ซอสพิซซ่าญี่ปุ่นที่พัฒนาสูตรร่วมกับลูกค้ากว่า 1,000 ราย
น้ำสลัดสไตล์ญี่ปุ่น แบบไร้น้ำมัน แคลลอรี่ต่ำ เหมาะกับคนควมคุมน้ำหนัก
น้ำสลัดปราศจากน้ำมัน อร่อยง่าย ได้ประโยชน์
น้ำสลัดปราศจากน้ำมัน อร่อยง่าย ได้ประโยชน์
อร่อยกลมกล่อมกับทาโกะยากิจานโปรดของคุณ
เอาใจคนไม่กินเผ็ดกับซอสปิ้งย่างรสเผ็ดน้อยรสหวานนวล
เวทมนตร์ความอร่อย จากซอสเทริยากิ
มาทำพิซซ่าญี่ปุ่น (Okonomiyaki) กันเถอะ!
มาตามคำเรียกร้องสำหรับซอสปิ้งย่างรสเผ็ดกลาง
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Yukinkomai จากเมืองนีงาตะ เมืองแห่งข้าว
ทงคตสึราเมง สูตรเข้มข้น รสชาติกลมกล่อม!!
เส้นบะหมี่แบบไม่ทอด เส้นเล็กพิเศษ หอมกลิ่นข้าวสาลี จับคู่กับซุปกระดูกหมูรสเข้มข้น เพิ่มความหอมด้วยกระเทียม ให้รสชาติกลมกล่อมและกลิ่นหอมชวนลิ้มลอง
เพิ่มความกรุบกรอบให้อาหารจานโปรดของคุณอร่อยขึ้นกว่าเดิม
ราเมง ซุปไก่โชยุ รสชาติกลมกล่อม
เส้นราเมนไม่ทอดหอมกลิ่นข้าวสาลี เส้นราเมนแบบเส้นเล็ก มีกลิ่นหอมของข้าวสาลี เสิร์ฟในน้ำซุปโชยุที่ใส จากเบสซุปไก่ รสกลมกล่อม เป็นสุดยอดเมนูสุดเบสิกที่ทานได้ไม่มีเบื่อ
หากชอบทานราเมนในซุปมิโซะ ถ้วยนี้อร่อยลงตัวมากๆ
ชิโอะ ตันตันเมง จัดจ้าน เข้มข้น!
ชิโอะตันตันเมงถ้วยใหญ่ อร่อยติดใจจนหยุดไม่ได้ ด้วยความหอมของกระเทียม และมีความเผ็ดของน้ำมันพริกอย่างจัดจ้าน
เคล็ดลับความอร่อยกับซอสที่มียอดขายอันดับ 1 ของญี่ปุ่น
ชวนชิมซอสทงคัตสึในตำนานที่ผลิตมากว่า 100 ปี!!!
ชวนชิมซอสทงคัตสึในตำนานที่ผลิตมากว่า 100 ปี!!!
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Koshihikari จากจังหวัดนีงาตะ
เป็นพันธุ์ข้าวที่คนญี่ปุ่นนิยมปลูกและรับประทานมากที่สุด เพราะมีรสชาตินุ่มละมุน รสหวาน และเคี้ยวหนึบ จนถูกขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า “ข้าวจากแดนสวรรค์ ” เมื่อหุงจนสุกเม็ดข้าวจะขาวเงางามคล้ายอัญมณี มีความเหนียวเล็กน้อย และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ แม้จะทิ้งไว้จนเย็นข้าวยังคงมีรสชาติดี นิยมนำมาใช้ทำเมนูซูชิ
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่านคนเบาๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำจนอ่อนนุ่ม
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆคนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
1. เก็บในที่แห้งและเย็น
2. ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
3. หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
1. คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
2. ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
3. ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์
มาทำข้าวปั้นซูชิกันค่ะ
ทูน่าพรีเมียมที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยถึงบ้าน
สำหรับคนที่หลงรักเมนูซาชิมิ และกำลังมองหาทูน่าคุณภาพดีที่พร้อมทานได้ทันที ทูน่าซาคุ (Tuna Saku) เกรด AAA คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ เพราะนี่คือเนื้อปลาที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีที่สุด เพื่อให้คุณได้สัมผัสความสดใหม่ในทุกคำจากทะเลอินโด-แปซิฟิก
ทูน่าซาคุ คือ เนื้อปลาทูน่าที่ถูกแล่มาเป็นบล็อกทรงสี่เหลี่ยมอย่างดี พร้อมให้คุณนำไปหั่นเป็นชิ้นสำหรับทำซาชิมิได้อย่างง่ายดาย ส่วน เกรด AAA คือการรับประกันคุณภาพสูงสุดของปลาทูน่า โดยพิจารณาจากสีเนื้อที่แดงสด เนื้อที่แน่น และมีปริมาณไขมันที่สมดุล ทำให้ได้รสชาติที่นุ่มละมุนลิ้น
ความสดใหม่จากแหล่งน้ำชั้นยอด: ทูน่าของเรามาจากมหาสมุทรอินโด-แปซิฟิก ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของปลาทูน่าที่มีความสมบูรณ์และบริสุทธิ์ ทำให้ปลาเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ และมีเนื้อที่แน่น พร้อมรสชาติที่สะอาด
คุณภาพสูงสุดของทูน่า: ด้วยเกรด AAA ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับประทานเนื้อทูน่าที่ดีที่สุด ทั้งในเรื่องของสีสันที่สวยงามและรสชาติที่ไม่เป็นรองใคร
