ชาเขียวคุณภาพพรีเมี่ยมจากเมืองชิซึโอกะ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น "สวรรค์แห่งชา"
จังหวัดชิซึโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ถือว่าเป็นแหล่งปลูกชาเขียวชั้นดี เนื่องจากเป็นดินที่อยู่ใกล้ภูเขาไฟฟูจิ จึงมีความอุดมสมบูรณ์อุดมด้วยแร่ธาตุสำคัญ จนได้รับสมมญานามว่าเป็น "สวรรค์แห่งชา" ทางแบรนด์ได้คัดเลือกแต่ชาเขียวต้นฤดูเพื่อให้ได้ประโยชน์ และกลิ่นหอมสูงสุด เมื่อนำไปทำเครื่องดื่ม ขนม ไอศครีม จะได้รับกลิ่นชาเขียวชัดเจน รสชาติเข้มข้น เกรดเดียวกับร้านอาหารและเครื่องดื่มระดับพรีเมี่ยมใช้ค่ะ
พลาดไม่ได้เลยจริงๆสำหรับชีสเลิฟเวอร์กับซอสสเต๊กสูตรนี้ จากเบลฟู้ด
อร่อยกับสเต็กซอสรสชีส จากเบลฟู้ด ที่จะให้คุณได้ลิ้มรสความนัวจากชีส ที่เข้ากันได้ดีสุดๆกับสเต็กจานโปรดของคุณ ไม่ว่าจะใช้เป็นซอสทานกับเฟรนช์ฟรายส์ หรือเมนูทอดอื่นๆก็ยังได้ แค่นึกถึงความหอมและความหนุบหนับของชีสแสนอร่อย ก็ชวนให้ท้องร้องแล้ว~
ชีสสติ๊กยืดๆ อร่อยเพลินเกินต้าน
มอสซาเรลลาชีสคุณภาพดีนำมาคลุกเกล็ดขนมปังกรุบกรอบ เพียงทอดไม่กี่นาทีก็พร้อมเสิร์ฟ ให้คุณได้ฟินกับความกรอบอร่อยพร้อมชีสยืดๆ เยิ้มๆ หอมๆ ด้านใน ติดใจแน่นอนค่ะ
วิธีรับประทาน
• นำชีสสติ๊กลงทอดในน้ำมันปริมาณมากที่ไฟปานกลางหรืออุณหภูมิประมาณ 170-175 องศาเซลเซียส จนเป็นสีเหลืองทอง จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลยค่ะ
• แนะนำให้นำออกมาทอดตามปริมาณที่ต้องการรับประทานในแต่ละครั้ง และเก็บส่วนที่เหลือในช่องแช่แข็งเพื่อคงคุณภาพของสินค้า
• ไม่แนะนำให้นำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
ชีสบอลแสนอร่อย หอมกลิ่นพิซซ่า
เอาใจคนรักชีสด้วยชีสบอลแสนอร่อย ให้คุณเพลิดเพลินกับชีสยืดๆ เยิ้มๆ ที่มาพร้อมกลิ่นพิซซ่าหอมๆ ตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี ชิ้นเดียวไม่เคยพอ
วิธีรับประทาน
• นำชีสบอลลงทอดในน้ำมันปริมาณมากที่ไฟปานกลางหรืออุณหภูมิประมาณ 170-175 องศาเซลเซียส จนเป็นสีเหลืองทอง จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลยค่ะ
• แนะนำให้นำออกมาทอดตามปริมาณที่ต้องการรับประทานในแต่ละครั้ง และเก็บส่วนที่เหลือในช่องแช่แข็งเพื่อคงคุณภาพของสินค้า
• ไม่แนะนำให้นำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
