หากคุณเป็นคนชอบทานเส้นเล็กแบบโซเมน แต่อยากได้ความเหนียว นุ่มแบบเส้นอุด้ง ขอแนะนำเส้นฮิยามุกิค่ะ!!
ยากิโซบะรสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ๆ อร่อย เข้มข้น
หากจะกล่าวถึง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่เป็นมากกว่าแค่ความสะดวกสบาย ต้องยกให้ "นิสชิน" แบรนด์ผู้สร้างตำนานแห่งวงการอาหารจากญี่ปุ่น ที่ริเริ่มคิดค้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นเป็นเจ้าแรกของโลกตั้งแต่ปี 1958 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอคุณภาพที่ดีที่สุด นิสชินจึงเป็นที่ยอมรับและครองใจผู้คนทั่วโลกมาอย่างยาวนาน ด้วยมาตรฐานญี่ปุ่นที่พิถีพิถันในทุกขั้นตอน
วันนี้เราขอชวนคุณมาลิ้มลองอีกหนึ่งรสชาติคลาสสิกที่ได้รับความนิยมอย่างสูง นั่นคือ นิสชิน โบวล์ รสน้ำมันงา ที่จะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์ความอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์
• ความหอมกรุ่นของน้ำมันงาชั้นดี: สิ่งที่ทำให้รสชาตินี้โดดเด่นคือ กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำมันงา ที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ผสมผสานลงในน้ำซุปได้อย่างลงตัว สร้างสรรค์รสชาติที่กลมกล่อม ละมุนลิ้น และชวนให้รู้สึกอบอุ่นในทุกๆ คำที่ได้ลิ้มลอง
• เส้นบะหมี่ญี่ปุ่นเหนียวนุ่ม: สัมผัสถึงความพิเศษของเส้นบะหมี่สูตรเฉพาะของนิสชิน ที่มีความ เหนียวนุ่มกำลังพอดี ไม่เละง่าย ให้คุณได้เพลิดเพลินกับการเคี้ยวได้อย่างเต็มที่ รับรสชาติของน้ำซุปได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ต้องการมื้อด่วน มื้อเบาๆ หรือแค่ความอร่อยง่ายๆ ยามท้องร้องยามดึก นิสชิน โบวล์ รสน้ำมันงา คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบที่พร้อมมอบความอิ่มอร่อยลงตัวให้คุณได้อย่างรวดเร็ว
ให้ทุกมื้อของคุณพิเศษขึ้นด้วยรสชาติที่คุณจะต้องหลงรัก!
เพียงเปิดฝา เติมน้ำร้อน แล้วรอเพียงไม่กี่นาที ความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นที่คุ้นเคยก็พร้อมเสิร์ฟตรงหน้าคุณ
1. เปิดฝาจนถึงเส้นประ ใส่ผงซุปและเครื่องปรุงอบแห้งลงในถ้วย
2. เติมน้ำร้อนลงไปจนถึงเส้นบอกระดับภายในถ้วย ปิดฝาแล้วรอประมาณ 3 นาที
3. เปิดฝาแล้วใส่น้ำมันปรุงรส คนให้เข้ากัน พร้อมรับประทานค่ะ
นัตโตะรสบ๊วยสดชื่น ที่ทำให้คุณตกหลุมรักได้ง่ายขึ้น
สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นทาน นัตโตะ (Natto) แต่ยังกังวลกับกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ หรือผู้ที่ทานนัตโตะอยู่แล้วแต่อยากได้รสชาติใหม่ ๆ ที่ทานง่ายและอร่อยสดชื่น เราขอแนะนำ นัตโตะบ๊วย ฮามานะสึ (Hamanasu) สูตรพิเศษจากญี่ปุ่น ที่จะทำให้ประสบการณ์ทานนัตโตะของคุณเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ความลับของความอร่อยที่ลงตัว นัตโตะบ๊วยถ้วยนี้ถูกออกแบบมาเพื่อความอร่อยที่ทานง่ายที่สุด
• รสชาติไม่จำเจ: จุดเด่นคือการใช้ ซอสบ๊วย (Ume) ที่ทำจากบ๊วยบดพิเศษ ช่วยเพิ่มความเปรี้ยวอมหวานและความหอมสดชื่น (香り爽やか) เข้ามาตัดกับกลิ่นของถั่วเหลืองหมักได้อย่างลงตัว ทำให้ทานง่ายกว่านัตโตะทั่วไปมาก
• ถั่วคุณภาพดีจากฮอกไกโด: คัดสรรถั่วเหลืองเม็ดเล็ก (Kotsubu Daizu) คุณภาพเยี่ยมจาก ฮอกไกโด ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสะอาดและคุณภาพของวัตถุดิบ ทำให้ถั่วมีความอร่อยในตัวและสัมผัสที่เนียนนุ่มกำลังดี
• สุขภาพดีเต็มถ้วย: แม้จะรสชาติดีกว่าเดิม แต่คุณค่าทางอาหารยังครบถ้วน! นัตโตะ อัดแน่นไปด้วยโปรไบโอติก วิตามิน K2 และเอนไซม์นัตโตะไคเนส ที่ช่วยเรื่องการย่อยอาหารและบำรุงหัวใจให้แข็งแรง
วิธีทำความอร่อยง่าย ๆ
นัตโตะบ๊วยฮามานะสึ พร้อมเป็นมื้ออร่อยของคุณในทุกเช้า:
1. นำนัตโตะมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 30-60 นาที เพื่อให้นัตโตะที่แช่แข็งไว้ละลาย
2. แกะซอง นัตโตะ และเทซอสบ๊วยที่แถมมาลงไป
3. ใช้ตะเกียบคน นัตโตะ อย่างรวดเร็วจนเกิดฟองและเส้นใยเหนียว ๆ
4. ทานคู่กับข้าวสวยญี่ปุ่นร้อน ๆ ได้ทันที! ความเปรี้ยวอมหวานของบ๊วยจะช่วยเปิดต่อมรับรสและทำให้ข้าวอร่อยขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
เคล็ดลับการคนนัตโตะให้ฟู
หัวใจสำคัญของการทาน นัตโตะ คือการคนค่ะ การคนนัตโตะไม่ได้มีแค่เรื่องความเหนียว แต่เป็นการดึงเอาสารอาหารสำคัญอย่าง เอนไซม์นัตโตะไคเนสออกมาทำงาน และยังช่วยให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น
ขั้นตอนที่ 1: คนก่อนปรุงรส
• ตักซอสออกก่อน: นำซอง ซอสรสบ๊วยและมัสตาร์ด (ถ้ามี) ออกจากถ้วยก่อนค่ะ
• เริ่มคนเปล่า ๆ: ใช้ตะเกียบหรือส้อม คนนัตโตะในถ้วยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
- เน้นความเร็ว: ไม่จำเป็นต้องคนวนเป็นวงกลมแบบเป๊ะ ๆ แต่เน้นการคนแบบซิกแซ็กสลับไปมาด้วยความเร็วค่ะ
- จำนวนครั้ง: ให้คนอย่างน้อย 50 ครั้ง ค่ะ พอคนไปเรื่อย ๆ คุณจะสังเกตเห็นว่านัตโตะเริ่มมี ฟองสีขาวขุ่น และ ใยเหนียว ๆ เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก
ขั้นตอนที่ 2: คนพร้อมปรุงรส
• เติมซอสบ๊วย: เมื่อนัตโตะเริ่มเป็นฟองได้ที่แล้ว ให้ใส่ ซอสรสบ๊วย (หรือเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามชอบ) ลงไป
• คนต่ออีก 10-20 ครั้ง: คนผสมให้ซอสเข้ากันดีค่ะ การคนรอบสองนี้จะช่วยให้รสชาติของซอสซึมเข้าไปในถั่วและฟองนัตโตะอย่างทั่วถึง ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ทำไมต้องคนเยอะขนาดนั้น?
