"แฮปปี้เทิร์น" ขนมข้าวอบกรอบ อร่อย ชิ้นเดียวไม่เคยพอ!
แฮปปี้เทิร์น ขนมเซมเบ้อบกรอบ จากแบรนด์ คาเมดะ (Kameda) ด้วยรสชาติที่กรอบอร่อย หวานๆเค็มๆ ชิ้นพอดีคำ ทำให้เคี้ยวเพลินจนหยุดไม่ได้ เป็นขนมที่นิยมสำหรับเด็กๆ และผู้ใหญ่
มัสตาร์ดญี่ปุ่นยอดนิยม เผ็ด เข้มข้น ร้อนแรง
คาราชิมัสตาร์ด (Karashi Japanese Mustard) คือมัสตาร์ดที่ชาวญี่ปุ่นนิยมใช้เพิ่มความอร่อยในเมนูต่างๆ เช่น โอเด้ง, หมี่เย็น, ทงคัตสึ หรือนัตโตะ เป็นต้น เนื้อมัสตาร์ดมีสีเหลือง รสชาติเผ็ดฉุนคล้ายวาซาบิ แตกต่างจากมัสตาร์ดทั่วไปที่เราคุ้นเคยกันที่มักจะผสมน้ำส้มสายชูหรือส่วนผสมอื่นลงไปเพื่อเจือจาง คาราชิมัสตาร์ดห่อนี้มาในรูปแบบผง เพียงผสมน้ำแล้วคนให้เข้ากันก็จะได้มัสตาร์ดสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ไว้อร่อยกับเมนูโปรดของคุณแล้วค่ะ
วิธีผสมคาราชิมัสตาร์ด (สำหรับผงมัสตาร์ด 100 กรัม)
• ผสมน้ำสะอาด 150 มล. เข้ากับผงมัสตาร์ดทีละนิด ค่อยๆ คนให้เข้ากันดีแล้วทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที ก่อนรับประทาน
• สามารถปรับปริมาณน้ำเพื่อเพิ่มหรือลดความเข้มข้นของมัสตาร์ดได้ตามต้องการ
• มัสตาร์ดที่ผสมแล้วแนะนำให้รับประทานให้หมดทันที
• หากยังไม่ใช้หรือใช้ไม่หมด ให้นำใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท เนื่องจากกลิ่นและรสชาติอาจเกิดความเปลี่ยนแปลงเมื่อสัมผัสอากาศ
• เก็บในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรง
เพิ่มรสชาติจัดจ้าน มัสตาร์ดญี่ปุ่น หลอดเดียวเอาอยู่!
มัสตาร์ดญี่ปุ่นแบบหลอด จากแบรนด์ เฮ้าฟู้ดส์ (House Foods) มีรสชาติเผ็ดร้อนฉุนจี๊ดจ๊าดคล้ายวาซาบิ แต่ทำจากเมล็ดมัสตาร์ดญี่ปุ่น (คาราชิ) บดละเอียดผสมกับน้ำและส่วนผสมอื่นๆ จนได้เนื้อครีมข้น นิยมใช้เป็นเครื่องจิ้มหรือปรุงรสอาหารญี่ปุ่นหลากหลายชนิด
อร่อยได้อย่างหลากหลาย :
• เครื่องจิ้ม - เพิ่มรสชาติให้โอเด้ง ทงคัตสึ เกี๊ยวซ่า หรือซาลาเปา
• ปรุงรส - ผสมกับซอสพอนสึ ซอสเทริยากิ หรือน้ำจิ้มเกี๊ยวซ่า เพิ่มความจัดจ้าน
• ทาบนอาหาร - ทาเนื้อสัตว์หรือปลา ก่อนย่างหรือทอด เพิ่มรสชาติให้เข้มข้น
• ทำไส้แซนวิช - ผสมกับมายองเนส ทาขนมปังเพื่อรสชาติที่แปลกใหม่
เพิ่มความจี๊ดจ๊าดให้กับเมนูอาหารของคุณด้วยนามะวาซาบิ!