สเต็กไก่ทอดกรุบกรอบ สอดไส้ชีสหอมกรุ่น
สำหรับใครที่มองหาอาหารพร้อมทานไว้เติมสต็อกช่องแช่แข็งที่บ้าน เราขอแนะนำสเต็กไก่ทอดสอดไส้ชีสเยิ้มๆ หอมกรุ่นให้คุณได้ลิ้มลอง มั่นใจในความอร่อยด้วยเนื้อไก่คุณภาพดีคัดสรรจากโรงงานที่ได้มาตรฐานส่งออก นำมาสอดไส้ชีสเค็มๆ มันๆ แล้วคลุกกับเกล็ดขนมปังด้านนอก เพียงทอดไม่กี่นาทีก็พร้อมเสิร์ฟ ราดด้วยซอสทงคัตสึอีกนิด รับประทานคู่กับผักสลัดและข้าวสวยร้อนๆ แค่นี้ก็ได้เมนูเด็ดประจำบ้านเพิ่มแล้วค่ะ
วิธีรับประทาน
• นำสเต๊กลงทอดในน้ำมันปริมาณมากที่ไฟปานกลางหรืออุณหภูมิประมาณ 170-175 องศาเซลเซียส จนเป็นสีเหลืองทองทั้งสองด้าน จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลยค่ะ
• แนะนำให้นำออกมาทอดตามปริมาณที่ต้องการรับประทานในแต่ละครั้ง และเก็บส่วนที่เหลือในช่องแช่แข็งเพื่อคงคุณภาพของสินค้า
• ไม่แนะนำให้นำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพลดลง
น้ำซุปเข้มข้น หอมมัน อร่อยจนหยดสุดท้าย!!
ฟินกับเมนูราเมงได้ง่ายๆที่บ้าน ด้วยน้ำซุปทงคตสึนำเข้าจากญี่ปุ่นแท้ๆ จากแบรนด์ Bellfoods เพียงผสมน้ำซุปเข้มข้นเข้ากับน้ำร้อนแล้วใส่เส้นและเครื่องเคียงที่ชอบลงไป ราเมงแสนอร่อยก็พร้อมเสิร์ฟ ให้คุณเต็มอิ่มกับน้ำซุปเข้มข้นหอมกรุ่นที่เคี่ยวจากกระดูกหมูเป็นระยะเวลานาน พร้อมรสอูมามิจากกระเทียมและขิงผัด เข้ากันได้ดีกับเส้นทุกแบบ
วิธีรับประทาน
• ผสมน้ำซุป 1 ซอง กับน้ำร้อน 300 มล. คนให้เข้ากัน ใส่เส้นราเมงและเครื่องเคียงตามชอบ
• หากต้องการรสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้น สามารถลดปริมาณน้ำร้อนลงได้ตามต้องการ
น้ำซุปเข้มข้น หอมมัน อร่อยจนหยดสุดท้าย!!
ฟินกับเมนูราเมงได้ง่ายๆที่บ้าน ด้วยน้ำซุปทงคตสึโชยุนำเข้าจากญี่ปุ่นแท้ๆ จากแบรนด์ Bellfoods เพียงผสมน้ำซุปเข้มข้นเข้ากับน้ำร้อนแล้วใส่เส้นพร้อมครื่องเคียงที่ชอบลงไป ราเมงแสนอร่อยก็พร้อมเสิร์ฟ ให้คุณเต็มอิ่มกับน้ำซุปเข้มข้นหอมกรุ่นที่เคี่ยวจากกระดูกหมู ไก่ และสาหร่ายทะเล พร้อมปรุงรสด้วยโชยุฮอนโจโซ (Honjozo Shoyu) ที่ผ่านกระบวนการต้มแบบดั้งเดิมจึงทำให้รสชาติกลมกล่อม เค็มๆ มันๆ เต็มรสอูมามิ เข้ากันได้ดีกับเส้นทุกแบบ
วิธีรับประทาน
• ผสมน้ำซุป 1 ซอง กับน้ำร้อน 300 มล. คนให้เข้ากัน ใส่เส้นราเมงและเครื่องเคียงตามชอบ
