✨ สัมผัสรสชาติหวานธรรมชาติ จากท้องทะเลญี่ปุ่น ✨
หอยเชลล์ฮอกไกโด ถูกขนานนามว่าเป็น "ราชาแห่งหอยญี่ปุ่น" ในมหาสมุทรที่เย็นยะเยือกและบริสุทธิ์แห่งฮอกไกโด ที่นี่คือแหล่งกำเนิดของหอยเชลล์ที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลก หอยเชลล์คุณภาพเยี่ยมที่เติบโตอย่างช้าๆ ในแหล่งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทำให้ได้หอยเชลล์ฮอกไกโด ที่มีเนื้อแน่น เด้งดุจไข่มุก และหวานราวกับหยาดน้ำค้างจากท้องทะเล หอยเชลล์แต่ละตัวผ่านกระบวนการแช่แข็งแบบพิเศษที่เรียกว่า อุโมงค์แช่แข็ง (Tunnel Freezer) ทันทีที่จับขึ้นจากทะเล เพื่อตรึงความสด รสชาติ และเนื้อสัมผัสชั้นเลิศเอาไว้ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าหอยเชลล์เกรดซาซิมินี้สะอาด ปลอดภัย และอุดมไปด้วยโปรตีนสูง ไขมันต่ำ โอเมก้า 3 และแร่ธาตุที่ดีต่อร่างกายที่ดีต่อสุขภาพ เมนูแนะนำทานแบบ ซาซิมิ ก็สัมผัสได้ถึงรสชาติหวานละมุนที่ละลายในปาก หรือจะนำไปย่างเนยกระเทียมเพียงไม่กี่วินาที เนื้อหอยก็จะยังคงความนุ่มฉ่ำด้านใน พร้อมกลิ่นหอมกรุ่น เป็นประสบการณ์ความอร่อยระดับพรีเมียมที่พร้อมเสิร์ฟถึงบ้านคุณ
เมนูแนะนำ :
• แบบดิบ (ซาชิมิ/ซูชิ): ละลายน้ำแข็งช้า ๆ ในตู้เย็น หั่นเป็นชิ้น ทานกับโชยุและวาซาบิ
• แบบสุก: นำไปย่างกระทะ/เตาย่าง ใส่เนย ซีอิ๊วญี่ปุ่น หรือทำเป็นหอยเชลล์อบชีส
• เมนูอื่น: ใส่ในพาสต้า ราเมง ข้าวผัด หรือซุปซีฟู้ด
วิธีการละลาย :
• วิธีที่ดีที่สุด: นำหอยเชลล์ออกจากช่องฟรีซ แล้วย้ายมาไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา ข้ามคืน เพื่อให้ละลายอย่างช้าๆ
จะช่วยคงคุณภาพและรสชาติได้ดีที่สุด
• วิธีเร่งด่วน: หากต้องการใช้ทันที ให้แช่ถุงหอยเชลล์ในน้ำเย็น (ห้ามใช้น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนเด็ดขาด)
ประมาณ 30-45 นาที
** เมื่อละลายแล้ว สามารถนำไปทำอาหารได้ทันที ไม่ต้องล้างน้ำซ้ำ **
ข้อควรระวังในการใช้
• เวลาละลายน้ำแข็ง ควรละลายช้า ๆ ที่อุณหภูมิต่ำ เพื่อรักษาความสด
• หลีกเลี่ยงการละลายน้ำแข็งด้วยน้ำร้อนหรือไมโครเวฟ เพราะอาจทำให้คุณภาพเนื้อเปลี่ยนไป
• หลังจากละลายน้ำแข็งแล้ว ควรเก็บไว้ในตู้เย็นและบริโภคโดยเร็ว
• ห้ามนำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งซ้ำ
อร่อย หอม เข้มข้น ไปกับนมโคแท้จากฮอกไกโด
เชื่อว่าหลายท่านคงรู้จักเมืองฮอกไกโดกันใช่ไหมคะ เมืองฮอกไกโดเป็นเมืองทางภาคเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งอาหาร น้ำ และมีอากาศอันบริสุทธิ์ที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี ทำให้ผลผลิตจากเมืองนี้มีความสดใหม่และอร่อยสุดๆ ซึ่งหนึ่งในสินค้าที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของฮอกไกโดก็คือ “นมฮอกไกโด” นั่นเองค่ะ
นมฮอกไกโด เป็นนมที่มีความหอมมัน รสชาติเข้มข้น ทำให้ไม่ว่าจะดื่มแบบธรรมดาหรือนำไปทำอาหาร ขนม ผสมเครื่องดื่มอื่นๆ หรือทำไอศกรีม ก็จะช่วยชูรสชาติให้เมนูนั้นๆ มีความหอมมันกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ทุกท่านสามารถลองชิมรสชาตินมฮอกไกโดของแท้ นำเข้าจากเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่นได้แล้ววันนี้ที่ Honmono Nippon ค่ะ
ทงคตสึราเมงผสานรสอูมามิจากมิโซะฮอกไกโด เข้มข้น ลงตัว
นิสชิน (Nissin) ถือเป็นแบรนด์บะหมี่ชื่อดังระดับโลกที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ในซีรีส์ Demae Ramen Bar Noodle นี้ได้นำเสนอราเมงเส้นตรงที่ไม่ผ่านการทอด เมื่อนำมาต้มเพียงไม่กี่นาทีคุณจะได้สัมผัสกับเส้นราเมงเหนียวนุ่มที่เข้ากันได้ดีกับน้ำซุปรสชาติกลมกล่อม สำหรับห่อสีส้มนี้เป็นราเมงรสทงคตสึมิโซะฮอกไกโด ที่มีน้ำซุปเข้มข้นจากกระดูกหมูเคี่ยวอย่างพิถีพิถันจนได้กลิ่นหอมเข้มข้น ผสานรสอูมามิตามธรรมชาติจากมิโซะฮอกไกโดที่หมักจากถั่วเหลืองในประเทศญี่ปุ่น ให้ความเค็มและหวานแบบนุ่มนวล หอมกลิ่นถั่วเหลือง เพียงเติมเนื้อสัตว์และผักที่ชอบอีกนิด อร่อยกลมกล่อมถูกใจแน่นอนค่ะ วิธีอร่อยกับ Nissin Bar Ramen 1. ต้มน้ำ 450 มล. ให้เดือด จากนั้นใส่เส้นราเมงลงไปต้มประมาณ 3 นาที ฉีกซองซุปผง (Soup Base) ใส่ลงในถ้วย 2. เมื่อเส้นสุกได้ที่ ยกลงจากเตา เทน้ำร้อนลงในถ้วยที่เตรียมไว้เพื่อละลายผงซุป จากนั้นใส่เส้นราเมงลงไป คนให้เข้ากัน 3. ฉีกซองซอสปรุงรสมิโซะ (Seasoning Sauce) ใส่ลงในถ้วย เติมเนื้อสัตว์ ผัก หรือท้อปปิ้งอื่นๆ ตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ
หม้อไฟสไตล์ฮากาตะ อาหารขึ้นชื่อของเมืองฟุกุโอกะ
หากคุณชอบทานราเมนของนิสชิน นี่คือรสชาติที่คุณห้ามพลาด
นิสชิน (Nissin) ถือเป็นแบรนด์บะหมี่ชื่อดังระดับโลกที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ในซีรีส์ Demae Ramen Bar Noodle นี้ได้นำเสนอราเมงเส้นตรงที่ไม่ผ่านการทอด เมื่อนำมาต้มเพียงไม่กี่นาทีคุณจะได้สัมผัสกับเส้นราเมงเหนียวนุ่มที่เข้ากันได้ดีกับน้ำซุปรสชาติกลมกล่อม สำหรับห่อสีดำนี้เป็นรสซุปทงคตสึที่เคี่ยวจากกระดูกหมูจนได้รสอูมามิเข้มข้น เพิ่มความหอมด้วยงาและน้ำมันกระเทียมดำที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะวิตามินซี, ซีลีเนียม และโพแทสเซียม ช่วยลดไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือด, ลดความดันโลหิต, ลดน้ำตาลในเลือด, และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดในร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น น้ำซุปกลมกล่อมทานคู่กับเส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม เพียงเติมเนื้อสัตว์และผักที่ชอบอีกนิดก็อร่อยลงตัวแล้วค่ะ วิธีอร่อยกับ Nissin Bar Ramen 1. ต้มน้ำ 450 มล. ให้เดือด จากนั้นใส่เส้นราเมงลงไปต้มประมาณ 3 นาที ฉีกซองซุปผง (Soup Base) ใส่ลงในถ้วย 2. เมื่อเส้นสุกได้ที่ ยกลงจากเตา เทน้ำร้อนลงในถ้วยที่เตรียมไว้เพื่อละลายผงซุป จากนั้นใส่เส้นราเมงลงไป คนให้เข้ากัน 3. ฉีกซองน้ำมันกระเทียมดำ (Black Garlic Oil) ใส่ลงในถ้วย เติมเนื้อสัตว์ ผัก หรือท้อปปิ้งอื่นๆ ตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ
อร่อย หอม เข้มข้น ไปกับนมโคแท้จากฮอกไกโด
เชื่อว่าหลายท่านคงรู้จักเมืองฮอกไกโดกันใช่ไหมคะ เมืองฮอกไกโดเป็นเมืองทางภาคเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งอาหาร น้ำ และมีอากาศอันบริสุทธิ์ที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี ทำให้ผลผลิตจากเมืองนี้มีความสดใหม่และอร่อยสุดๆ ซึ่งหนึ่งในสินค้าที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของฮอกไกโดก็คือ “นมฮอกไกโด” นั่นเองค่ะ
นมฮอกไกโด เป็นนมที่มีความหอมมัน รสชาติเข้มข้น ทำให้ไม่ว่าจะดื่มแบบธรรมดาหรือนำไปทำอาหาร ขนม ผสมเครื่องดื่มอื่นๆ หรือทำไอศกรีม ก็จะช่วยชูรสชาติให้เมนูนั้นๆ มีความหอมมันกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ทุกท่านสามารถลองชิมรสชาตินมฮอกไกโดของแท้ นำเข้าจากเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่นได้แล้ววันนี้ที่ Honmono Nippon ค่ะ
ข้อแนะนำ
• กรุณาเขย่าก่อนดื่ม เนื่องจากตัวนมมีแคลเซียมและแร่ธาตุต่างๆ จึงอาจมีการตกตะกอนได้ ซึ่งไม่ใช่ความผิดปกติจากการผลิต
• หากยังไม่เปิดกล่อง สามารถเก็บในอุณหภูมิปกติได้
• หลังจากเปิดกล่องแล้ว หากรับประทานไม่หมดควรปิดให้สนิทและเก็บในตู้เย็น (อุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส)
• หลังจากเปิดกล่องแล้ว ควรรับประทานให้หมดภายใน 7 วัน
• ห้ามเก็บในช่องแช่แข็ง เนื่องจากเนื้อสัมผัสของนมอาจเปลี่ยนไป
อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช เคล็ดลับความอร่อยจากครัวญี่ปุ่น
"ชิโอะโคโช" (塩こしょう) หรือ เกลือและพริกไทยดำ เป็นเครื่องปรุงที่ขาดไม่ได้ในครัวเรือน เพราะช่วยดึงรสชาติของวัตถุดิบให้อร่อยขึ้นแบบง่ายๆ ไม่ต้องใช้เครื่องปรุงหลายชนิด อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช ไม่ได้เป็นแค่เครื่องปรุงทั่วไป แต่เป็น "ผู้ช่วยเชฟ" ที่ช่วยให้การทำอาหารง่ายขึ้น ไม่ว่าคุณจะทำเมนู เนื้อย่าง หมูทอด ไก่ย่าง บาร์บีคิว ซุป หรือแม้แต่อาหารตะวันตก ก็สามารถใช้ได้อย่างลงตัว แค่โรยเบาๆ ก็ได้รสชาติอร่อยแบบมืออาชีพ!
