มาทำขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมกันค่ะ
แป้งวาราบิโมจิ จากแบรนด์ คิง ฟู้ด (King Food) คือผลิตภัณฑ์แป้งทำขนมญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับคนที่ชื่นชอบในการทำขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่น เช่น วาราบิโมจิ โมจิ หรือขนมที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มหนึบ โดยสามารถปรับสูตรได้ตามแบบเฉพาะของคุณ สำหรับเมนูวาราบิโมจิ หากยิ่งทานคู่กับผงคินาโกะด้วยแล้ว ยิ่งอร่อยในแบบฉบับของญี่ปุ่นแท้ๆเลยค่ะ
วิธีทำ
1. ผสมแป้งวาราบิโมจิ 1 ถุง ต่อน้ำประมาณ 700 cc
2. ตั้งไฟโดยใช้ไฟกลาง เมื่อสีของแป้งเริ่มขุ่นและจับกันเป็นก้อน ให้ลดไฟเป็นไฟอ่อน หมั่นคนให้เข้ากันจนแป้งเริ่มใส
3. เมื่อแป้งใสได้ที่แล้ว ให้เทลงบนภาชนะที่มีลักษณะแบน ค่อยๆใส่น้ำด้านบนแป้งเพื่อให้แป้งเย็นตัวลง แล้วตัดเป็นชิ้นพอดีคำ
วิธีลัด
• ตักแป้งที่เพิ่งกวนเสร็จในขนาดพอดีคำ แล้วใส่ในน้ำเย็นจัด (น้ำผสมน้ำแข็ง) นำมาสะเด็ดน้ำเรียบร้อยแล้ว เพื่อเพิ่มความอร่อยให้โรยผงคินาโกะ หรือผงชาเขียวตามชอบ
วิธีทำด้วยไมโครเวฟ
*แนะนำให้แบ่งทำทีละน้อย*
1. ใช้แป้งวาราบิโมจิ 60 กรัม (สำหรับ 2 เสิร์ฟ) ต่อน้ำ 270 CC
2. ผสมน้ำกับแป้งใส่ในภาชนะที่ใหญ่คนให้เข้ากัน จากนั้นแร็ปปิดฝาด้านบน
3. นำเข้าไมโครเวฟใช้ไฟ 500 วัตต์ ประมาณ 4 นาที นำออกมาคนให้เข้ากัน จากนั้นแร็ปปิดฝาด้านบน เข้าไมโครเวฟอีกครั้ง จนแป้งสุกและมีเนื้อใส
4. นวดให้เข้ากัน หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วทิ้งให้เย็น เพื่อเพิ่มความอร่อยให้โรยผงคินาโกะ หรือผงชาเขียวตามชอบ
(สามารถปรับสูตรได้ตามความต้องการ)
โมจิญี่ปุ่นแท้ๆ พร้อมเสริ์ฟแล้วค่ะ
หม้อไฟสไตล์ฮากาตะ อาหารขึ้นชื่อของเมืองฟุกุโอกะ
ซุปมิโซะขาว อร่อยกลมกล่อม หอมสดชื่น
คิริโมจิ เหนียวนุ่ม หนึบหนับ อร่อยในแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ!