• หากต้องการรสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้น สามารถลดปริมาณน้ำร้อนลงได้ตามต้องการ
น้ำซุปเข้มข้น ซัปโปโรโชยุราเมง อร่อย กลมกลม ในแบบของญี่ปุ่นแท้ๆ
ฟินกับเมนูราเมงได้ง่ายๆที่บ้าน ด้วยซุปซัปโปโรโชยุราเมง รสชาติอันเข้มข้นที่ได้จากโชยุหมักแบบธรรมชาติ ผสานกับกลิ่นหอมของผักเครื่องเทศที่ผัดจนหอมกรุ่น จากแบรนด์ Bellfoods เพียงผสมน้ำซุปเข้มข้นเข้ากับน้ำร้อนแล้วใส่เส้นพร้อมกับเครื่องเคียงที่ชอบลงไป เพียงเท่านี้ราเมงแสนอร่อยก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
วิธีรับประทาน
• ผสมน้ำซุป 1 ซอง กับน้ำร้อน 300 มล. คนให้เข้ากัน ใส่เส้นราเมงและเครื่องเคียงตามชอบ
• หากต้องการรสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้น สามารถลดปริมาณน้ำร้อนลงได้ตามต้องการ
น้ำซุปเข้มข้น ซัปโปโรมิโซะราเมง อร่อย กลมกลม ในแบบของญี่ปุ่นแท้ๆ
ฟินกับเมนูราเมงได้ง่ายๆที่บ้าน ด้วยซุปซัปโปโรมิโซะราเมง รสชาติอูมามิของมิโซะผสานกับกลิ่นหอมของผักเครื่องเทศที่ผัดจนหอมกรุ่น จากแบรนด์ Bellfoods เพียงผสมน้ำซุปเข้มข้นเข้ากับน้ำร้อนแล้วใส่เส้นพร้อมกับเครื่องเคียงที่ชอบลงไป เพียงเท่านี้ราเมงแสนอร่อยก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
วิธีรับประทาน
• ผสมน้ำซุป 1 ซอง กับน้ำร้อน 300 มล. คนให้เข้ากัน ใส่เส้นราเมงและเครื่องเคียงตามชอบ
• หากต้องการรสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้น สามารถลดปริมาณน้ำร้อนลงได้ตามต้องการ
หม้อไฟสไตล์ฮากาตะ อาหารขึ้นชื่อของเมืองฟุกุโอกะ
ซุปทงคตสึกลมกล่อม เข้มข้น อร่อยจนหยดสุดท้าย!
น้ำซุปทงคตสึสูตรพิเศษเคี่ยวจากกระดูกหมูเข้มข้นเต็มรสชาติ ส่งตรงจากญี่ปุ่นให้คุณทำเมนูทงคตสึแสนอร่อยแบบง่ายๆ ไม่ต้องปรุงเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นราเมน, ซุปหม้อไฟ หรือนำไปผัดเมนูต่างๆ ก็อร่อยกลมกล่อมตามแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ ค่ะ
อัตราส่วนที่แนะนำ
• สำหรับเมนูราเมน – ซุปเข้มข้น 1 ส่วน : น้ำ 12 ส่วน
• สำหรับเป็นน้ำซุปหม้อไฟ – ซุปเข้มข้น 1 ส่วน : น้ำ 12 ส่วน
• สำหรับเมนูผัด – ใช้ 10% ของน้ำหนักวัตถุดิบ
พบกับ 1 ใน 3 ของเส้นอุด้งที่อร่อยที่สุดของญี่ปุ่น!!