การคนนัตโตะจะช่วยกระตุ้นการสร้างใยเมือกเหนียวๆ ซึ่งเป็นตัวการของความอร่อยและสุขภาพดี ใยเหล่านี้คือกรดกลูตามิก ซึ่งเป็นแหล่งของรสอูมามิหรือรสชาติกลมกล่อม ยิ่งคนมาก ใยยิ่งเยอะ รสชาติก็จะยิ่งนุ่มละมุนลิ้น และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น
ลองทำตามดูนะคะ รับรองว่า นัตโตะรสบ๊วย ถ้วยนี้จะอร่อยฟู เหนียวได้ที่ ถูกใจแน่นอนค่ะ!
โซบะชาเขียว 1 ใน เมนูขึ้นชื่อของญี่ปุ่น
ทำ “ซารุ ราเมน” ได้ง่ายๆ ด้วยซุปปลาแห้งรสชาติเข้มข้นผสมน้ำส้มสุดาชิในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ
อิ่มอร่อยกับราเมนรสเนื้อสไตล์ฮ่องกง ง่ายๆ ใน 3 นาที
“คางปลาบุรี” ความเรียบง่ายอย่างลงตัว
“บุรี” หรือปลา “ฮามาจิ” คือปลาในตระกูล (Yellow Tail) เป็นปลานำเข้าจากญี่ปุ่นชนิดเดียวในโลกที่มีชื่อเรียกหลากหลายไปตามช่วงอายุ จัดเป็นปลาเนื้อขาวที่มีความมันแทรกอยู่ในเนื้อ
“คางปลาบุรี” เป็นเมนูที่พบได้บ่อยในร้านอาหารญี่ปุ่น และเป็นที่นิยมในงานแต่งงานและงานเฉลิมฉลองอื่นๆ เนื่องจากมีรสชาติอร่อยและเนื้อนุ่มหอม เนื้อใต้คางมีไขมันอยู่มาก ซึ่งทำให้มีรสชาติหวานและเนื้ออร่อย การทำคางปลาบุรี จะใช้วิธีการย่างหรืออบที่ทำให้ผิวเนื้อนอกกรอบและนุ่มอยู่ภายใน มักจะปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยหรือโยชุ หรือเมนูต่างๆอีกมากมาย
วิธีทำคางปลาฮามาจิหรือปลาบุรีย่างเกลือ
1. ตั้งเตาถ่านสำหรับย่าง (ควรตั้งรอประมาณ 45 นาที ไฟจะร้อนพอดี ไม่แรงเกินไป)
2. วางคางปลาบุรีบนตะแกรงย่าง โรยเกลือเล็กน้อย ย่างประมาณ 10 นาที
3. ค่อยๆกลับด้านคางปลา โรยเกลืออีกด้าน แล้วทิ้งไว้อีก 10 นาที กลับด้านทุก 10 นาทีแบบนี้เรื่อยๆ จนสุก (ใช้เวลาทั้งหมด 20-30 นาที แล้วแต่ขนาดของคางปลา)
4. ยกคางปลาฮามาจิลงจาน นำหัวไชเท้าฝอยมาบีบน้ำออก ปั้นเป็นก้อนกลมๆ วางข้างชิ้นปลา พร้อมราดซีอิ๊วบนหัวไชเท้า ก็เสิร์ฟคางปลาบุรีย่างเกลือได้เลย
วิธีการเก็บ
• นำออกมาจากช่องแช่แข็งเฉพาะเท่าที่ต้องการจะประกอบอาหาร ไม่แนะนำให้นำออกมาละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
ทาโกะยากิ หรือขนมครกญี่ปุ่น อาหารว่างติดครัวของชาวคันไซ
ทาโกะยากิมีต้นกำเนิดมาจากเมืองโอซากา หากท่านได้ไปเที่ยวแถบคันไซ ต่างต้องเคยได้ลิ้มลองอย่างแน่นอน วันนี้เราชวนคุณแก้คิดถึงญี่ปุ่น กับเมนูทำเองได้ง่ายๆ แถมรสชาติยังอร่อยมากๆ เหตุผลที่ทำให้อร่อย เพราะแป้งเราได้คิดค้นและผสมในสูตรเฉพาะของแบรนด์ Nippn คุณแค่เตรียมไส้ที่ชอบ และต้องมีกระทะหลุมสำหรับทำทาโกะยากิ เพียงแค่นี้ คุณก็อร่อยตามแบบโอซาก้าแท้ๆ แป้ง 1 ห่อ ทำได้ประมาณ 40 ลูก
วิธีทำ
1. ใส่แป้งทาโกะยากิ 100 กรัมลงในน้ำ 100 มล. แล้วผสมให้เข้ากัน ใส่กะหล่ำปลีสับ 300 กรัม ไข่ 1 ฟอง และไส้โอโคโนมิยากิที่คุณชื่นชอบ 100 กรัม (ปลาหมึก กุ้ง ปูอัด ฯลฯ)
2. วอร์มเตาด้วยไฟแรง เติมน้ำมันพืชหรือเนยเล็กน้อย แล้วค่อยใส่แป้งลงไปครึ่งหลุม ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที ใส่ไส้ทาโกะยากิ กระหล่ำปลี ขิงซอยเล็กน้อยลงในหลุม
3. รอจนแป้งสุกจนร่อนจากกระทะ พยายามพลิกกลับ ค่อยๆ เติมแป้งจนมีลักษณ์เป็นทรงกลมสวยงาม
4. เมื่อแป้งสุกทุกด้าน ให้จัดใส่จาน ราดซอสทาโกะยากิ มายองเนส สาหร่ายผง และปลาคัตสึโอะหั่นฝอย
เมื่อนึกถึง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่เป็นมากกว่าแค่อาหารมื้อด่วน แต่คือตำนานแห่งวงการอาหาร ชื่อของ "นิสชิน" ต้องเป็นอันดับแรกๆ ที่ทุกคนนึกถึงอย่างแน่นอน ด้วยจุดเริ่มต้นจากญี่ปุ่นในปี 1958 นิสชินคือผู้บุกเบิกและผู้ให้กำเนิดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายแรกของโลก ที่ได้ปฏิวัติวิถีการกินของผู้คนทั่วโลกไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยปรัชญาที่มุ่งมั่นนำเสนอแต่สิ่งที่ดีที่สุด นิสชินจึงยืนหยัดด้วยคุณภาพและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์สไตล์ญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้
วันนี้เราขอชวนคุณมาสัมผัสความอร่อยลึกซึ้งของราเมนยอดนิยม นิสชิน โบวล์ รสซุปทงคตสึ ที่พร้อมมอบประสบการณ์ความหอม มัน เข้มข้นถึงใจ
• ซุปทงคตสึเข้มข้น หอมมัน: เอกลักษณ์โดดเด่นของรสชาตินี้คือ น้ำซุปทงคตสึ ที่ผ่านการเคี่ยวอย่างพิถีพิถันจนได้ความเข้มข้น หอมมัน กลมกล่อมลึกซึ้งในแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ ให้รสชาติที่ละมุนลิ้น
• เส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม ตามแบบฉบับนิสชิน: สัมผัสถึงความพิเศษของเส้นบะหมี่ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องของนิสชิน ที่มีความ เหนียวนุ่มกำลังดี ให้คุณได้สัมผัสถึงเนื้อสัมผัสของเส้นที่เข้ากันได้ดีกับน้ำซุปเข้มข้น
ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่คุณต้องการมื้อที่อิ่มอร่อย มื้อที่ต้องการความสะดวกสบาย หรือแม้แต่ช่วงเวลาพักผ่อนที่อยากได้อะไรทานง่ายๆ แต่ได้รสชาติเต็มๆ นิสชิน โบวล์ รสซุปทงคตสึ คือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ ด้วยปริมาณที่กำลังพอดี อิ่ม อร่อยได้ไม่ว่าจะเวลาไหน
มาลิ้มลองความอร่อยเข้มข้นของนิสชิน รสซุปทงคตสึ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมบะหมี่ถ้วยนี้ถึงเป็นที่รักของใครหลายคน!