ความสะดวกที่มาพร้อมความอร่อย: รูปแบบซาคุถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการใช้งานโดยเฉพาะ คุณสามารถนำไปหั่นเป็นซาชิมิ ซูชิ หรือโปเกะโบลว์ได้ทันที
อุดมด้วยประโยชน์: เนื้อทูน่าเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม และอุดมไปด้วยกรดไขมัน Omega-3 ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
เมนูที่แนะนำ
ซาชิมิ: เมนูยอดนิยมที่ทำได้ง่ายที่สุด เพียงแค่นำไปหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ก็พร้อมทาน
ซูชิ/นิกิริ: นำชิ้นทูน่าไปวางบนข้าวปั้นซูชิ เพื่อความอร่อยแบบเต็มคำ
ทูน่าทาทากิ: นำเนื้อทูน่าไปจี่บนกระทะให้ผิวสุกเล็กน้อย แต่ด้านในยังคงดิบอยู่
โปเกะโบลว์: หั่นเป็นลูกเต๋าแล้วนำไปผสมกับเครื่องปรุงที่คุณชอบ พร้อมผักและข้าวสวย
วิธีใช้งานเบื้องต้น
สินค้ามาในรูปแบบแช่แข็ง:
- นำเนื้อทูน่าออกจากช่องฟรีซ (ช่องแข็ง)
- นำไปพักในตู้เย็นช่องปกติประมาณ 6-8 ชั่วโมง หรือจนกว่าเนื้อปลาจะนิ่มลง
- นำเนื้อปลาออกมาจากตู้เย็น และซับน้ำที่เกาะอยู่ให้แห้งก่อนนำไปใช้งาน
ไม่ว่าจะเป็นมื้อพิเศษหรือมื้อธรรมดา “ทูน่าซาคุ” นี้ ก็พร้อมยกระดับความอร่อยให้คุณได้สัมผัสความสุขแบบพรีเมียมในทุก ๆ คำ
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Nanatsuboshi ข้าวที่เติบโตท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ของฮอกไกโด
นิยมปลูกมากในฮอกไกโด เมล็ดข้าวอวบ หุงแล้วขึ้นเงา มีความเหนียวปานกลาง และความหวานแบบพอดี ทำให้โดนใจชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก แม้ข้าวจะเย็นแต่ยังคงความนุ่ม หอม อร่อย สามารถทำอาหารได้หลากหลายประเภท แต่จะนิยมนำมาทำเบนโตะและซูชิ
• ลักษณะเมล็ด – เมล็ดข้าวอวบ ขาว หุงขึ้นหม้อ
• รสชาติ – มีรสหวานและยังคงอร่อยแม้จะเย็นแล้ว
• ความเหนียว – ความเหนียวกำลังดี
• เมนูที่เหมาะสม – เบนโตะ และซูชิ
• ความลับของสายพันธุ์ – ถือว่าเป็นข้าวที่มีความสมดุลระหว่างรสชาติกับเนื้อสัมผัสมากที่สุดในสายพันธุ์ข้าวฮอกไกโด เมื่อหุงจนสุกข้าวมีความขาว ความเงา ความหอม ให้รสชาตินุ่มนวล และเคี้ยวอร่อย
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบาๆประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำจนอ่อนนุ่ม
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อย ๆ คนให้น้ำระเหย
คำเดียวไม่พอ ต้องขอต่ออีกลูก
อยากกินอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ แต่ไม่มีเวลา ลูกชิ้นสอดไส้กุ้ง เนื้อปลา ผักรวม และสาหร่ายฮิจิกิ คือคำตอบ! ทำจากวัตถุดิบคุณภาพ เนื้อปลาบด กุ้งสด ผักรวม และเพิ่มรสชาติพิเศษด้วยสาหร่ายฮิจิกิ ที่อุดมไปด้วยใยอาหารและแร่ธาตุ ทานง่าย รสกลมกล่อม ได้ทั้งความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการในหนึ่งคำทุกคำ เหมาะเป็นของทานเล่น ข้าวกล่อง เบนโตะ หรือเสิร์ฟกับมื้ออาหารหลัก
วิธีการปรุงอาหาร
• นำสินค้าที่แช่แข็งออกมา ตัดถาดออก และวางไว้ที่ขอบจานหมุน (turntable) โดยไม่ต้องห่อพลาสติก และอุ่นให้ร้อน
• หากไม่มีจานหมุน (turntable) ให้วางไว้ตรงกลางของเตาไมโครเวฟ
• หลังจากการปรุงอาหาร หากยังเย็นอยู่ ให้อุ่นเพิ่มทีละ 10 วินาทีจนกว่าจะอุ่นได้ที่
คำแนะนำสำหรับเตาไมโครเวฟ:
กำลังไฟ 500 วัตต์ 600 วัตต์
1 ชิ้น ประมาณ 40 วินาที ประมาณ 40 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 1 นาที ประมาณ 50 วินาที
4 ชิ้น ประมาณ 1.20 นาที ประมาณ 1.10 นาที
5 ชิ้น ประมาณ 1.50 นาที ประมาณ 1.40 นาที
อร่อยกับ รสซุปเป็ดญี่ปุ่น หอมเข้มข้นภายใน 3 นาที ⏰
บะหมี่ถ้วย ตรามารุจัง รส “ซุปเป็ดญี่ปุ่น” พร้อมเส้นโซบะเหนียวนุ่ม รสชาติกลมกล่อมจากซุปคาโมะดาชิ หอมกลิ่นเนื้อเป็ดเคี่ยวผสมโชยุ สูตรเฉพาะให้รสลึกแบบญี่ปุ่นแท้ อิ่มง่ายๆ แค่เติมน้ำร้อน รอเพียง 3 นาที เติมเครื่องปรุงรส ก็พร้อมทานได้ทุกที่ทุกเวลา!