Sanuki Udon ของจังหวัดคากาว่า ถือเป็นสุดยอมเมนูอุด้งที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น และได้รับความนิยมไปทั่วโลก ความพิเศษของเมนูวัดกันที่ความอร่อยของเส้นค่ะ
ซุปมิโซะขาว อร่อยกลมกล่อม หอมสดชื่น
ราเมนเส้นสด เหนียวหนึบ สูตรต้นตำหรับจากญี่ปุ่น แบบเดียวกับที่ใช้ตามร้านราเมนชื่อดัง
ราเมนเส้นสดที่ใช้กรรมวิธีผลิตแบบพิเศษที่ทำให้เส้นมีความสด เส้นที่ได้เหนียวนุ่ม อร่อย ให้คุณได้ลิ้มรสชาติของเส้นราเมนแท้ๆ
เหมาะสำหรับเมนูราเมนร้อน บะหมี่เย็น และยากิโซบะ หากคุณเป็นคนชอบทานราเมน ขอแนะนำเลยค่ะ
วิธีเตรียมเส้น
ต้มน้ำให้เดือด สางเส้นไม่ให้ติดกันก่อนลวก
*ไม่ควรนำเส้นไปล้างหรือจุ่มน้ำเพื่อล้างแป้งก่อนลวก เพราะจะทำให้เส้นติดกัน
- เมนูราเมน ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 2-3 นาที
- เมนูบะหมี่เย็น ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 2:45-3:15 นาที แล้วนำเส้นไปจุ่มในนำเย็นก่อนเสิร์ฟ
- เมนูยากิโซบะ ใช้เวลาลวกเส้นประมาณ 1:30-1:45 นาที
เปิดประสบการณ์รสชาติของข้าวญี่ปุ่นแท้ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น "ราชาแห่งข้าว" ของประเทศญี่ปุ่น ด้วยคุณภาพที่โดดเด่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ
ข้าวชิ้นนี้คือ ข้าวโคชิฮิคาริ (Koshihikari) ซึ่งเป็นข้าวพันธุ์ยอดนิยมและมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าวที่มาจากจังหวัด นีงาตะ (Niigata) ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงด้านคุณภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น จังหวัดนีงาตะได้รับพรจากสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปลูกข้าวชั้นดี เช่น ดินที่อุดมสมบูรณ์จากตะกอนแม่น้ำสำคัญอย่างแม่น้ำชินาโนะ (Shinano River) และแม่น้ำอะงาโนะ (Agano River) รวมถึงมีน้ำบริสุทธิ์จากหิมะที่ละลาย (Snowmelt Water) และที่สำคัญคือ ความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืน ที่สูง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาความหวานและรสชาติของข้าว
ข้าวโคชิฮิคาริสายพันธุ์นีงาตะมีจุดเด่นหลัก ๆ ที่ทำให้เป็นที่รักของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน
ความเหนียวและหนึบ (Stickiness): มีสัมผัสที่ เหนียวหนึบ (Mochimochi) และยืดหยุ่นกำลังดี ไม่แข็งกระด้าง
ความหวานและอูมามิ (Sweetness & Umami): มีรสหวานตามธรรมชาติที่ชัดเจน และมีรส อูมามิ (Umami) ที่เข้มข้นในทุกเม็ด
กลิ่นหอมและเงางาม: เมื่อหุงสุกแล้วจะมี กลิ่นหอมที่ละมุน และเมล็ดข้าวจะมีความ เงางามเป็นประกาย น่ารับประทาน