เพียงเปิดฝา เติมน้ำร้อน แล้วรอเพียงไม่กี่นาที ความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นที่คุ้นเคยก็พร้อมเสิร์ฟตรงหน้าคุณ
1. เปิดฝาจนถึงเส้นประ ใส่ผงซุปและเครื่องปรุงอบแห้งลงในถ้วย
2. เติมน้ำร้อนลงไปจนถึงเส้นบอกระดับภายในถ้วย ปิดฝาแล้วรอประมาณ 3 นาที
3. เปิดฝาแล้วใส่น้ำมันปรุงรส คนให้เข้ากัน พร้อมรับประทานค่ะ
ทสึยุสูตรเข้มข้น อร่อย กลมกล่อมยิ่งขึ้น
หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่โปรดปรานอาหารญี่ปุ่นและชอบที่จะได้ลองทำทานเองที่บ้าน สึยุถือเป็นเครื่องปรุงที่จะช่วยให้การทำอาหารญี่ปุ่นของคุณสะดวกและง่ายดายขึ้นมากเลยทีเดียวค่ะ ในสึยุจะประกอบไปด้วยโชยุ มิริน และดาชิ มักจะใช้เป็นซอสเพื่อรับประทานกับอาหารประเภทเส้นของญี่ปุ่นอย่าง โซบะ โซเมน หรืออุด้ง นอกจากนี้ยังนำไปประกอบเมนูอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผัดกับผักหรือเนื้อสัตว์เพื่อทำดงบุริ ทำน้ำซุปหม้อไฟ ต้มหัวปลาแบบญี่ปุ่น ทำเป็นซอสเทมปุระก็ได้เช่นกัน
Sanbishi Awase Dashi Tsuyu สูตรนี้ เป็นดาชิสึยุเข้มข้นถึง 3 เท่า ที่เต็มไปด้วยรสอูมามิจากปลาแห้ง 3 ชนิด ได้แก่ ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล และปลาโบนิโต้ รวมถึงหอยเชลล์และสาหร่าย จนได้รสชาติที่กลมกล่อมยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพียงแค่นำไปผสมน้ำตามอัตราส่วนที่เหมาะสมก็เตรียมรับความอร่อยได้เลยค่ะ
ตัวอย่างอัตราส่วนในการทำเมนูต่างๆ
• ซอส 1: น้ำ 2 สำหรับเมนูบะหมี่เย็น น้ำจิ้มเทมปุระ หรือซอสราดหน้าข้าว (ดงบุริ)
• ซอส 1: น้ำ 4-5 สำหรับเมนูประเภทต้ม เช่น หัวปลาต้มซีอิ๊วแบบญี่ปุ่น
• ซอส 1: น้ำ 5-6 สำหรับเมนูบะหมี่ร้อน
• ซอส 1: น้ำ 7-9 สำหรับเมนูหม้อไฟหรือโอเด้ง
หมายเหตุ : เพื่อให้ได้รสชาติในแบบที่ชอบ สามารถปรับเปลี่ยนอัตราส่วนได้ตามต้องการค่ะ
เพียง 3 นาที ก็อร่อยกับเทมปุระโซบะได้ง่ายๆ ที่บ้านคุณ
สึยุเข้มข้นสูตรใหม่ อร่อย กลมกล่อมยิ่งขึ้น
หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่โปรดปรานอาหารญี่ปุ่นและชอบที่จะได้ลองทำทานเองที่บ้าน สึยุถือเป็นเครื่องปรุงที่จะช่วยให้การทำอาหารญี่ปุ่นของคุณสะดวกและง่ายดายขึ้นมากเลยทีเดียวค่ะ ในสึยุจะประกอบไปด้วยโชยุ มิริน และดาชิ มักจะใช้เป็นซอสเพื่อรับประทานกับอาหารประเภทเส้นของญี่ปุ่นอย่าง โซบะ โซเมน หรืออุด้ง นอกจากนี้ยังนำไปประกอบเมนูอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผัดกับผักหรือเนื้อสัตว์เพื่อทำดงบุริ ทำน้ำซุปหม้อไฟ ต้มหัวปลาแบบญี่ปุ่น ทำเป็นซอสเทมปุระก็ได้เช่นกัน
โดย Sanbishi Awase Dashi Tsuyu สูตรใหม่นี้ เป็นดาชิสึยุเข้มข้นถึง 3 เท่า ที่เต็มไปด้วยรสอูมามิจากปลาแห้ง 3 ชนิด ได้แก่ ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล และปลาโบนิโต้ รวมถึงหอยเชลล์และสาหร่าย จนได้รสชาติที่กลมกล่อมยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพียงแค่นำไปผสมน้ำตามอัตราส่วนที่เหมาะสมก็เตรียมรับความอร่อยได้เลยค่ะ
ตัวอย่างอัตราส่วนในการทำเมนูต่างๆ
• ซอส 1: น้ำ 2 สำหรับเมนูบะหมี่เย็น น้ำจิ้มเทมปุระ หรือซอสราดหน้าข้าว (ดงบุริ)
• ซอส 1: น้ำ 4-5 สำหรับเมนูประเภทต้ม เช่น หัวปลาต้มซีอิ๊วแบบญี่ปุ่น
• ซอส 1: น้ำ 5-6 สำหรับเมนูบะหมี่ร้อน
• ซอส 1: น้ำ 7-9 สำหรับเมนูหม้อไฟหรือโอเด้ง
*หมายเหตุ: เพื่อให้ได้รสชาติในแบบที่ชอบ สามารถปรับเปลี่ยนอัตราส่วนได้ตามต้องการค่ะ
มาทำขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมกันค่ะ
แป้งวาราบิโมจิ จากแบรนด์ คิง ฟู้ด (King Food) คือผลิตภัณฑ์แป้งทำขนมญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับคนที่ชื่นชอบในการทำขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่น เช่น วาราบิโมจิ โมจิ หรือขนมที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มหนึบ โดยสามารถปรับสูตรได้ตามแบบเฉพาะของคุณ สำหรับเมนูวาราบิโมจิ หากยิ่งทานคู่กับผงคินาโกะด้วยแล้ว ยิ่งอร่อยในแบบฉบับของญี่ปุ่นแท้ๆเลยค่ะ
วิธีทำ
1. ผสมแป้งวาราบิโมจิ 1 ถุง ต่อน้ำประมาณ 700 cc
2. ตั้งไฟโดยใช้ไฟกลาง เมื่อสีของแป้งเริ่มขุ่นและจับกันเป็นก้อน ให้ลดไฟเป็นไฟอ่อน หมั่นคนให้เข้ากันจนแป้งเริ่มใส
3. เมื่อแป้งใสได้ที่แล้ว ให้เทลงบนภาชนะที่มีลักษณะแบน ค่อยๆใส่น้ำด้านบนแป้งเพื่อให้แป้งเย็นตัวลง แล้วตัดเป็นชิ้นพอดีคำ
วิธีลัด
