิธีหมักตามแบบเฉพาะ เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับรสชาติ สี และกลิ่นแบบต้นตำรับแท้ๆ
ขั้นตอนการชงชา
• เทน้ำเดือนลงในถ้วยชา 300 มล. แล้วรอให้น้ำเย็นลงประมาณ 80 องศา (เพื่อไม่ให้น้ำร้อนเกินไปจนทำให้รสชาติของชาขม)
• ใส่ใบชาลงในถ้วยชาประมาณ 6กรัม (1 ช้อนโต๊ะ) จากนั้นเติมน้ำร้อนที่เตรียมไว้ลงไป
• แช่ใบชาทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที หรือจนได้รสชาติตามที่ต้องการ (หากแช่นานเกินไปอาจจะทำให้ชาขม)
• กรองใบชาออกจากน้ำชา จากนั้นสามารถดื่มได้ทันที
หยุดไม่ได้ตั้งแต่คำแรก มนต์เสน่ห์แห่งความกรุบกรอบของมันเทศญี่ปุ่น
ที่สุดของความกรุบกรอบ ที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยได้ทันที " มันเทศญี่ปุ่นเคลือบน้ำตาล คือขนมหวานญี่ปุ่นคลาสสิกที่ครองใจคนทุกวัย ด้วยรสหวานหอมของน้ำเชื่อมที่เคลือบบนมันเทศเนื้อนุ่มโฮกุโฮกุ (นุ่มฟูแบบมันเทศ) สินค้าตัวนี้ ความพิเศษอยู่ที่ "สัมผัสกรุบกรอบ คาริคาริ" ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ผลิตจากมันเทศญี่ปุ่นคุณภาพดี โดยใช้เทคโนโลยีการเคลือบน้ำตาลที่เป็นสูตรเฉพาะ ทำให้ชั้นน้ำตาลที่เคลือบด้านนอกคงความกรอบได้ยาวนาน ไม่เหนียวติดกัน ไม่ว่าคุณจะทานแบบเย็นๆ ที่ละลายน้ำแข็งได้ที่แล้ว หรือจะอุ่นเล็กน้อยเพื่อสัมผัสที่แตกต่าง ก็ยังคงความอร่อยไว้ บรรจุภัณฑ์ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบาย เพราะคุณสามารถนำออกมาละลายน้ำแข็งตามธรรมชาติ ตามปริมาณที่อยากทานได้เลย เหมาะสำหรับช่วงเวลาเร่งด่วน, เป็นของว่างสำหรับเด็กๆ, ยิ่งทานคู่กับไอศกรีมหรือโยเกิร์ต ยิ่งเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น กลายเป็นของหวานแสนอร่อย หรือเป็นเมนูเติมความหวานหลังมื้ออาหารได้เลย
จุดเด่นที่ทำให้ "มันเทศ" เป็นที่รักของคนญี่ปุ่น
1. ใช้มันเทศญี่ปุ่นแท้ 100%
• วัตถุดิบคุณภาพสูง : การันตีว่าใช้มันเทศที่ปลูกในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมันเทศญี่ปุ่น (ซัตสึมะอิโมะ) นั้นมีชื่อเสียงในเรื่องรสชาติที่หวานตามธรรมชาติ เนื้อสัมผัสเนียนละเอียดกว่ามันเทศทั่วไป
• ความหวานจากธรรมชาติ : รสชาติของมันเทศในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวจะหวานเป็นพิเศษ ทำให้แม้จะเคลือบน้ำตาลก็ยังคงได้กลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของมันเทศคุณภาพดี
2. สัมผัสกรุบกรอบทรงพลัง
• จุดเด่นที่แตกต่าง : ความกรอบที่เกิดจากชั้นน้ำตาลที่เคลือบภายนอก เมื่อกัดเข้าไปคุณจะได้ยินเสียงกรุบกรอบ ก่อนที่จะสัมผัสกับเนื้อในที่นุ่มชุ่มฉ่ำ
• ความสมดุลของรสชาติ : ซอสเคลือบถูกปรุงด้วยรสชาติ หวาน-เค็ม ที่ลงตัว (ส่วนผสมหลักคือ น้ำตาล, โชยุ และบางครั้งอาจมีน้ำผึ้ง/มิริน) ทำให้ทานได้เรื่อยๆ ไม่หวานเลี่ยน
วิธีการทาน :
• นำมันเทศเคลือบน้ำตาลแช่แข็ง ออกมาจากถุงตามปริมาณที่ต้องการ
• วางทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง (ละลายน้ำแข็งตามธรรมชาติ) ประมาณ 20-30 นาที
• รับประทานได้ทันที โดยแนะนำให้ทานขณะที่ยังมีอุณหภูมิเย็นเล็กน้อย
เมนูแนะนำทานคู่กัน :
• ทานคู่กับไอศกรีม : วางบนไอศกรีมวานิลลาหรือชาเขียว เพื่อเพิ่มความหรูหราและสัมผัสที่ตัดกัน
• ทานคู่กับโยเกิร์ต : เพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัสในโยเกิร์ต
• ใส่ในสลัด : สำหรับเพิ่มรสหวานและสีสันในสลัดผักบางประเภท
มาทำโอเด้งทานเองที่บ้านกันค่ะ
อินานิวะ อุด้ง 1 ใน 3 สุดยอดอุด้งของญี่ปุ่น
เส้นอุด้ง จากอากิตะ เป็นสินค้าขึ้นชื่อประจำจังหวัด ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น "อุด้งเส้นแห้งดึงมือ" อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น มีลักษณะเด่นคือเส้นบางกว่าอุด้งทั่วไป และมีความเหนียวนุ่มเป็นพิเศษ เนื่องจากผ่านกระบวนการนวดและยืดเส้นด้วยมือแบบดั้งเดิม ทำให้ได้สัมผัสที่นุ่มลื่นและเคี้ยวหนึบ นิยมทานแบบเย็นจุ่มกับซุปโชยุเข้มข้น หรือ แบบร้อนในน้ำซุปดาชิหอมกลมกล่อม
วิธีรับประทาน อินานิวะ อุด้ง
1. ต้มน้ำให้เดือด เตรียมน้ำ 1 ลิตร ต่อเส้นอุด้ง 80-100 กรัม รอให้น้ำเดือด
2. ใส่เส้นลงในน้ำ ค่อยๆ วางเส้นลงในน้ำเดือด
3. ใช้ตะเกียบคนเส้นอุด้งเบาๆ เป็นรูปเลขแปด เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นติดกันขณะต้ม
4. ตรวจสอบสีของเส้นอุด้ง ต้มจนเส้นลายเป็นสีขาวขุ่น ปรับเวลาในการต้มตามเนื้อสัมผัสที่ต้องการ
ต้มนานขึ้นเพื่อให้เส้นนิ่มขึ้น หรือลดเวลาลงเพื่อให้เส้นแข็งขึ้น < เวลาโดยประมาณ >
• อุด้ง : 3 นาที / ฮิมูกิ: 2 นาที
• โซเมน : 90 วินาที / ข้าวต้มเส้น 4-5 นาที
5. เมื่อต้มเสร็จแล้ว ให้รีบนำใส่กระชอนแล้วล้างด้วยน้ำเย็นให้สะอาดเพื่อป้องกันไม่ให้เส้นสุกเกินไป
เปลี่ยนมื้อธรรมดาให้พิเศษด้วย Kantonfu Kanitama ผงซอสปรุงสำเร็จจากญี่ปุ่น ที่ช่วยให้คุณทำไข่เจียวปูราดซอสข้นสไตล์จีนได้ง่าย ๆ ในไม่กี่นาที! รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม หอมอร่อยเหมือนต้นตำรับ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยเหมือนเชฟญี่ปุ่นทำให้เอง
วิธีการใช้ :
1. เตรียมส่วนผสม: ตีไข่และใส่ปูอัดหรือเนื้อปูลงไป คนให้เข้ากัน
2. ทอดไข่: ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ร้อน เทส่วนผสมไข่ลงไปครึ่งหนึ่ง ทอดด้วยไฟปานกลางประมาณ 1 นาทีจนสุก แล้วตักขึ้นใส่จาน
3. เตรียมซอส: ผสมน้ำกับผลิตภัณฑ์ Kantonfu Kanitama แล้วตั้งไฟปานกลาง คนจนซอสข้นขึ้น
3. เสิร์ฟ: ราดซอสที่เตรียมไว้บนไข่เจียวที่ทอดแล้ว พร้อมเสิร์ฟ
ไม่ต้องทอดเองให้ยุ่งยาก อุ่นได้ทั้งแบบเวฟและทอดซ้ำ✨
สัมผัสความอร่อยแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ กับเทมปุระปลาหมึกเนื้อนุ่มชิ้นหนา เคลือบด้วยแป้งเทมปุระทอดจนกรอบ เสิร์ฟพร้อมซอสเทนซึยุสูตรพิเศษที่ใช้ "มิรินหมักสุก" เพิ่มความหอมหวานกลมกล่อม
