มิโซะ เครื่องปรุงคู่ครัวที่ขาดไม่ได้อย่างหนึ่งของชาวญี่ปุ่น
ด้วยกระบวนการหมักอันละเอียดอ่อน ทำให้มิโซะอุดมไปด้วยโพรไบโอติกที่มีประโยชน์ ช่วยให้การดูดซึมสารอาหารและระบบย่อยอาหารของเราดีขึ้น นอกจากนี้ในมิโซะยังมีแร่ธาตุและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอื่นๆ อีกมากมาย เช่น โปรตีน, แคลเซียม, แมกนีเซียม, วิตามินเค หรือแม้กระทั่งสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยให้เรามีสุขภาพแข็งแรง ชะลอการเกิดโรคกระดูกพรุน และช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
จากประโยชน์อันหลากหลายของมิโซะ เราจึงขอแนะนำมิโซะขาวออร์แกนิก (Organic White Miso) จากแบรนด์ฮิคาริมิโซะ (Hikari-Miso) ซึ่งเป็นแบรนด์มิโซะชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น มิโซะสไตล์ชินชูดั้งเดิมที่ทำจากข้าวออร์แกนิกและถั่วเหลือง
ราเมนเส้นสด เหนียวหนึบ สูตรต้นตำหรับจากญี่ปุ่น แบบเดียวกับที่ใช้ตามร้านราเมนชื่อดัง
ราเมนเส้นสดที่ใช้กรรมวิธีผลิตแบบพิเศษที่ทำให้เส้นมีความสด เส้นที่ได้เหนียวนุ่ม อร่อย ให้คุณได้ลิ้มรสชาติของเส้นราเมนแท้ๆ
เหมาะสำหรับเมนูราเมนร้อน บะหมี่เย็น และยากิโซบะ หากคุณเป็นคนชอบทานราเมน ขอแนะนำเลยค่ะ
วิธีเตรียมเส้น
ต้มน้ำให้เดือด สางเส้นไม่ให้ติดกันก่อนลวก
*ไม่ควรนำเส้นไปล้างหรือจุ่มน้ำเพื่อล้างแป้งก่อนลวก เพราะจะทำให้เส้นติดกัน
- เมนูราเมน ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 2-3 นาที
- เมนูบะหมี่เย็น ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 2:45-3:15 นาที แล้วนำเส้นไปจุ่มในนำเย็นก่อนเสิร์ฟ
- เมนูยากิโซบะ ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 1:30-1:45 นาที
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Yukinkomai จากเมืองนีงาตะ เมืองแห่งข้าว
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Koshihikari จากจังหวัดนีงาตะ
เป็นพันธุ์ข้าวที่คนญี่ปุ่นนิยมปลูกและรับประทานมากที่สุด เพราะมีรสชาตินุ่มละมุน รสหวาน และเคี้ยวหนึบ จนถูกขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า “ข้าวจากแดนสวรรค์ ” เมื่อหุงจนสุกเม็ดข้าวจะขาวเงางามคล้ายอัญมณี มีความเหนียวเล็กน้อย และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ แม้จะทิ้งไว้จนเย็นข้าวยังคงมีรสชาติดี นิยมนำมาใช้ทำเมนูซูชิ
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่านคนเบาๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำจนอ่อนนุ่ม
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆคนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
1. เก็บในที่แห้งและเย็น
2. ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
3. หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
1. คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
2. ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
3. ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Nanatsuboshi ข้าวที่เติบโตท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ของฮอกไกโด
นิยมปลูกมากในฮอกไกโด เมล็ดข้าวอวบ หุงแล้วขึ้นเงา มีความเหนียวปานกลาง และความหวานแบบพอดี ทำให้โดนใจชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก แม้ข้าวจะเย็นแต่ยังคงความนุ่ม หอม อร่อย สามารถทำอาหารได้หลากหลายประเภท แต่จะนิยมนำมาทำเบนโตะและซูชิ