ด้วยรสชาติที่โดดเด่นและสมดุล ทำให้ข้าวโคชิฮิคาริจากนีงาตะอร่อยมากแม้ว่าจะทานเปล่า ๆ โดยไม่ต้องมีกับข้าวค่ะ นอกจากนี้ยังรักษาความอร่อยไว้ได้ดีแม้จะเย็นลง จึงเหมาะมากสำหรับทำข้าวปั้น โอนิกิริ (Onigiri) หรือใส่ในกล่องข้าวเบนโตะ (Bento)
เมนูแนะนำ (Recipe Suggestion)
ข้าวโคชิฮิคาริมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่สมดุล ทำให้เข้ากันได้ดีกับอาหารหลากหลายประเภทค่ะ:
ข้าวสวย (Plain White Rice): ทานเปล่า ๆ คู่กับเครื่องเคียงง่าย ๆ อย่างซุปมิโสะ (Miso Soup) และผักดอง (Tsukemono) เพื่อสัมผัสรสชาติแท้ ๆ ของข้าว
ซูชิ (Sushi) และโอนิกิริ (Onigiri): ด้วยความเหนียวหนึบ ทำให้ปั้นได้ง่ายและคงรูปได้ดีเมื่อเย็นลง
เมนูอาหารญี่ปุ่นทั่วไป: เหมาะสำหรับทานคู่กับอาหารญี่ปุ่นแทบทุกชนิด เช่น ปลาย่าง, เทมปุระ (Tempura) หรือข้าวหน้าต่าง ๆ (Donburi)
วิธีใช้หรือวิธีเตรียม (Usage Instruction)
เพื่อให้ได้ข้าวที่อร่อยที่สุด ควรทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
1. ซาวข้าว (Rinsing): ซาวข้าวอย่างเบามือเพื่อล้างฝุ่นออก เปลี่ยนน้ำประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำเริ่มใส
2. แช่น้ำ (Soaking): แช่ข้าวในน้ำสะอาดทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ในฤดูร้อน หรือ 60 นาที ในฤดูหนาว เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำอย่างเต็มที่
3. หุง (Cooking): หุงตามอัตราส่วนน้ำที่ระบุบนเครื่องหุงข้าว หรือใช้อัตราส่วนข้าว 1 ส่วนต่อน้ำประมาณ 1.1 - 1.2 ส่วน
4. พักข้าว (Steaming): เมื่อหุงเสร็จแล้ว ห้ามเปิดฝา ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ไอน้ำระอุและข้าวสุกทั่วถึง ก่อนจะใช้ไม้พายคลุกเบา ๆ ก่อนตักเสิร์ฟค่ะ
ลองนำข้าวโคชิฮิคาริจากนีงาตะไปหุงดูสิคะ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมข้าวญี่ปุ่นแท้ ๆ ถึงมีเสน่ห์และเป็นหัวใจสำคัญของวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น ที่คุณก็สามารถสร้างสรรค์ความอร่อยนี้ได้ที่บ้านค่ะ
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Yukinkomai จากเมืองนีงาตะ เมืองแห่งข้าว
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Nanatsuboshi ข้าวที่เติบโตท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ของฮอกไกโด
นิยมปลูกมากในฮอกไกโด เมล็ดข้าวอวบ หุงแล้วขึ้นเงา มีความเหนียวปานกลาง และความหวานแบบพอดี ทำให้โดนใจชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก แม้ข้าวจะเย็นแต่ยังคงความนุ่ม หอม อร่อย สามารถทำอาหารได้หลากหลายประเภท แต่จะนิยมนำมาทำเบนโตะและซูชิ
• ลักษณะเมล็ด – เมล็ดข้าวอวบ ขาว หุงขึ้นหม้อ
• รสชาติ – มีรสหวานและยังคงอร่อยแม้จะเย็นแล้ว
• ความเหนียว – ความเหนียวกำลังดี
