พร้อมเปิดประสบการณ์ความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ
ครีมชีสคุณภาพสูงจากนมวัวฮอกไกโดเข้มข้น หอมมัน และไม่หวานจนเกินไป
สามารถอร่อยได้ทั้งแบบเย็นฉ่ำ และแบบคลายความเย็นเพื่อสัมผัสที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น
เมื่อนึกถึง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่เป็นมากกว่าแค่อาหารมื้อด่วน แต่คือตำนานแห่งวงการอาหาร ชื่อของ "นิสชิน" ต้องเป็นอันดับแรกๆ ที่ทุกคนนึกถึงอย่างแน่นอน ด้วยจุดเริ่มต้นจากญี่ปุ่นในปี 1958 นิสชินคือผู้บุกเบิกและผู้ให้กำเนิดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายแรกของโลก ที่ได้ปฏิวัติวิถีการกินของผู้คนทั่วโลกไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยปรัชญาที่มุ่งมั่นนำเสนอแต่สิ่งที่ดีที่สุด นิสชินจึงยืนหยัดด้วยคุณภาพและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์สไตล์ญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้
วันนี้เราขอชวนคุณมาเปิดประสบการณ์ความอร่อยล้ำลึกของราเมนยอดนิยมที่ถูกยกระดับไปอีกขั้น นั่นคือ นิสชิน โบวล์ รสซุปทงคตสึผสมน้ำมันกระเทียมดำ ที่พร้อมมอบความหอมมันเข้มข้น และกลิ่นอายเฉพาะตัวของน้ำมันกระเทียมดำ
• ซุปทงคตสึเข้มข้น ผสานน้ำมันกระเทียมดำ: เอกลักษณ์โดดเด่นของรสชาตินี้คือ น้ำซุปทงคตสึ ที่ผ่านการเคี่ยวจนได้ความเข้มข้น หอมมัน กลมกล่อมลึกซึ้งในแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ ผสานเข้ากับ น้ำมันกระเทียมดำ (Black Garlic Oil) ที่ให้กลิ่นหอมรมควันอันเป็นเอกลักษณ์ เพิ่มมิติความอร่อยให้ซุปทงคตสึธรรมดาๆ กลายเป็นรสชาติที่ล้ำลึกและชวนติดใจยิ่งขึ้น
• เส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม ตามแบบฉบับนิสชิน: สัมผัสถึงความพิเศษของเส้นบะหมี่ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องของนิสชิน ที่มีความ เหนียวนุ่มกำลังดี ให้คุณได้สัมผัสถึงเนื้อสัมผัสของเส้นที่เข้ากันได้ดีกับน้ำซุปเข้มข้นและกลิ่นหอมเฉพาะตัวของน้ำมันกระเทียมดำ
ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่คุณต้องการมื้อที่อิ่มอร่อย มื้อที่ต้องการความสะดวกสบาย หรือแม้แต่ช่วงเวลาพักผ่อนที่อยากได้อะไรทานง่ายๆ แต่ได้รสชาติเต็มๆ นิสชิน โบวล์ แบล็ค การ์ลิค ออยล์ ทงคตสึ คือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ ด้วยปริมาณที่กำลังพอดี อิ่ม อร่อยได้ไม่ว่าจะเวลาไหน
มาลิ้มลองความอร่อยเข้มข้น ผสานความหอมของกระเทียมดำจากนิสชิน แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมบะหมี่ถ้วยนี้ถึงเป็นที่รักของใครหลายคน!
