ชวนคุณมาลองชิมชาจากเมืองยาคุชิมะ
เมืองยะกุชิมะ (Yakushima) เป็นเกาะเขตร้อนนอกชายฝั่งทางตอนใต้ของคิวชู บนเกาะจะปกคลุมไปด้วยป่าสนและต้นไม้เก่าแก่ บางต้นมีอายุมากกว่า 100 ปี!! เมืองยากุชิมะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี 1993 ด้วยอากาศที่บริสุทธิ์สภาพแวดล้อมเหมาะกับการปลูกชา เพราะอยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 2,000 เมตร ใบชาที่ได้จะมีรสชาติกลมกล่อม และหอมมาก หากท่านไหนที่อยากลองรสสัมผัสใหม่ๆแนะนำค่ะ
วิธีชงชาให้ได้รสชาติแบบดั้งเดิม
1. นำชาออกจากกล่อง 1 ถุง ต่อ 1 ถ้วย
2. ต้มน้ำให้ร้อน เทน้ำลงไปในถ้วย แช่ทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาที หรือ 1 นาที
3. แกว่งถุงชาเบาๆ และนำออกจากถ้วย
ราเมนเส้นสด เหนียวหนึบ สูตรต้นตำหรับจากญี่ปุ่น แบบเดียวกับที่ใช้ตามร้านราเมนชื่อดัง
ราเมนเส้นสดที่ใช้กรรมวิธีผลิตแบบพิเศษที่ทำให้เส้นมีความสด เส้นที่ได้เหนียวนุ่ม อร่อย ให้คุณได้ลิ้มรสชาติของเส้นราเมนแท้ๆ
เหมาะสำหรับเมนูราเมนร้อน บะหมี่เย็น และยากิโซบะ หากคุณเป็นคนชอบทานราเมน ขอแนะนำเลยค่ะ
วิธีเตรียมเส้น
ต้มน้ำให้เดือด สางเส้นไม่ให้ติดกันก่อนลวก
*ไม่ควรนำเส้นไปล้างหรือจุ่มน้ำเพื่อล้างแป้งก่อนลวก เพราะจะทำให้เส้นติดกัน
- เมนูราเมน ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 2-3 นาที
- เมนูบะหมี่เย็น ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 2:45-3:15 นาที แล้วนำเส้นไปจุ่มในนำเย็นก่อนเสิร์ฟ
- เมนูยากิโซบะ ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 1:30-1:45 นาที
ราเมนเส้นสด เหนียวหนึบ สูตรต้นตำหรับจากญี่ปุ่น แบบเดียวกับที่ใช้ตามร้านราเมนชื่อดัง
ราเมนเส้นสดที่ใช้กรรมวิธีผลิตแบบพิเศษที่ทำให้เส้นมีความสด เส้นที่ได้เหนียวนุ่ม อร่อย ให้คุณได้ลิ้มรสชาติของเส้นราเมนแท้ๆ
เหมาะสำหรับเมนูราเมนร้อน บะหมี่เย็น และยากิโซบะ หากคุณเป็นคนชอบทานราเมน ขอแนะนำเลยค่ะ
วิธีเตรียมเส้น
ต้มน้ำให้เดือด สางเส้นไม่ให้ติดกันก่อนลวก
*ไม่ควรนำเส้นไปล้างหรือจุ่มน้ำเพื่อล้างแป้งก่อนลวก เพราะจะทำให้เส้นติดกัน
- เมนูราเมน ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 2-3 นาที
- เมนูบะหมี่เย็น ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 2:45-3:15 นาที แล้วนำเส้นไปจุ่มในนำเย็นก่อนเสิร์ฟ
- เมนูยากิโซบะ ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 1:30-1:45 นาที
ผสานความอร่อยของมันฝรั่งและฟักทองฮอกไกโดเนื้อเนียน เหนียวนุ่ม กรอบอร่อยกำลังพอดี