คิริ โมจิ จากแบรนด์ ไอริส ฟู้ด (Iris Foods) เป็นโมจิที่ผ่านกระบวนการผลิตแบบอุณหภูมิต่ำ (Low Temperature Firing Method) เพื่อดึงความอร่อยของข้าวออกมา โดยใช้ข้าวเหนียวญี่ปุ่น 100% เป็นวัตถุดิบหลัก ทำให้ตัวโมจิมีเนื้อสัมผัสที่เนียน นุ่ม หนึบ! สามารถนำมาประกอบอาหารได้อย่างหลากหลาย เช่น ย่างและห่อด้วยสาหร่าย, โรยผงคินาโกะ, ต้มในซุปถั่วแดง (โอชิรุโกะ) หรือใส่ในซุปดาชิ (โอโซนิ) ถือเป็นอาหารที่นิยมรับประทานในชีวิตประจำวัน และในช่วงเทศกาลต่างๆ ของคนญี่ปุ่นค่ะ
วิธีเก็บรักษา
• หลังจากเปิดถุงแล้ว แนะนำให้ปิดถุงใหเสนิทและเก็บรักษาในตู้เย็น
เปิดประสบการณ์รสชาติของข้าวญี่ปุ่นแท้ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น "ราชาแห่งข้าว" ของประเทศญี่ปุ่น ด้วยคุณภาพที่โดดเด่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ
ข้าวชิ้นนี้คือ ข้าวโคชิฮิคาริ (Koshihikari) ซึ่งเป็นข้าวพันธุ์ยอดนิยมและมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าวที่มาจากจังหวัด นีงาตะ (Niigata) ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงด้านคุณภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น จังหวัดนีงาตะได้รับพรจากสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปลูกข้าวชั้นดี เช่น ดินที่อุดมสมบูรณ์จากตะกอนแม่น้ำสำคัญอย่างแม่น้ำชินาโนะ (Shinano River) และแม่น้ำอะงาโนะ (Agano River) รวมถึงมีน้ำบริสุทธิ์จากหิมะที่ละลาย (Snowmelt Water) และที่สำคัญคือ ความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืน ที่สูง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาความหวานและรสชาติของข้าว
ข้าวโคชิฮิคาริสายพันธุ์นีงาตะมีจุดเด่นหลัก ๆ ที่ทำให้เป็นที่รักของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน
ความเหนียวและหนึบ (Stickiness): มีสัมผัสที่ เหนียวหนึบ (Mochimochi) และยืดหยุ่นกำลังดี ไม่แข็งกระด้าง
ความหวานและอูมามิ (Sweetness & Umami): มีรสหวานตามธรรมชาติที่ชัดเจน และมีรส อูมามิ (Umami) ที่เข้มข้นในทุกเม็ด
กลิ่นหอมและเงางาม: เมื่อหุงสุกแล้วจะมี กลิ่นหอมที่ละมุน และเมล็ดข้าวจะมีความ เงางามเป็นประกาย น่ารับประทาน
ด้วยรสชาติที่โดดเด่นและสมดุล ทำให้ข้าวโคชิฮิคาริจากนีงาตะอร่อยมากแม้ว่าจะทานเปล่า ๆ โดยไม่ต้องมีกับข้าวค่ะ นอกจากนี้ยังรักษาความอร่อยไว้ได้ดีแม้จะเย็นลง จึงเหมาะมากสำหรับทำข้าวปั้น โอนิกิริ (Onigiri) หรือใส่ในกล่องข้าวเบนโตะ (Bento)
เมนูแนะนำ (Recipe Suggestion)
ข้าวโคชิฮิคาริมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่สมดุล ทำให้เข้ากันได้ดีกับอาหารหลากหลายประเภทค่ะ:
ข้าวสวย (Plain White Rice): ทานเปล่า ๆ คู่กับเครื่องเคียงง่าย ๆ อย่างซุปมิโสะ (Miso Soup) และผักดอง (Tsukemono) เพื่อสัมผัสรสชาติแท้ ๆ ของข้าว
ซูชิ (Sushi) และโอนิกิริ (Onigiri): ด้วยความเหนียวหนึบ ทำให้ปั้นได้ง่ายและคงรูปได้ดีเมื่อเย็นลง
เมนูอาหารญี่ปุ่นทั่วไป: เหมาะสำหรับทานคู่กับอาหารญี่ปุ่นแทบทุกชนิด เช่น ปลาย่าง, เทมปุระ (Tempura) หรือข้าวหน้าต่าง ๆ (Donburi)