เพียงเปิดฝา เติมน้ำร้อน แล้วรอเพียงไม่กี่นาที ความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นที่คุ้นเคยก็พร้อมเสิร์ฟตรงหน้าคุณ
1. เปิดฝาจนถึงเส้นประ ใส่ผงซุปและเครื่องปรุงอบแห้งลงในถ้วย
2. เติมน้ำร้อนลงไปจนถึงเส้นบอกระดับภายในถ้วย ปิดฝาแล้วรอประมาณ 3 นาที
3. เปิดฝาแล้วใส่น้ำมันปรุงรส คนให้เข้ากัน พร้อมรับประทานค่ะ
เมื่อนึกถึง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่เป็นมากกว่าแค่อาหารมื้อด่วน แต่คือตำนานแห่งวงการอาหาร ชื่อของ "นิสชิน" ต้องเป็นอันดับแรกๆ ที่ทุกคนนึกถึงอย่างแน่นอน ด้วยจุดเริ่มต้นจากญี่ปุ่นในปี 1958 นิสชินคือผู้บุกเบิกและผู้ให้กำเนิดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายแรกของโลก ที่ได้ปฏิวัติวิถีการกินของผู้คนทั่วโลกไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยปรัชญาที่มุ่งมั่นนำเสนอแต่สิ่งที่ดีที่สุด นิสชินจึงยืนหยัดด้วยคุณภาพและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์สไตล์ญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้
วันนี้เราขอชวนคุณมาลิ้มลองอีกหนึ่งรสชาติคลาสสิกที่ครองใจคนทั่วโลก นั่นคือ นิสชิน โบวล์ รสไก่ ในขนาด 103 กรัม ที่พร้อมมอบความอร่อยกลมกล่อมในแบบที่คุ้นเคย
• น้ำซุปไก่หอมกรุ่น กลมกล่อม: เอกลักษณ์ของรสชาตินี้คือน้ำซุปที่เคี่ยวอย่างพิถีพิถันจนได้ความหอมของไก่และเครื่องปรุงรสในแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ ให้รสชาติที่ กลมกล่อม นุ่มนวล และอบอุ่นในทุกคำ เป็นรสชาติที่ทานง่าย อร่อยได้ทุกคน
• เส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม ตามแบบฉบับนิสชิน: สัมผัสถึงความพิเศษของเส้นบะหมี่ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องของนิสชิน ที่มีความ เหนียวนุ่มกำลังดี ไม่เละง่าย ให้คุณได้สัมผัสถึงเนื้อสัมผัสของเส้นที่เข้ากันได้ดีกับน้ำซุปเข้มข้น
ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่คุณต้องการมื้อที่อิ่มอร่อย มื้อที่ต้องการความสะดวกสบาย หรือแม้แต่ช่วงเวลาพักผ่อนที่อยากได้อะไรทานง่ายๆ แต่ได้รสชาติเต็มๆ นิสชิน โบวล์ รสไก่ ในขนาด 103 กรัม คือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ ด้วยปริมาณที่กำลังพอดี อิ่มอร่อยได้ไม่ว่าจะเวลาไหน
เพียงเปิดฝา เติมน้ำร้อน แล้วรอเพียงไม่กี่นาที ความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นที่คุ้นเคยก็พร้อมเสิร์ฟตรงหน้าคุณ
1. เปิดฝาจนถึงเส้นประ ใส่ผงซุปและเครื่องปรุงอบแห้งลงในถ้วย
2. เติมน้ำร้อนลงไปจนถึงเส้นบอกระดับภายในถ้วย ปิดฝาแล้วรอประมาณ 3 นาที
3. เปิดฝาแล้วใส่น้ำมันปรุงรส คนให้เข้ากัน พร้อมรับประทานค่ะ
มาลิ้มลองความอร่อยกลมกล่อมของนิสชิน รสไก่ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมบะหมี่ถ้วยนี้ถึงเป็นที่รักของใครหลายคน!