ทานคู่ข้าวก็อร่อย หรือจะเป็นกับแกล้มก็ดี! เทมปุระปรุงสุกพร้อมทาน ไม่ต้องทอดซ้ำ สามารถละลายธรรมชาติแล้วอุ่นไมโครเวฟได้ง่าย ๆ เหมาะสำหรับมื้อเบา ๆ หรือเป็นเครื่องเคียงในเบนโตะ
♨️ วิธีการอุ่นด้วยไมโครเวฟ
• ไม่ต้องละลายน้ำแข็งก่อน (สามารถอุ่นจากแช่แข็งได้เลย)
• จัดวางบนจานที่สามารถใช้กับไมโครเวฟได้ โดยให้เว้นระยะระหว่างชิ้นเล็กน้อย
• ครอบด้วยพลาสติกแรปสำหรับไมโครเวฟ เพื่อคงความชุ่มชื้น (ถ้าต้องการให้กรอบ อาจเว้นการคลุม)
⏱️เวลาที่ใช้ในการอุ่น:
• ไมโครเวฟ 500W: ประมาณ 1 นาที 30 วินาที – 2 นาที
• ไมโครเวฟ 600W: ประมาณ 1 นาที – 1 นาที 30 วินาที
(พักไว้สักครู่ก่อนทาน เพราะไส้ด้านในอาจร้อนมาก)
เคล็ดลับเพิ่มเติม : หากต้องการให้กลับมากรอบ แนะนำให้เวฟแล้วนำเข้า หม้อทอดไร้น้ำมัน หรือ เตาอบ เพิ่มอีก 2–3 นาที เพื่อคืนความกรอบให้แป้งเทมปุระค่ะ
ไก่คาราอาเกะ กระเทียมพริกไทยทำง่ายแค่เขย่าแล้วเอาเข้าไมโครเวฟ!
มาทำไก่ทอดในไมโครเวฟกันเถอะ! มีใครอยากลองทำไก่ทอดที่บ้านบ้างไหม? แต่ฉันไม่อยากหมักมัน นอกจากนี้การทอดยังใช้เวลานานและเปลืองน้ำมันอีกด้วย ลองแพ็คนี้สิ! เพียงหั่นไก่เป็นชิ้นขนาดพอดีคำ ผสมหรือเขย่ากับแป้งปรุงรสชุดนี้ จากนั้นเมื่อนำเข้าไมโครเวฟแล้วให้นำออกมาพักไว้สักครู่ ตอนนี้คุณสามารถทำเมนูไก่ทอดแสนอร่อยที่บ้านได้แล้ว。
วิธีการทำ
1. หั่นไก่ (1 ชิ้นมีขนาดประมาณ 4 x 4 ซม. หรือชิ้นละ 30 กรัม)
2. หั่นไก่แล้วเขย่า โรยแป้งให้ทั่ว
3. วางกระดาษรองจาน เอาลงบนจาน ไว้สำหรับวางไก่ วางแยกกันเพื่อไม่ให้ติด
4.ทำความร้อนด้วยไฟฟ้า 600w แล้วตั้งเวลาผ่านหน้าซองด้านหลัง จากนั้นปล่อยให้นั่งสักพัก ขอเพียงแค่สนุกกับเรื่องนี้
อร่อยได้ทุกเวลากับเยลลีชุ่มฉ่ำพร้อมเนื้อผลไม้เต็มคำ
สัมผัสความสดใหม่ของผลไม้คุณภาพเยี่ยมเหมือนยกทั้งร้านมาไว้ที่บ้านคุณ ด้วยเยลลีเนื้อเนียนใส ชุ่มฉ่ำ ผสมเนื้อผลไม้แท้ ในซีรีส์ “Kudamonoyasan” จากแบรนด์ Tarami ประเทศญี่ปุ่น ให้คุณอร่อยไปกับรสชาติหวานอมเปรี้ยวและกลิ่นหอมสดชื่นของน้ำส้มเข้มข้น มาพร้อมเนื้อส้มแมนดารินชิ้นใหญ่เต็มคำ ผสานคุณค่าจากวิตามินซีแบบเต็มๆ ถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ยิ่งแช่เย็นยิ่งอร่อย
พร้อมเสิร์ฟความอร่อย! ถึงบ้านคุณ
เมนูแช่แข็งสุดยอดฮิตจากญี่ปุ่น ที่รวมความอร่อยของเนื้อปลานุ่มๆ กับเนื้อกุ้งบดแน่นๆ ปรุงรสด้วยซอสทาร์ทาร์สูตรต้นตำรับ กรอบนอก นุ่มใน หอมมันลงตัว ด้านนอกชุบเกล็ดขนมปังทอดจนกรอบ หอม อร่อย ทอดมาเรียบร้อยแล้ว พร้อมอุ่นรับประทานได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาเตรียมอาหาร แค่เวฟ หรืออบด้วยหม้อทอดลมร้อนก็ฟินได้เลย เหมาะสำหรับเป็นของว่าง มื้อเร่งด่วน หรือเสิร์ฟคู่ข้าวและสลัดก็อร่อยไม่แพ้เมนูร้านอาหาร!