โคร็อกเกะจากแบรนด์ซันมารูโกะห่อนี้ ผลิตโดยใช้วัตถุดิบคุณภาพดีอย่างมันฝรั่งบารอน (だんしゃく, Danshaku) และฟักทองฮอกไกโด ทำให้ได้เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม รสชาติหวานมันกลมกล่อมกำลังพอดี นำมาคลุกแป้งและเกล็ดขนมปังแล้วทอดจนเหลืองกรอบ ปราศจากสารเคมีแต่งกลิ่น สี และวัตถุกันเสีย อร่อยง่ายๆ เพียงอุ่นในไมโครเวฟ เสิร์ฟพร้อมซอสมะเขือเทศหรือมายองเนส นิยมจัดใส่เบนโตะเป็นอาหารกลางวันของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รับประทานเป็นของว่าง หรือรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ ก็เข้ากันได้ดีค่ะ
มาลองชิมไก่ทอดทัตสึตะอาเกะสไตล์ญี่ปุ่นกันค่ะ
เมนูไก่ทอดเป็นอาหารจานโปรดของใครหลายๆ คน เนื้อไก่นุ่มๆ ชุ่มฉ่ำ ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้แป้งกรอบๆ แค่คิดก็ฟินแล้วใช่ไหมล่ะคะ ยิ่งเมนูไก่ชุบแป้งทอดสไตล์ญี่ปุ่นนี่บอกเลยว่าพลาดไม่ได้ ไม่ว่าจะรับประทานเป็นมื้อหลักหรือเอาไว้เป็นของทานเล่นก็เคี้ยวเพลินไม่ต่างกัน
เราขอแนะนำไก่ทอดทัตสึตะอาเกะรสชาติเยี่ยมเกรดส่งออก ทำจากสะโพกไก่เนื้อนุ่ม นำมาปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลืองสูตรพิเศษให้อร่อยกลมกล่อม เพิ่มความสมบูรณ์แบบด้วยกลิ่นหอมจากกระเทียมและขิงที่ผสานเข้ากันเป็นอย่างดี เคลือบด้วยแป้งที่ไม่หนาจนเกินไป ให้สัมผัสกรอบนอกนุ่มใน ไม่เลี่ยน ไม่ว่าจะอุ่นร้อนด้วยไมโครเวฟ นำเข้าหม้อทอดไร้น้ำมัน หรือทอดในน้ำมันร้อนๆ ก็อิ่มอร่อยได้ง่ายๆ ค่ะ
ข้าวผัดกุ้งสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมทาน แค่เวฟก็อร่อย!
ข้าวผัดกลิ่นหอมเนย ผัดกับกุ้งตัวโตๆ ไข่ และผักรวมมีสีสันสวยงาม พร้อมรสชาติกลมกล่อมจากซอสสูตรเฉพาะแบบญี่ปุ่นแท้ๆ นอกจากนี้คุณยังสามารถสัมผัสถึงข้าวและส่วนผสมที่เคี้ยวหนึบเล็กน้อยก็สามารถดูดซับรสชาติอาหารทะเลได้อย่างดี คุณสามารถเพลิดเพลินกับเนื้อสัมผัสที่หลากหลายได้ในคราวเดียวด้วยกุ้งตัวอ้วนและถั่วเขียวกรุบกรอบ ถั่วเขียวยังเพิ่มรสชาติที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ในขณะที่กำลังอุ่นอาหารในไมโครเวฟ กลิ่นหอมแรงของกุ้งกับเนยก็ลอยมาในอากาศ รับรองว่าจะต้องเรียกน้ำย่อยอย่างแน่นอน
สิ่งใหม่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้คือถุงบรรจุภัณฑ์สามารถตั้งได้ด้วยตัวเอง โดยปกติแล้วคุณจะต้องนำข้าวผัดออกจากถุง แต่เนื่องจาก Wild Dish ยังทำหน้าที่เป็นภาชนะได้ด้วย จึงทำให้สามารถคงตำแหน่งตั้งตรงได้ เพื่อทำให้ภาชนะเสร็จสมบูรณ์ให้ใช้กรรไกรตัดตามเส้นตัดสีขาวที่พิมพ์ไว้บนบรรจุภัณฑ์ เท่านี้ก็พร้อมตักทานได้เลยค่ะ
♨️ วิธีการอุ่นด้วยไมโครเวฟ
• ห้ามฉีกถุงก่อนอุ่น
• ให้นำเข้าไมโครเวฟทั้งถุง โดยหันด้านที่ระบุไว้ขึ้นด้านบน
• หลังจากอุ่นเสร็จ ใช้กรรไกรตัดตามจุดประที่กำหนด โดยจับถุงในตำแหน่งที่แนะนำ
⏱️เวลาที่ใช้ในการอุ่น:
• ไมโครเวฟ 500W: ประมาณ 3 นาที 30 วินาที
• ไมโครเวฟ 600W: ประมาณ 3 นาที 10 วินาที
ชาเขียวเซนฉะชนิดชงได้ทั้งร้อนและเย็น ความแตกต่างจากชาเขียวทั่วไปที่คุณไม่ควรมองข้าม!!
