การทำน้ำซุปดาชิจะเป็นเรื่องง่ายๆ ใช้เวลาเพียง 5 นาที
อร่อยง่ายๆ กับเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่น
ผักกาดดองต้มสุกปรุงรสแบบต้นตำรับญี่ปุ่น รสชาติอร่อยกลมกล่อมกำลังพอดี นิยมนำมาทำเป็นไส้ข้าวปั้นโอนิกิริ, รับประทานเป็นเครื่องเคียงคู่กับข้าวสวยหรือข้าวต้ม, เสิร์ฟเป็นกับแกล้ม หรือนำไปทำเมนูอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย สะดวกและประหยัดเวลาเพราะมาในรูปแบบปรุงสุกพร้อมทาน สามารถจัดเสิร์ฟได้ทันที
Soba อาหารมงคลแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น!
อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช เคล็ดลับความอร่อยจากครัวญี่ปุ่น
"ชิโอะโคโช" (塩こしょう) หรือ เกลือและพริกไทยดำ เป็นเครื่องปรุงที่ขาดไม่ได้ในครัวเรือน เพราะช่วยดึงรสชาติของวัตถุดิบให้อร่อยขึ้นแบบง่ายๆ ไม่ต้องใช้เครื่องปรุงหลายชนิด อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช ไม่ได้เป็นแค่เครื่องปรุงทั่วไป แต่เป็น "ผู้ช่วยเชฟ" ที่ช่วยให้การทำอาหารง่ายขึ้น ไม่ว่าคุณจะทำเมนู เนื้อย่าง หมูทอด ไก่ย่าง บาร์บีคิว ซุป หรือแม้แต่อาหารตะวันตก ก็สามารถใช้ได้อย่างลงตัว แค่โรยเบาๆ ก็ได้รสชาติอร่อยแบบมืออาชีพ!
เมนูแนะนำ
♥ สเต๊กเนื้อพริกไทยเกลือ
วัตถุดิบ
- เนื้อสเต๊ก (ริบอาย, สันนอก หรือเนื้อที่ชอบ) 200 กรัม
- เฮ้าส์ อาจิซุเกะ ชิโอะโคโช 1 ช้อนชา
- น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
- เนย 10 กรัม
- กระเทียมฝานบาง 2-3 กลีบ
วิธีทำ:
1. โรย เฮ้าส์ อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช ให้ทั่วเนื้อทั้งสองด้าน
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอก พอร้อน ใส่เนื้อลงไปย่างให้สุกตามต้องการ
3. ใส่เนยและกระเทียมลงไปผัดให้หอม แล้วราดบนเนื้อ
4. เสิร์ฟพร้อมผักย่างหรือมันฝรั่งทอด
♥ ข้าวผัดญี่ปุ่น (ชิโอะยากิเมชิ)
วัตถุดิบ:
- ข้าวสวย 1 ถ้วย
- หมูสับ หรือไก่สับ 50 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- เฮ้าส์ อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช 1 ช้อนชา
- ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ:
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ผัดหมูสับจนสุก
2. ตอกไข่ลงไป คนให้เข้ากันแล้วใส่ข้าวสวย
3. โรย เฮ้าส์ อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช ผัดให้เข้ากัน
4. โรยต้นหอมซอย แล้วตักเสิร์ฟ
เมนูไหนก็อร่อยขึ้น แค่มีติดครัวไว้! ☺️
เพลิดเพลินไปกับความสดใหม่ของเส้นอุด้งจาก Ogawa
โซบะชาเขียว 1 ใน เมนูขึ้นชื่อของญี่ปุ่น
โมจิญี่ปุ่นแท้ๆ พร้อมเสริ์ฟแล้วค่ะ
มาทำโอเด้งทานเองที่บ้านกันค่ะ
ซอสหมูผัดขิงสไตล์ญี่ปุ่น ทำง่ายภายใน 20 นาที
อร่อยกับข้าวหน้าหมูสไตล์ญี่ปุ่นได้ง่ายๆ ที่บ้านคุณ
เคล็ดลับการทำข้าวหน้าเนื้อให้อร่อยอยู่นี่แล้ว
โซบะชาเขียว 1 ใน เมนูขึ้นชื่อของญี่ปุ่น
ทาโกะยากิ หรือขนมครกญี่ปุ่น อาหารว่างติดครัวของชาวคันไซ
ทาโกะยากิมีต้นกำเนิดมาจากเมืองโอซากา หากท่านได้ไปเที่ยวแถบคันไซ ต่างต้องเคยได้ลิ้มลองอย่างแน่นอน วันนี้เราชวนคุณแก้คิดถึงญี่ปุ่น กับเมนูทำเองได้ง่ายๆ แถมรสชาติยังอร่อยมากๆ เหตุผลที่ทำให้อร่อย เพราะแป้งเราได้คิดค้นและผสมในสูตรเฉพาะของแบรนด์ Nippn คุณแค่เตรียมไส้ที่ชอบ และต้องมีกระทะหลุมสำหรับทำทาโกะยากิ เพียงแค่นี้ คุณก็อร่อยตามแบบโอซาก้าแท้ๆ แป้ง 1 ห่อ ทำได้ประมาณ 40 ลูก
วิธีทำ