วิธีใช้หรือวิธีเตรียม (Usage Instruction)
เพื่อให้ได้ข้าวที่อร่อยที่สุด ควรทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
1. ซาวข้าว (Rinsing): ซาวข้าวอย่างเบามือเพื่อล้างฝุ่นออก เปลี่ยนน้ำประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำเริ่มใส
2. แช่น้ำ (Soaking): แช่ข้าวในน้ำสะอาดทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ในฤดูร้อน หรือ 60 นาที ในฤดูหนาว เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำอย่างเต็มที่
3. หุง (Cooking): หุงตามอัตราส่วนน้ำที่ระบุบนเครื่องหุงข้าว หรือใช้อัตราส่วนข้าว 1 ส่วนต่อน้ำประมาณ 1.1 - 1.2 ส่วน
4. พักข้าว (Steaming): เมื่อหุงเสร็จแล้ว ห้ามเปิดฝา ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ไอน้ำระอุและข้าวสุกทั่วถึง ก่อนจะใช้ไม้พายคลุกเบา ๆ ก่อนตักเสิร์ฟค่ะ
ลองนำข้าวโคชิฮิคาริจากนีงาตะไปหุงดูสิคะ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมข้าวญี่ปุ่นแท้ ๆ ถึงมีเสน่ห์และเป็นหัวใจสำคัญของวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น ที่คุณก็สามารถสร้างสรรค์ความอร่อยนี้ได้ที่บ้านค่ะ
สาหร่ายวากาเมะสดแบบแช่แข็งพร้อมนำไปปรุงอาหาร
สาหร่ายชนิดนี้เป็นที่นิยมในการทำอาหารเอเชียโดยเฉพาะในอาหารญี่ปุ่น วากาเมะมีลักษณะกรอบนุ่มและมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
สาหร่ายวากาเมะยังอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย อาทิเช่น โปรตีน ไอโอดีน และใยอาหารที่สูง ในขณะที่ให้พลังงานต่ำ จึงเป็นที่นิยมให้หมู่คนรักสุขภาพ
เหมาะสำหรับนำไปต้นเป็นน้ำซุป, ใส่ในซุปมิโสะ, ทำสลัด, ใช้เป็นเครื่องเคียงในเมนูอื่นๆ
ขั้นตอนในการเตรียมรับประทานใช้
• นำผลิตภัณฑ์ออกจากตู้แช่งแข็ง ทิ้งไว้ให้ละลาย
• แนะนำให้ละลายแค่ปริมานตามที่ต้องการใช้ในครั้งเดียว และเก็บส่วนที่เหลือในตู้แช่แข็งเพื่อรักษาความสดให้คงอยู่
• ไม่แนะนำให้ละลายทั้งถุง แล้วนำกลับมาเก็บไว้ในตู้แช่แข็ง เนื่องจากจะทำให้คุณภาพลดลง
ส่วนผสมจำเป็นที่ทำให้ขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม หอม อร่อย
คินาโกะ (Kinako) ถือเป็นสารให้ความหวานแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น ผลิตจากการคั่วถั่วเหลืองคุณภาพดี และนำมาบดเป็นผง ให้รสชาติหวานอ่อนๆ หอมกลิ่นของการคั่ว และกลิ่นถั่ว คินานโกะได้ถูกใช้ในการทำอาหาร และขนมญี่ปุ่นมานานหลายศตวรรษ สามารถประยุกต์ใช้ทำขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ขนมสมัยใหม่ หรือโรยบนไอศครีมรสวนิลา หรืชาเขียวรับรองความอร่อยค่ะ
อร่อยง่ายๆ กับเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่น
ผักกาดดองต้มสุกปรุงรสแบบต้นตำรับญี่ปุ่น รสชาติอร่อยกลมกล่อมกำลังพอดี นิยมนำมาทำเป็นไส้ข้าวปั้นโอนิกิริ, รับประทานเป็นเครื่องเคียงคู่กับข้าวสวยหรือข้าวต้ม, เสิร์ฟเป็นกับแกล้ม หรือนำไปทำเมนูอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย สะดวกและประหยัดเวลาเพราะมาในรูปแบบปรุงสุกพร้อมทาน สามารถจัดเสิร์ฟได้ทันที
อร่อยง่ายๆ กับเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่น