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Koshihikari จากจังหวัดนีงาตะ
เป็นพันธุ์ข้าวที่คนญี่ปุ่นนิยมปลูกและรับประทานมากที่สุด เพราะมีรสชาตินุ่มละมุน รสหวาน และเคี้ยวหนึบ จนถูกขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า “ข้าวจากแดนสวรรค์ ” เมื่อหุงจนสุกเม็ดข้าวจะขาวเงางามคล้ายอัญมณี มีความเหนียวเล็กน้อย และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ แม้จะทิ้งไว้จนเย็นข้าวยังคงมีรสชาติดี นิยมนำมาใช้ทำเมนูซูชิ
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่านคนเบาๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำจนอ่อนนุ่ม
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆคนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
1. เก็บในที่แห้งและเย็น
2. ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
3. หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
1. คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
2. ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
3. ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Nanatsuboshi ข้าวที่เติบโตท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ของฮอกไกโด
นิยมปลูกมากในฮอกไกโด เมล็ดข้าวอวบ หุงแล้วขึ้นเงา มีความเหนียวปานกลาง และความหวานแบบพอดี ทำให้โดนใจชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก แม้ข้าวจะเย็นแต่ยังคงความนุ่ม หอม อร่อย สามารถทำอาหารได้หลากหลายประเภท แต่จะนิยมนำมาทำเบนโตะและซูชิ
• ลักษณะเมล็ด – เมล็ดข้าวอวบ ขาว หุงขึ้นหม้อ
• รสชาติ – มีรสหวานและยังคงอร่อยแม้จะเย็นแล้ว
• ความเหนียว – ความเหนียวกำลังดี
• เมนูที่เหมาะสม – เบนโตะ และซูชิ
• ความลับของสายพันธุ์ – ถือว่าเป็นข้าวที่มีความสมดุลระหว่างรสชาติกับเนื้อสัมผัสมากที่สุดในสายพันธุ์ข้าวฮอกไกโด เมื่อหุงจนสุกข้าวมีความขาว ความเงา ความหอม ให้รสชาตินุ่มนวล และเคี้ยวอร่อย
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบาๆประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำจนอ่อนนุ่ม
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อย ๆ คนให้น้ำระเหย
สัมผัสรสชาติอันลุ่มลึกของเกียวโต ในมัทฉะเทอร์รีน
เทอร์รีนเนื้อเนียนนุ่ม สัมผัสเข้มข้น รังสรรค์จาก มัทฉะแท้คุณภาพสูงจากเกียวโต
กลิ่นหอมและรสสัมผัสที่พิเศษไม่เหมือนใคร ให้รสชาติขมปลายลิ้นที่เป็นเอกลักษณ์ของมัทฉะเกรดพรีเมียม
ผสมผสานอย่างลงตัวกับความหวานที่พอดี จากไวท์ช็อกโกแลต ได้รสชาติที่ลุ่มลึก ไม่เลี่ยน
กรอบนอก นุ่มใน กัดแล้วหยุดไม่ได้
อาหารทานเล่นยอดนิยมจากญี่ปุ่น ที่ผสมผสานรสชาติของเนื้อปลา ปลาหมึก และเผือกได้อย่างลงตัว กัดคำแรกสัมผัสได้ถึงความกรอบนอกนุ่มใน พร้อมรสชาติกลมกล่อม หอมขิงและซอสญี่ปุ่น สูตรเฉพาะของอาจิโนะโมะโต๊ะ เหมาะสำหรับทุกมื้ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นกับข้าว อาหารทานเล่น ใส่ในกล่องเบนโตะเพิ่มสีสันให้อาหารกลางวัน หรือทานคู่ข้าวสวยร้อน ๆ ก็อร่อยกลมกล่อม เสิร์ฟคู่กับซอสโชยุ มายองเนสญี่ปุ่น หรือซอสพริกก็เข้ากันสุด ๆ ถูกใจทุกคนในครอบครัวแน่นอน
วิธีการปรุงอาหาร