วิธีประเพื่อรับประทาน
1. เปิดฝานำซองเครื่องปรุงออกจากถ้วย และฉีกซองเต้าหู้ทอดเทลงในถ้วย
2. จากนั้นเทน้ำร้อนลงไป 340 ml. หรือจนถึงเส้นภายในถ้วย และปิลฝาถ้วย รอประนาณ 3 นาที หรือจนเส้นนิ่ม
3. จากนั้นเปิดฝาแล้วฉีกของเครื่องปรุงรสเทลงไป คนให้เข้ากัน พร้อมรับประทาน
กรอบนอก นุ่มใน กัดแล้วหยุดไม่ได้
อาหารทานเล่นยอดนิยมจากญี่ปุ่น ที่ผสมผสานรสชาติของเนื้อปลา ปลาหมึก และเผือกได้อย่างลงตัว กัดคำแรกสัมผัสได้ถึงความกรอบนอกนุ่มใน พร้อมรสชาติกลมกล่อม หอมขิงและซอสญี่ปุ่น สูตรเฉพาะของอาจิโนะโมะโต๊ะ เหมาะสำหรับทุกมื้ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นกับข้าว อาหารทานเล่น ใส่ในกล่องเบนโตะเพิ่มสีสันให้อาหารกลางวัน หรือทานคู่ข้าวสวยร้อน ๆ ก็อร่อยกลมกล่อม เสิร์ฟคู่กับซอสโชยุ มายองเนสญี่ปุ่น หรือซอสพริกก็เข้ากันสุด ๆ ถูกใจทุกคนในครอบครัวแน่นอน
วิธีการปรุงอาหาร
• นำสินค้าที่แช่แข็งออกมาตัดถาดออกและวางไว้ที่ขอบจานหมุน โดยไม่ต้องห่อพลาสติก และอุ่นให้ร้อน
• หากไม่มีจานหมุน (turntable) ให้วางไว้ตรงกลางของเตาไมโครเวฟ
• หลังจากการปรุงอาหาร หากยังเย็นอยู่ ให้อุ่นเพิ่มทีละ 10 วินาทีจนกว่าจะอุ่นได้ที่
คำแนะนำสำหรับเตาไมโครเวฟ:
กำลังไฟ 500 วัตต์ 600 วัตต์
1 ชิ้น ประมาณ 40 วินาที ประมาณ 40 วินาที
2 ชิ้น ประมาณ 1 นาที ประมาณ 50 วินาที
4 ชิ้น ประมาณ 1.20 นาที ประมาณ 1.10 นาที
5 ชิ้น ประมาณ 1.50 นาที ประมาณ 1.40 นาที
น้ำสลัดรสแครอทผสมหัวหอมและกระเทียม
น้ำสลัดที่ผ่านการนำวัตถุดิบมาผสมผสานกันอย่างลงตัว
จาก แบรนด์ Bull-Dog ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำซอส
เบสมาจากแอปเปิ้ลวิเนการ์ และปรุงรสสไตล์ตะวันตก
เพิ่มความครีมมี่ด้วยรสชาติเข้มข้นจากหอมใหญ่ แครอท และกระเทียม
อิ่มครบจบในถ้วยเดียว! ????