นามะ วาซาบิ (Nama Wasabi) หรือวาซาบิสดแบบหลอด จากแบรนด์ เฮ้าส์ ฟู้ดส์ (House Foods) มีรสชาติฉุนจี๊ดจ๊าดที่เป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากทำจากรากวาซาบิสดที่ผ่านการบดละเอียด ซึ่งเป็นการให้รสชาติที่สดใหม่กว่าวาซาบิแห้ง
นามะ วาซาบิ นิยมใช้เป็นเครื่องจิ้มทานคู่กับซูชิ หรือปรุงรสในอาหารญี่ปุ่นอื่นๆ เช่น ซาชิมิ หรือราเมน ก็จะช่วยทำให้เมนูของคุณมีความเผ็ดร้อนจี๊ดจ๊าดมากยิ่งขึ้นค่ะ
Sansho เครื่องเทศญี่ปุ่น ที่จะชูรสชาติอาหารของคุณให้มีเสน่ห์ยิ่งขึ้น
พริกหอม หรือพริกไทยญี่ปุ่น (Sansho) จากแบรนด์ เฮ้าส์ ฟู้ดส์ (House Foods) ผลิตจากพริกไทยญี่ปุ่นแท้ 100% ทำให้ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ มีรสชาติเผ็ดร้อนเล็กน้อย และมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศที่ช่วยเสริมรสชาติของอาหาร ไม่ว่าจะใช้โรยบนปลาย่าง อาหารทะเล หรือเมนูเนื้อ ทำให้ชูรสชาติความกลมกล่อมและกลิ่นหอมที่โดดเด่นให้กับอาหารได้อย่างลงตัว
อาหารประเภทย่าง:
• นิยมโรยบนปลาไหลย่าง (Unagi) เพื่อดับกลิ่นคาวและเพิ่มรสชาติ
• ใช้กับเนื้อย่าง (Yakiniku) และไก่ย่าง (Yakitori) เพื่อเพิ่มความหอมและรสเผ็ดร้อน
อาหารประเภทเส้น:
• ใช้โรยบนบะหมี่ (Ramen) หรืออุด้ง เพื่อเพิ่มรสชาติ
อาหารประเภทอื่นๆ:
• ใช้ปรุงรสในอาหารประเภทหม้อไฟ (Nabe)
• ใช้ผสมกับเกลือเพื่อทำเป็นเกลือพริกไทยญี่ปุ่น (Sansho salt) สำหรับจิ้มอาหาร
เครื่องปรุง:
• ใช้ปรุงรสเนื้อสัตว์และปลา อาหารตุ๋น อาหารนึ่ง และเทมปุระ
• ใช้ปรุงซุปมิโซะ ซุปใส osuimono
• ใช้ปรุงอาหารต้มซีอิ๊ว ปรุงกับปลาซาร์ดีนแห้ง หรือดอง
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Koshihikari จากจังหวัดนีงาตะ
เป็นพันธุ์ข้าวที่คนญี่ปุ่นนิยมปลูกและรับประทานมากที่สุด เพราะมีรสชาตินุ่มละมุน รสหวาน และเคี้ยวหนึบ จนถูกขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า “ข้าวจากแดนสวรรค์ ” เมื่อหุงจนสุกเม็ดข้าวจะขาวเงางามคล้ายอัญมณี มีความเหนียวเล็กน้อย และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ แม้จะทิ้งไว้จนเย็นข้าวยังคงมีรสชาติดี นิยมนำมาใช้ทำเมนูซูชิ
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่านคนเบาๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำจนอ่อนนุ่ม
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆคนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
1. เก็บในที่แห้งและเย็น
2. ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
3. หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
1. คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
2. ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
3. ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Nanatsuboshi ข้าวที่เติบโตท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ของฮอกไกโด