♨️ วิธีการอุ่นด้วยไมโครเวฟ
• ไม่ต้องละลายน้ำแข็งก่อน (สามารถอุ่นจากแช่แข็งได้เลย)
• จัดวางบนจานที่สามารถใช้กับไมโครเวฟได้ โดยให้เว้นระยะระหว่างชิ้นเล็กน้อย
• ครอบด้วยพลาสติกแรปสำหรับไมโครเวฟ เพื่อคงความชุ่มชื้น (ถ้าต้องการให้กรอบ อาจเว้นการคลุม)
⏱️เวลาที่ใช้ในการอุ่น:
• ไมโครเวฟ 500 W :
1 ชิ้น ประมาณ 30 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 40 วินาที
3 ชิ้น ประมาณ 1 นาที
• ไมโครเวฟ 600 W :
1 ชิ้น ประมาณ 20 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 30 วินาที
3 ชิ้น ประมาณ 50 วินาที
(พักไว้สักครู่ก่อนทาน เพราะไส้ด้านในอาจร้อนมาก)
ชาที่ดื่มง่าย อร่อยลงตัว จนคนญี่ปุ่นยกให้เป็นชาชั้นเลิศ
ชาเขียวใบชนิดซอง เกียวคุโระ ของญี่ปุ่นทำไมต้อง "ยาบุกิตะ"
หากคุณเป็นผู้หลงใหลในชาเขียวญี่ปุ่นแท้ๆ "ยาบุกิตะ" คือ ราชินีแห่งชาเขียวของญี่ปุ่น เป็นระดับชาที่ปลูกด้วยเทคนิคการบังแสงแดดก่อนเก็บเกี่ยว ทำให้ใบชามีคลอโรฟิลล์สูง อูมามิที่เข้มข้น และความหวานนุ่มนวลที่โดดเด่น ผสานกับกลิ่นหอมละมุนฟุ้งที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยเทคโนโลยีถุงชาตาข่ายแบบใหม่ ทำให้คุณสามารถชงชาเขียวคุณภาพระดับญี่ปุ่นออกมาได้ง่ายๆในทุกแก้ว ไม่ว่าจะชงร้อนเพื่อความผ่อนคลาย หรือ ชงแบบเย็น (สกัดเย็น) เพื่อความสดชื่น เพียงเติมน้ำ ก็พร้อมเสิร์ฟ สะดวก พกพาง่าย ดื่มได้ทุกที่ ทุกเวลา เหมาะสำหรับดื่มคู่กับอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่มอื่นๆได้ตามสไตล์คุณ
เคล็ดลับการชงแบบร้อน และ แบบเย็น(สกัดเย็น)
ชาเขียวญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องชงด้วยน้ำร้อนเสมอไป! ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นแนะนำให้ลองชงชาเขียวแบบ "น้ำสกัดเย็น" ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมาก การชงด้วยน้ำเย็นจะช่วยดึงรสอูมามิ และสารคาเทชิน ที่ให้รสหวานออกมาได้มาก ในขณะที่รสขมและคาเฟอีนจะละลายออกมาน้อยลง ทำให้ได้ชาที่มีรสชาติกลมกล่อม นุ่มนวล และสดชื่นเป็นพิเศษ
วิธีชงแบบร้อน :
1. ต้มน้ำให้เดือด แล้วรอให้น้ำเย็นลงเหลือประมาณ 70-80 องศาเซลเซียส (หากไม่มีเทอร์โมมิเตอร์ สามารถต้มน้ำเดือดแล้วทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที)
2. ใส่ถุงชา 1 ซอง ลงในแก้วหรือถ้วยชา
3. ค่อย ๆ รินน้ำร้อน ประมาณ 150-200 มิลลิลิตร ลงไป
4. แช่ถุงชาทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที (ไม่ควรแช่นานเกินไป เพราะจะทำให้ชามีรสขมฝาด)