• นำสินค้าที่แช่แข็งออกมาตัดถาดออกและวางไว้ที่ขอบจานหมุน โดยไม่ต้องห่อพลาสติก และอุ่นให้ร้อน
• หากไม่มีจานหมุน (turntable) ให้วางไว้ตรงกลางของเตาไมโครเวฟ
• หลังจากการปรุงอาหาร หากยังเย็นอยู่ ให้อุ่นเพิ่มทีละ 10 วินาทีจนกว่าจะอุ่นได้ที่
คำแนะนำสำหรับเตาไมโครเวฟ:
กำลังไฟ 500 วัตต์ 600 วัตต์
1 ชิ้น ประมาณ 40 วินาที ประมาณ 40 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 1 นาที ประมาณ 50 วินาที
4 ชิ้น ประมาณ 1.20 นาที ประมาณ 1.10 นาที
5 ชิ้น ประมาณ 1.50 นาที ประมาณ 1.40 นาที
ข้าวญี่ปุ่นจากเมืองฮอกไกโด เมืองแห่งความอุดมสมบูรณ์
ชวนคุณมาชิมข้าวญี่ปุ่นแท้ๆ ปลูกที่เมืองฮอกไกโด เมืองที่ธรรมชาติสวยงาม น้ำใสสะอาด ข้าวที่ได้มีรสชาติหวาน นุ่ม เหนียว เคี้ยวเพลิน เหมาะกับทำอาหารญี่ปุ่นอย่างเมนูข้าวซูชิ ข้าวปั้นโอนิกิริ มาลองชิมความแตกต่างของรสชาติข้าวญี่ปุ่นแท้ๆ กันค่ะ หากสนใจทำเมนูข้าวซูชิ เรามีน้ำส้มปรุงรสข้าว และสาหร่ายสำหรับห่อข้าว ขายด้วยนะคะ
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบา ๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำเวลาหุงข้าวจะนุ่มไม่กระด้าง
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆ คนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
1. เก็บในที่แห้งและเย็น
2. ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
3. หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
1. คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
2. ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
3. ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์
เจลลี่ใสผสมเนื้อส้ม อร่อย สดชื่น
เจลลี่เนื้อเนียนใส ชุ่มฉ่ำ รสส้มมิคัง ผสมผสานความอร่อยของน้ำส้มและเนื้อส้มมิคังชิ้นใหญ่จุใจ รสชาติเปรี้ยวอมหวาน หอมกลิ่นผลไม้ สดชื่น ทานง่าย ทั้งอร่อยและได้ประโยชน์จากเนื้อผลไม้แบบเต็มๆ
ส้มมิคัง หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ส้มหวานญี่ปุ่น" เป็นผลไม้ยอดนิยมจากแดนอาทิตย์อุทัย ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติหวานฉ่ำ เนื้อสัมผัสชุ่มฉ่ำ ไร้เมล็ด ทานง่าย และอุดมไปด้วยสารอาหารและประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ดังนี้
1. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: ส้มมิคังอุดมไปด้วยวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
2. ต้านอนุมูลอิสระ: ส้มมิคังมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น เบต้าแคโรทีน ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ป้องกันเซลล์ถูกทำลาย
3. ดีต่อระบบย่อยอาหาร: ส้มมิคังมีใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
4. บำรุงผิวพรรณ: วิตามินซีในส้มมิคังช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ชะลอริ้วรอย และช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์
5. บำรุงสายตา: ส้มมิคังมีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสายตา
6. บำรุงกระดูก: ส้มมิคังมีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