เมนูแนะนำ
♥ สเต๊กเนื้อพริกไทยเกลือ
วัตถุดิบ
- เนื้อสเต๊ก (ริบอาย, สันนอก หรือเนื้อที่ชอบ) 200 กรัม
- เฮ้าส์ อาจิซุเกะ ชิโอะโคโช 1 ช้อนชา
- น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
- เนย 10 กรัม
- กระเทียมฝานบาง 2-3 กลีบ
วิธีทำ:
1. โรย เฮ้าส์ อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช ให้ทั่วเนื้อทั้งสองด้าน
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอก พอร้อน ใส่เนื้อลงไปย่างให้สุกตามต้องการ
3. ใส่เนยและกระเทียมลงไปผัดให้หอม แล้วราดบนเนื้อ
4. เสิร์ฟพร้อมผักย่างหรือมันฝรั่งทอด
♥ ข้าวผัดญี่ปุ่น (ชิโอะยากิเมชิ)
วัตถุดิบ:
- ข้าวสวย 1 ถ้วย
- หมูสับ หรือไก่สับ 50 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- เฮ้าส์ อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช 1 ช้อนชา
- ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ:
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ผัดหมูสับจนสุก
2. ตอกไข่ลงไป คนให้เข้ากันแล้วใส่ข้าวสวย
3. โรย เฮ้าส์ อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช ผัดให้เข้ากัน
4. โรยต้นหอมซอย แล้วตักเสิร์ฟ
เมนูไหนก็อร่อยขึ้น แค่มีติดครัวไว้! ☺️
เปิดประสบการณ์รสชาติของข้าวญี่ปุ่นแท้ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น "ราชาแห่งข้าว" ของประเทศญี่ปุ่น ด้วยคุณภาพที่โดดเด่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ
ข้าวชิ้นนี้คือ ข้าวโคชิฮิคาริ (Koshihikari) ซึ่งเป็นข้าวพันธุ์ยอดนิยมและมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าวที่มาจากจังหวัด นีงาตะ (Niigata) ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงด้านคุณภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น จังหวัดนีงาตะได้รับพรจากสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปลูกข้าวชั้นดี เช่น ดินที่อุดมสมบูรณ์จากตะกอนแม่น้ำสำคัญอย่างแม่น้ำชินาโนะ (Shinano River) และแม่น้ำอะงาโนะ (Agano River) รวมถึงมีน้ำบริสุทธิ์จากหิมะที่ละลาย (Snowmelt Water) และที่สำคัญคือ ความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืน ที่สูง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาความหวานและรสชาติของข้าว
ข้าวโคชิฮิคาริสายพันธุ์นีงาตะมีจุดเด่นหลัก ๆ ที่ทำให้เป็นที่รักของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน
ความเหนียวและหนึบ (Stickiness): มีสัมผัสที่ เหนียวหนึบ (Mochimochi) และยืดหยุ่นกำลังดี ไม่แข็งกระด้าง
ความหวานและอูมามิ (Sweetness & Umami): มีรสหวานตามธรรมชาติที่ชัดเจน และมีรส อูมามิ (Umami) ที่เข้มข้นในทุกเม็ด
กลิ่นหอมและเงางาม: เมื่อหุงสุกแล้วจะมี กลิ่นหอมที่ละมุน และเมล็ดข้าวจะมีความ เงางามเป็นประกาย น่ารับประทาน
ด้วยรสชาติที่โดดเด่นและสมดุล ทำให้ข้าวโคชิฮิคาริจากนีงาตะอร่อยมากแม้ว่าจะทานเปล่า ๆ โดยไม่ต้องมีกับข้าวค่ะ นอกจากนี้ยังรักษาความอร่อยไว้ได้ดีแม้จะเย็นลง จึงเหมาะมากสำหรับทำข้าวปั้น โอนิกิริ (Onigiri) หรือใส่ในกล่องข้าวเบนโตะ (Bento)
เมนูแนะนำ (Recipe Suggestion)
ข้าวโคชิฮิคาริมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่สมดุล ทำให้เข้ากันได้ดีกับอาหารหลากหลายประเภทค่ะ:
ข้าวสวย (Plain White Rice): ทานเปล่า ๆ คู่กับเครื่องเคียงง่าย ๆ อย่างซุปมิโสะ (Miso Soup) และผักดอง (Tsukemono) เพื่อสัมผัสรสชาติแท้ ๆ ของข้าว
ซูชิ (Sushi) และโอนิกิริ (Onigiri): ด้วยความเหนียวหนึบ ทำให้ปั้นได้ง่ายและคงรูปได้ดีเมื่อเย็นลง
เมนูอาหารญี่ปุ่นทั่วไป: เหมาะสำหรับทานคู่กับอาหารญี่ปุ่นแทบทุกชนิด เช่น ปลาย่าง, เทมปุระ (Tempura) หรือข้าวหน้าต่าง ๆ (Donburi)
วิธีใช้หรือวิธีเตรียม (Usage Instruction)
เพื่อให้ได้ข้าวที่อร่อยที่สุด ควรทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
1. ซาวข้าว (Rinsing): ซาวข้าวอย่างเบามือเพื่อล้างฝุ่นออก เปลี่ยนน้ำประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำเริ่มใส
2. แช่น้ำ (Soaking): แช่ข้าวในน้ำสะอาดทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ในฤดูร้อน หรือ 60 นาที ในฤดูหนาว เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำอย่างเต็มที่
3. หุง (Cooking): หุงตามอัตราส่วนน้ำที่ระบุบนเครื่องหุงข้าว หรือใช้อัตราส่วนข้าว 1 ส่วนต่อน้ำประมาณ 1.1 - 1.2 ส่วน
4. พักข้าว (Steaming): เมื่อหุงเสร็จแล้ว ห้ามเปิดฝา ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ไอน้ำระอุและข้าวสุกทั่วถึง ก่อนจะใช้ไม้พายคลุกเบา ๆ ก่อนตักเสิร์ฟค่ะ
ลองนำข้าวโคชิฮิคาริจากนีงาตะไปหุงดูสิคะ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมข้าวญี่ปุ่นแท้ ๆ ถึงมีเสน่ห์และเป็นหัวใจสำคัญของวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น ที่คุณก็สามารถสร้างสรรค์ความอร่อยนี้ได้ที่บ้านค่ะ
น้ำซุปดาชิถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำอาหารญี่ปุ่น
หากกำลังมองหามิโซะสำหรับทำอาหารญี่ปุ่นอยู่หรือเปล่าคะ
มิโซะขาวนิยมใช้กันมากทางภูมิภาคคันไซและภาคตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น รสชาติจะออกหวานนำเค็ม เวลานำมาปรุงเป็นน้ำซุปต้องใช้ปริมาณที่มากเพื่อให้น้ำซุปมีรสชาติเข้มข้น ความพิเศษของมิโซะถุงนี้ คือการผสมน้ำซุปดาชิ หรือน้ำสต๊อคปลา มาเรียบร้อยแล้ว ช่วยให้คุณปรุงน้ำซุปได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะไม่ต้องเริ่มต้นจากการทำน้ำสต๊อค เมนูแนะนำ ซุปมิโซะ หรือทำซอสมิโซะสำหรับเป็นราดเมนูปลา
การทำน้ำซุปดาชิจะเป็นเรื่องง่ายๆ ใช้เวลาเพียง 5 นาที
แป้งสาลีญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยม และบอกต่อมากที่สุด!