• เมนูที่เหมาะสม – เบนโตะ และซูชิ
• ความลับของสายพันธุ์ – ถือว่าเป็นข้าวที่มีความสมดุลระหว่างรสชาติกับเนื้อสัมผัสมากที่สุดในสายพันธุ์ข้าวฮอกไกโด เมื่อหุงจนสุกข้าวมีความขาว ความเงา ความหอม ให้รสชาตินุ่มนวล และเคี้ยวอร่อย
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบาๆประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำจนอ่อนนุ่ม
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อย ๆ คนให้น้ำระเหย
ข้าวญี่ปุ่นจากเมืองฮอกไกโด เมืองแห่งความอุดมสมบูรณ์
ชวนคุณมาชิมข้าวญี่ปุ่นแท้ๆ ปลูกที่เมืองฮอกไกโด เมืองที่ธรรมชาติสวยงาม น้ำใสสะอาด ข้าวที่ได้มีรสชาติหวาน นุ่ม เหนียว เคี้ยวเพลิน เหมาะกับทำอาหารญี่ปุ่นอย่างเมนูข้าวซูชิ ข้าวปั้นโอนิกิริ มาลองชิมความแตกต่างของรสชาติข้าวญี่ปุ่นแท้ๆ กันค่ะ หากสนใจทำเมนูข้าวซูชิ เรามีน้ำส้มปรุงรสข้าว และสาหร่ายสำหรับห่อข้าว ขายด้วยนะคะ
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบา ๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำเวลาหุงข้าวจะนุ่มไม่กระด้าง
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆ คนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
1. เก็บในที่แห้งและเย็น
2. ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
3. หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
1. คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
2. ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
3. ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์
เมล็ดถั่วแระญี่ปุ่นพร้อมทาน อาหารว่างสารพัดประโยชน์
หลายท่านคงชื่นชอบการรับประทานถั่วแระญี่ปุ่นกันใช่ไหมคะ เพราะนอกจากจะอร่อยแล้วถั่วแระญี่ปุ่นยังอุดมไปด้วยโปรตีน, แร่ธาตุ, วิตามิน, ใยอาหาร, ไขมันดี และสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย เราคัดเลือกถั่วแระญี่ปุ่นคุณภาพดีมาแกะจนเหลือแต่เมล็ด แล้วนำไปแช่แข็งอย่างรวดเร็วเพื่อรักษารสชาติ ความสดใหม่ และคงคุณค่าของสารอาหารต่างๆ ไว้ให้ได้มากที่สุด เพียงนำมาละลายหรืออุ่นด้วยไมโครเวฟไม่กี่นาทีก็พร้อมเสิร์ฟ ไม่ว่าจะรับประทานเป็นของว่าง, เครื่องเคียง, ใส่ในสลัด หรือปรุงเมนูอื่นๆ ก็อร่อยค่ะ
ทาโกะยากิสำเร็จรูป สะดวก อร่อย แบบมืออาชีพ
ทาโกะยากิสำเร็จรูปแช่แข็ง ลูกใหญ่ เนื้อแน่น น้ำหนักต่อลูกประมาณ 20 กรัม ด้านในสอดไส้ด้วยหนวดหมึกยักษ์ชิ้นใหญ่เต็มคำ เพียงนำออกมาละลายแล้วเข้าเตาไมโครเวฟ, อบในเตาอบ, ทอดในหม้อทอดไร้น้ำมัน หรือทอดบนกระทะที่ใส่น้ำมันเพียงเล็กน้อย จัดเสิร์ฟโดยโรยหน้าด้วยคัตสึโอะบุชิ (ปลาแห้งญี่ปุ่น), สาหร่ายอาโอโนริ, ราดซอสทาโกะยากิและมายองเนส เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทาน ประหยัดเวลาแบบสุดๆ ค่ะ