• ตักแป้งที่เพิ่งกวนเสร็จในขนาดพอดีคำ แล้วใส่ในน้ำเย็นจัด (น้ำผสมน้ำแข็ง) นำมาสะเด็ดน้ำเรียบร้อยแล้ว เพื่อเพิ่มความอร่อยให้โรยผงคินาโกะ หรือผงชาเขียวตามชอบ
วิธีทำด้วยไมโครเวฟ
*แนะนำให้แบ่งทำทีละน้อย*
1. ใช้แป้งวาราบิโมจิ 60 กรัม (สำหรับ 2 เสิร์ฟ) ต่อน้ำ 270 CC
2. ผสมน้ำกับแป้งใส่ในภาชนะที่ใหญ่คนให้เข้ากัน จากนั้นแร็ปปิดฝาด้านบน
3. นำเข้าไมโครเวฟใช้ไฟ 500 วัตต์ ประมาณ 4 นาที นำออกมาคนให้เข้ากัน จากนั้นแร็ปปิดฝาด้านบน เข้าไมโครเวฟอีกครั้ง จนแป้งสุกและมีเนื้อใส
4. นวดให้เข้ากัน หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วทิ้งให้เย็น เพื่อเพิ่มความอร่อยให้โรยผงคินาโกะ หรือผงชาเขียวตามชอบ
(สามารถปรับสูตรได้ตามความต้องการ)
สัมผัสรสชาติชาเขียวแบบดั้งเดิมจากเมืองชิซูโอกะได้แล้ววันนี้
คำเดียวไม่พอ ต้องขอต่ออีกลูก
อยากกินอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ แต่ไม่มีเวลา ลูกชิ้นสอดไส้กุ้ง เนื้อปลา ผักรวม และสาหร่ายฮิจิกิ คือคำตอบ! ทำจากวัตถุดิบคุณภาพ เนื้อปลาบด กุ้งสด ผักรวม และเพิ่มรสชาติพิเศษด้วยสาหร่ายฮิจิกิ ที่อุดมไปด้วยใยอาหารและแร่ธาตุ ทานง่าย รสกลมกล่อม ได้ทั้งความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการในหนึ่งคำทุกคำ เหมาะเป็นของทานเล่น ข้าวกล่อง เบนโตะ หรือเสิร์ฟกับมื้ออาหารหลัก
วิธีการปรุงอาหาร
• นำสินค้าที่แช่แข็งออกมา ตัดถาดออก และวางไว้ที่ขอบจานหมุน (turntable) โดยไม่ต้องห่อพลาสติก และอุ่นให้ร้อน
• หากไม่มีจานหมุน (turntable) ให้วางไว้ตรงกลางของเตาไมโครเวฟ
• หลังจากการปรุงอาหาร หากยังเย็นอยู่ ให้อุ่นเพิ่มทีละ 10 วินาทีจนกว่าจะอุ่นได้ที่
คำแนะนำสำหรับเตาไมโครเวฟ:
กำลังไฟ 500 วัตต์ 600 วัตต์
1 ชิ้น ประมาณ 40 วินาที ประมาณ 40 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 1 นาที ประมาณ 50 วินาที
4 ชิ้น ประมาณ 1.20 นาที ประมาณ 1.10 นาที
5 ชิ้น ประมาณ 1.50 นาที ประมาณ 1.40 นาที
เมื่อนึกถึง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่เป็นมากกว่าแค่อาหารมื้อด่วน แต่คือตำนานแห่งวงการอาหาร ชื่อของ "นิสชิน" ต้องเป็นอันดับแรกๆ ที่ทุกคนนึกถึงอย่างแน่นอน ด้วยจุดเริ่มต้นจากญี่ปุ่นในปี 1958 นิสชินคือผู้บุกเบิกและผู้ให้กำเนิดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายแรกของโลก ที่ได้ปฏิวัติวิถีการกินของผู้คนทั่วโลกไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยปรัชญาที่มุ่งมั่นนำเสนอแต่สิ่งที่ดีที่สุด นิสชินจึงยืนหยัดด้วยคุณภาพและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์สไตล์ญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้
วันนี้เราขอชวนคุณมาลิ้มลองอีกหนึ่งรสชาติคลาสสิกที่ครองใจคนทั่วโลก นั่นคือ นิสชิน โบวล์ รสไก่ ในขนาด 103 กรัม ที่พร้อมมอบความอร่อยกลมกล่อมในแบบที่คุ้นเคย
• น้ำซุปไก่หอมกรุ่น กลมกล่อม: เอกลักษณ์ของรสชาตินี้คือน้ำซุปที่เคี่ยวอย่างพิถีพิถันจนได้ความหอมของไก่และเครื่องปรุงรสในแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ ให้รสชาติที่ กลมกล่อม นุ่มนวล และอบอุ่นในทุกคำ เป็นรสชาติที่ทานง่าย อร่อยได้ทุกคน
• เส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม ตามแบบฉบับนิสชิน: สัมผัสถึงความพิเศษของเส้นบะหมี่ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องของนิสชิน ที่มีความ เหนียวนุ่มกำลังดี ไม่เละง่าย ให้คุณได้สัมผัสถึงเนื้อสัมผัสของเส้นที่เข้ากันได้ดีกับน้ำซุปเข้มข้น
ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่คุณต้องการมื้อที่อิ่มอร่อย มื้อที่ต้องการความสะดวกสบาย หรือแม้แต่ช่วงเวลาพักผ่อนที่อยากได้อะไรทานง่ายๆ แต่ได้รสชาติเต็มๆ นิสชิน โบวล์ รสไก่ ในขนาด 103 กรัม คือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ ด้วยปริมาณที่กำลังพอดี อิ่มอร่อยได้ไม่ว่าจะเวลาไหน
เพียงเปิดฝา เติมน้ำร้อน แล้วรอเพียงไม่กี่นาที ความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นที่คุ้นเคยก็พร้อมเสิร์ฟตรงหน้าคุณ
1. เปิดฝาจนถึงเส้นประ ใส่ผงซุปและเครื่องปรุงอบแห้งลงในถ้วย
2. เติมน้ำร้อนลงไปจนถึงเส้นบอกระดับภายในถ้วย ปิดฝาแล้วรอประมาณ 3 นาที
3. เปิดฝาแล้วใส่น้ำมันปรุงรส คนให้เข้ากัน พร้อมรับประทานค่ะ
มาลิ้มลองความอร่อยกลมกล่อมของนิสชิน รสไก่ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมบะหมี่ถ้วยนี้ถึงเป็นที่รักของใครหลายคน!