1. ใส่แป้งทาโกะยากิ 100 กรัมลงในน้ำ 100 มล. แล้วผสมให้เข้ากัน ใส่กะหล่ำปลีสับ 300 กรัม ไข่ 1 ฟอง และไส้โอโคโนมิยากิที่คุณชื่นชอบ 100 กรัม (ปลาหมึก กุ้ง ปูอัด ฯลฯ)
2. วอร์มเตาด้วยไฟแรง เติมน้ำมันพืชหรือเนยเล็กน้อย แล้วค่อยใส่แป้งลงไปครึ่งหลุม ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที ใส่ไส้ทาโกะยากิ กระหล่ำปลี ขิงซอยเล็กน้อยลงในหลุม
3. รอจนแป้งสุกจนร่อนจากกระทะ พยายามพลิกกลับ ค่อยๆ เติมแป้งจนมีลักษณ์เป็นทรงกลมสวยงาม
4. เมื่อแป้งสุกทุกด้าน ให้จัดใส่จาน ราดซอสทาโกะยากิ มายองเนส สาหร่ายผง และปลาคัตสึโอะหั่นฝอย
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Koshihikari จากจังหวัดนีงาตะ
เป็นพันธุ์ข้าวที่คนญี่ปุ่นนิยมปลูกและรับประทานมากที่สุด เพราะมีรสชาตินุ่มละมุน รสหวาน และเคี้ยวหนึบ จนถูกขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า “ข้าวจากแดนสวรรค์ ” เมื่อหุงจนสุกเม็ดข้าวจะขาวเงางามคล้ายอัญมณี มีความเหนียวเล็กน้อย และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ แม้จะทิ้งไว้จนเย็นข้าวยังคงมีรสชาติดี นิยมนำมาใช้ทำเมนูซูชิ
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่านคนเบาๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำจนอ่อนนุ่ม
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆคนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
1. เก็บในที่แห้งและเย็น
2. ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
3. หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
1. คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
2. ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
3. ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์
เพลิดเพลินกับแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแท้ๆ แบบเต็มรสชาติได้ง่ายๆ แค่อุ่น
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Nanatsuboshi ข้าวที่เติบโตท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ของฮอกไกโด
นิยมปลูกมากในฮอกไกโด เมล็ดข้าวอวบ หุงแล้วขึ้นเงา มีความเหนียวปานกลาง และความหวานแบบพอดี ทำให้โดนใจชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก แม้ข้าวจะเย็นแต่ยังคงความนุ่ม หอม อร่อย สามารถทำอาหารได้หลากหลายประเภท แต่จะนิยมนำมาทำเบนโตะและซูชิ
• ลักษณะเมล็ด – เมล็ดข้าวอวบ ขาว หุงขึ้นหม้อ
• รสชาติ – มีรสหวานและยังคงอร่อยแม้จะเย็นแล้ว
• ความเหนียว – ความเหนียวกำลังดี
• เมนูที่เหมาะสม – เบนโตะ และซูชิ
• ความลับของสายพันธุ์ – ถือว่าเป็นข้าวที่มีความสมดุลระหว่างรสชาติกับเนื้อสัมผัสมากที่สุดในสายพันธุ์ข้าวฮอกไกโด เมื่อหุงจนสุกข้าวมีความขาว ความเงา ความหอม ให้รสชาตินุ่มนวล และเคี้ยวอร่อย
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบาๆประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำจนอ่อนนุ่ม
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อย ๆ คนให้น้ำระเหย
สึยุเข้มข้นสูตรใหม่ อร่อย กลมกล่อมยิ่งขึ้น
หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่โปรดปรานอาหารญี่ปุ่นและชอบที่จะได้ลองทำทานเองที่บ้าน สึยุถือเป็นเครื่องปรุงที่จะช่วยให้การทำอาหารญี่ปุ่นของคุณสะดวกและง่ายดายขึ้นมากเลยทีเดียวค่ะ ในสึยุจะประกอบไปด้วยโชยุ มิริน และดาชิ มักจะใช้เป็นซอสเพื่อรับประทานกับอาหารประเภทเส้นของญี่ปุ่นอย่าง โซบะ โซเมน หรืออุด้ง นอกจากนี้ยังนำไปประกอบเมนูอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผัดกับผักหรือเนื้อสัตว์เพื่อทำดงบุริ ทำน้ำซุปหม้อไฟ ต้มหัวปลาแบบญี่ปุ่น ทำเป็นซอสเทมปุระก็ได้เช่นกัน