มารุจัง QTTA รสโชยุเข้มข้น บะหมี่ถ้วยเส้นหนานุ่ม พร้อมซุปโชยุญี่ปุ่นหอมเข้มข้น ให้รสกลมกล่อมแบบ "โคคุ" สไตล์ญี่ปุ่นแท้ ใส่เครื่องเต็มคำทั้ง ผัก กุ้ง และ ลูกชิ้น พร้อมเสิร์ฟความฟินใน 3 นาที ไม่ว่าจะที่ทำงาน หรือระหว่างเดินทางก็อร่อยได้ทุกเวลา
วิธีประเพื่อรับประทาน
1. เปิดฝานำซองเครื่องปรุงออกจากถ้วย
2. จากนั้นเทน้ำร้อนลงไป 280 ml. หรือจนถึงเส้นภายในถ้วย และปิลฝาถ้วย รอประนาณ 3 นาที หรือจนเส้นนิ่ม
3. จากนั้นเปิดฝาแล้วฉีกของเครื่องปรุงรสเทลงไป คนให้เข้ากัน พร้อมรับประทาน
ข้าวญี่ปุ่นจากเมืองฮอกไกโด เมืองแห่งความอุดมสมบูรณ์
ชวนคุณมาชิมข้าวญี่ปุ่นแท้ๆ ปลูกที่เมืองฮอกไกโด เมืองที่ธรรมชาติสวยงาม น้ำใสสะอาด ข้าวที่ได้มีรสชาติหวาน นุ่ม เหนียว เคี้ยวเพลิน เหมาะกับทำอาหารญี่ปุ่นอย่างเมนูข้าวซูชิ ข้าวปั้นโอนิกิริ มาลองชิมความแตกต่างของรสชาติข้าวญี่ปุ่นแท้ๆ กันค่ะ หากสนใจทำเมนูข้าวซูชิ เรามีน้ำส้มปรุงรสข้าว และสาหร่ายสำหรับห่อข้าว ขายด้วยนะคะ
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบา ๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำเวลาหุงข้าวจะนุ่มไม่กระด้าง
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆ คนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
1. เก็บในที่แห้งและเย็น
2. ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
3. หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
1. คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
2. ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
3. ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์
เจลลี่ใสผสมเนื้อส้ม อร่อย สดชื่น
เจลลี่เนื้อเนียนใส ชุ่มฉ่ำ รสส้มมิคัง ผสมผสานความอร่อยของน้ำส้มและเนื้อส้มมิคังชิ้นใหญ่จุใจ รสชาติเปรี้ยวอมหวาน หอมกลิ่นผลไม้ สดชื่น ทานง่าย ทั้งอร่อยและได้ประโยชน์จากเนื้อผลไม้แบบเต็มๆ
ส้มมิคัง หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ส้มหวานญี่ปุ่น" เป็นผลไม้ยอดนิยมจากแดนอาทิตย์อุทัย ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติหวานฉ่ำ เนื้อสัมผัสชุ่มฉ่ำ ไร้เมล็ด ทานง่าย และอุดมไปด้วยสารอาหารและประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ดังนี้
1. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: ส้มมิคังอุดมไปด้วยวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
2. ต้านอนุมูลอิสระ: ส้มมิคังมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น เบต้าแคโรทีน ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ป้องกันเซลล์ถูกทำลาย
3. ดีต่อระบบย่อยอาหาร: ส้มมิคังมีใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
4. บำรุงผิวพรรณ: วิตามินซีในส้มมิคังช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ชะลอริ้วรอย และช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์
5. บำรุงสายตา: ส้มมิคังมีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสายตา
6. บำรุงกระดูก: ส้มมิคังมีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
7. บำรุงระบบประสาท: ส้มมิคังมีวิตามินบีรวม ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง
8. ลดความดันโลหิต: โพแทสเซียมในส้มมิคังช่วยลดความดันโลหิต เหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
9. ป้องกันนิ่วในไต: ใยอาหารในส้มมิคังช่วยชะล้างของเสียในไต ป้องกันการเกิดนิ่วในไต
10. เพิ่มพลังงาน: ส้มมิคังมีน้ำตาลธรรมชาติ ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย คลายความอ่อนเพลีย
11. ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ: ส้มมิคังมีโพแทสเซียมสูง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
