✨ ข้าวผัดกุ้งสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมทาน แค่เวฟก็อร่อย! ✨
ข้าวผัดกลิ่นหอมเนย ผัดกับกุ้งตัวโตๆ ไข่ และผักรวมมีสีสันสวยงาม พร้อมรสชาติกลมกล่อมจากซอสสูตรเฉพาะแบบญี่ปุ่นแท้ๆ นอกจากนี้คุณยังสามารถสัมผัสถึงข้าวและส่วนผสมที่เคี้ยวหนึบเล็กน้อยก็สามารถดูดซับรสชาติอาหารทะเลได้อย่างดี คุณสามารถเพลิดเพลินกับเนื้อสัมผัสที่หลากหลายได้ในคราวเดียวด้วยกุ้งตัวอ้วนและถั่วเขียวกรุบกรอบ ถั่วเขียวยังเพิ่มรสชาติที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ในขณะที่กำลังอุ่นอาหารในไมโครเวฟ กลิ่นหอมแรงของกุ้งกับเนยก็ลอยมาในอากาศ รับรองว่าจะต้องเรียกน้ำย่อยอย่างแน่นอน
สิ่งใหม่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้คือถุงบรรจุภัณฑ์สามารถตั้งได้ด้วยตัวเอง โดยปกติแล้วคุณจะต้องนำข้าวผัดออกจากถุง แต่เนื่องจาก Wild Dish ยังทำหน้าที่เป็นภาชนะได้ด้วย จึงทำให้สามารถคงตำแหน่งตั้งตรงได้ เพื่อทำให้ภาชนะเสร็จสมบูรณ์ให้ใช้กรรไกรตัดตามเส้นตัดสีขาวที่พิมพ์ไว้บนบรรจุภัณฑ์ เท่านี้ก็พร้อมตักทานได้เลยค่ะ
♨️ วิธีการอุ่นด้วยไมโครเวฟ
• ห้ามฉีกถุงก่อนอุ่น
• ให้นำเข้าไมโครเวฟทั้งถุง โดยหันด้านที่ระบุไว้ขึ้นด้านบน
• หลังจากอุ่นเสร็จ ใช้กรรไกรตัดตามจุดประที่กำหนด โดยจับถุงในตำแหน่งที่แนะนำ
⏱️เวลาที่ใช้ในการอุ่น:
• ไมโครเวฟ 500W: ประมาณ 3 นาที 30 วินาที
• ไมโครเวฟ 600W: ประมาณ 3 นาที 10 วินาที
กรอบอร่อย ไปกับ คาราอาเกะ สูตรพิเศษสำหรับคุณหนูๆ
แป้งคาราอาเกะสูตรนี้เป็นการนำเอารสชติของขนม Happy Turn จากแบรนด์ Kameda เซมเบ้อบกรอบ หอมอร่อย รสชาติหวานและเค็มอย่างลงตัว ซึ่งเป็นที่นิยมกันสุดๆในกลุ่มของเด็กๆ ด้วยรสชาติแสนอร่อยและทานง่าย เป็นแป้งคาราเกะที่คุณแม่ควรมีติดบ้านไว้ ถูกใจเด็กๆอย่างแน่นอนค่ะ
เมื่อนึกถึง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่เป็นมากกว่าแค่อาหารมื้อด่วน แต่คือตำนานแห่งวงการอาหาร ชื่อของ "นิสชิน" ต้องเป็นอันดับแรกๆ ที่ทุกคนนึกถึงอย่างแน่นอน ด้วยจุดเริ่มต้นจากญี่ปุ่นในปี 1958 นิสชินคือผู้บุกเบิกและผู้ให้กำเนิดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายแรกของโลก ที่ได้ปฏิวัติวิถีการกินของผู้คนทั่วโลกไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยปรัชญาที่มุ่งมั่นนำเสนอแต่สิ่งที่ดีที่สุด นิสชินจึงยืนหยัดด้วยคุณภาพและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์สไตล์ญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้
วันนี้เราขอชวนคุณมาสัมผัสความอร่อยลึกซึ้งของราเมนยอดนิยม นิสชิน โบวล์ รสซุปทงคตสึ ที่พร้อมมอบประสบการณ์ความหอม มัน เข้มข้นถึงใจ
• ซุปทงคตสึเข้มข้น หอมมัน: เอกลักษณ์โดดเด่นของรสชาตินี้คือ น้ำซุปทงคตสึ ที่ผ่านการเคี่ยวอย่างพิถีพิถันจนได้ความเข้มข้น หอมมัน กลมกล่อมลึกซึ้งในแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ ให้รสชาติที่ละมุนลิ้น
• เส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม ตามแบบฉบับนิสชิน: สัมผัสถึงความพิเศษของเส้นบะหมี่ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องของนิสชิน ที่มีความ เหนียวนุ่มกำลังดี ให้คุณได้สัมผัสถึงเนื้อสัมผัสของเส้นที่เข้ากันได้ดีกับน้ำซุปเข้มข้น
ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่คุณต้องการมื้อที่อิ่มอร่อย มื้อที่ต้องการความสะดวกสบาย หรือแม้แต่ช่วงเวลาพักผ่อนที่อยากได้อะไรทานง่ายๆ แต่ได้รสชาติเต็มๆ นิสชิน โบวล์ รสซุปทงคตสึ คือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ ด้วยปริมาณที่กำลังพอดี อิ่ม อร่อยได้ไม่ว่าจะเวลาไหน
มาลิ้มลองความอร่อยเข้มข้นของนิสชิน รสซุปทงคตสึ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมบะหมี่ถ้วยนี้ถึงเป็นที่รักของใครหลายคน!