อร่อยกับ ชิโอะ ยากิโซบะ แบบง่ายๆ ใน 3 นาที
กรอบนอก นุ่มใน กัดแล้วหยุดไม่ได้
อาหารทานเล่นยอดนิยมจากญี่ปุ่น ที่ผสมผสานรสชาติของเนื้อปลา ปลาหมึก และเผือกได้อย่างลงตัว กัดคำแรกสัมผัสได้ถึงความกรอบนอกนุ่มใน พร้อมรสชาติกลมกล่อม หอมขิงและซอสญี่ปุ่น สูตรเฉพาะของอาจิโนะโมะโต๊ะ เหมาะสำหรับทุกมื้ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นกับข้าว อาหารทานเล่น ใส่ในกล่องเบนโตะเพิ่มสีสันให้อาหารกลางวัน หรือทานคู่ข้าวสวยร้อน ๆ ก็อร่อยกลมกล่อม เสิร์ฟคู่กับซอสโชยุ มายองเนสญี่ปุ่น หรือซอสพริกก็เข้ากันสุด ๆ ถูกใจทุกคนในครอบครัวแน่นอน
วิธีการปรุงอาหาร
• นำสินค้าที่แช่แข็งออกมาตัดถาดออกและวางไว้ที่ขอบจานหมุน โดยไม่ต้องห่อพลาสติก และอุ่นให้ร้อน
• หากไม่มีจานหมุน (turntable) ให้วางไว้ตรงกลางของเตาไมโครเวฟ
• หลังจากการปรุงอาหาร หากยังเย็นอยู่ ให้อุ่นเพิ่มทีละ 10 วินาทีจนกว่าจะอุ่นได้ที่
คำแนะนำสำหรับเตาไมโครเวฟ:
กำลังไฟ 500 วัตต์ 600 วัตต์
1 ชิ้น ประมาณ 40 วินาที ประมาณ 40 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 1 นาที ประมาณ 50 วินาที
4 ชิ้น ประมาณ 1.20 นาที ประมาณ 1.10 นาที
5 ชิ้น ประมาณ 1.50 นาที ประมาณ 1.40 นาที
ราเมงถ้วยใหญ่จุใจ พร้อมเกี๊ยวแสนอร่อย
เมื่อนึกถึง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่เป็นมากกว่าแค่อาหารมื้อด่วน แต่คือตำนานแห่งวงการอาหาร ชื่อของ "นิสชิน" ต้องเป็นอันดับแรกๆ ที่ทุกคนนึกถึงอย่างแน่นอน ด้วยจุดเริ่มต้นจากญี่ปุ่นในปี 1958 นิสชินคือผู้บุกเบิกและผู้ให้กำเนิดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายแรกของโลก ที่ได้ปฏิวัติวิถีการกินของผู้คนทั่วโลกไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยปรัชญาที่มุ่งมั่นนำเสนอแต่สิ่งที่ดีที่สุด นิสชินจึงยืนหยัดด้วยคุณภาพและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์สไตล์ญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้
วันนี้เราขอชวนคุณมาเปิดประสบการณ์ความอร่อยล้ำลึกของราเมนยอดนิยมที่ถูกยกระดับไปอีกขั้น นั่นคือ นิสชิน โบวล์ รสซุปทงคตสึผสมน้ำมันกระเทียมดำ ที่พร้อมมอบความหอมมันเข้มข้น และกลิ่นอายเฉพาะตัวของน้ำมันกระเทียมดำ
• ซุปทงคตสึเข้มข้น ผสานน้ำมันกระเทียมดำ: เอกลักษณ์โดดเด่นของรสชาตินี้คือ น้ำซุปทงคตสึ ที่ผ่านการเคี่ยวจนได้ความเข้มข้น หอมมัน กลมกล่อมลึกซึ้งในแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ ผสานเข้ากับ น้ำมันกระเทียมดำ (Black Garlic Oil) ที่ให้กลิ่นหอมรมควันอันเป็นเอกลักษณ์ เพิ่มมิติความอร่อยให้ซุปทงคตสึธรรมดาๆ กลายเป็นรสชาติที่ล้ำลึกและชวนติดใจยิ่งขึ้น
• เส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม ตามแบบฉบับนิสชิน: สัมผัสถึงความพิเศษของเส้นบะหมี่ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องของนิสชิน ที่มีความ เหนียวนุ่มกำลังดี ให้คุณได้สัมผัสถึงเนื้อสัมผัสของเส้นที่เข้ากันได้ดีกับน้ำซุปเข้มข้นและกลิ่นหอมเฉพาะตัวของน้ำมันกระเทียมดำ
ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่คุณต้องการมื้อที่อิ่มอร่อย มื้อที่ต้องการความสะดวกสบาย หรือแม้แต่ช่วงเวลาพักผ่อนที่อยากได้อะไรทานง่ายๆ แต่ได้รสชาติเต็มๆ นิสชิน โบวล์ แบล็ค การ์ลิค ออยล์ ทงคตสึ คือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ ด้วยปริมาณที่กำลังพอดี อิ่ม อร่อยได้ไม่ว่าจะเวลาไหน
มาลิ้มลองความอร่อยเข้มข้น ผสานความหอมของกระเทียมดำจากนิสชิน แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมบะหมี่ถ้วยนี้ถึงเป็นที่รักของใครหลายคน!
เพียงเปิดฝา เติมน้ำร้อน แล้วรอเพียงไม่กี่นาที ความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นที่คุ้นเคยก็พร้อมเสิร์ฟตรงหน้าคุณ
1. เปิดฝาจนถึงเส้นประ ใส่ผงซุปและเครื่องปรุงอบแห้งลงในถ้วย
2. เติมน้ำร้อนลงไปจนถึงเส้นบอกระดับภายในถ้วย ปิดฝาแล้วรอประมาณ 3 นาที
3. เปิดฝาแล้วใส่น้ำมันปรุงรส คนให้เข้ากัน พร้อมรับประทานค่ะ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะ หรืออยากลองสัมผัสรสชาติอันลุ่มลึกของวัตถุดิบระดับพรีเมียม “ตับปลาอังกิโมะ” คือหนึ่งในเมนูที่ห้ามพลาด!
อังกิโมะคืออะไร?
อังกิโมะ (Ankimo) คือตับของปลาอังโกะ (Anko Fish) หรือ มังค์ฟิช (Monkfish) ซึ่งเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในทะเลลึก ถือเป็นหนึ่งในอาหารชินมิ (Chinmi) หรืออาหารเลิศรสที่หาทานได้ยากของญี่ปุ่น ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล" เพราะมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มคล้ายตับห่าน มีรสชาติเค็มอ่อน ๆ และมีความหอมมันอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ทำไมถึงอร่อยและพิเศษ?