สายเบเกอรี่คงไม่มีใครไม่รู้จักแป้งญี่ปุ่นแบรนด์ NIPPN แป้งที่โรงเรียนสอนทำอาหารและเบเกอรี่หลายโรงเรียนเลือกใช้ แป้งตัวนี้เป็น แป้งแบบ Strong Flour มีค่า โปรตีน 12% / Ash 0.38% ตัวแป้งจะขาว ละเอียด และเนียนกว่าแป้งทางยุโรป เหมาะกับการทำขนมปังที่ต้องการความเหนียว นุ่ม สไตล์ญี่ปุ่นปท้ๆ อย่าง Shokupan หรือ Hokkaido Milk Bread สามารถประยุกต์ใช้ทำแป้งซาลาเปา เกี๊ยวซ่า เพื่อให้อาหารมีความเนียน นุ่ม กว่าแป้งตัวอื่นๆ ค่ะ
สำหรับคนที่ชอบทานปลาไหลญี่ปุ่นย่างซีอิ๊ว มาทางนี้ค่ะ
ที่ประเทศญี่ปุ่น จะมีเทศกาลวันทานปลาไหล ในช่วงฤดูร้อน เพราะเชื่อว่าหากทานในช่วงเวลานี้จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงตลอดทั้งปี เพราะปลาไหลอุดมด้วยคุณค่าทางอาหาร ช่วยให้ร่างกายไม่อ่อนเพลียจากอากาศที่ร้อน วันนี้เรามีปลาไหลน้ำจืดสายพันธุ์ญี่ปุ่น ที่เนื้อนุ่มแน่น คัดเฉพาะไซส์ใหญ่พิเศษ นำมาย่างจนมีกลิ่นหอม ทาด้วยซีอิ๊วรสชาติเค็มๆ หวานๆ ตามสูตรลับเฉพาะของทางแบรนด์ ยิ่งทาน ยิ่งอร่อย ที่สำคัญราคาไม่แพง!! เพราะราคานี้ ท่านจะได้ทานปลาไหล 1 ตัว!!! ที่สำคัญทำง่ายมาก เพียงแค่ฉีกซอง อุ่นร้อนในไมโครเวฟ เพื่อความอร่อยยิ่งขึ้น ทานคู่กับข้าวญี่ปุ่น เนื้อนุ่มเคี้ยวหนุบ ยิ่งอร่อยค่ะ
ชาที่ดื่มง่าย อร่อยลงตัว จนคนญี่ปุ่นยกให้เป็นชาชั้นเลิศ
ชาเขียวใบชนิดซอง เกียวคุโระ ของญี่ปุ่นทำไมต้อง "ยาบุกิตะ"
หากคุณเป็นผู้หลงใหลในชาเขียวญี่ปุ่นแท้ๆ "ยาบุกิตะ" คือ ราชินีแห่งชาเขียวของญี่ปุ่น เป็นระดับชาที่ปลูกด้วยเทคนิคการบังแสงแดดก่อนเก็บเกี่ยว ทำให้ใบชามีคลอโรฟิลล์สูง อูมามิที่เข้มข้น และความหวานนุ่มนวลที่โดดเด่น ผสานกับกลิ่นหอมละมุนฟุ้งที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยเทคโนโลยีถุงชาตาข่ายแบบใหม่ ทำให้คุณสามารถชงชาเขียวคุณภาพระดับญี่ปุ่นออกมาได้ง่ายๆในทุกแก้ว ไม่ว่าจะชงร้อนเพื่อความผ่อนคลาย หรือ ชงแบบเย็น (สกัดเย็น) เพื่อความสดชื่น เพียงเติมน้ำ ก็พร้อมเสิร์ฟ สะดวก พกพาง่าย ดื่มได้ทุกที่ ทุกเวลา เหมาะสำหรับดื่มคู่กับอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่มอื่นๆได้ตามสไตล์คุณ
เคล็ดลับการชงแบบร้อน และ แบบเย็น(สกัดเย็น)
ชาเขียวญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องชงด้วยน้ำร้อนเสมอไป! ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นแนะนำให้ลองชงชาเขียวแบบ "น้ำสกัดเย็น" ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมาก การชงด้วยน้ำเย็นจะช่วยดึงรสอูมามิ และสารคาเทชิน ที่ให้รสหวานออกมาได้มาก ในขณะที่รสขมและคาเฟอีนจะละลายออกมาน้อยลง ทำให้ได้ชาที่มีรสชาติกลมกล่อม นุ่มนวล และสดชื่นเป็นพิเศษ
วิธีชงแบบร้อน :
1. ต้มน้ำให้เดือด แล้วรอให้น้ำเย็นลงเหลือประมาณ 70-80 องศาเซลเซียส (หากไม่มีเทอร์โมมิเตอร์ สามารถต้มน้ำเดือดแล้วทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที)
2. ใส่ถุงชา 1 ซอง ลงในแก้วหรือถ้วยชา
3. ค่อย ๆ รินน้ำร้อน ประมาณ 150-200 มิลลิลิตร ลงไป
4. แช่ถุงชาทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที (ไม่ควรแช่นานเกินไป เพราะจะทำให้ชามีรสขมฝาด)
5. นำถุงชาออก (อาจจะบีบเบา ๆ ก่อนนำออก) และพร้อมดื่ม
วิธีชงแบบน้ำ(สกัดเย็น) :
1. ใส่ถุงชา 1-2 ซอง ลงในขวดหรือภาชนะที่มีฝาปิดสนิท
2. เติมน้ำเย็นอุณหภูมิห้อง หรือ น้ำเย็นจัด ปริมาณประมาณ 300-500 มิลลิลิตร
3. ปิดฝาแล้วนำไปแช่ในตู้เย็น
4. รอเวลาทิ้งไว้ให้สกัดเย็นเป็นเวลา 3-6 ชั่วโมง หรืออาจจะแช่ข้ามคืน 8-12 ชั่วโมง เพื่อให้ได้รสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้น
(หากแช่นานเกิน 12 ชั่วโมง อาจเริ่มมีรสฝาดออกมาบ้าง)
5. เมื่อได้ความเข้มข้นที่ต้องการแล้ว ให้นำถุงชาออก พร้อมดื่มได้ทันที
ข้อดีของการสกัดเย็น:
รสชาติ : รสชาตินุ่มนวล หวาน อูมามิเด่นชัด และมีรสขมฝาดน้อยมาก
คาเฟอีน : ระดับคาเฟอีนจะต่ำกว่าการชงแบบร้อน
สำหรับคนที่ชอบทานปลาไหลญี่ปุ่นย่างซีอิ๊ว มาทางนี้ค่ะ
ที่ประเทศญี่ปุ่น จะมีเทศกาลวันทานปลาไหล ในช่วงฤดูร้อน เพราะเชื่อว่าหากทานในช่วงเวลานี้จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงตลอดทั้งปี เพราะปลาไหลอุดมด้วยคุณค่าทางอาหาร ช่วยให้ร่างกายไม่อ่อนเพลียจากอากาศที่ร้อน วันนี้เรามีปลาไหลน้ำจืดสายพันธุ์ญี่ปุ่น ที่เนื้อนุ่มแน่น คัดเฉพาะไซส์ใหญ่พิเศษ นำมาย่างจนมีกลิ่นหอม ทาด้วยซีอิ๊วรสชาติเค็มๆ หวานๆ ตามสูตรลับเฉพาะของทางแบรนด์ ยิ่งทาน ยิ่งอร่อย ที่สำคัญราคาไม่แพง!! เพราะราคานี้ ท่านจะได้ทานปลาไหล 1 ตัว!!! ที่สำคัญทำง่ายมาก เพียงแค่ฉีกซอง อุ่นร้อนในไมโครเวฟ เพื่อความอร่อยยิ่งขึ้น ทานคู่กับข้าวญี่ปุ่น เนื้อนุ่มเคี้ยวหนุบ ยิ่งอร่อยค่ะ
โซบะชาเขียว 1 ใน เมนูขึ้นชื่อของญี่ปุ่น
พบกับ 1 ใน 3 ของเส้นอุด้งที่อร่อยที่สุดของญี่ปุ่น!!