✨ ข้าวผัดกุ้งสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมทาน แค่เวฟก็อร่อย! ✨
ข้าวผัดกลิ่นหอมเนย ผัดกับกุ้งตัวโตๆ ไข่ และผักรวมมีสีสันสวยงาม พร้อมรสชาติกลมกล่อมจากซอสสูตรเฉพาะแบบญี่ปุ่นแท้ๆ นอกจากนี้คุณยังสามารถสัมผัสถึงข้าวและส่วนผสมที่เคี้ยวหนึบเล็กน้อยก็สามารถดูดซับรสชาติอาหารทะเลได้อย่างดี คุณสามารถเพลิดเพลินกับเนื้อสัมผัสที่หลากหลายได้ในคราวเดียวด้วยกุ้งตัวอ้วนและถั่วเขียวกรุบกรอบ ถั่วเขียวยังเพิ่มรสชาติที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ในขณะที่กำลังอุ่นอาหารในไมโครเวฟ กลิ่นหอมแรงของกุ้งกับเนยก็ลอยมาในอากาศ รับรองว่าจะต้องเรียกน้ำย่อยอย่างแน่นอน
สิ่งใหม่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้คือถุงบรรจุภัณฑ์สามารถตั้งได้ด้วยตัวเอง โดยปกติแล้วคุณจะต้องนำข้าวผัดออกจากถุง แต่เนื่องจาก Wild Dish ยังทำหน้าที่เป็นภาชนะได้ด้วย จึงทำให้สามารถคงตำแหน่งตั้งตรงได้ เพื่อทำให้ภาชนะเสร็จสมบูรณ์ให้ใช้กรรไกรตัดตามเส้นตัดสีขาวที่พิมพ์ไว้บนบรรจุภัณฑ์ เท่านี้ก็พร้อมตักทานได้เลยค่ะ
♨️ วิธีการอุ่นด้วยไมโครเวฟ
• ห้ามฉีกถุงก่อนอุ่น
• ให้นำเข้าไมโครเวฟทั้งถุง โดยหันด้านที่ระบุไว้ขึ้นด้านบน
• หลังจากอุ่นเสร็จ ใช้กรรไกรตัดตามจุดประที่กำหนด โดยจับถุงในตำแหน่งที่แนะนำ
⏱️เวลาที่ใช้ในการอุ่น:
• ไมโครเวฟ 500W: ประมาณ 3 นาที 30 วินาที
• ไมโครเวฟ 600W: ประมาณ 3 นาที 10 วินาที
สัมผัสรสชาติชาเขียวแบบดั้งเดิมจากเมืองชิซูโอกะได้แล้ววันนี้
ดองผักให้อร่อยในพริบตา! ด้วย Asazuke no Moto จาก Ebara
Asazuke no Moto จากแบรนด์ เอบาระ (Ebara) เป็นน้ำปรุงรสสำเร็จรูปสำหรับการทำผักดองสไตล์ญี่ปุ่นแบบง่ายๆ และรวดเร็ว หรือที่เรียกว่า “อาซาซึเกะ” (Asazuke) ด้วยรสชาติที่เค็มเล็กน้อย หวานนิดๆ และกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ น้ำปรุงนี้ช่วยเสริมรสชาติให้ผักดองอร่อยอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้เวลานานหรือขั้นตอนยุ่งยาก ผักดองที่ได้จะมีความกรอบ สดชื่น และยังคงรสชาติของผักไว้ได้อย่างดี
Asazuke no Moto จึงกลายเป็นตัวช่วยคู่ครัวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น เพราะสามารถใช้ดองผักได้หลากหลายชนิดตามใจชอบ แค่มีผักกับน้ำปรุง ก็ได้เมนูเครื่องเคียงแบบญี่ปุ่นที่ทั้งอร่อยและสดใหม่ในไม่กี่นาที!