ตับปลาอังกิโมะของเรา เป็นสินค้าที่ผ่านกระบวนการปรุงรสและต้มมาอย่างพิถีพิถันจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน จึงมีรสชาติที่กลมกล่อมและพร้อมรับประทานทันที ไม่ต้องนำมาปรุงเพิ่มให้ยุ่งยาก ทำให้คุณได้สัมผัสกับรสชาติแบบดั้งเดิมของอังกิโมะได้อย่างง่ายดาย นอกจากความอร่อยแล้ว อังกิโมะยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เช่น วิตามิน A, วิตามิน D และไขมันดีในปริมาณที่สูงอีกด้วย
เมนูที่ทำได้ง่ายๆ
เมนูจากตับปลาอังกิโมะสามารถทำได้หลากหลาย และแต่ละเมนูล้วนช่วยดึงรสชาติความอร่อยออกมาได้อย่างเต็มที่
- ทานเป็นกับแกล้ม: เสิร์ฟอังกิโมะแช่เย็นคู่กับต้นหอมซอย, โมมิจิโอโรชิ (หัวไชเท้าขูดผสมพริก) และซอสพอนสึ (Ponzu Sauce) เพื่อเพิ่มความสดชื่นและตัดความมัน
- ทำเป็นนิกิริซูชิ: วางชิ้นอังกิโมะบนข้าวปั้นซูชิ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมในร้านซูชิระดับพรีเมียม
- ทำเป็นสลัด: หั่นอังกิโมะเป็นชิ้นพอดีคำ วางบนสลัดผัก ราดด้วยน้ำสลัดงา หรือซอสพอนสึ
วิธีเตรียมตับปลา
1. นำอังกิโมะออกจากตู้เย็น วางไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 30-40 นาที เพื่อทำการละลาย
2. แกะซองและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
3. จัดวางบนจาน และนำไปใช้ประกอบเมนูได้ตามต้องการ
*สินค้าบรรจุมาในซองสุญญากาศแบบพร้อมทาน
เปิดประสบการณ์ความอร่อยสุดพิเศษจากท้องทะเลลึกได้แล้ววันนี้! ตับปลาอังกิโมะ พร้อมให้คุณได้ลิ้มลองความอร่อยแบบต้นตำรับญี่ปุ่นได้ง่าย ๆ ที่บ้านของคุณ
สัมผัสความอร่อยต้นตำรับจากญี่ปุ่น ด้วยดังโงะไส้งาดำคั่ว หอม มัน ลงตัว
หากคุณกำลังมองหาขนมญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์จากประเทศญี่ปุ่นแท้ๆ "ขนมดังโงะไส้งาดำคั่วบด" ขนมชื่อดังจากจังหวัดอิวาเตะ ที่มีขนาดพอดีคำที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านโชเอโดะ ร้านเก่าแก่ที่สืบทอดสูตรขนมพื้นบ้านมานานหลายชั่วอายุคน คือจุดเริ่มต้นของขนมดังโงะ ที่จะพาคุณย้อนเวลากลับไปสัมผัสเสน่ห์ของญี่ปุ่นในอดีต ขนมดังโงะแต่ละลูกถูกปั้นอย่างประณีตจากแป้งที่ผสมข้าวเหนียวกับข้าวเจ้าตามสูตรลับ ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่ม หนึบหนับ และเคี้ยวง่าย สอดไส้ด้านในด้วยงาดำที่ผ่านการคั่วและบดละเอียดจนหอมกรุ่น ผสมคลุกเคล้ากับโชยุ(ซอสถั่วเหลือง)อย่างพอดีจนได้รสกลมกล่อม หอมหวานกำลังดี ทำให้เมื่อกัดเข้าไปไส้จะทะลักออกมา สร้างความสนุกและความอร่อยในคำเดียว
วิธีการรับประทาน
เนื่องจากขนมดังโงะ ส่วนใหญ่มักจะถูกจำหน่ายในรูปแบบแช่แข็ง เพื่อคงความสดใหม่ของไส้ทะลักและเนื้อสัมผัสที่หนึบหนับ วิธีรับประทานที่ดีที่สุดคือ :
• ทานทั้งคำ : ควรทานทั้งลูกในคำเดียว ป้องกันไม่ให้ไส้งาดำที่หอมหวานและเนื้อละมุนไหลออกมา
• ละลายน้ำแข็ง : นำออกจากช่องแช่แข็งและวางไว้ในอุณหภูมิห้องประมาณ 1-2 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
• อุ่นไมโครเวฟ : ควรใช้ไฟอ่อนถึงปานกลาง (ประมาณ 500-600 วัตต์) ระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 30 วินาที - 1 นาที
คำแนะนำ : เมื่อละลายน้ำแข็งแล้ว ควรเก็บในตู้เย็นและรับประทานให้หมดภายใน 4 วัน(นับรวมวันที่ละลาย) การนำกลับไปแช่แข็งซ้ำ จะทำให้รสชาติและเนื้อสัมผัสแย่ลงอย่างมาก ห้ามทำซ้ำโดยเด็ดขาด!
แนะนำอาหาร
• ทานคู่กับชาเขียวร้อน (มัทฉะ หรือเซ็นฉะ) จะช่วยเสริมความหวานของไส้งาดำและสร้างสมดุลรสชาติ
• ทานคู่กับนมสดอุ่นๆ หรือกาแฟดำสำหรับมื้อของว่างยามบ่าย
• เสิร์ฟพร้อมกับผลไม้สดตามฤดูกาล เช่น สตรอว์เบอร์รี่ หรือองุ่น เพื่อเพิ่มความสดชื่น
นี่คือของฝากที่คุณไม่ควรพลาด เพราะเป็นมากกว่าแค่ขนม แต่คือเรื่องราวของภูมิปัญญาและวัฒนธรรมการกินจากเมืองแห่งโมจิอย่าง อิชิโนเซกิ จังหวัดอิวาเตะ ของญี่ปุ่นแท้ๆ ค่ะ!