5. นำถุงชาออก (อาจจะบีบเบา ๆ ก่อนนำออก) และพร้อมดื่ม
วิธีชงแบบน้ำ(สกัดเย็น) :
1. ใส่ถุงชา 1-2 ซอง ลงในขวดหรือภาชนะที่มีฝาปิดสนิท
2. เติมน้ำเย็นอุณหภูมิห้อง หรือ น้ำเย็นจัด ปริมาณประมาณ 300-500 มิลลิลิตร
3. ปิดฝาแล้วนำไปแช่ในตู้เย็น
4. รอเวลาทิ้งไว้ให้สกัดเย็นเป็นเวลา 3-6 ชั่วโมง หรืออาจจะแช่ข้ามคืน 8-12 ชั่วโมง เพื่อให้ได้รสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้น
(หากแช่นานเกิน 12 ชั่วโมง อาจเริ่มมีรสฝาดออกมาบ้าง)
5. เมื่อได้ความเข้มข้นที่ต้องการแล้ว ให้นำถุงชาออก พร้อมดื่มได้ทันที
ข้อดีของการสกัดเย็น:
รสชาติ : รสชาตินุ่มนวล หวาน อูมามิเด่นชัด และมีรสขมฝาดน้อยมาก
คาเฟอีน : ระดับคาเฟอีนจะต่ำกว่าการชงแบบร้อน
มาทำขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมกันค่ะ
แป้งวาราบิโมจิ จากแบรนด์ คิง ฟู้ด (King Food) คือผลิตภัณฑ์แป้งทำขนมญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับคนที่ชื่นชอบในการทำขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่น เช่น วาราบิโมจิ โมจิ หรือขนมที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มหนึบ โดยสามารถปรับสูตรได้ตามแบบเฉพาะของคุณ สำหรับเมนูวาราบิโมจิ หากยิ่งทานคู่กับผงคินาโกะด้วยแล้ว ยิ่งอร่อยในแบบฉบับของญี่ปุ่นแท้ๆเลยค่ะ
วิธีทำ
1. ผสมแป้งวาราบิโมจิ 1 ถุง ต่อน้ำประมาณ 700 cc
2. ตั้งไฟโดยใช้ไฟกลาง เมื่อสีของแป้งเริ่มขุ่นและจับกันเป็นก้อน ให้ลดไฟเป็นไฟอ่อน หมั่นคนให้เข้ากันจนแป้งเริ่มใส
3. เมื่อแป้งใสได้ที่แล้ว ให้เทลงบนภาชนะที่มีลักษณะแบน ค่อยๆใส่น้ำด้านบนแป้งเพื่อให้แป้งเย็นตัวลง แล้วตัดเป็นชิ้นพอดีคำ
วิธีลัด
• ตักแป้งที่เพิ่งกวนเสร็จในขนาดพอดีคำ แล้วใส่ในน้ำเย็นจัด (น้ำผสมน้ำแข็ง) นำมาสะเด็ดน้ำเรียบร้อยแล้ว เพื่อเพิ่มความอร่อยให้โรยผงคินาโกะ หรือผงชาเขียวตามชอบ
วิธีทำด้วยไมโครเวฟ
*แนะนำให้แบ่งทำทีละน้อย*
1. ใช้แป้งวาราบิโมจิ 60 กรัม (สำหรับ 2 เสิร์ฟ) ต่อน้ำ 270 CC
2. ผสมน้ำกับแป้งใส่ในภาชนะที่ใหญ่คนให้เข้ากัน จากนั้นแร็ปปิดฝาด้านบน
3. นำเข้าไมโครเวฟใช้ไฟ 500 วัตต์ ประมาณ 4 นาที นำออกมาคนให้เข้ากัน จากนั้นแร็ปปิดฝาด้านบน เข้าไมโครเวฟอีกครั้ง จนแป้งสุกและมีเนื้อใส
4. นวดให้เข้ากัน หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วทิ้งให้เย็น เพื่อเพิ่มความอร่อยให้โรยผงคินาโกะ หรือผงชาเขียวตามชอบ
(สามารถปรับสูตรได้ตามความต้องการ)
เพิ่มรสชาติของข้าวและอาหารจานโปรดของคุณด้วยสิ่งนี้!!