วิธีใช้
• หั่นผักที่ต้องการหมักเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วใส่ลงในถุงซิปล็อก
• เทน้ำปรุงรส "Asazuke no Moto" ลงไปให้ทั่วผัก (ปริมาณการใช้ 100 มล. ต่อผัก 200 กรัม)
• ไล่อากาศออกจากถุงให้มากที่สุด ปิดปากถุงให้แน่น แล้วขยำเบาๆให้ส่วนผสมเข้ากัน
• นำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 30 หรือนานกว่านั้นตามความชอบ
• จากนั้นนำผักออกมา บีบน้ำส่วนเกินออก (โดยไม่ต้องล้างน้ำเปล่า)เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟทันที
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Yumepirika ถือเป็นพันธุ์ข้าวระดับไฮเอนด์ที่ใช้สุดยอดเทคโนโลยีการเพาะสายพันธุ์ข้าวในฮอกไกโด
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ยูเมะพิริกะ (Yumepirika) จากแบรนด์ โฮคุเรน (Hokuren) เป็นข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์พรีเมียมที่ปลูกในจังหวัดฮอกไกโด ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอากาศหนาวเย็นและดินที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ข้าวมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นข้าวเกรดสูงที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น
ลักษณะเด่นของ Yumepirika
• เมล็ดอวบอ้วน และเงางาม - เมล็ดข้าวมีขนาดปานกลางถึงใหญ่ เมื่อหุงแล้วจะเงางามและมีความหนึบที่โดดเด่น
• เนื้อนุ่มแต่ไม่เละ - ข้าวมีความเหนียวและนุ่มในระดับที่พอดี ไม่ร่วนหรือแข็งเกินไป
• รสหวานธรรมชาติ - มีรสชาติอ่อนๆ และหวานธรรมชาติ แม้ทานเปล่าๆ ก็ยังอร่อย
• กลิ่นหอมพิเศษ - มีกลิ่นหอมที่แตกต่างจากข้าวพันธุ์อื่น
• ปลูกในอากาศหนาวเย็น - อุณหภูมิที่เย็นของฮอกไกโดช่วยให้ข้าวมีคุณภาพดีขึ้นและสามารถเก็บรักษาได้นาน
รางวัลและมาตรฐานคุณภาพ
• Yumepirika ได้รับการรับรองมาตรฐาน 特A (Toku A) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของข้าวญี่ปุ่น
• เป็นข้าวที่ได้รับความนิยมในร้านอาหารระดับพรีเมียมทั่วญี่ปุ่น
• ได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลฮอกไกโดให้เป็นข้าวเกรดพรีเมียมของภูมิภาค
เมนูที่เหมาะกับ Yumepirika
เนื่องจาก Yumepirika เป็นข้าวที่มีความเหนียวนุ่มและมีรสหวานในตัว จึงเหมาะกับอาหารที่ต้องการข้าวคุณภาพสูง เช่น
• ข้าวสวย (Cooked Rice) - เมล็ดข้าวสวย เมื่อหุงสุกจะมีความเงาสวย เหมาะสำหรับทานแบบข้าวสวย
• ซูชิ (Sushi) - เมล็ดข้าวเหนียวกำลังดี จับตัวได้ง่าย ไม่แฉะเกินไป
• ข้าวปั้น (Onigiri) - รสชาติหวานธรรมชาติทำให้กินเปล่าๆ ก็อร่อย
• ข้าวญี่ปุ่นธรรมดา (Gohan) - เหมาะสำหรับทานคู่กับปลาย่างหรืออาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
• ข้าวหน้าอาหารทะเล (Kaisendon/Donburi) - ความหนึบของข้าวช่วยเสริมรสชาติของปลาดิบได้ดี
Yumepirika ถือเป็นข้าวที่ให้รสชาติที่ดีที่สุดของฮอกไกโด ถ้าคุณต้องการข้าวที่นุ่ม หอม และมีคุณภาพสูง Yumepirika คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
• ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
• ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบาๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
• กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
• ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำเวลาหุงข้าวจะนุ่มไม่กระด้าง
• หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆ คนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
• เก็บในที่แห้งและเย็น
• ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
• หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
• คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
• ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
• ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์
ชาเขียวเซนฉะชนิดชงได้ทั้งร้อนและเย็น ถูกใจสำหรับคนรักชา