กินเหมือนบรรยากาศในร้าน ซุปเข้มข้น เส้นเหนียวหนึบ
ไอริส น้ำแร่ธรรมชาติจากภูเขาฟูจิ พลังแห่งความสดชื่น
น้ำแร่ที่เต็มไปด้วยพรจากธรรมชาติ ถูกกรองผ่านชั้นหินของภูเขาไฟฟูจิเป็นเวลาหลายปี อุดมไปด้วยแร่ธาตุธรรมชาติจากภูเขาไฟที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ แคลเซียม โซเดียมคลอไรด์ แมกนีเซียม โพแทสเซียม ดื่มง่าย สดชื่น ดื่มได้ทุกวัน เหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพเช่นคุณ
เส้นเหนียวนุ่ม ซุปเข้มข้น อร่อยเหมือนทานที่ร้าน
หยุดไม่ได้ตั้งแต่คำแรก มนต์เสน่ห์แห่งความกรุบกรอบของมันเทศญี่ปุ่น
ที่สุดของความกรุบกรอบ ที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยได้ทันที " มันเทศญี่ปุ่นเคลือบน้ำตาล คือขนมหวานญี่ปุ่นคลาสสิกที่ครองใจคนทุกวัย ด้วยรสหวานหอมของน้ำเชื่อมที่เคลือบบนมันเทศเนื้อนุ่มโฮกุโฮกุ (นุ่มฟูแบบมันเทศ) สินค้าตัวนี้ ความพิเศษอยู่ที่ "สัมผัสกรุบกรอบ คาริคาริ" ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ผลิตจากมันเทศญี่ปุ่นคุณภาพดี โดยใช้เทคโนโลยีการเคลือบน้ำตาลที่เป็นสูตรเฉพาะ ทำให้ชั้นน้ำตาลที่เคลือบด้านนอกคงความกรอบได้ยาวนาน ไม่เหนียวติดกัน ไม่ว่าคุณจะทานแบบเย็นๆ ที่ละลายน้ำแข็งได้ที่แล้ว หรือจะอุ่นเล็กน้อยเพื่อสัมผัสที่แตกต่าง ก็ยังคงความอร่อยไว้ บรรจุภัณฑ์ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบาย เพราะคุณสามารถนำออกมาละลายน้ำแข็งตามธรรมชาติ ตามปริมาณที่อยากทานได้เลย เหมาะสำหรับช่วงเวลาเร่งด่วน, เป็นของว่างสำหรับเด็กๆ, ยิ่งทานคู่กับไอศกรีมหรือโยเกิร์ต ยิ่งเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น กลายเป็นของหวานแสนอร่อย หรือเป็นเมนูเติมความหวานหลังมื้ออาหารได้เลย
จุดเด่นที่ทำให้ "มันเทศ" เป็นที่รักของคนญี่ปุ่น
1. ใช้มันเทศญี่ปุ่นแท้ 100%
• วัตถุดิบคุณภาพสูง : การันตีว่าใช้มันเทศที่ปลูกในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมันเทศญี่ปุ่น (ซัตสึมะอิโมะ) นั้นมีชื่อเสียงในเรื่องรสชาติที่หวานตามธรรมชาติ เนื้อสัมผัสเนียนละเอียดกว่ามันเทศทั่วไป
• ความหวานจากธรรมชาติ : รสชาติของมันเทศในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวจะหวานเป็นพิเศษ ทำให้แม้จะเคลือบน้ำตาลก็ยังคงได้กลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของมันเทศคุณภาพดี
2. สัมผัสกรุบกรอบทรงพลัง
• จุดเด่นที่แตกต่าง : ความกรอบที่เกิดจากชั้นน้ำตาลที่เคลือบภายนอก เมื่อกัดเข้าไปคุณจะได้ยินเสียงกรุบกรอบ ก่อนที่จะสัมผัสกับเนื้อในที่นุ่มชุ่มฉ่ำ
• ความสมดุลของรสชาติ : ซอสเคลือบถูกปรุงด้วยรสชาติ หวาน-เค็ม ที่ลงตัว (ส่วนผสมหลักคือ น้ำตาล, โชยุ และบางครั้งอาจมีน้ำผึ้ง/มิริน) ทำให้ทานได้เรื่อยๆ ไม่หวานเลี่ยน
วิธีการทาน :
• นำมันเทศเคลือบน้ำตาลแช่แข็ง ออกมาจากถุงตามปริมาณที่ต้องการ
• วางทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง (ละลายน้ำแข็งตามธรรมชาติ) ประมาณ 20-30 นาที
• รับประทานได้ทันที โดยแนะนำให้ทานขณะที่ยังมีอุณหภูมิเย็นเล็กน้อย
เมนูแนะนำทานคู่กัน :
• ทานคู่กับไอศกรีม : วางบนไอศกรีมวานิลลาหรือชาเขียว เพื่อเพิ่มความหรูหราและสัมผัสที่ตัดกัน
• ทานคู่กับโยเกิร์ต : เพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัสในโยเกิร์ต
• ใส่ในสลัด : สำหรับเพิ่มรสหวานและสีสันในสลัดผักบางประเภท
เจลลี่ใสผสมเนื้อส้ม อร่อย สดชื่น
เจลลี่เนื้อเนียนใส ชุ่มฉ่ำ รสส้มมิคัง ผสมผสานความอร่อยของน้ำส้มและเนื้อส้มมิคังชิ้นใหญ่จุใจ รสชาติเปรี้ยวอมหวาน หอมกลิ่นผลไม้ สดชื่น ทานง่าย ทั้งอร่อยและได้ประโยชน์จากเนื้อผลไม้แบบเต็มๆ
ส้มมิคัง หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ส้มหวานญี่ปุ่น" เป็นผลไม้ยอดนิยมจากแดนอาทิตย์อุทัย ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติหวานฉ่ำ เนื้อสัมผัสชุ่มฉ่ำ ไร้เมล็ด ทานง่าย และอุดมไปด้วยสารอาหารและประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ดังนี้
1. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: ส้มมิคังอุดมไปด้วยวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
2. ต้านอนุมูลอิสระ: ส้มมิคังมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น เบต้าแคโรทีน ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ป้องกันเซลล์ถูกทำลาย
3. ดีต่อระบบย่อยอาหาร: ส้มมิคังมีใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
4. บำรุงผิวพรรณ: วิตามินซีในส้มมิคังช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ชะลอริ้วรอย และช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์
5. บำรุงสายตา: ส้มมิคังมีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสายตา
6. บำรุงกระดูก: ส้มมิคังมีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
7. บำรุงระบบประสาท: ส้มมิคังมีวิตามินบีรวม ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง
8. ลดความดันโลหิต: โพแทสเซียมในส้มมิคังช่วยลดความดันโลหิต เหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
9. ป้องกันนิ่วในไต: ใยอาหารในส้มมิคังช่วยชะล้างของเสียในไต ป้องกันการเกิดนิ่วในไต
10. เพิ่มพลังงาน: ส้มมิคังมีน้ำตาลธรรมชาติ ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย คลายความอ่อนเพลีย
11. ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ: ส้มมิคังมีโพแทสเซียมสูง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
12. ป้องกันโรคโลหิตจาง: ส้มมิคังมีธาตุเหล็กสูง ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
เส้นเหนียวนุ่ม ซุปจัดจ้าน อร่อยเหมือนทานที่ร้าน