Sanuki Udon ของจังหวัดคากาว่า ถือเป็นสุดยอมเมนูอุด้งที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น และได้รับความนิยมไปทั่วโลก ความพิเศษของเมนูวัดกันที่ความอร่อยของเส้นค่ะ
ดองผักให้อร่อยในพริบตา! ด้วย Asazuke no Moto จาก Ebara
Asazuke no Moto จากแบรนด์ เอบาระ (Ebara) เป็นน้ำปรุงรสสำเร็จรูปสำหรับการทำผักดองสไตล์ญี่ปุ่นแบบง่ายๆ และรวดเร็ว หรือที่เรียกว่า “อาซาซึเกะ” (Asazuke) ด้วยรสชาติที่เค็มเล็กน้อย หวานนิดๆ และกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ น้ำปรุงนี้ช่วยเสริมรสชาติให้ผักดองอร่อยอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้เวลานานหรือขั้นตอนยุ่งยาก ผักดองที่ได้จะมีความกรอบ สดชื่น และยังคงรสชาติของผักไว้ได้อย่างดี
Asazuke no Moto จึงกลายเป็นตัวช่วยคู่ครัวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น เพราะสามารถใช้ดองผักได้หลากหลายชนิดตามใจชอบ แค่มีผักกับน้ำปรุง ก็ได้เมนูเครื่องเคียงแบบญี่ปุ่นที่ทั้งอร่อยและสดใหม่ในไม่กี่นาที!
วิธีใช้
• หั่นผักที่ต้องการหมักเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วใส่ลงในถุงซิปล็อก
• เทน้ำปรุงรส "Asazuke no Moto" ลงไปให้ทั่วผัก (ปริมาณการใช้ 100 มล. ต่อผัก 200 กรัม)
• ไล่อากาศออกจากถุงให้มากที่สุด ปิดปากถุงให้แน่น แล้วขยำเบาๆให้ส่วนผสมเข้ากัน
• นำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 30 หรือนานกว่านั้นตามความชอบ
• จากนั้นนำผักออกมา บีบน้ำส่วนเกินออก (โดยไม่ต้องล้างน้ำเปล่า)เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟทันที
“เมกมิลค์ สโนว์” นมโคแท้จากฮอกไกโด หอม อร่อย เข้มข้น ต้องลอง!!
ราเมนเส้นสด เหนียวหนึบ สูตรต้นตำหรับจากญี่ปุ่น แบบเดียวกับที่ใช้ตามร้านราเมนชื่อดัง
ราเมนเส้นสดที่ใช้กรรมวิธีผลิตแบบพิเศษที่ทำให้เส้นมีความสด เส้นที่ได้เหนียวนุ่ม อร่อย ให้คุณได้ลิ้มรสชาติของเส้นราเมนแท้ๆ
เหมาะสำหรับเมนูราเมนร้อน บะหมี่เย็น และยากิโซบะ หากคุณเป็นคนชอบทานราเมน ขอแนะนำเลยค่ะ
วิธีเตรียมเส้น
ต้มน้ำให้เดือด สางเส้นไม่ให้ติดกันก่อนลวก
*ไม่ควรนำเส้นไปล้างหรือจุ่มน้ำเพื่อล้างแป้งก่อนลวก เพราะจะทำให้เส้นติดกัน
- เมนูราเมน ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 2-3 นาที
- เมนูบะหมี่เย็น ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 2:45-3:15 นาที แล้วนำเส้นไปจุ่มในนำเย็นก่อนเสิร์ฟ
- เมนูยากิโซบะ ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 1:30-1:45 นาที
ราเมนเส้นสด เหนียวหนึบ สูตรต้นตำหรับจากญี่ปุ่น แบบเดียวกับที่ใช้ตามร้านราเมนชื่อดัง
ราเมนเส้นสดที่ใช้กรรมวิธีผลิตแบบพิเศษที่ทำให้เส้นมีความสด เส้นที่ได้เหนียวนุ่ม อร่อย ให้คุณได้ลิ้มรสชาติของเส้นราเมนแท้ๆ
เหมาะสำหรับเมนูราเมนร้อน บะหมี่เย็น และยากิโซบะ หากคุณเป็นคนชอบทานราเมน ขอแนะนำเลยค่ะ
วิธีเตรียมเส้น
ต้มน้ำให้เดือด สางเส้นไม่ให้ติดกันก่อนลวก
*ไม่ควรนำเส้นไปล้างหรือจุ่มน้ำเพื่อล้างแป้งก่อนลวก เพราะจะทำให้เส้นติดกัน
- เมนูราเมน ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 2-3 นาที
- เมนูบะหมี่เย็น ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 2:45-3:15 นาที แล้วนำเส้นไปจุ่มในนำเย็นก่อนเสิร์ฟ
- เมนูยากิโซบะ ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 1:30-1:45 นาที
พบกับ 1 ใน 3 เส้นอุด้งที่อร่อยที่สุดของญี่ปุ่น!!