เพียงเปิดฝา เติมน้ำร้อน แล้วรอเพียงไม่กี่นาที ความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นที่คุ้นเคยก็พร้อมเสิร์ฟตรงหน้าคุณ
1. เปิดฝาจนถึงเส้นประ ใส่ผงซุปและเครื่องปรุงอบแห้งลงในถ้วย
2. เติมน้ำร้อนลงไปจนถึงเส้นบอกระดับภายในถ้วย ปิดฝาแล้วรอประมาณ 3 นาที
3. เปิดฝาแล้วใส่น้ำมันปรุงรส คนให้เข้ากัน พร้อมรับประทานค่ะ
ซอสอเนกประสงค์ ที่มีติดครัวเกือบทุกบ้านในญี่ปุ่น!!!
ซอสชูโน หรือ Chunou Sauce คือซอสที่มีรสชาติและความเข้มข้นอยู่ระหว่างซอสทงคัตสึ และ วูสเตอร์ซอส สามารถใช้ทำได้หลากหลายเมนูตั้งแต่เมนูของทอด ทงคัตสึ ไข่เจียวแบบญี่ปุ่น โอโคโนมิยากิ หรือเป็นส่วนผสมลับในสตูว์ เรียกได้ว่ามีขวดเดียวทำได้เกือบครบทุกเมนูค่ะ
ชาเขียวเซนฉะชนิดชงได้ทั้งร้อนและเย็น ความแตกต่างจากชาเขียวทั่วไปที่คุณไม่ควรมองข้าม!!
หนึ่งในอาหารแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น
หมึกร้าญี่ปุ่น หรือ Ika Shiokara ทำจากหมึกคุณภาพดี นำมาหั่นเป็นชิ้นบางๆ หมักด้วยเกลือ และข้าวสาลี ใส่ในภาชนะปิดสนิทอย่างน้อย 1 เดือนขึ้นไป รสชาติออกเค็มๆ หนึบๆ เหมาะกับทานเป็นกับแกล้ม ถือเป็นเมนูที่ต้องมีติดไว้ในร้านญี่ปุ่นสไตล์ Izakaya
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Yukinkomai จากเมืองนีงาตะ เมืองแห่งข้าว
คิริโมจิเหนียวนุ่มหนึบหนับ อร่อยแบบต้นตำรับญี่ปุ่น
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Nanatsuboshi ข้าวที่เติบโตท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ของฮอกไกโด
นิยมปลูกมากในฮอกไกโด เมล็ดข้าวอวบ หุงแล้วขึ้นเงา มีความเหนียวปานกลาง และความหวานแบบพอดี ทำให้โดนใจชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก แม้ข้าวจะเย็นแต่ยังคงความนุ่ม หอม อร่อย สามารถทำอาหารได้หลากหลายประเภท แต่จะนิยมนำมาทำเบนโตะและซูชิ
• ลักษณะเมล็ด – เมล็ดข้าวอวบ ขาว หุงขึ้นหม้อ
• รสชาติ – มีรสหวานและยังคงอร่อยแม้จะเย็นแล้ว
• ความเหนียว – ความเหนียวกำลังดี
• เมนูที่เหมาะสม – เบนโตะ และซูชิ
• ความลับของสายพันธุ์ – ถือว่าเป็นข้าวที่มีความสมดุลระหว่างรสชาติกับเนื้อสัมผัสมากที่สุดในสายพันธุ์ข้าวฮอกไกโด เมื่อหุงจนสุกข้าวมีความขาว ความเงา ความหอม ให้รสชาตินุ่มนวล และเคี้ยวอร่อย
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบาๆประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำจนอ่อนนุ่ม
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อย ๆ คนให้น้ำระเหย
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Koshihikari จากจังหวัดนีงาตะ
เป็นพันธุ์ข้าวที่คนญี่ปุ่นนิยมปลูกและรับประทานมากที่สุด เพราะมีรสชาตินุ่มละมุน รสหวาน และเคี้ยวหนึบ จนถูกขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า “ข้าวจากแดนสวรรค์ ” เมื่อหุงจนสุกเม็ดข้าวจะขาวเงางามคล้ายอัญมณี มีความเหนียวเล็กน้อย และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ แม้จะทิ้งไว้จนเย็นข้าวยังคงมีรสชาติดี นิยมนำมาใช้ทำเมนูซูชิ
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่านคนเบาๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำจนอ่อนนุ่ม
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆคนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
1. เก็บในที่แห้งและเย็น
2. ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
3. หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
1. คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
2. ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
3. ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Yumepirika ถือเป็นพันธุ์ข้าวระดับไฮเอนด์ที่ใช้สุดยอดเทคโนโลยีการเพาะสายพันธุ์ข้าวในฮอกไกโด
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ยูเมะพิริกะ (Yumepirika) จากแบรนด์ โฮคุเรน (Hokuren) เป็นข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์พรีเมียมที่ปลูกในจังหวัดฮอกไกโด ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอากาศหนาวเย็นและดินที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ข้าวมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นข้าวเกรดสูงที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น
ลักษณะเด่นของ Yumepirika
• เมล็ดอวบอ้วน และเงางาม - เมล็ดข้าวมีขนาดปานกลางถึงใหญ่ เมื่อหุงแล้วจะเงางามและมีความหนึบที่โดดเด่น
• เนื้อนุ่มแต่ไม่เละ - ข้าวมีความเหนียวและนุ่มในระดับที่พอดี ไม่ร่วนหรือแข็งเกินไป
• รสหวานธรรมชาติ - มีรสชาติอ่อนๆ และหวานธรรมชาติ แม้ทานเปล่าๆ ก็ยังอร่อย
• กลิ่นหอมพิเศษ - มีกลิ่นหอมที่แตกต่างจากข้าวพันธุ์อื่น
• ปลูกในอากาศหนาวเย็น - อุณหภูมิที่เย็นของฮอกไกโดช่วยให้ข้าวมีคุณภาพดีขึ้นและสามารถเก็บรักษาได้นาน
รางวัลและมาตรฐานคุณภาพ
• Yumepirika ได้รับการรับรองมาตรฐาน 特A (Toku A) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของข้าวญี่ปุ่น
• เป็นข้าวที่ได้รับความนิยมในร้านอาหารระดับพรีเมียมทั่วญี่ปุ่น
• ได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลฮอกไกโดให้เป็นข้าวเกรดพรีเมียมของภูมิภาค
เมนูที่เหมาะกับ Yumepirika
เนื่องจาก Yumepirika เป็นข้าวที่มีความเหนียวนุ่มและมีรสหวานในตัว จึงเหมาะกับอาหารที่ต้องการข้าวคุณภาพสูง เช่น
• ข้าวสวย (Cooked Rice) - เมล็ดข้าวสวย เมื่อหุงสุกจะมีความเงาสวย เหมาะสำหรับทานแบบข้าวสวย
• ซูชิ (Sushi) - เมล็ดข้าวเหนียวกำลังดี จับตัวได้ง่าย ไม่แฉะเกินไป
• ข้าวปั้น (Onigiri) - รสชาติหวานธรรมชาติทำให้กินเปล่าๆ ก็อร่อย
• ข้าวญี่ปุ่นธรรมดา (Gohan) - เหมาะสำหรับทานคู่กับปลาย่างหรืออาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
• ข้าวหน้าอาหารทะเล (Kaisendon/Donburi) - ความหนึบของข้าวช่วยเสริมรสชาติของปลาดิบได้ดี
Yumepirika ถือเป็นข้าวที่ให้รสชาติที่ดีที่สุดของฮอกไกโด ถ้าคุณต้องการข้าวที่นุ่ม หอม และมีคุณภาพสูง Yumepirika คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
• ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
• ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบาๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
• กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
• ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำเวลาหุงข้าวจะนุ่มไม่กระด้าง
• หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆ คนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
• เก็บในที่แห้งและเย็น
• ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
• หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
• คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
• ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
• ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์