• ลักษณะเมล็ด – เมล็ดข้าวอวบ ขาว หุงขึ้นหม้อ
• รสชาติ – มีรสหวานและยังคงอร่อยแม้จะเย็นแล้ว
• ความเหนียว – ความเหนียวกำลังดี
• เมนูที่เหมาะสม – เบนโตะ และซูชิ
• ความลับของสายพันธุ์ – ถือว่าเป็นข้าวที่มีความสมดุลระหว่างรสชาติกับเนื้อสัมผัสมากที่สุดในสายพันธุ์ข้าวฮอกไกโด เมื่อหุงจนสุกข้าวมีความขาว ความเงา ความหอม ให้รสชาตินุ่มนวล และเคี้ยวอร่อย
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบาๆประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำจนอ่อนนุ่ม
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อย ๆ คนให้น้ำระเหย
แค่ปั้นและวาง ซูชิกุ้งแสนอร่อยก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
กุ้งแดงอาร์เจนตินาเป็นกุ้งที่พบได้มากในทะเลแถบอเมริกาใต้ มีเนื้อกรอบ แน่น หวานอร่อยตามธรรมชาติ จึงนิยมนำมาใช้ทำเมนูซาชิมิหรือซูชิ วันนี้คุณสามารถอร่อยกับกุ้งแดงอาร์เจนตินาได้ง่ายๆ ที่เราจัดมาให้ในรูปแบบแช่แข็ง สะดวกและง่ายดายเพียงแค่นำมาละลายก็พร้อมปรุงเมนูโปรดของคุณได้ทันที โดยไม่ต้องแกะและผ่าเองให้ยุ่งยากค่ะ
วิธีรับประทาน
• นำสินค้าตามปริมาณที่ต้องการรับประทานมาไว้ที่ช่องละลายน้ำแข็งในตู้เย็นประมาณ 8-9 ชั่วโมง หรือวางไว้ที่อุณหภูมิปกติประมาณ 40-50 นาที เมื่อน้ำแข็งละลายแล้วสามารถนำไปปรุงเมนูที่ต้องการได้เลยค่ะ
• แนะนำให้นำออกมาละลายตามปริมาณที่ต้องการรับประทานในแต่ละครั้ง และเก็บส่วนที่เหลือในช่องแช่แข็งเพื่อคงคุณภาพของสินค้า
• ไม่แนะนำให้นำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
✨ ข้าวผัดกุ้งสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมทาน แค่เวฟก็อร่อย! ✨
ข้าวผัดกลิ่นหอมเนย ผัดกับกุ้งตัวโตๆ ไข่ และผักรวมมีสีสันสวยงาม พร้อมรสชาติกลมกล่อมจากซอสสูตรเฉพาะแบบญี่ปุ่นแท้ๆ นอกจากนี้คุณยังสามารถสัมผัสถึงข้าวและส่วนผสมที่เคี้ยวหนึบเล็กน้อยก็สามารถดูดซับรสชาติอาหารทะเลได้อย่างดี คุณสามารถเพลิดเพลินกับเนื้อสัมผัสที่หลากหลายได้ในคราวเดียวด้วยกุ้งตัวอ้วนและถั่วเขียวกรุบกรอบ ถั่วเขียวยังเพิ่มรสชาติที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ในขณะที่กำลังอุ่นอาหารในไมโครเวฟ กลิ่นหอมแรงของกุ้งกับเนยก็ลอยมาในอากาศ รับรองว่าจะต้องเรียกน้ำย่อยอย่างแน่นอน
สิ่งใหม่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้คือถุงบรรจุภัณฑ์สามารถตั้งได้ด้วยตัวเอง โดยปกติแล้วคุณจะต้องนำข้าวผัดออกจากถุง แต่เนื่องจาก Wild Dish ยังทำหน้าที่เป็นภาชนะได้ด้วย จึงทำให้สามารถคงตำแหน่งตั้งตรงได้ เพื่อทำให้ภาชนะเสร็จสมบูรณ์ให้ใช้กรรไกรตัดตามเส้นตัดสีขาวที่พิมพ์ไว้บนบรรจุภัณฑ์ เท่านี้ก็พร้อมตักทานได้เลยค่ะ
♨️ วิธีการอุ่นด้วยไมโครเวฟ
• ห้ามฉีกถุงก่อนอุ่น
• ให้นำเข้าไมโครเวฟทั้งถุง โดยหันด้านที่ระบุไว้ขึ้นด้านบน
• หลังจากอุ่นเสร็จ ใช้กรรไกรตัดตามจุดประที่กำหนด โดยจับถุงในตำแหน่งที่แนะนำ
⏱️เวลาที่ใช้ในการอุ่น:
• ไมโครเวฟ 500W: ประมาณ 3 นาที 30 วินาที
• ไมโครเวฟ 600W: ประมาณ 3 นาที 10 วินาที
หมึกตัดแบบแท่งทานง่าย ยิ่งเคี้ยว ยิ่งอูมามิ
"ปลาหมึกแห้ง" ที่นำมาหั่นเป็นเส้นยาวคล้ายแท่ง ปรุงรสและอบจนมีกลิ่นหอมของปลาหมึก ซึ่งเป็นของว่างยอดนิยมของประเทศญี่ปุ่น เหมาะสำหรับทานเล่นหรือเป็นเครื่องเคียงทานคู่กับเครื่องดื่มต่างๆ
Natori Just Pack ซีรี่ย์ สุดยอดกับแกล้มตัวท็อป ที่คัดมาแล้วสำหรับสายดื่ม!!