ขนมญี่ปุ่นแบบเบาๆ ไม่หวานเลี่ยน และ ได้รสชาติชาเขียวแท้ๆ ต้องไม่พลาด
ใครที่กำลังมองหาของหวานญี่ปุ่นแบบเบาๆทานง่าย และให้ความรู้สึกสดชื่นไม่เหมือนใคร ต้องลอง วาราบิโมจิตัวนี้ ขนมชิ้นเล็กๆนี้จะทำให้วันของคุณสดใสขึ้นแน่นอน วาราบิโมจิเป็นขนมหวานญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ทำจากแป้งวาราบิ(แป้งที่สกัดจากหัววาราบิ) ที่มีจุดเด่นคือ สัมผัสที่นุ่มนิ่มเหมือนเยลลี่ แต่จะมีความเหนียวนุ่มและยืดหยุ่นกว่าโมจิทั่วไป วาราบิโมจิชิ้นนี้พิเศษตรงที่เป็นรสชาเขียวมัทฉะ และถูกนำไปคลุกเคล้ากับผงชาเขียวมัทฉะ หอมๆจนทั่วชิ้น ผงชาเขียวมัทฉะ นั้นมาจากจังหวัดชิซึโอกะซึ่งเป็นแหล่งผลิตชาเขียวคุณภาพเยี่ยมของญี่ปุ่น ทำให้ได้รสชาติเข้มข้น หอมละมุน และมีขมเล็กน้อยแบบเป็นธรรมชาติมาตัดกับความหวานอ่อนๆ ของตัวโมจิได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับเป็นของว่างยามบ่าย ทานคู่กับชาเขียวร้อนที่ไม่หวานเลย หรือจะลองทานคู่กับกาแฟดำก็เข้ากันดี รับรองว่าความนุ่มนิ่มและรสชาติชาเขียวแท้ๆ จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นเหมือนได้นั่งพักผ่อนอยู่ในญี่ปุ่น
วิธีทานวาราบิโมจิ :
• การละลายน้ำแข็ง : นำถุงวาราบิโมจิออกจากช่องแข็ง แล้วย้ายไปใส่ในตู้เย็นช่องธรรมดา หรือวางไว้ที่อุณหภูมิห้อง เพื่อให้ละลายน้ำแข็งอย่างช้า ๆ (ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง)
• ความเย็นคือหัวใจ : ขนมนี้จะอร่อยที่สุดเมื่อทานแบบเย็น เพื่อสัมผัสถึงความนุ่มหนึบและความเย็นชื่นใจ
• พร้อมเสิร์ฟ : เมื่อละลายน้ำแข็งแล้ว สามารถแกะซองและรับประทานได้ทันที
• เพิ่มรสชาติ : หากต้องการรสชาติแบบดั้งเดิมยิ่งขึ้น สามารถราดด้วยน้ำเชื่อมคุโรมิตซึ(น้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดง) ได้ตามความชอบ
เมนูทานคู่แนะนำ
วาราบิโมจิรสชาเขียวมีรสชาติมัทฉะเข้มข้น หอม และหวานอ่อนๆ จึงเข้ากันได้ดีกับเครื่องดื่มและของหวานอื่นๆ ดังนี้:
คู่กับชาญี่ปุ่น :
• มัทฉะร้อน/เย็น : เพื่อเสริมความหอมเข้มของชาเขียวให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
• โฮจิฉะ : ชาเขียวคั่วที่มีกลิ่นหอมอบอุ่น จะช่วยตัดรสหวานได้อย่างลงตัว
• เซนฉะ : ชาเขียวใบที่มีรสชาติบางเบาและสดชื่น
คู่กับกาแฟ:
• กาแฟดำเย็น/ร้อน : ความขมของกาแฟจะช่วยดึงความหวานและความหอมของมัทฉะในโมจิออกมา
• ลาเต้: เข้ากันได้ดีกับความนุ่มละมุนของวาราบิโมจิ
คู่กับของหวานอื่น ๆ:
• ท็อปปิ้งไอศกรีม: นำไปวางบนไอศกรีมรสวานิลลา หรือไอศกรีมถั่วแดง เพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสที่นุ่มหนึบ
• พาร์เฟต์สไตล์ญี่ปุ่น: ใช้เป็นส่วนประกอบในพาร์เฟต์หรือน้ำแข็งไส เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับเมนู
• เครื่องดื่มสร้างสรรค์: ใช้เป็นท็อปปิ้งในเครื่องดื่มประเภทนมหรือชา เช่น มัทฉะลาเต้ หรือบราวน์ชูการ์
เส้นเหนียวนุ่ม น้ำซุปเข้มข้น อร่อยเหมือนทานที่ร้าน
เส้นเหนียวนุ่ม ซุปกลมกล่อม อร่อยเหมือนทานที่ร้าน
สุดยอดขนมญี่ปุ่นคลายร้อน! อร่อยง่าย ๆ แค่คลายความเย็น
วาราบิโมจิ คือขนมหวานดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ด้วยเนื้อสัมผัสนุ่มละลาย ผสานความหวานลึกของน้ำตาลทรายแดง และกลิ่นหอมของถั่วเหลืองคั่ว เป็นขนมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในทุกฤดูกาล หัวใจสำคัญของวาราบิโมจิอยู่ที่ “แป้งวาราบิ” ซึ่งได้จากรากของพืชตระกูลเฟิร์นญี่ปุ่น เมื่อนำมาผ่านกระบวนการนวดอย่างพิถีพิถัน จะได้เนื้อสัมผัสที่นุ่ม หนึบ เด้งและละลายในปาก แตกต่างจากโมจิทั่วไปที่ทำจากข้าวเหนียว ด้วยความอ่อนโยนของเนื้อแป้ง จึงให้สัมผัสที่ละเอียดและพรีเมียมยิ่งกว่า ความพิเศษอีกขั้นอยู่ที่การใช้น้ำตาลทรายแดงจากโอกินาว่า หรือ “คุโระซาโตะ” ซึ่งไม่ได้ใช้เป็นแค่น้ำเชื่อมราดเท่านั้น แต่ถูกนวดผสมเข้าไปในเนื้อวาราบิโมจิตั้งแต่ขั้นตอนการทำ ทำให้ขนมมีสีน้ำตาลอ่อน กลิ่นหอมเฉพาะตัวของอ้อย และรสหวานที่ลึก กลมกล่อม ไม่ฉูดฉาด ซึมซับอยู่ในทุกคำที่กัด และที่ขาดไม่ได้ของวาราบิโมจิ นั่นคือการโรย “คินาโกะ”หรือผงถั่วเหลืองคั่วอย่างดี ที่มีกลิ่นหอมถั่วคั่ว และ รสสัมผัสที่นุ่มนวล มันๆ ซึ่งช่วยเสริมให้รสหวานของน้ำตาลทรายแดงมีความสมดุล หอมละมุน และลุ่มลึกยิ่งขึ้น
วิธีทานวาราบิโมจิแบบอร่อย :
• การละลายน้ำแข็ง : นำถุงวาราบิโมจิออกจากช่องแข็ง แล้วย้ายไปใส่ในตู้เย็นช่องธรรมดา หรือวางไว้ที่อุณหภูมิห้อง เพื่อให้ละลายน้ำแข็งอย่างช้า ๆ (ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง)
• ความเย็นคือหัวใจ : ขนมนี้จะอร่อยที่สุดเมื่อทานแบบเย็น เพื่อสัมผัสถึงความนุ่มหนึบและความเย็นชื่นใจ
• พร้อมเสิร์ฟ : เมื่อละลายน้ำแข็งแล้ว สามารถแกะซองและรับประทานได้ทันที
• เพิ่มรสชาติ : หากต้องการรสชาติแบบดั้งเดิมยิ่งขึ้น สามารถราดด้วยน้ำเชื่อมคุโรมิตซึ(น้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดง) ได้ตามความชอบ
เคล็ดลับการรับประทาน
• เสิร์ฟตอนเย็น ๆ จะให้รสสัมผัสสดชื่น เหมาะกับอากาศร้อน
• รับประทานคู่กับชาเขียวร้อน จะช่วยตัดรสหวานได้ดี
• หากเหลือ อย่าแช่แข็งซ้ำ ให้เก็บในตู้เย็นและรับประทานภายใน 1 วัน เพื่อคงคุณภาพ
เมนูทานคู่แนะนำ :
คู่กับชาญี่ปุ่น :
• มัทฉะร้อน/เย็น : เพื่อเสริมความหอมเข้มของชาเขียวให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
• โฮจิฉะ : ชาเขียวคั่วที่มีกลิ่นหอมอบอุ่น จะช่วยตัดรสหวานได้อย่างลงตัว
• เซนฉะ : ชาเขียวใบที่มีรสชาติบางเบาและสดชื่น
วาราบิโมจิ คือขนมที่หลอมรวมวัตถุดิบธรรมชาติและศิลปะการทำขนมของญี่ปุ่นเอาไว้อย่างลงตัว ละมุนในทุกคำ นุ่มหนึบทุกสัมผัส หวานหอมอย่างมีระดับ
เส้นเหนียวนุ่ม ซุปเข้มข้น อร่อยเหมือนทานที่ร้าน