12. ป้องกันโรคโลหิตจาง: ส้มมิคังมีธาตุเหล็กสูง ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
ผัดร้อน ๆ กลิ่นหอมชวนหิว! ยากิโซบะสไตล์ญี่ปุ่นแท้ พร้อมเสิร์ฟในพริบตา
ยากิโซบะ เป็นอาหารจานด่วนสไตล์ญี่ปุ่นที่เป็นที่นิยมอย่างมากทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ใช้เส้นบะหมี่บางและเหนียวนุ่มที่พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์นี้โดยเฉพาะ กระบวนการผัดทำให้ยากิโซบะแท้ๆ นี้มีรสชาติเข้มข้น พร้อมหอมกลิ่นซอส รสกลมกล่อม ผัดพร้อมเนื้อหมูสไลซ์, กะหล่ำปลี และแครอท, โรยหน้าด้วยขิงดอง (เบนิโชกะ), สาหร่ายผง (อะโอโนริ), และมายองเนส เสิร์ฟคู่กับไข่ดาว หรือโคร็อกเกะ เหมาะสำหรับรับประทานในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นมื้อกลางวัน มื้อเย็น หรือเมนูในร้านอาหาร เหมาะสำหรับครอบครัวหรือร้านอาหารที่ต้องการความสะดวกและรสชาติอร่อยแบบต้นตำรับ
วิธีการปรุงอาหาร :
1. ต้มน้ำในหม้อปริมาณให้ท่วมซองยากิโซบะให้เดือด นำซองยากิโซบะ 1 กก. ใส่ลงไปรอประมาร 15 นาที หรือรอจนเส้นร้อน นำออกมาฉีกซองเทใส่จาน
2. นำผักปละเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้มาผัดจนสุก
3. นำเส้นที่อุ่นแล้ว มาผักรวมกับผักและเนื้อสัตว์คนให้เข้ากันจากนั้นเทใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
คำแนะนำในการปรุงอาหาร :
• ต้ม : ใส่ทั้งถุงแช่แข็งลงในน้ำเดือดและอุ่นให้ร้อน เวลาที่คาดไว้ 1 กิโลกรัม: ประมาณ 15 นาที
• เตาอบพาความร้อน : วางผลิตภัณฑ์แช่แข็งที่ละลายน้ำแข็งไว้ในเตาอบพาความร้อนที่อุณหภูมิปานกลาง
(โหมดไอน้ำ 100°C) เวลาที่คาดไว้ 1 กิโลกรัม: ประมาณ 20 นาที
• วิธีพิเศษ : หลังจากต้มในน้ำร้อนแล้ว ให้ทอดเบาๆ ในกระทะอีกครั้งเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้น
ข้อแนะนำในการเก็บรักษา:
• ควรเก็บในช่องแช่แข็งที่อุณหภูมิ -18°C หรือต่ำกว่า
• ไม่ควรนำกลับไปแช่แข็งใหม่หลังจากละลายน้ำแข็งแล้ว
สนุกกับการทำทาโกะยากิได้ง่ายๆ ที่บ้านคุณ
ชวนคุณมาสนุกและอิ่มอร่อยกับทาโกะยากิแบบง่ายๆ ด้วย Otafuku Takoyaki Kodawari Set ที่มีเคล็ดลับความอร่อยจาก 4 ส่วนผสมพิเศษ ได้แก่
1. แป้งทาโกะยากิสูตรพิเศษของโอตาฟุกุ กรอบนอกนุ่มใน
2. การผสมผสานกันระหว่างผงหมึกซูรุเมะ 100% และแป้งหมึกเทมปุระกรุบกรอบ ให้รสชาติที่เข้มข้นและล้ำลึก
3. สาหร่ายที่ผลิตในญี่ปุ่น 100% มีสีเขียวสดและกลิ่นหอมของทะเล เพิ่มสัมผัสให้ครบเครื่อง
4. เพิ่มสีสันด้วยขิงแดงดองให้สีสันที่น่ารับประทานและรสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้น
เพียงเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมก็มาอร่อยกันได้เลยค่ะ
ปลาเนื้อขาวทอดผสมซอสทาร์ทาร์
สัมผัสความอร่อยของปลาเนื้อขาวราดด้วยซอสทาร์ทาร์รสเข้มข้นกลมกล่อม นำมาชุบแป้งทอดจนกรุบกรอบ ให้คุณเพลิดเพลินได้แบบง่ายๆ ตามปริมาณที่ต้องการด้วยถาดแบบแยกชิ้น ไม่ว่าจะอุ่นด้วยไมโครเวฟหรือเพียงแค่ปล่อยให้ละลายตามธรรมชาติก็พร้อมเสิร์ฟ นิยมจัดใส่กล่องเบนโตะเป็นมื้อกลางวัน รับประทานเป็นกับข้าว และนำไปประกบกับขนมปังเป็นแซนวิชหรือเบอร์เกอร์ก็ได้เช่นกันค่ะ
อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช เคล็ดลับความอร่อยจากครัวญี่ปุ่น
"ชิโอะโคโช" (塩こしょう) หรือ เกลือและพริกไทยดำ เป็นเครื่องปรุงที่ขาดไม่ได้ในครัวเรือน เพราะช่วยดึงรสชาติของวัตถุดิบให้อร่อยขึ้นแบบง่ายๆ ไม่ต้องใช้เครื่องปรุงหลายชนิด อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช ไม่ได้เป็นแค่เครื่องปรุงทั่วไป แต่เป็น "ผู้ช่วยเชฟ" ที่ช่วยให้การทำอาหารง่ายขึ้น ไม่ว่าคุณจะทำเมนู เนื้อย่าง หมูทอด ไก่ย่าง บาร์บีคิว ซุป หรือแม้แต่อาหารตะวันตก ก็สามารถใช้ได้อย่างลงตัว แค่โรยเบาๆ ก็ได้รสชาติอร่อยแบบมืออาชีพ!