Sanuki Udon (ซานุกิอุด้ง) ของจังหวัด Kagawa (คากาวะ) ถือเป็นสุดยอมเมนูอุด้งที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่นและได้รับความนิยมไปทั่วโลก
แแป้งสาลีญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยม และบอกต่อมากที่สุด!
อร่อยง่ายๆ กับเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่น
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบปลาแซลมอน และกำลังมองหาวัตถุดิบคุณภาพดีที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ ปลาแซลมอนโคโฮ (Coho Salmon) จากแบรนด์ไอเซน (AYSEN) คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะนี่คือปลาที่เลี้ยงในแหล่งน้ำที่สะอาดและได้รับการรับรองคุณภาพ ทำให้คุณมั่นใจในความสดใหม่และรสชาติแบบพรีเมียม
ปลาแซลมอนโคโฮ ไอเซน คืออะไร?
ปลาแซลมอนโคโฮเป็นปลาแซลมอนอีกสายพันธุ์หนึ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยปลาจากแบรนด์ไอเซน มาจากฟาร์มเลี้ยงในประเทศชิลี ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคไอเซน (Aysén) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในแหล่งน้ำที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก ทำให้ได้ปลาที่มีคุณภาพสูง เนื้อปลามีสีส้มอมแดงเข้มคล้ายแซลมอนซ็อกอาย (Sockeye Salmon) แต่มีจุดเด่นคือ มีไขมันแทรกน้อยกว่าแซลมอนแอตแลนติก ทำให้เนื้อสัมผัสมีความแน่น ไม่เลี่ยน และเหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนักหรือรักสุขภาพ
ปลาแซลมอนโคโฮ ไอเซน ดียังไง?
• ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ: ด้วยปริมาณไขมันที่น้อยกว่า ทำให้เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีที่มีแคลอรีต่ำ และยังคงอุดมไปด้วย Omega-3 ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
• คุณภาพระดับซาชิมิ (Sashimi Quality): ปลาแซลมอนของเราได้รับการแปรรูปภายใน 8 ชั่วโมงหลังการจับ และทำทุกขั้นตอนในห้องคุมอุณหภูมิ ทำให้มั่นใจในความสดใหม่และคุณภาพที่เหมาะสำหรับการนำไปทำซาชิมิ
• Trim C: คือมาตรฐานการแล่ปลาที่มีการตัดแต่งอย่างพิถีพิถัน โดยมีการนำก้างใหญ่ออกทั้งหมด รวมถึงก้างปลาบริเวณท้อง (Belly Bone) และก้างซี่โครง (Pin Bone) ทำให้คุณสามารถนำเนื้อปลาไปทำอาหารได้ทันที โดยไม่ต้องมาเสียเวลาเลาะก้างเอง
เมนูแนะนำ
เนื้อปลาแซลมอนโคโฮ Trim C เหมาะสำหรับทำอาหารได้หลากหลายเมนู
• ซาชิมิ หรือ ซูชิ: ด้วยคุณภาพระดับซาชิมิ จึงสามารถหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ เพื่อทานแบบดิบได้อย่างปลอดภัย
• สเต๊กปลาแซลมอน: นำไปย่างหรือทอดในกระทะ จะได้เนื้อที่แน่นและหนังกรอบ
• ปลาแซลมอนอบ: นำไปอบในเตาอบพร้อมกับเครื่องเทศที่คุณชื่นชอบ
• เมนูอื่น ๆ: นำไปประกอบเมนูผัด หรือยำแบบไทย ๆ ก็อร่อยเข้ากัน
วิธีเตรียมปลา
1. นำปลาออกจากช่องแช่แข็ง และนำไปพักในตู้เย็นช่องธรรมดาเพื่อละลายน้ำแข็ง
2. เมื่อปลาละลายน้ำแข็งแล้ว สามารถนำไปล้างและซับน้ำให้แห้ง
3. หั่นเป็นชิ้นตามต้องการ แล้วนำไปประกอบอาหารได้ทันที
สัมผัสความอร่อยจากทะเลชิลีในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ปลาแซลมอนคุณภาพเยี่ยมที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพในครัวของคุณ
เส้นอุด้ง สไตล์อินานิวะ เส้นเหนียวนุ่ม!!
อินานิวะ อุด้ง (Inaniwa Udon) เป็นอุด้งที่มีชื่อเสียงมากชนิดหนึ่งของญี่ปุ่น ความพิเศษของตัวเส้นคือเส้นบางเหนียวนุ่ม และมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ทำจากแป้งสาลีคุณภาพดี ผ่านกรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม ทำให้ได้เส้นอุด้งที่มีคุณภาพ สามารถทำได้ทั้งเมนูอุด้งเย็นและอุด้งร้อน สะดวก และง่ายต่อการทำเมนูอุด้งสไตล์ญี่ปุ่น
วิธีการทาน
1. ซารุอุด้ง (อุด้งเย็น)
• นำเส้นแช่แข็งออกมาวางไว้บนกระชอน
• เปิดน้ำให้ไหลผ่านเส้นอุด้ง เพื่อทำละลาย ประมาณ 2-3 นาที (เวลาของการละลายจะแตกต่างกันไปตามอุณหภูมิของน้ำ)