โดย Sanbishi Awase Dashi Tsuyu สูตรใหม่นี้ เป็นดาชิสึยุเข้มข้นถึง 3 เท่า ที่เต็มไปด้วยรสอูมามิจากปลาแห้ง 3 ชนิด ได้แก่ ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล และปลาโบนิโต้ รวมถึงหอยเชลล์และสาหร่าย จนได้รสชาติที่กลมกล่อมยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพียงแค่นำไปผสมน้ำตามอัตราส่วนที่เหมาะสมก็เตรียมรับความอร่อยได้เลยค่ะ
ตัวอย่างอัตราส่วนในการทำเมนูต่างๆ
• ซอส 1: น้ำ 2 สำหรับเมนูบะหมี่เย็น น้ำจิ้มเทมปุระ หรือซอสราดหน้าข้าว (ดงบุริ)
• ซอส 1: น้ำ 4-5 สำหรับเมนูประเภทต้ม เช่น หัวปลาต้มซีอิ๊วแบบญี่ปุ่น
• ซอส 1: น้ำ 5-6 สำหรับเมนูบะหมี่ร้อน
• ซอส 1: น้ำ 7-9 สำหรับเมนูหม้อไฟหรือโอเด้ง
*หมายเหตุ: เพื่อให้ได้รสชาติในแบบที่ชอบ สามารถปรับเปลี่ยนอัตราส่วนได้ตามต้องการค่ะ
เส้นเหนียวนุ่ม ซุปเข้มข้น อร่อยเหมือนทานที่ร้าน
ข้าวญี่ปุ่นจากเมืองฮอกไกโด เมืองแห่งความอุดมสมบูรณ์
ชวนคุณมาชิมข้าวญี่ปุ่นแท้ๆ ปลูกที่เมืองฮอกไกโด เมืองที่ธรรมชาติสวยงาม น้ำใสสะอาด ข้าวที่ได้มีรสชาติหวาน นุ่ม เหนียว เคี้ยวเพลิน เหมาะกับทำอาหารญี่ปุ่นอย่างเมนูข้าวซูชิ ข้าวปั้นโอนิกิริ มาลองชิมความแตกต่างของรสชาติข้าวญี่ปุ่นแท้ๆ กันค่ะ หากสนใจทำเมนูข้าวซูชิ เรามีน้ำส้มปรุงรสข้าว และสาหร่ายสำหรับห่อข้าว ขายด้วยนะคะ
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบา ๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำเวลาหุงข้าวจะนุ่มไม่กระด้าง
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆ คนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
1. เก็บในที่แห้งและเย็น
2. ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
3. หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
1. คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
2. ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
3. ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์
ชาเขียวเซนฉะชนิดชงได้ทั้งร้อนและเย็น ถูกใจสำหรับคนรักชา
เส้นเหนียวนุ่ม ซุปเข้มข้น อร่อยเหมือนทานที่ร้าน
เส้นเหนียวนุ่ม น้ำซุปเข้มข้น อร่อยเหมือนทานที่ร้าน
คิริโมจิเหนียวนุ่มหนึบหนับ อร่อยแบบต้นตำรับญี่ปุ่น
เจลลี่ใสผสมเนื้อส้ม อร่อย สดชื่น
เจลลี่เนื้อเนียนใส ชุ่มฉ่ำ รสส้มมิคัง ผสมผสานความอร่อยของน้ำส้มและเนื้อส้มมิคังชิ้นใหญ่จุใจ รสชาติเปรี้ยวอมหวาน หอมกลิ่นผลไม้ สดชื่น ทานง่าย ทั้งอร่อยและได้ประโยชน์จากเนื้อผลไม้แบบเต็มๆ
ส้มมิคัง หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ส้มหวานญี่ปุ่น" เป็นผลไม้ยอดนิยมจากแดนอาทิตย์อุทัย ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติหวานฉ่ำ เนื้อสัมผัสชุ่มฉ่ำ ไร้เมล็ด ทานง่าย และอุดมไปด้วยสารอาหารและประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ดังนี้
1. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: ส้มมิคังอุดมไปด้วยวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
2. ต้านอนุมูลอิสระ: ส้มมิคังมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น เบต้าแคโรทีน ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ป้องกันเซลล์ถูกทำลาย