เมนูแนะนำ
♥ สเต๊กเนื้อพริกไทยเกลือ
วัตถุดิบ
- เนื้อสเต๊ก (ริบอาย, สันนอก หรือเนื้อที่ชอบ) 200 กรัม
- เฮ้าส์ อาจิซุเกะ ชิโอะโคโช 1 ช้อนชา
- น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
- เนย 10 กรัม
- กระเทียมฝานบาง 2-3 กลีบ
วิธีทำ:
1. โรย เฮ้าส์ อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช ให้ทั่วเนื้อทั้งสองด้าน
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอก พอร้อน ใส่เนื้อลงไปย่างให้สุกตามต้องการ
3. ใส่เนยและกระเทียมลงไปผัดให้หอม แล้วราดบนเนื้อ
4. เสิร์ฟพร้อมผักย่างหรือมันฝรั่งทอด
♥ ข้าวผัดญี่ปุ่น (ชิโอะยากิเมชิ)
วัตถุดิบ:
- ข้าวสวย 1 ถ้วย
- หมูสับ หรือไก่สับ 50 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- เฮ้าส์ อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช 1 ช้อนชา
- ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ:
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ผัดหมูสับจนสุก
2. ตอกไข่ลงไป คนให้เข้ากันแล้วใส่ข้าวสวย
3. โรย เฮ้าส์ อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช ผัดให้เข้ากัน
4. โรยต้นหอมซอย แล้วตักเสิร์ฟ
เมนูไหนก็อร่อยขึ้น แค่มีติดครัวไว้! ☺️
ความอร่อยสดชื่นแบบญี่ปุ่น ที่ลงตัวด้วยซอสยูสุพอนซึ
ถ้าคุณชอบรสชาติเปรี้ยวอมหวาน หอมกลิ่นเลม่อนญี่ปุ่นอย่างยูซุ ต้องไม่พลาด นัตโตะรสชาติใหม่จากแบรนด์ฮามานะสึ เพราะนี่คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างถั่วเหลืองหมักเพื่อสุขภาพ กับซอสยูสุพอนซึที่ให้ความรู้สึกสดชื่นไม่เหมือนใคร ทำให้ทานง่ายและอร่อยจนหยุดไม่ได้
นัตโตะถ้วยนี้ถูกยกระดับความอร่อยขึ้นไปอีกขั้นด้วยซอสยูสุพอนซึสูตรพิเศษ :
• ความสดชื่นของยูซุ: จุดเด่นคือ ซอสปอนซุรสยูซุ ที่มีรสเปรี้ยวอมหวานและกลิ่นหอมของยูซุที่สดชื่นมากๆ ทำให้ความรู้สึกหนัก ๆ ของนัตโตะเปลี่ยนไป กลายเป็นรสชาติที่สว่างและเบา ทานได้เรื่อย ๆ
• ถั่วเหลืองเม็ดเล็กคุณภาพ: นัตโตะใช้ถั่วเหลืองเม็ดเล็ก (Kotsubu Daizu) คุณภาพดีจาก ฮอกไกโด ซึ่งเป็นแหล่งผลิตถั่วชั้นเยี่ยม ทำให้ถั่วมีความเนียนนุ่มและคลุกเคล้ากับซอสได้อย่างง่ายดาย
• ทานง่ายแม้เป็นมือใหม่: รสเปรี้ยวหอมของยูซุช่วยตัดกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของนัตโตะได้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นอีกตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นลองทาน
• ประโยชน์เต็มถ้วย: นัตโตะ เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีเยี่ยม และเต็มไปด้วยสารอาหารสำคัญอย่างโปรไบโอติก วิตามิน K2 และเอนไซม์นัตโตะไคเนส ที่ช่วยดูแลสุขภาพลำไส้และระบบไหลเวียนโลหิต
วิธีเตรียมและอร่อยกับนัตโตะ
สินค้าจัดส่งแบบแช่แข็ง เพื่อรักษาความสดใหม่ ดังนั้นควรเตรียมสินค้าตามขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนการเตรียม:
1. นำนัตโตะ ออกจากช่องฟรีซ (ช่องแข็ง)
2. พักไว้ที่อุณหภูมิห้องสักครู่ เพื่อให้คลายความเย็นจนนิ่มลง หรือนำไปพักในตู้เย็นช่องธรรมดา
3. เมื่อถั่วละลายและนิ่มแล้ว จึงนำมาทาน
เคล็ดลับการคนนัตโตะให้ฟู
หัวใจสำคัญของการทาน นัตโตะ คือการคนค่ะ การคนนัตโตะไม่ได้มีแค่เรื่องความเหนียว แต่เป็นการดึงเอาสารอาหารสำคัญอย่าง เอนไซม์นัตโตะไคเนสออกมาทำงาน และยังช่วยให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
ขั้นตอนที่ 1: คนก่อนปรุงรส
• ตักซอสออกก่อน: นำซอง ซอสรสบ๊วยและมัสตาร์ด (ถ้ามี) ออกจากถ้วยก่อนค่ะ
• เริ่มคนเปล่า ๆ: ใช้ตะเกียบหรือส้อม คนนัตโตะในถ้วยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
- เน้นความเร็ว: ไม่จำเป็นต้องคนวนเป็นวงกลมแบบเป๊ะ ๆ แต่เน้นการคนแบบซิกแซ็กสลับไปมาด้วยความเร็วค่ะ