อร่อยง่ายๆ กับเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่น
ผักจักรพรรดิ (สลัดต้น) ปรุงรสชาติอ่อนๆ กลมกล่อมสไตล์ญี่ปุ่น ให้คุณสัมผัสความกรุบกรอบอันเป็นเอกลักษณ์ของผักจักรพรรดิที่มาพร้อมกลิ่นหอมของน้ำมันงา รับประทานเป็นเครื่องเคียงคู่กับข้าวสวยหรือข้าวต้ม เสิร์ฟเป็นกับแกล้ม หรือนำไปทำเมนูอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย สะดวกและประหยัดเวลาเพราะมาในรูปแบบปรุงสุกพร้อมทาน สามารถจัดเสิร์ฟได้ทันที
คำแนะนำในการเก็บรักษา
• ควรเก็บในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 0-10 องศา
• หลังจากเปิดซองแล้วหากทานไม่หมด แนะนำให้ใส่กล่องปิดให้สนิทและเก็บไว้ในตู้เย็น
• ควรรับประทานให้หมดภายใน 3 วัน หลังจากที่เปิดซอง
อร่อยง่ายๆ กับเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่น
สาหร่ายฮิจิกิ ผสมถั่วเหลืองและแครอทต้มสุกปรุงรส
เป็นหนึ่งในเมนุยอดฮิตของชาวญี่ปุ่น มีเอกลักษณ์เป็นสาหร่ายสีดำโดยธรรมชาติ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทำมาผสมกับถั่วเหลือง และแครอท เหมาะสำหรับรับประทานเป็นเครื่องเคียง และยังนิยมนำมาคลุกกับข้าวปั้นโอนิกิริอีกด้วย
คำแนะนำในการเก็บรักษา
• ควรเก็บในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 0-10 องศา
• หลังจากเปิดซองแล้วหากทานไม่หมด แนะนำให้ใส่กล่องปิดให้สนิทและเก็บไว้ในตู้เย็น
• ควรรับประทานให้หมดภายใน 3 วัน หลังจากที่เปิดซอง
มาทำโอเด้งทานเองที่บ้านกันค่ะ
อร่อยได้ง่ายๆ ด้วยเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่น!
สาหร่ายทะเลปรุงรสด้วยกลิ่นหอมของใบชิโซะและใบชิโสะสีเขียว สามารถใช้เป็นส่วนผสมในข้าวปั้น เป็นกับข้าวหรือโจ๊ก โรยบนสลัด หรือรับประทานเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย หรือใช้สร้างสรรค์เมนูอื่นๆ ทั้งปรุงสุกและพร้อมรับประทานได้หลากหลายวิธี ทำให้สะดวกและประหยัดเวลา พร้อมเสิร์ฟ
หากคุณเป็นคนชอบทานเส้นเล็กแบบโซเมน แต่อยากได้ความเหนียว นุ่มแบบเส้นอุด้ง ขอแนะนำเส้นฮิยามุกิค่ะ!!
Soba อาหารมงคลแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น!
โซบะชาเขียว 1 ใน เมนูขึ้นชื่อของญี่ปุ่น
"ชูรสชาติราเมงให้อร่อยยิ่งขึ้นด้วยหน่อไม้เมนมะ"
ช่วงฤดูฝนถือเป็นช่วงที่หน่อไม้อร่อยที่สุด เพราะมีรสชาติหวาน กรอบ อวบน้ำ เราจึงได้คัดเลือกหน่อไม้ในฤดูกาลนี้นำมาต้มจนสุกและปรุงรสโชยุเข้มข้นจนเต็มไปด้วยรสชาติอูมามิในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ทำให้มีเนื้อนิ่มกรอบ ไม่เละหรือกระด้าง หอมกลิ่นน้ำมันงาและถั่วเหลือง เหมาะสำหรับเป็นเครื่องโรยหน้าอาหารในเมนูราเมง อุด้ง และบะหมี่ญี่ปุ่นแบบอื่นๆ, ใส่ในข้าวผัด, ใช้เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยหรือเป็นกับแกล้มก็อร่อยไม่แพ้กัน สะดวกและประหยัดเวลามากยิ่งขึ้นเพราะมาในรูปแบบปรุงสุกสำเร็จ ทำให้การทานหน่อไม้อร่อยๆ เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคนค่ะ
ชูรสชาติราเมงให้อร่อยยิ่งขึ้นด้วยหน่อไม้เมนมะกันค่ะ
อร่อยง่ายๆ กับเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่น