3. ดีต่อระบบย่อยอาหาร: ส้มมิคังมีใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
4. บำรุงผิวพรรณ: วิตามินซีในส้มมิคังช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ชะลอริ้วรอย และช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์
5. บำรุงสายตา: ส้มมิคังมีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสายตา
6. บำรุงกระดูก: ส้มมิคังมีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
7. บำรุงระบบประสาท: ส้มมิคังมีวิตามินบีรวม ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง
8. ลดความดันโลหิต: โพแทสเซียมในส้มมิคังช่วยลดความดันโลหิต เหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
9. ป้องกันนิ่วในไต: ใยอาหารในส้มมิคังช่วยชะล้างของเสียในไต ป้องกันการเกิดนิ่วในไต
10. เพิ่มพลังงาน: ส้มมิคังมีน้ำตาลธรรมชาติ ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย คลายความอ่อนเพลีย
11. ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ: ส้มมิคังมีโพแทสเซียมสูง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
12. ป้องกันโรคโลหิตจาง: ส้มมิคังมีธาตุเหล็กสูง ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
สัมผัสประสบการณ์ชาเขียวคุณภาพพรีเมียมจากแบรนด์ ฮาราดะ (Harada) ที่คัดสรรผงมัทฉะบริสุทธิ์ 100% มาจากแหล่งปลูกชาชั้นเลิศในจังหวัด ชิซูโอกะ (Shizuoka) ประเทศญี่ปุ่น ผงมัทฉะ นี้จะมอบรสชาติที่เข้มข้น มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และสามารถใช้งานได้หลากหลายในทุกเมนู
ความโดดเด่นของมัทฉะจากชิซูโอกะ
แหล่งกำเนิดคุณภาพสูง: จังหวัดชิซูโอกะตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟฟูจิ ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุสำคัญ มีสภาพอากาศที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการปลูกชาเขียว จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น "สวรรค์แห่งชา"
ผงชาเขียวแท้ 100%: ผลิตจากใบชาเขียวคุณภาพดี โดยไม่มีการผสมสารแต่งกลิ่น สี หรือน้ำตาลใดๆ ทำให้คุณได้รับรสชาติและกลิ่นหอมของชาเขียวแท้แบบเต็มที่
รสชาติเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์: ด้วยคุณภาพของใบชาที่คัดเลือกมาอย่างดี มัทฉะนี้จึงมีรสชาติ อูมามิ (Umami) ที่เข้มข้นอย่างสมดุล ไม่ขมจนเกินไป และมีกลิ่นหอมสดชื่น
มัทฉะเพื่อไลฟ์สไตล์ที่ดี
มัทฉะ ถือเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมทั่วโลก เพราะนอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง
สารต้านอนุมูลอิสระสูง: มัทฉะเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ที่ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกาย
ช่วยเพิ่มความสดชื่นและมีสมาธิ: มีสารคาเฟอีนและ L-Theanine ทำงานร่วมกัน ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีสมาธิ แต่ให้ความรู้สึกสงบ
ใช้งานได้หลากหลาย: สามารถนำไปทำเครื่องดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น เช่น มัทฉะลาเต้, สมูทตี้ รวมถึงใช้เป็นส่วนผสมสำคัญในการทำเบเกอรี่ ขนมหวาน และไอศกรีม
วิธีการเตรียมมัทฉะเบื้องต้น
1. ใช้ผงมัทฉะประมาณ 1-2 กรัม (ประมาณ 1 ช้อนชา) ลงในถ้วย
2. เติมน้ำร้อน (อุณหภูมิประมาณ 80 องศาเซลเซียส) 60-70 มล.