Furikake ฟุริคาเคะ หรือผงโรยข้าวได้มีการนำวัตถุดิบต่างๆมาอบให้แห้งและป่นเป็นผงเพื่อใช้เพิ่มรสชาติให้กับข้าว หรือนำไปผสมกับข้าวใช้ทำข้าวปั้น ห่อนี้ได้คัดเลือกปลาคัทสึโอะย่างจนได้กลิ่นหอม ผสมคู่กับสาหร่าย งา และเครื่องปรุงรสอื่นๆ เพียงแค่โรยบนข้าวสวยร้อนๆ แล้วเพิ่มความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นด้วยไข่แดงดิบ เพียงเท่านี้ก็อร่อยแล้วค่ะ 1 ห่อ บรรจุ 5 ซอง
คลาสสิกซีฟู้ด ลิ้มรสอันแสนอบอุ่นจากหลากหลายวัตถุดิบแห่งท้องทะเล
นิสชิน (Nissin) ถือเป็นแบรนด์บะหมี่ชื่อดังระดับโลกที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี วันนี้เรานำเข้าราเมนหลากหลายรสชาติมาจากฮ่องกง เพื่อให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติที่แตกต่างไปจากที่เคยรับประทาน สำหรับห่อนี้จะเป็นรสซีฟู้ด มีรสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นซีฟู้ด เหมาะสำหรับคนที่ชอบรสชาติอาหารทะเล ด้วยน้ำซุปที่กลมกล่อมทานคู่กับเส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม เพียงเติมเนื้อสัตว์ที่ชอบลงไป เช่น กุ้ง หรือปลาหมึก ยิ่งทำให้ราเมนถ้วยนี้อร่อยลงตัวยิ่งขึ้น
วิธีอร่อยกับนิสชิน ราเมง
1. ต้มน้ำ 500 มล. ให้เดือด จากนั้นใส่เส้นราเมนลงไปต้มประมาณ 3 นาที
2. ใส่เครื่องปรุงและซุปลงในชาม เทน้ำร้อนลงไป คนให้ละลายเข้ากันดีแล้วใส่เส้นราเมน
3. เสิร์ฟพร้อมเนื้อสัตว์และผักตามต้องการ
มิโซะะรสชาติกลมกล่อมที่ควรมีติดครัวไว้ทุกบ้าน
HonmonoNippon ได้นำเข้ามิโซะจากแบรนด์ Hikari แบรนด์ผลิตมิโซะอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น! โดยมิโซะนี้ได้คัดสรรเมล็ดถั่วเหลืองคุณภาพดี นำมาหมักและบดจนละเอียด ใช้ระยะเวลาในการหมักที่นาน จนเกิดรสชาติอูมามิ มีรสที่สมดุล มีกลิ่นหอม และยังคุณค่าทางโภชนาการ ยิ่งทานคู่กับเมนูจานโปรด ยิ่งอร่อยอูมามิค่ะ
สัมผัสความหอมละมุนอย่างลงตัวไปกับ "ชาเก็นไมฉะผสานมัทฉะ" จากแบรนด์ ฮาราดะ
ดื่มด่ำไปกับความหอมละมุนของ ‘เก็นไมฉะ ผสานมัทฉะ’ ชาเขียวเบลนด์พิเศษจากแบรนด์ ฮาราดะ (Harada) ที่ผสมผสานความสดชื่นของมัทฉะพรีเมียมเข้ากับความหอมกรุ่นของข้าวคั่วอย่างลงตัว พร้อมทั้งรังสรรค์ความกลมกล่อมจากใบชายาบุกิตะ (Yabukita) สายพันธุ์ยอดนิยมของญี่ปุ่น เกิดเป็นชาเขียวกลิ่นละมุนทำให้รู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่ได้ดื่ม
ยาบูกิตะ (Yabukita) เป็นชาสายพันธุ์ยอดนิยมและปลูกมากที่สุดในญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมอ่อนละมุนและรสชาติที่สมดุล จนได้รับการยกย่องให้เป็น “มาตรฐานแห่งชาเขียวญี่ปุ่น”
วิธีชงแบบร้อน:
• ใส่ชา 1 ซองลงในถ้วย เทน้ำเดือด 120 มล. ลงไป แช่ไว้ประมาณ 30 วินาที (หรือปรับตามชอบ) เขย่าซองชาเล็กน้อยแล้วนำออก จากนั้นเทใส่แก้วพร้อมดื่ม
วิธีชงแบบเย็น:
• ใส่ชา 1 ซองลงในถ้วย เติมน้ำเย็น 120 มล. แช่ไว้ประมาณ 3 นาที (หรือปรับตามชอบ) เขย่าซองชาเล็กน้อยแล้วนำออก จากนั้นเทใส่แก้วพร้อมดื่ม
ซุปดาชิรสเห็ดมัทสึตาเกะ อร่อย กลมกล่อม ในแบบญี่ปุ่น
สำหรับใครที่ชอบทานซุปร้อนๆ รสชาติกลมกล่อม ขอแนะนำซุปดาชิผสมเห็ดมัทสึตาเกะ และสาหร่าย จากแบรนด์ Nagatanien ด้วยส่วนผสมของปลาแห้งและเห็ดมัทสึตาเกะที่เข้ากันอย่างลงตัว จึงทำให้ซุปถ้วยนี้มีรสชาติที่เข้มข้น หอม อร่อย ยิ่งทานคู่กับเมนูโปรดและข้าวสวยร้อนๆ ยิ่งฟินนน!! แถมทานได้ง่าย เพียงแค่ฉีกซองเติมน้ำร้อนลงไป ก็สามารถทานได้ทันที
อร่อยง่ายๆ กับเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่น
ผักกาดดองต้มสุกปรุงรสแบบต้นตำรับญี่ปุ่น รสชาติอร่อยกลมกล่อมกำลังพอดี นิยมนำมาทำเป็นไส้ข้าวปั้นโอนิกิริ, รับประทานเป็นเครื่องเคียงคู่กับข้าวสวยหรือข้าวต้ม, เสิร์ฟเป็นกับแกล้ม หรือนำไปทำเมนูอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย สะดวกและประหยัดเวลาเพราะมาในรูปแบบปรุงสุกพร้อมทาน สามารถจัดเสิร์ฟได้ทันที
มาทำราเมงสไตล์ญี่ปุ่นกันเถอะ
ถั่วหมัก (นัตโตะ) หนึ่งในเคล็ดลับสุขภาพดีของคนญี่ปุ่น
นัตโตะหรือถั่วหมักสไตล์ญี่ปุ่นได้รับการยอมรับว่าเป็น Superfood เพราะอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมายที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี 12 วิตามิน K สารต้านอนุมูลอิสระ และโปรไบโอติกที่ช่วยในการย่อย ทำให้กระเพาะและลำไส้ของเราทำงานได้ดีขึ้น ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานนัตโตะเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในมื้อเช้า เพียงแค่มีข้าวสวยร้อนๆ โปะด้วยนัตโตะและราดด้วยโชยุสักหน่อยก็พร้อมอร่อยได้ทันที ถือเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่คุณไม่ควรพลาด
Daruma เป็นแบรนด์นัตโตะที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานในญี่ปุ่น Hakodate Hikiwari Natto กล่องนี้ทำมาจากถั่วเหลืองที่ปลูกในเมืองฮาโกดาเตะ ฮอกไกโด นำมาสับหยาบๆ และหมักด้วยกรรมวิธีแบบดั้งเดิมซึ่งจะดึงรสชาติตามธรรมชาติของถั่วเหลืองออกมา เป็นนัตโตะที่เหมาะสำหรับทุกคนแม้กระทั่งมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มรับประทาน มาพร้อมซอสและมัสตาร์ดในกล่องค่ะ
วิธีอร่อยกับดารุมะนัตโตะ
1. นำนัตโตะออกจากช่องแช่แข็ง ตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องจนคลายความเย็น ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
2. เทซอสและมัสตาร์ดลงไปบนนัตโตะแล้วคนให้เข้ากัน
3. รับประทานได้ทันทีค่
มาเพิ่มความจี๊ดจ๊าดให้กับอาหารของคุณ ด้วยผงโรยข้าวรสวาซาบิกันค่ะ!!