เพิ่มความสดชื่นแบบไร้คาเฟอีน ด้วยชาข้าวบาร์เลย์จากญี่ปุ่น
สำหรับคนที่ต้องการความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า แต่ไม่อยากรับประทานเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เราขอแนะนำมูกิฉะหรือชาข้าวบาร์เลย์ค่ะ ชาชนิดนี้แท้จริงแล้วไม่มีส่วนผสมของใบชา แต่ผลิตขึ้นจากเมล็ดข้าวบาร์เลย์ที่นำมาคั่วบดแล้วบรรจุใส่ซองชา เพื่อนำมาชงกับน้ำร้อนหรือน้ำเย็น
ฮอนมะ มอน มูกิฉะห่อนี้ โดดเด่นด้วยการใช้ข้าวบาร์เลย์ชนิดเปลือกล่อน อิจิบังโบชิ (Ichibanbochi) จากจังหวัดคางาวะ 100% จึงทำให้มีรสชาติกลมกล่อม ไม่ขมฝาดเหมือนชาอื่นๆ และมาพร้อมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ น้ำชามีสีเหลืองทอง ให้ความรู้สึกสดชื่น ชุ่มคอ ชาวญี่ปุ่นจึงนิยมดื่มมูกิฉะในฤดูร้อน เรียกได้ว่าเป็นเครื่องดื่มแก้วโปรดของทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยทีเดียวค่ะ
วิธีการชงแบบร้อน
• ต้มน้ำ 1.5 ลิตรให้เดือด ใส่ฮอนมะ มอน มูกิฉะ 1 ซอง แล้วต้มต่อไปอีกประมาณ 3-5 นาที จากนั้นยกลงจากเตา สามารถดื่มแบบร้อนหรือนำไปแช่เย็นก่อนดื่มก็ได้ค่ะ
วิธีการชงแบบเย็น
• ใส่ฮอนมะ มอน มูกิฉะ 1 ซอง ลงในน้ำเย็น 1 ลิตร แล้วนำไปแช่เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง พร้อมดื่มค่ะ
ความสดจากทะเล สู่เมนูอาหารจานเด็ดของคุณ
หอยเชลล์แช่แข็ง 2S จากโคบายาชิ เป็นตัวแทนของความสดจากทะเลสู่จานของคุณ แต่ละชิ้นมีขนาด 2S (ประมาณ 20–30 กรัมต่อชิ้น) พอดีคำ ทำให้ปรุงง่ายและทานสะดวก ทำให้ทุกเมนูดูพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นเมนูซาชิมิสดๆ ย่างเนยบนกระทะร้อน หรือผัดกับผักและซอสสไตล์ฟิวชัน หอยเชลล์ทุกชิ้นถูก แช่แข็งทันทีหลังจับจากทะเล รักษาความสดใหม่และรสชาติอร่อยตามธรรมชาติ ได้คุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมด้วยโปรตีน ไขมันต่ำ ดีต่อสุขภาพหัวใจและกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และเชฟมือโปร อยากทำอาหารญี่ปุ่นพรีเมียม หรือเมนูยุโรปฟิวชันก็ง่าย เพียงละลายน้ำแข็ง ปรุงรส แล้วเพลิดเพลินกับรสหวานจากทะเลได้ทันที
วิธีทาน
• ซาชิมิ: ละลายน้ำแข็ง ทานสดพร้อมซอสโชย
• ย่างเนย: โรยเกลือ พริกไทย ย่างบนกระทะร้อน ๆ
• ผัดกับผัก / พาสต้า: ใช้หอยเชลล์ผัดกับกระเทียมและผัก หรือใส่พาสต้าซีฟู้ด
• เมนูฟิวชัน: สลัดซีฟู้ด, ซุปครีมหอยเชลล์
แนะนำอาหาร
• จับคู่กับไวน์ขาว, ซอสเนยกระเทียม หรือสลัดสด
• ใช้ในอาหารญี่ปุ่น เช่น ซูชิ, ซาชิมิ, ย่างบนเตาถ่าน
• ทำเป็นอาหารฝรั่ง: พาสต้า, สตูว์, หรือสลัดซีฟู้ด
เคยลองทานถั่วเน่าญี่ปุ่น (นัตโตะ) หรือยังคะ?