7. บำรุงระบบประสาท: ส้มมิคังมีวิตามินบีรวม ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง
8. ลดความดันโลหิต: โพแทสเซียมในส้มมิคังช่วยลดความดันโลหิต เหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
9. ป้องกันนิ่วในไต: ใยอาหารในส้มมิคังช่วยชะล้างของเสียในไต ป้องกันการเกิดนิ่วในไต
10. เพิ่มพลังงาน: ส้มมิคังมีน้ำตาลธรรมชาติ ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย คลายความอ่อนเพลีย
11. ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ: ส้มมิคังมีโพแทสเซียมสูง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
12. ป้องกันโรคโลหิตจาง: ส้มมิคังมีธาตุเหล็กสูง ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
ปลาเนื้อขาวทอดผสมซอสทาร์ทาร์
สัมผัสความอร่อยของปลาเนื้อขาวราดด้วยซอสทาร์ทาร์รสเข้มข้นกลมกล่อม นำมาชุบแป้งทอดจนกรุบกรอบ ให้คุณเพลิดเพลินได้แบบง่ายๆ ตามปริมาณที่ต้องการด้วยถาดแบบแยกชิ้น ไม่ว่าจะอุ่นด้วยไมโครเวฟหรือเพียงแค่ปล่อยให้ละลายตามธรรมชาติก็พร้อมเสิร์ฟ นิยมจัดใส่กล่องเบนโตะเป็นมื้อกลางวัน รับประทานเป็นกับข้าว และนำไปประกบกับขนมปังเป็นแซนวิชหรือเบอร์เกอร์ก็ได้เช่นกันค่ะ
✨ จัดจ้านถึงใจ! หวานนุ่มจากครีบหอยเชลล์ ผสานกับความแซ่บแบบไทย ๆ ✨
“ครีบหอยเชลล์ปรุงรสลาบ” สินค้าคุณภาพดีๆที่ผ่านกระบวนการปรุงรสแบบไทย ๆ ด้วยเครื่องลาบรสจัดจ้าน เผ็ด เปรี้ยว เค็ม ครบรส หอมข้าวคั่ว พริกป่น และสมุนไพรแบบไทย ผสมผสานกับความหวานธรรมชาติของหอยเชลล์ได้อย่างลงตัว กินเปล่า ๆ ก็ฟิน นกับข้าวก็อร่อย หรือจะทำเมนูก็ได้หลากหลาย เหมาะกับทุกสายกิน โดยเฉพาะสายลาบ สายซีฟู้ดต้องโดน!
วิธีรับประทานครีบหอยเชลล์ปรุงรสลาบ
1. รับประทานได้ทันที
• สามารถกินแบบ ready-to-eat ได้เลยทันที ไม่ต้องปรุงเพิ่ม
• รสชาติแซ่บนัว กลมกล่อม หวานหอยเชลล์ + เผ็ดลาบ
2. อุ่นเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความหอม (ถ้าต้องการ)
• ใส่ไมโครเวฟ 10–15 วินาที (พออุ่น) จะทำให้กลิ่นหอมข้าวคั่วและเครื่องลาบเด่นขึ้น
• หรือผัดในกระทะร้อนเร็ว ๆ โดยไม่ใช้น้ำมันก็ได้
ทานกับอะไรอร่อย
• ข้าวเหนียวร้อนๆ
• สลัด ผักสด เช่น กะหล่ำปลี แตงกวา ถั่วฝักยาว
• ข้าวสวยร้อนๆ
• กินคู่กับเบียร์เย็น ๆ หรือเครื่องดื่มซ่าๆ ก็เข้ากันสุดๆ
• ทำเป็นหน้าแซนด์วิชหรือแซนด์วิชแซ่บๆ
❄️ การเก็บรักษา
• แช่เย็น (Chiller 0-4°C): ควรบริโภคภายใน 5-7 วันหลังเปิด
• แช่แข็ง (Freezer -18°C): เก็บได้นาน 2-3 เดือน
(เมื่อเปิดแล้วควรเก็บในภาชนะปิดสนิทและใช้ช้อนสะอาดตัก)
⚠️ ข้อควรระวังในการบริโภค
ผลิตภัณฑ์นี้มีส่วนผสมของหอย
• ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้อาหารทะเลหรือแพ้หอย
อาจมีความเผ็ด
• เด็กเล็กและผู้ที่ไม่ทานเผ็ดควรระมัดระวัง หรือควรทดลองชิมทีละน้อยก่อน
หลังเปิดบรรจุภัณฑ์แล้ว
• ควรเก็บในภาชนะปิดสนิท แช่เย็น และบริโภคภายใน 5–7 วัน
• หลีกเลี่ยงการใช้ช้อนหรือมือที่เปื้อนตักซ้ำเพื่อลดความเสี่ยงการปนเปื้อน
ห้ามแช่แข็งซ้ำ หากละลายแล้ว
• เพื่อรักษาคุณภาพของเนื้อหอยและความปลอดภัยทางอาหาร
• ควรบริโภคก่อนวันหมดอายุ ตามที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์
สนุกกับการทำโอโคโนมิยากิได้ง่ายๆ ที่บ้านคุณ