- จำนวนครั้ง: ให้คนอย่างน้อย 50 ครั้ง ค่ะ พอคนไปเรื่อย ๆ คุณจะสังเกตเห็นว่านัตโตะเริ่มมี ฟองสีขาวขุ่น และ ใยเหนียว ๆ เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก
ขั้นตอนที่ 2: คนพร้อมปรุงรส
• เติมซอสบ๊วย: เมื่อนัตโตะเริ่มเป็นฟองได้ที่แล้ว ให้ใส่ ซอสรสบ๊วย (หรือเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามชอบ) ลงไป
• คนต่ออีก 10-20 ครั้ง: คนผสมให้ซอสเข้ากันดีค่ะ การคนรอบสองนี้จะช่วยให้รสชาติของซอสซึมเข้าไปในถั่วและฟองนัตโตะอย่างทั่วถึง ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ถ้าคุณพร้อมที่จะเปิดรับความอร่อยใหม่ที่ทั้งสดชื่นและดีต่อสุขภาพ ลองให้ นัตโตะซอสยูซุ เป็นตัวเลือกในมื้อต่อไป รับรองว่าถูกใจสายเฮลตี้ที่ชอบรสชาติเปรี้ยวอมหวานอย่างแน่นอน"
อาหารเพื่อสุขภาพจากญี่ปุ่น ที่กินง่ายและอร่อยลงตัว
สำหรับใครที่อยากลองทาน นัตโตะ (Natto) แต่ยังกังวลเรื่องกลิ่นหรือเนื้อสัมผัส เราขอแนะนำ นัตโตะ ฮามานะสึ (Hamanasu) สูตรเม็ดเล็กพิเศษ เพราะนี่คือตัวเลือกที่ถูกใจคนญี่ปุ่นและเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับมือใหม่ ที่สำคัญคือมาพร้อมกับคุณประโยชน์ด้านสุขภาพแบบเต็มๆ
นัตโตะคือเคล็ดลับสุขภาพดีของคนญี่ปุ่น เป็นถั่วเหลืองหมักที่อัดแน่นไปด้วยโปรไบโอติกและเอนไซม์ นัตโตะไคเนส ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหารให้ทำงานดีขึ้น และยังดีต่อสุขภาพหัวใจ รวมถึงเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและบำรุงกระดูกให้แข็งแรงอีกด้วย
จุดเด่น
• เม็ดเล็ก เคี้ยวง่าย: นัตโตะของฮามานะสึเป็นแบบเม็ดเล็กพิเศษ (Gokukotsubu) ทำให้เนื้อสัมผัสมีความละเอียดกว่าแบบเม็ดใหญ่ และผสมเข้ากับซอสได้ง่ายกว่า ถูกปากคนที่ไม่คุ้นเคยกับความเหนียวของนัตโตะ
• รสชาติกลมกล่อมลงตัว: นัตโตะถ้วยนี้มาพร้อมกับซอสสูตรพิเศษที่ให้รสอูมามิ ทำให้รสชาติของถั่วเหลืองหมักมีความกลมกล่อมและอร่อยยิ่งขึ้น เพียงแค่เติมซอสและมัสตาร์ดที่มาในแพ็กเกจ ก็พร้อมทานได้ทันที
• คุณภาพญี่ปุ่นแท้ๆ: สินค้านี้ถูกนำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าให้ความสำคัญกับคุณภาพและความสะอาดในกระบวนการผลิต ทำให้คุณมั่นใจได้ว่านัตโตะที่คุณทานนั้น สดใหม่และได้มาตรฐาน
วิธีทำความอร่อยง่ายๆ สไตล์ญี่ปุ่น
ชาวญี่ปุ่นนิยมทาน นัตโตะ ในมื้อเช้า เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์ไปตลอดวัน วิธีทานก็ง่ายมากๆ
1. นำนัตโตะมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 30-60 นาที เพื่อให้นัตโตะที่แช่แข็งไว้ละลาย
2. เปิดฝาและเทซอสกับมัสตาร์ดที่แถมมาลงไป
3. ใช้ตะเกียบคน นัตโตะ อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องจนเกิดฟองและความเหนียวเป็นเส้นใย
4. ตักวางบนข้าวสวยญี่ปุ่นร้อน ๆ หรือจะทานคู่กับไข่แดงและต้นหอมซอยก็อร่อยลงตัว
คล็ดลับการคนนัตโตะให้ฟู
หัวใจสำคัญของการทาน นัตโตะ คือการคนค่ะ การคนนัตโตะไม่ได้มีแค่เรื่องความเหนียว แต่เป็นการดึงเอาสารอาหารสำคัญอย่าง เอนไซม์นัตโตะไคเนสออกมาทำงาน และยังช่วยให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
ขั้นตอนที่ 1: คนก่อนปรุงรส
• ตักซอสออกก่อน: นำซอง ซอสรสบ๊วยและมัสตาร์ด (ถ้ามี) ออกจากถ้วยก่อนค่ะ
• เริ่มคนเปล่า ๆ: ใช้ตะเกียบหรือส้อม คนนัตโตะในถ้วยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
- เน้นความเร็ว: ไม่จำเป็นต้องคนวนเป็นวงกลมแบบเป๊ะ ๆ แต่เน้นการคนแบบซิกแซ็กสลับไปมาด้วยความเร็วค่ะ
- จำนวนครั้ง: ให้คนอย่างน้อย 50 ครั้ง ค่ะ พอคนไปเรื่อย ๆ คุณจะสังเกตเห็นว่านัตโตะเริ่มมี ฟองสีขาวขุ่น และ ใยเหนียว ๆ เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก
ขั้นตอนที่ 2: คนพร้อมปรุงรส
• เติมซอสบ๊วย: เมื่อนัตโตะเริ่มเป็นฟองได้ที่แล้ว ให้ใส่ ซอสรสบ๊วย (หรือเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามชอบ) ลงไป