3. ใช้ไม้ตีชา (Chasen) หรืออุปกรณ์สำหรับตีชา คนหรือตีให้เกิดฟองละเอียดจนผงมัทฉะละลายเข้ากันดี
4. สามารถเติมน้ำร้อนเพิ่ม หรือผสมนมเพื่อทำมัทฉะลาเต้ได้ตามความชอบ
ผงมัทฉะ จากแบรนด์ ฮาราดะ (Harada) จึงเป็นตัวเลือกที่มั่นใจได้ มอบ มัทฉะแท้ ที่มีคุณภาพและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
ทสึยุสูตรเข้มข้น อร่อย กลมกล่อมยิ่งขึ้น
สัมผัสรสชาติ ชาเขียว มัทฉะ พรีเมี่ยม ที่ให้ความหอมสดชื่นอูมามิแบบต้นตำรับญี่ปุ่น
ชาเขียวมัทฉะ จากเมืองนิชิโอะ ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นหนึ่งในชาเขียวคุณภาพสูงของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในรูปแบบชาเขียวมัทฉะ ซึ่งเมืองนี้มีชื่อเสียงด้านการผลิตมัทฉะเกรดพรีเมี่ยม เพราะใช้วิธีการร่มเงาก่อนเก็บเกี่ยว 3-4 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มปริมาณคลอโรฟิลล์ ทำให้ได้ใบชาสีเขียวสด และ ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ คาเทชิน และ แอล-ธีอะนีน ซึ่งช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและกระตุ้นสมาธิ และ ยังมีรสชาติหอมละมุน ละลายง่าย ไม่ขมฝาด หวานธรรมชาติ และ อูมามิแบบญี่ปุ่นแท้ๆ คนรักมัทฉะไม่ควนพลาด!!!
เหมาะสำหรับ
• ชงดื่มแบบร้อน-เย็น มัทฉะลาเต้ / โกจิฉะ / ชาเขียวสด
• ใช้ทำขนม เช่น ไดฟุกุ ไอศกรีม ชีสเค้ก มาการอง
• ใช้ในพิธีชงชาแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม
วิธีชงแบบดั้งเดิม (Usucha – ชาเข้มข้นแบบบาง)
• ตัก มัทฉะ 1-2 กรัม (ประมาณ ½ - 1 ช้อนชา) ลงในถ้วย
• เติม น้ำร้อน 70-80°C ประมาณ 70-100 มล.
• ใช้ แปรงไม้ไผ่ (Chasen) ตีเป็นรูปตัว M หรือ W จนเกิดฟองเนียนนุ่ม
• พร้อมดื่มทันที! ได้รสชาติหอมละมุน อูมามิเต็มคำ
วิธีชงมัทฉะลาเต้ (ร้อน / เย็น)
• ตัก มัทฉะ 2 กรัม (1 ช้อนชา) ลงในแก้ว
• เติม น้ำร้อน 50 มล. คนให้ละลาย
• เติม นมสดหรือนมทางเลือก 150-200 มล. (ร้อนหรือเย็น)
• เติมน้ำแข็ง (ถ้าชงแบบเย็น) และเพิ่มความหวานตามชอบ
✨ เคล็ดลับ: ใช้น้ำร้อน 70-80°C หลีกเลี่ยงน้ำเดือดเกินไปเพื่อคงความหวานและอูมามิของมัทฉะ
ประโยชน์ของมัทฉะ
• ช่วยเพิ่มพลังงาน: มัทฉะมีสาร L-theanine ซึ่งช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายแ ต่ยังคงความกระปรี้กระเปร่า
• ช่วยเผาผลาญไขมัน: มัทฉะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย
• บำรุงผิวพรรณ: สารต้านอนุมูลอิสระในมัทฉะช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์
• ช่วยลดคอเลสเตอรอล: ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด