แอปเปิ้ลพันธุ์โอริน มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์
ชุ่มฉ่ำ มีรสหวานมากกว่าเปรี้ยวเนื้อผลจะนุ่มกว่าแอปเปิ้ลพันธุ์ฟูจิ
อุดมไปด้วยวิตามิน C ดีต่อสุขภาพมีเส้นใยอาหาร ช่วยระบบขับถ่ายและยังช่วยบำรุงสุขภาพผิว
แอปเปิ้ลพันธุ์คินเซ จากจังหวัดอาโอโมริ
หนึ่งในแอปเปิ้ลที่ได้รับความนิยม ทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่น
เปลือกสีครีมเหลืองนวลสวยงาม เนื้อกรอบและมีน้ำมาก รสหวานฉ่ำ และกลิ่นหอมเฉพาะตัว
มิโซะรสชาติกลมกล่อม ทำเมนูไหนก็ง่าย
HonmonoNippon ได้นำเข้ามิโซะจากแบรนด์ Hikari แบรนด์ผลิตมิโซะอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น! โดยมิโซะตัวนี้ได้ผ่านการรับรองว่าเป็นสินค้าออร์แกนิค เริ่มตั้งแต่การเลือกใช้ถั่วเหลืองออร์แกนิค และข้าวที่ปลูกแบบออร์แกนิค นำมาหมักโดยใช้สัดส่วนถั่วเหลืองปริมาณมาก และใช้ระยะเวลาในการหมักที่นาน จนเกิดรสชาติอูมามิจากธรรมชาติ มีรสที่สมดุล มีกลิ่นหอมมาก และที่สำคัญมิโซะตัวนี้ยังไม่ผสมดาชิ เพื่อให้คุณได้นำไปใช้งานได้ทันที แบบไม่ต้องผสมน้ำซุปดาชิเพิ่ม ลดขั้นตอนการทำอาหารให้สั้นลง หากอยากได้มิโซะคุณภาพดีๆ ที่สำคัญยังเป็นออร์แกนิค 100% เลือกใช้ตัวนี้เลยค่ะ
Amaou ราชาแห่งสตรอว์เบอร์รีญี่ปุ่น ลูกใหญ่เต็มคำ หวานฉ่ำอมเปรี้ยว อร่อยสดชื่น
สตรอว์เบอร์รี Amaou โดดเด่นด้วยขนาดลูกที่ใหญ่กว่าพันธุ์อื่นๆ มีสีแดงสด ผิวมันวาว เนื้อค่อนข้างแน่นและฉ่ำน้ำ รสชาติหอมหวานอมเปรี้ยวนิดๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นยามรับประทาน มีแหล่งเพาะปลูกและพัฒนาสายพันธุ์อยู่ที่เมือง Fukuoka ประเทศญี่ปุ่น ชื่อ Amaou นี้มีที่มาจากคำที่ใช้สื่อถึงสตรอว์เบอร์รีในอุดมคติคือ A จาก Akai แปลว่า สีแดง, Ma จาก Marui แปลว่า ทรงกลม, O จาก Ookii แปลว่า ขนาดใหญ่, และ U จาก Umai แปลว่า อร่อย รวมเป็น Amaou ที่แปลได้ว่า สตรอว์เบอร์รีสีแดงทรงกลมขนาดใหญ่ที่อร่อยมากๆ นั่นเองค่ะ
เรานำเข้าสตรอว์เบอร์รี Amaou ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นมาให้ทุกคนได้ลิ้มลอง บรรจุกล่องละ 2 แพ็ค น้ำหนักแพ็คละ 270 กรัม
ไม่ว่าจะรับประทานสดๆ หรือนำไปตกแต่งเบเกอรี่ก็อร่อยและสวยงามน่าประทับใจค่ะ
ชวนคุณมาลองชิมชาจากเมืองยาคุชิมะ
เมืองยะกุชิมะ (Yakushima) เป็นเกาะเขตร้อนนอกชายฝั่งทางตอนใต้ของคิวชู บนเกาะจะปกคลุมไปด้วยป่าสนและต้นไม้เก่าแก่ บางต้นมีอายุมากกว่า 100 ปี!! เมืองยากุชิมะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี 1993 ด้วยอากาศที่บริสุทธิ์สภาพแวดล้อมเหมาะกับการปลูกชา เพราะอยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 2,000 เมตร ใบชาที่ได้จะมีรสชาติกลมกล่อม และหอมมาก หากท่านไหนที่อยากลองรสสัมผัสใหม่ๆแนะนำค่ะ
วิธีชงชาให้ได้รสชาติแบบดั้งเดิม
1. นำชาออกจากกล่อง 1 ถุง ต่อ 1 ถ้วย
2. ต้มน้ำให้ร้อน เทน้ำลงไปในถ้วย แช่ทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาที หรือ 1 นาที
3. แกว่งถุงชาเบาๆ และนำออกจากถ้วย
มาทำไก่ทอดคาราอาเกะสไตล์จีนกันเถอะ!
Weipa karaage ko ปรับสูตรจากสูตรคาราอาเกะเดิมๆ ให้ออกมาเป็นสไตล์จีน มีรสของกระเทียม ความสไปซี่จากเครื่องเทศ และกลิ่นหอมเฉพาะตัว เมื่อนำมาผสมเข้ากับเนื้อไก่แล้วนำไปทอด ก็จะได้ลิ้มรสคาราอาเกะที่กรอบอร่อยอย่างไม่จำเจ
ส่วนผสม
- แป้งคาราอาเกะ 1 ซอง
- น้ำเปล่า 80 มล.
- เนื้อไก่ 400-500กรัม
วิธีทำ
1. นำแป้ง และ น้ำ มาผสมและคนให้เข้ากัน
2. หั่นเนื้อไก่เป็นชิ้นพอดีคำ จากนั้นนำไปชุบกับแป้งที่ผสมเตรียมไว้
3. ตั้งกระทะและน้ำมัน อุณหภูมิ 165-175 องศา
4. นำไก่ที่ชุปแป้งลงไปทอด ประมาน 3-4 นาที แล้วจึงนำขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน
ชาเขียวเซนฉะชนิดชงได้ทั้งร้อนและเย็น ความแตกต่างจากชาเขียวทั่วไปที่คุณไม่ควรมองข้าม!!
สนุกกับการทำทาโกะยากิได้ง่ายๆ ที่บ้านคุณ
ชวนคุณมาสนุกและอิ่มอร่อยกับทาโกะยากิแบบง่ายๆ ด้วย Otafuku Takoyaki Kodawari Set ที่มีเคล็ดลับความอร่อยจาก 4 ส่วนผสมพิเศษ ได้แก่
1. แป้งทาโกะยากิสูตรพิเศษของโอตาฟุกุ กรอบนอกนุ่มใน
2. การผสมผสานกันระหว่างผงหมึกซูรุเมะ 100% และแป้งหมึกเทมปุระกรุบกรอบ ให้รสชาติที่เข้มข้นและล้ำลึก
3. สาหร่ายที่ผลิตในญี่ปุ่น 100% มีสีเขียวสดและกลิ่นหอมของทะเล เพิ่มสัมผัสให้ครบเครื่อง
4. เพิ่มสีสันด้วยขิงแดงดองให้สีสันที่น่ารับประทานและรสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้น
เพียงเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมก็มาอร่อยกันได้เลยค่ะ
เชิญเพลิดเพลินกับข้าวผัดสไตล์จีนที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบ
ข้าวผัดเป็นข้าวผัดสไตล์จีนอันโด่งดังซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารที่คนญี่ปุ่นมักรับประทาน คุณสามารถทำข้าวผัดแสนอร่อยได้ คุณยังสามารถรับประทานเองที่บ้านได้อีกด้วย เพียงได้ผงปรุงรสข้าวผัดกุ้งยี่ห้อ Nagatanien นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เพียงโรยผงปรุงรสลงในถุงเดียวแล้วผสมกับไข่เพื่อลดระยะเวลาในการปรุงและได้ข้าวผัดที่มีรสชาติกลมกล่อม เพิ่มเนื้อสัตว์และผักที่คุณเลือก เท่านี้ก็พร้อมแล้ว
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Koshihikari จากจังหวัดนีงาตะ
เป็นพันธุ์ข้าวที่คนญี่ปุ่นนิยมปลูกและรับประทานมากที่สุด เพราะมีรสชาตินุ่มละมุน รสหวาน และเคี้ยวหนึบ จนถูกขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า “ข้าวจากแดนสวรรค์ ” เมื่อหุงจนสุกเม็ดข้าวจะขาวเงางามคล้ายอัญมณี มีความเหนียวเล็กน้อย และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ แม้จะทิ้งไว้จนเย็นข้าวยังคงมีรสชาติดี นิยมนำมาใช้ทำเมนูซูชิ
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่านคนเบาๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำจนอ่อนนุ่ม
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆคนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
1. เก็บในที่แห้งและเย็น
2. ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
3. หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
1. คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
2. ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
3. ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์
เพลิดเพลินกับแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแท้ๆ แบบเต็มรสชาติได้ง่ายๆ แค่อุ่น
เคอร์รี ยะ (Curry-ya) เป็นซีรีส์แกงกะหรี่พร้อมทานจากแบรนด์ House ที่มียอดขายอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นมากว่า 19 ปี ด้วยรสชาติอันกลมกล่อมเข้มข้นจากเครื่องเทศถึง 29 ชนิด กระบวนการผลิตที่พิถีพิถันกว่า 3 ขั้นตอน ส่วนผสมและระดับความเผ็ดอันหลากหลาย ทำให้คุณสามารถอร่อยกับแกงกะหรี่แบบเต็มรสชาติเหมือนสั่งจากร้านอาหารได้ง่ายๆ ที่บ้าน
สำหรับกล่องสีส้มรสไก่นี้ มีความเผ็ดระดับ 3 (จาก 5 ระดับ) ภายในซองบรรจุมาแบบครบเครื่องทั้งเนื้อไก่ แครอท และมันฝรั่ง เพียงอุ่นด้วยไมโครเวฟหรือน้ำร้อนไม่กี่นาทีแล้วเสิร์ฟกับข้าวญี่ปุ่น หรือจะนำไปทำเมนูอื่นๆ อย่างข้าวแกงกะหรี่อบชีส, ยากิโซบะแกงกะหรี่, อุด้งแกงกะหรี่ หรือกราแตงแกงกะหรี่ก็ได้เช่นกันค่ะ
วิธีรับประทาน
• อุ่นโดยไมโครเวฟ
1. เปิดฝากล่องตรงรอยประ โดยไม่ต้องฉีกปากซองแกงกะหรี่ออก
2. นำกล่องที่บรรจุซองแกงกะหรี่เข้าไมโครเวฟ โดยให้รูที่อยู่มุมซองอยู่ด้านบน
3. อุ่นโดยใช้กำลังไฟและเวลาดังนี้
• กำลังไฟ 500 วัตต์ ใช้เวลา 1 นาที 50 วินาที
• กำลังไฟ 600 วัตต์ ใช้เวลา 1 นาที 20 วินาที
• กำลังไฟ 700 วัตต์ ใช้เวลา 1 นาที
4. นำออกจากไมโครเวฟ ฉีกซอง เทใส่ชามที่เตรียมไว้ พร้อมรับประทาน
• อุ่นโดยการต้มในน้ำร้อน
1. เปิดฝากล่องแล้วนำซองแกงกะหรี่ออกมา
2. ใส่น้ำในหม้อ โดยกะปริมาณให้ท่วมซองแกงกะหรี่ ต้มน้ำให้เดือด
3. นำซองแกงกะหรี่ลงไปแช่ในน้ำเดือด ต้มต่อประมาณ 3-5 นาที
4. นำซองแกงกะหรี่ออกจากหม้อ ฉีกซอง เทใส่ชามที่เตรียมไว้ พร้อมรับประทาน
** ควรฉีกซองด้วยความระมัดระวัง เพราะซอสแกงกะหรี่บางส่วนอาจกระเด็นหรือมีไอน้ำร้อนออกมาได้ **
ทาโกะยากิ หรือขนมครกญี่ปุ่น อาหารว่างติดครัวของชาวคันไซ
ทาโกะยากิมีต้นกำเนิดมาจากเมืองโอซากา หากท่านได้ไปเที่ยวแถบคันไซ ต่างต้องเคยได้ลิ้มลองอย่างแน่นอน วันนี้เราชวนคุณแก้คิดถึงญี่ปุ่น กับเมนูทำเองได้ง่ายๆ แถมรสชาติยังอร่อยมากๆ เหตุผลที่ทำให้อร่อย เพราะแป้งเราได้คิดค้นและผสมในสูตรเฉพาะของแบรนด์ Nippn คุณแค่เตรียมไส้ที่ชอบ และต้องมีกระทะหลุมสำหรับทำทาโกะยากิ เพียงแค่นี้ คุณก็อร่อยตามแบบโอซาก้าแท้ๆ แป้ง 1 ห่อ ทำได้ประมาณ 40 ลูก
วิธีทำ
1. ใส่แป้งทาโกะยากิ 100 กรัมลงในน้ำ 100 มล. แล้วผสมให้เข้ากัน ใส่กะหล่ำปลีสับ 300 กรัม ไข่ 1 ฟอง และไส้โอโคโนมิยากิที่คุณชื่นชอบ 100 กรัม (ปลาหมึก กุ้ง ปูอัด ฯลฯ)
2. วอร์มเตาด้วยไฟแรง เติมน้ำมันพืชหรือเนยเล็กน้อย แล้วค่อยใส่แป้งลงไปครึ่งหลุม ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที ใส่ไส้ทาโกะยากิ กระหล่ำปลี ขิงซอยเล็กน้อยลงในหลุม
3. รอจนแป้งสุกจนร่อนจากกระทะ พยายามพลิกกลับ ค่อยๆ เติมแป้งจนมีลักษณ์เป็นทรงกลมสวยงาม
4. เมื่อแป้งสุกทุกด้าน ให้จัดใส่จาน ราดซอสทาโกะยากิ มายองเนส สาหร่ายผง และปลาคัตสึโอะหั่นฝอย
Login and Registration Form