หลายๆ คนที่เคยเดินทางไปญี่ปุ่น เมนูอาหารเช้าเกือบทุกโรงแรมในประเทศญี่ปุ่นต้องมีเสริ์ฟนัตโตะ (Natto) หรือถั่วเหลืองญี่ปุ่นหมัก รู้หรือไม่คะ ว่านัตโตะถือเป็นอาหารสุขภาพที่ชาวญี่ปุ่นต่างยกนิ้วให้ เพราะอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ มีวิตามินบี 12 สารต้านอนุมูลอิสระ และโปรไบโอติกที่ช่วยในการย่อย ทำให้กระเพาะและลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ทำให้นัตโตะถูกยกย่องให้เป็น Super Food
Okina Natto Fukuoka เป็นนัตโตะที่ผลิตจากเมืองฟุกุโอกะ โดยคัดเลือกถั่วเหลืองของขึ้นชื่อของเมือง นำมาหมักในกรรมวิธีดั้งเดิม จนได้นัตโตะที่มีกลิ่นเฉพาะตัว และรสชาติเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมซอสและมัสตาร์ดให้ได้ทานคู่กัน ใครที่ไม่เคยลอง อยากแนะนำให้เปิดใจค่ะ
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Yumepirika ถือเป็นพันธุ์ข้าวระดับไฮเอนด์ที่ใช้สุดยอดเทคโนโลยีการเพาะสายพันธุ์ข้าวในฮอกไกโด
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ยูเมะพิริกะ (Yumepirika) จากแบรนด์ โฮคุเรน (Hokuren) เป็นข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์พรีเมียมที่ปลูกในจังหวัดฮอกไกโด ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอากาศหนาวเย็นและดินที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ข้าวมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นข้าวเกรดสูงที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น
ลักษณะเด่นของ Yumepirika
• เมล็ดอวบอ้วน และเงางาม - เมล็ดข้าวมีขนาดปานกลางถึงใหญ่ เมื่อหุงแล้วจะเงางามและมีความหนึบที่โดดเด่น
• เนื้อนุ่มแต่ไม่เละ - ข้าวมีความเหนียวและนุ่มในระดับที่พอดี ไม่ร่วนหรือแข็งเกินไป
• รสหวานธรรมชาติ - มีรสชาติอ่อนๆ และหวานธรรมชาติ แม้ทานเปล่าๆ ก็ยังอร่อย
• กลิ่นหอมพิเศษ - มีกลิ่นหอมที่แตกต่างจากข้าวพันธุ์อื่น
• ปลูกในอากาศหนาวเย็น - อุณหภูมิที่เย็นของฮอกไกโดช่วยให้ข้าวมีคุณภาพดีขึ้นและสามารถเก็บรักษาได้นาน
รางวัลและมาตรฐานคุณภาพ
• Yumepirika ได้รับการรับรองมาตรฐาน 特A (Toku A) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของข้าวญี่ปุ่น
• เป็นข้าวที่ได้รับความนิยมในร้านอาหารระดับพรีเมียมทั่วญี่ปุ่น
• ได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลฮอกไกโดให้เป็นข้าวเกรดพรีเมียมของภูมิภาค
เมนูที่เหมาะกับ Yumepirika
เนื่องจาก Yumepirika เป็นข้าวที่มีความเหนียวนุ่มและมีรสหวานในตัว จึงเหมาะกับอาหารที่ต้องการข้าวคุณภาพสูง เช่น
• ข้าวสวย (Cooked Rice) - เมล็ดข้าวสวย เมื่อหุงสุกจะมีความเงาสวย เหมาะสำหรับทานแบบข้าวสวย
• ซูชิ (Sushi) - เมล็ดข้าวเหนียวกำลังดี จับตัวได้ง่าย ไม่แฉะเกินไป
• ข้าวปั้น (Onigiri) - รสชาติหวานธรรมชาติทำให้กินเปล่าๆ ก็อร่อย
• ข้าวญี่ปุ่นธรรมดา (Gohan) - เหมาะสำหรับทานคู่กับปลาย่างหรืออาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
• ข้าวหน้าอาหารทะเล (Kaisendon/Donburi) - ความหนึบของข้าวช่วยเสริมรสชาติของปลาดิบได้ดี
Yumepirika ถือเป็นข้าวที่ให้รสชาติที่ดีที่สุดของฮอกไกโด ถ้าคุณต้องการข้าวที่นุ่ม หอม และมีคุณภาพสูง Yumepirika คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
• ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
• ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบาๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
• กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
• ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำเวลาหุงข้าวจะนุ่มไม่กระด้าง
• หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆ คนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
• เก็บในที่แห้งและเย็น
• ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
• หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
• คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
• ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
• ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์