• รอจนเส้นแยกออกจากกัน เพียงเท่านี้ก็สามารถนำมาเสิร์ฟพร้อมซอส หรือซุปตามความชอบได้เลยค่ะ
2. คาเคะอุด้ง (อุด้งร้อน)
• ละลายเส้นแช่แข็งด้วยน้ำเดือด ประมาณ 1 นาที
• เตรียมน้ำซุปสำหรับทำอุด้งร้อน
• นำเส้นอุด้งที่ละลายแล้วเทใส่ถ้วย จากนั้นเทน้ำซุปที่เตรียมไว้ พร้อมกับท็อปปิ้ง หรือเครื่องเคียงตามความชอบได้เลยค่ะ
มันปูหิมะ ผสมกับมิโซะ และเพิ่มความมันนัวจากมายองเนส
รสชาติความหอมมันของมันปูหิมะ เพิ่มความกลมกล่อมจากมิโซะ มีรสเปรี้ยวนิดๆ และครีมมี่จากมายองเนส ออกมาเป็น Kani Miso Mayo ซองนี้ สามารถใช้เป็นทั้งซอสดิป เป็นท็อปปิ้งของหน้าซูชิ ไม่ว่าจะเมนูย่างบนเตาและนำมาคลุกข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ หรือจะนำมาทำเป็นเมนูง่ายๆแบบไส้แซนวิซยามเช้าก็อร่อยสุดๆไปเลยค่ะ
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Nanatsuboshi ข้าวที่เติบโตท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ของฮอกไกโด
นิยมปลูกมากในฮอกไกโด เมล็ดข้าวอวบ หุงแล้วขึ้นเงา มีความเหนียวปานกลาง และความหวานแบบพอดี ทำให้โดนใจชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก แม้ข้าวจะเย็นแต่ยังคงความนุ่ม หอม อร่อย สามารถทำอาหารได้หลากหลายประเภท แต่จะนิยมนำมาทำเบนโตะและซูชิ
• ลักษณะเมล็ด – เมล็ดข้าวอวบ ขาว หุงขึ้นหม้อ
• รสชาติ – มีรสหวานและยังคงอร่อยแม้จะเย็นแล้ว
• ความเหนียว – ความเหนียวกำลังดี
• เมนูที่เหมาะสม – เบนโตะ และซูชิ
• ความลับของสายพันธุ์ – ถือว่าเป็นข้าวที่มีความสมดุลระหว่างรสชาติกับเนื้อสัมผัสมากที่สุดในสายพันธุ์ข้าวฮอกไกโด เมื่อหุงจนสุกข้าวมีความขาว ความเงา ความหอม ให้รสชาตินุ่มนวล และเคี้ยวอร่อย
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบาๆประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำจนอ่อนนุ่ม
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อย ๆ คนให้น้ำระเหย
หมึกเนื้อบาง ขาว ใส เมนูยอดนิยมในประเทศญี่ปุ่น
ยาริอิกะหรือหมึกกล้วยญี่ปุ่น มีเนื้อขาวใส ให้สัมผัสแน่น เด้ง เคี้ยวสนุกแต่ไม่เหนียว มีรสชาติหวานอ่อนๆ เป็นหมึกสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการรับประทานสดแบบซาชิมิและทำเป็นหน้าซูชิ ใน 1 แพ็คบรรจุ 20 ชิ้น สไลซ์มาในขนาดพอดีคำ พร้อมรับประทานค่ะ
มาทำไก่ทอดคาราอาเกะสไตล์จีนกันเถอะ!
Weipa karaage ko ปรับสูตรจากสูตรคาราอาเกะเดิมๆ ให้ออกมาเป็นสไตล์จีน มีรสของกระเทียม ความสไปซี่จากเครื่องเทศ และกลิ่นหอมเฉพาะตัว เมื่อนำมาผสมเข้ากับเนื้อไก่แล้วนำไปทอด ก็จะได้ลิ้มรสคาราอาเกะที่กรอบอร่อยอย่างไม่จำเจ
ส่วนผสม
- แป้งคาราอาเกะ 1 ซอง
- น้ำเปล่า 80 มล.
- เนื้อไก่ 400-500กรัม
วิธีทำ
1. นำแป้ง และ น้ำ มาผสมและคนให้เข้ากัน
2. หั่นเนื้อไก่เป็นชิ้นพอดีคำ จากนั้นนำไปชุบกับแป้งที่ผสมเตรียมไว้
3. ตั้งกระทะและน้ำมัน อุณหภูมิ 165-175 องศา
4. นำไก่ที่ชุปแป้งลงไปทอด ประมาน 3-4 นาที แล้วจึงนำขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน
ซุปสาหร่ายแสนอร่อย อุดมไปด้วยประโยชน์จากหอยชิจิมิ
เพลิดเพลินไปกับซุปใสแสนอร่อยที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการของหอยชิจิมิ (Shijimi Clam) หอยน้ำจืดของญี่ปุ่นที่อุดมไปด้วยแอล-ออร์นิทีน (L-Ornitine) กรดอะมิโนที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย เช่น ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ, ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน, กำจัดสารพิษจากตับ, ช่วยล้างสารพิษที่เกิดจากกระบวนการเผาผลาญตามธรรมชาติของร่างกาย เป็นต้น
เพียง 1 ซอง คุณจะได้รับแอล-ออร์นิทีนสูงถึง 25 มก. เทียบเท่ากับการรับประทานหอยชิจิมิถึง 70 ตัว! มาพร้อมสาหร่ายวากาเมะและหัวหอมอบแห้งที่ช่วยเพิ่มความอูมามิให้ซุปกลมกล่อมยิ่งขึ้น ใครที่ต้องการความสดชื่น ทานง่าย สบายท้อง ต้องไม่พลาดถ้วยนี้ค่ะ
ชอบทานซุปมิโซะมั้ยคะ การทำซุปมิโซะจะไม่ยากอีกต่อไป!!
เพลิดเพลินกับแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแท้ๆ แบบเต็มรสชาติได้ง่ายๆ แค่อุ่น
เคอร์รี ยะ (Curry-ya) เป็นซีรีส์แกงกะหรี่พร้อมทานจากแบรนด์ House ที่มียอดขายอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นมากว่า 19 ปี ด้วยรสชาติอันกลมกล่อมเข้มข้นจากเครื่องเทศถึง 29 ชนิด กระบวนการผลิตที่พิถีพิถันกว่า 3 ขั้นตอน ส่วนผสมและระดับความเผ็ดอันหลากหลาย ทำให้คุณสามารถอร่อยกับแกงกะหรี่แบบเต็มรสชาติเหมือนสั่งจากร้านอาหารได้ง่ายๆ ที่บ้าน
สำหรับกล่องสีส้มรสไก่นี้ มีความเผ็ดระดับ 3 (จาก 5 ระดับ) ภายในซองบรรจุมาแบบครบเครื่องทั้งเนื้อไก่ แครอท และมันฝรั่ง เพียงอุ่นด้วยไมโครเวฟหรือน้ำร้อนไม่กี่นาทีแล้วเสิร์ฟกับข้าวญี่ปุ่น หรือจะนำไปทำเมนูอื่นๆ อย่างข้าวแกงกะหรี่อบชีส, ยากิโซบะแกงกะหรี่, อุด้งแกงกะหรี่ หรือกราแตงแกงกะหรี่ก็ได้เช่นกันค่ะ
วิธีรับประทาน
• อุ่นโดยไมโครเวฟ
1. เปิดฝากล่องตรงรอยประ โดยไม่ต้องฉีกปากซองแกงกะหรี่ออก
2. นำกล่องที่บรรจุซองแกงกะหรี่เข้าไมโครเวฟ โดยให้รูที่อยู่มุมซองอยู่ด้านบน
3. อุ่นโดยใช้กำลังไฟและเวลาดังนี้
• กำลังไฟ 500 วัตต์ ใช้เวลา 1 นาที 50 วินาที
• กำลังไฟ 600 วัตต์ ใช้เวลา 1 นาที 20 วินาที
• กำลังไฟ 700 วัตต์ ใช้เวลา 1 นาที
4. นำออกจากไมโครเวฟ ฉีกซอง เทใส่ชามที่เตรียมไว้ พร้อมรับประทาน
• อุ่นโดยการต้มในน้ำร้อน
1. เปิดฝากล่องแล้วนำซองแกงกะหรี่ออกมา
2. ใส่น้ำในหม้อ โดยกะปริมาณให้ท่วมซองแกงกะหรี่ ต้มน้ำให้เดือด
3. นำซองแกงกะหรี่ลงไปแช่ในน้ำเดือด ต้มต่อประมาณ 3-5 นาที
4. นำซองแกงกะหรี่ออกจากหม้อ ฉีกซอง เทใส่ชามที่เตรียมไว้ พร้อมรับประทาน
** ควรฉีกซองด้วยความระมัดระวัง เพราะซอสแกงกะหรี่บางส่วนอาจกระเด็นหรือมีไอน้ำร้อนออกมาได้ **
สัมผัสความอร่อยต้นตำรับจากญี่ปุ่น ด้วยดังโงะไส้งาดำคั่ว หอม มัน ลงตัว
หากคุณกำลังมองหาขนมญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์จากประเทศญี่ปุ่นแท้ๆ "ขนมดังโงะไส้งาดำคั่วบด" ขนมชื่อดังจากจังหวัดอิวาเตะ ที่มีขนาดพอดีคำที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านโชเอโดะ ร้านเก่าแก่ที่สืบทอดสูตรขนมพื้นบ้านมานานหลายชั่วอายุคน คือจุดเริ่มต้นของขนมดังโงะ ที่จะพาคุณย้อนเวลากลับไปสัมผัสเสน่ห์ของญี่ปุ่นในอดีต ขนมดังโงะแต่ละลูกถูกปั้นอย่างประณีตจากแป้งที่ผสมข้าวเหนียวกับข้าวเจ้าตามสูตรลับ ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่ม หนึบหนับ และเคี้ยวง่าย สอดไส้ด้านในด้วยงาดำที่ผ่านการคั่วและบดละเอียดจนหอมกรุ่น ผสมคลุกเคล้ากับโชยุ(ซอสถั่วเหลือง)อย่างพอดีจนได้รสกลมกล่อม หอมหวานกำลังดี ทำให้เมื่อกัดเข้าไปไส้จะทะลักออกมา สร้างความสนุกและความอร่อยในคำเดียว
วิธีการรับประทาน
เนื่องจากขนมดังโงะ ส่วนใหญ่มักจะถูกจำหน่ายในรูปแบบแช่แข็ง เพื่อคงความสดใหม่ของไส้ทะลักและเนื้อสัมผัสที่หนึบหนับ วิธีรับประทานที่ดีที่สุดคือ :
• ทานทั้งคำ : ควรทานทั้งลูกในคำเดียว ป้องกันไม่ให้ไส้งาดำที่หอมหวานและเนื้อละมุนไหลออกมา
• ละลายน้ำแข็ง : นำออกจากช่องแช่แข็งและวางไว้ในอุณหภูมิห้องประมาณ 1-2 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
• อุ่นไมโครเวฟ : ควรใช้ไฟอ่อนถึงปานกลาง (ประมาณ 500-600 วัตต์) ระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 30 วินาที - 1 นาที
คำแนะนำ : เมื่อละลายน้ำแข็งแล้ว ควรเก็บในตู้เย็นและรับประทานให้หมดภายใน 4 วัน(นับรวมวันที่ละลาย) การนำกลับไปแช่แข็งซ้ำ จะทำให้รสชาติและเนื้อสัมผัสแย่ลงอย่างมาก ห้ามทำซ้ำโดยเด็ดขาด!
แนะนำอาหาร
• ทานคู่กับชาเขียวร้อน (มัทฉะ หรือเซ็นฉะ) จะช่วยเสริมความหวานของไส้งาดำและสร้างสมดุลรสชาติ
• ทานคู่กับนมสดอุ่นๆ หรือกาแฟดำสำหรับมื้อของว่างยามบ่าย
• เสิร์ฟพร้อมกับผลไม้สดตามฤดูกาล เช่น สตรอว์เบอร์รี่ หรือองุ่น เพื่อเพิ่มความสดชื่น
นี่คือของฝากที่คุณไม่ควรพลาด เพราะเป็นมากกว่าแค่ขนม แต่คือเรื่องราวของภูมิปัญญาและวัฒนธรรมการกินจากเมืองแห่งโมจิอย่าง อิชิโนเซกิ จังหวัดอิวาเตะ ของญี่ปุ่นแท้ๆ ค่ะ!
บอกลาเช้าที่น่าเบื่อของคุณด้วยแพนเค้กแสนอร่อย
เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยมีวันที่เร่งรีบจนไม่มีเวลาทำอาหารเช้ากันใช่ไหมคะ ปัญหานี้จะหมดไปเพียงแค่มีมินิแพนเค้กห่อนี้ติดช่องแช่แข็งเอาไว้ คุณก็จะได้ทานแพนเค้กเนื้อเนียนนุ่มพร้อมกลิ่นเนยหอมกรุ่น และรสชาติหวานนิดๆ โดยไม่ต้องมานั่งผสมแป้งเองให้เสียเวลา มาในขนาดมินิ น้ำหนักชิ้นละประมาณ 20 กรัม อิ่มพอดีๆ ไม่ว่าจะทานคู่กับวิปครีม ผลไม้สด ราดน้ำผึ้ง ทาแยม หรือจะประยุกต์เป็นเมนูอื่นๆ ก็ง่าย สะดวก อร่อยได้ทั้งครอบครัวค่ะ
วิธีอร่อยกับมินิแพนเค้ก
• รับประทานแบบอุณหภูมิปกติ: นำแพนเค้กออกจากช่องแช่แข็ง ตั้งไว้ในอุณหภูมิห้องประมาณ 30-40 นาที
• รับประทานแบบอุ่น: นำแพนเค้กออกมาใส่ภาชนะสำหรับนำเข้าไมโครเวฟ ใช้เวลาอุ่นประมาณ 1-2 นาที (ขึ้นอยู่กับกำลังไฟของไมโครเวฟ)