• คนต่ออีก 10-20 ครั้ง: คนผสมให้ซอสเข้ากันดีค่ะ การคนรอบสองนี้จะช่วยให้รสชาติของซอสซึมเข้าไปในถั่วและฟองนัตโตะอย่างทั่วถึง ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นมื้อไหน นัตโตะฮามานะสึ ก็พร้อมเป็นสุดยอดอาหารสุขภาพที่ทำให้คุณรู้สึกดีได้ทุกวัน ลองสั่งไปชิม แล้วคุณจะติดใจกับความอร่อยที่มีประโยชน์ต่อร่างกายถ้วยนี้เลย!"
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Yumepirika ถือเป็นพันธุ์ข้าวระดับไฮเอนด์ที่ใช้สุดยอดเทคโนโลยีการเพาะสายพันธุ์ข้าวในฮอกไกโด
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ยูเมะพิริกะ (Yumepirika) จากแบรนด์ โฮคุเรน (Hokuren) เป็นข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์พรีเมียมที่ปลูกในจังหวัดฮอกไกโด ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอากาศหนาวเย็นและดินที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ข้าวมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นข้าวเกรดสูงที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น
ลักษณะเด่นของ Yumepirika
• เมล็ดอวบอ้วน และเงางาม - เมล็ดข้าวมีขนาดปานกลางถึงใหญ่ เมื่อหุงแล้วจะเงางามและมีความหนึบที่โดดเด่น
• เนื้อนุ่มแต่ไม่เละ - ข้าวมีความเหนียวและนุ่มในระดับที่พอดี ไม่ร่วนหรือแข็งเกินไป
• รสหวานธรรมชาติ - มีรสชาติอ่อนๆ และหวานธรรมชาติ แม้ทานเปล่าๆ ก็ยังอร่อย
• กลิ่นหอมพิเศษ - มีกลิ่นหอมที่แตกต่างจากข้าวพันธุ์อื่น
• ปลูกในอากาศหนาวเย็น - อุณหภูมิที่เย็นของฮอกไกโดช่วยให้ข้าวมีคุณภาพดีขึ้นและสามารถเก็บรักษาได้นาน
รางวัลและมาตรฐานคุณภาพ
• Yumepirika ได้รับการรับรองมาตรฐาน 特A (Toku A) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของข้าวญี่ปุ่น
• เป็นข้าวที่ได้รับความนิยมในร้านอาหารระดับพรีเมียมทั่วญี่ปุ่น
• ได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลฮอกไกโดให้เป็นข้าวเกรดพรีเมียมของภูมิภาค
เมนูที่เหมาะกับ Yumepirika
เนื่องจาก Yumepirika เป็นข้าวที่มีความเหนียวนุ่มและมีรสหวานในตัว จึงเหมาะกับอาหารที่ต้องการข้าวคุณภาพสูง เช่น
• ข้าวสวย (Cooked Rice) - เมล็ดข้าวสวย เมื่อหุงสุกจะมีความเงาสวย เหมาะสำหรับทานแบบข้าวสวย
• ซูชิ (Sushi) - เมล็ดข้าวเหนียวกำลังดี จับตัวได้ง่าย ไม่แฉะเกินไป
• ข้าวปั้น (Onigiri) - รสชาติหวานธรรมชาติทำให้กินเปล่าๆ ก็อร่อย
• ข้าวญี่ปุ่นธรรมดา (Gohan) - เหมาะสำหรับทานคู่กับปลาย่างหรืออาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
• ข้าวหน้าอาหารทะเล (Kaisendon/Donburi) - ความหนึบของข้าวช่วยเสริมรสชาติของปลาดิบได้ดี
Yumepirika ถือเป็นข้าวที่ให้รสชาติที่ดีที่สุดของฮอกไกโด ถ้าคุณต้องการข้าวที่นุ่ม หอม และมีคุณภาพสูง Yumepirika คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
• ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
• ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบาๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
• กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
• ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำเวลาหุงข้าวจะนุ่มไม่กระด้าง
• หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆ คนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
• เก็บในที่แห้งและเย็น
• ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
• หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
• คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
• ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
• ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์