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Yumepirika ถือเป็นพันธุ์ข้าวระดับไฮเอนด์ที่ใช้สุดยอดเทคโนโลยีการเพาะสายพันธุ์ข้าวในฮอกไกโด
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ยูเมะพิริกะ (Yumepirika) จากแบรนด์ โฮคุเรน (Hokuren) เป็นข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์พรีเมียมที่ปลูกในจังหวัดฮอกไกโด ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอากาศหนาวเย็นและดินที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ข้าวมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นข้าวเกรดสูงที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น
ลักษณะเด่นของ Yumepirika
• เมล็ดอวบอ้วน และเงางาม - เมล็ดข้าวมีขนาดปานกลางถึงใหญ่ เมื่อหุงแล้วจะเงางามและมีความหนึบที่โดดเด่น
• เนื้อนุ่มแต่ไม่เละ - ข้าวมีความเหนียวและนุ่มในระดับที่พอดี ไม่ร่วนหรือแข็งเกินไป
• รสหวานธรรมชาติ - มีรสชาติอ่อนๆ และหวานธรรมชาติ แม้ทานเปล่าๆ ก็ยังอร่อย
• กลิ่นหอมพิเศษ - มีกลิ่นหอมที่แตกต่างจากข้าวพันธุ์อื่น
• ปลูกในอากาศหนาวเย็น - อุณหภูมิที่เย็นของฮอกไกโดช่วยให้ข้าวมีคุณภาพดีขึ้นและสามารถเก็บรักษาได้นาน
รางวัลและมาตรฐานคุณภาพ
• Yumepirika ได้รับการรับรองมาตรฐาน 特A (Toku A) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของข้าวญี่ปุ่น
• เป็นข้าวที่ได้รับความนิยมในร้านอาหารระดับพรีเมียมทั่วญี่ปุ่น
• ได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลฮอกไกโดให้เป็นข้าวเกรดพรีเมียมของภูมิภาค
เมนูที่เหมาะกับ Yumepirika
เนื่องจาก Yumepirika เป็นข้าวที่มีความเหนียวนุ่มและมีรสหวานในตัว จึงเหมาะกับอาหารที่ต้องการข้าวคุณภาพสูง เช่น
• ข้าวสวย (Cooked Rice) - เมล็ดข้าวสวย เมื่อหุงสุกจะมีความเงาสวย เหมาะสำหรับทานแบบข้าวสวย
• ซูชิ (Sushi) - เมล็ดข้าวเหนียวกำลังดี จับตัวได้ง่าย ไม่แฉะเกินไป
• ข้าวปั้น (Onigiri) - รสชาติหวานธรรมชาติทำให้กินเปล่าๆ ก็อร่อย
• ข้าวญี่ปุ่นธรรมดา (Gohan) - เหมาะสำหรับทานคู่กับปลาย่างหรืออาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
• ข้าวหน้าอาหารทะเล (Kaisendon/Donburi) - ความหนึบของข้าวช่วยเสริมรสชาติของปลาดิบได้ดี
Yumepirika ถือเป็นข้าวที่ให้รสชาติที่ดีที่สุดของฮอกไกโด ถ้าคุณต้องการข้าวที่นุ่ม หอม และมีคุณภาพสูง Yumepirika คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
• ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
• ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบาๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
• กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
• ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำเวลาหุงข้าวจะนุ่มไม่กระด้าง
• หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆ คนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
• เก็บในที่แห้งและเย็น
• ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
• หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
• คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
• ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
• ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์