นิยมปลูกมากในฮอกไกโด เมล็ดข้าวอวบ หุงแล้วขึ้นเงา มีความเหนียวปานกลาง และความหวานแบบพอดี ทำให้โดนใจชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก แม้ข้าวจะเย็นแต่ยังคงความนุ่ม หอม อร่อย สามารถทำอาหารได้หลากหลายประเภท แต่จะนิยมนำมาทำเบนโตะและซูชิ
• ลักษณะเมล็ด – เมล็ดข้าวอวบ ขาว หุงขึ้นหม้อ
• รสชาติ – มีรสหวานและยังคงอร่อยแม้จะเย็นแล้ว
• ความเหนียว – ความเหนียวกำลังดี
• เมนูที่เหมาะสม – เบนโตะ และซูชิ
• ความลับของสายพันธุ์ – ถือว่าเป็นข้าวที่มีความสมดุลระหว่างรสชาติกับเนื้อสัมผัสมากที่สุดในสายพันธุ์ข้าวฮอกไกโด เมื่อหุงจนสุกข้าวมีความขาว ความเงา ความหอม ให้รสชาตินุ่มนวล และเคี้ยวอร่อย
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบาๆประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำจนอ่อนนุ่ม
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อย ๆ คนให้น้ำระเหย
ชวนคุณมาชิมเซมเบ้ที่ติดอันดับขายดี ตั้งแต่ปี 1986
หากมีการจัดอันดับเซมเบ้ยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น ต้องมีชื่อ Magari Senbei จากแบรนด์ Kameda ติด 1 ใน 5 อย่างแน่นอน เพราะผลิตมาตั้งแต่ปี 1986 จนถึงปัจจุบัน ความพิเศษที่ไม่เหมือนใครตรงที่ เซมเบ้มีขนาดแผ่นบางกว่าปกติ นำมาทาโชยุสูตรลับเฉพาะ จากนั้นมาย่างแบบให้โดนไฟทั้ง 2 ด้าน จนมีกลิ่นหอม และความกรอบที่ไม่เหมือนเซมเบ้ถุงไหนๆ อีกทั้งยังมีรสชาติที่เข้มข้น ไม่แปลกใจเลยค่ะทำไมถึงขายดี
กรอบอร่อย เคี้ยวเพลิน กับเซมเบ้คุณยายสูตรดั้งเดิม
โปตะโปตะยากิ (Pota Pota Yaki) เป็นขนมเซมเบ้ของบริษัทคาเมดะ เซกะ (Kameda Seika) ที่เริ่มวางจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 1986 โดยมีรูปการ์ตูนคุณยายท่าทางใจดีเป็นสัญลักษณ์ รสชาติและเนื้อสัมผัสของขนมเซมเบ้คุณยายถูกคิดค้นขึ้นมาอย่างพิถีพิถันเพื่อคงความอร่อยเอาไว้แม้ทานซ้ำๆ เหมือนเป็นขนมที่คุณยายทำให้ทานที่บ้าน ใช้ข้าวที่มีคุณภาพดี ปรุงด้วยซอสถั่วเหลืองและน้ำตาลเข้มข้นจนมีรสหวานเค็มกลมกล่อม โดยไม่ใช้สารเคมี เนื้อสัมผัสกรุบกรอบแต่ไม่แข็งกระด้างจนเกินไป จึงเคี้ยวเพลินจนหยิบชิ้นต่อไปแบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว ในแพ็คบรรจุเป็นห่อเล็กๆ ห่อละ 2 ชิ้น ให้คุณแบ่งรับประทานหรือพกพาได้ง่ายเหมาะกับทุกคนในครอบครัวค่ะ
ชวนคุณมาลิ้มลองยากิโซบะรูปแบบใหม่ๆ อย่างยากิอุด้งห่อนี้ค่ะ
หลายๆ คนคงถูกใจในรสชาติอันเข้มข้นของบะหมี่ผัดสไตล์ญี่ปุ่นอย่างยากิโซบะกันใช่ไหมคะ แต่หากคุณเบื่อสัมผัสในแบบเดิมๆ ของเส้นโซบะ และอยากจะลองเส้นบะหมี่ที่ออกไปในทางหนานุ่มแทนบ้าง เราขอแนะนำเมนูยากิอุด้งค่ะ เมนูนี้ถือเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างซอสผัดรสชาติเข้มข้นกับเส้นอุด้งเหนียวนุ่ม หนึบหนับ ให้คุณอิ่มอร่อยได้ง่ายๆ แค่เทเส้นและซอสลงไปผัดกับเนื้อสัตว์หรือผักที่ชอบ เพียงไม่นานก็พร้อมเสิร์ฟค่ะ
วิธีอร่อยกับยากิอุด้ง (สำหรับ 1 ที่)
1. เทน้ำมันลงในกระทะเล็กน้อย พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่เนื้อสัตว์และผักลงไปผัดจนสุก
2. เทเส้นอุด้งลงไป ผัดจนเส้นเริ่มคลายตัว เทซอสที่อยู่ในซองลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. ตักใส่จาน ยากิอุด้งแสนอร่อยพร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
(หากต้องการให้เส้นนิ่มยิ่งขึ้น สามารถเติมน้ำได้เล็กน้อย)
อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช เคล็ดลับความอร่อยจากครัวญี่ปุ่น
"ชิโอะโคโช" (塩こしょう) หรือ เกลือและพริกไทยดำ เป็นเครื่องปรุงที่ขาดไม่ได้ในครัวเรือน เพราะช่วยดึงรสชาติของวัตถุดิบให้อร่อยขึ้นแบบง่ายๆ ไม่ต้องใช้เครื่องปรุงหลายชนิด อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช ไม่ได้เป็นแค่เครื่องปรุงทั่วไป แต่เป็น "ผู้ช่วยเชฟ" ที่ช่วยให้การทำอาหารง่ายขึ้น ไม่ว่าคุณจะทำเมนู เนื้อย่าง หมูทอด ไก่ย่าง บาร์บีคิว ซุป หรือแม้แต่อาหารตะวันตก ก็สามารถใช้ได้อย่างลงตัว แค่โรยเบาๆ ก็ได้รสชาติอร่อยแบบมืออาชีพ!
เมนูแนะนำ
♥ สเต๊กเนื้อพริกไทยเกลือ
วัตถุดิบ
- เนื้อสเต๊ก (ริบอาย, สันนอก หรือเนื้อที่ชอบ) 200 กรัม
- เฮ้าส์ อาจิซุเกะ ชิโอะโคโช 1 ช้อนชา
- น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
- เนย 10 กรัม
- กระเทียมฝานบาง 2-3 กลีบ
วิธีทำ:
1. โรย เฮ้าส์ อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช ให้ทั่วเนื้อทั้งสองด้าน
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอก พอร้อน ใส่เนื้อลงไปย่างให้สุกตามต้องการ
3. ใส่เนยและกระเทียมลงไปผัดให้หอม แล้วราดบนเนื้อ
4. เสิร์ฟพร้อมผักย่างหรือมันฝรั่งทอด
♥ ข้าวผัดญี่ปุ่น (ชิโอะยากิเมชิ)
วัตถุดิบ:
- ข้าวสวย 1 ถ้วย
- หมูสับ หรือไก่สับ 50 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- เฮ้าส์ อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช 1 ช้อนชา
- ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ:
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ผัดหมูสับจนสุก
2. ตอกไข่ลงไป คนให้เข้ากันแล้วใส่ข้าวสวย
3. โรย เฮ้าส์ อาจิทสึเกะ ชิโอะโคโช ผัดให้เข้ากัน
4. โรยต้นหอมซอย แล้วตักเสิร์ฟ
เมนูไหนก็อร่อยขึ้น แค่มีติดครัวไว้! ☺️
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Yumepirika ถือเป็นพันธุ์ข้าวระดับไฮเอนด์ที่ใช้สุดยอดเทคโนโลยีการเพาะสายพันธุ์ข้าวในฮอกไกโด
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ยูเมะพิริกะ (Yumepirika) จากแบรนด์ โฮคุเรน (Hokuren) เป็นข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์พรีเมียมที่ปลูกในจังหวัดฮอกไกโด ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอากาศหนาวเย็นและดินที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ข้าวมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นข้าวเกรดสูงที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น
ลักษณะเด่นของ Yumepirika
• เมล็ดอวบอ้วน และเงางาม - เมล็ดข้าวมีขนาดปานกลางถึงใหญ่ เมื่อหุงแล้วจะเงางามและมีความหนึบที่โดดเด่น
• เนื้อนุ่มแต่ไม่เละ - ข้าวมีความเหนียวและนุ่มในระดับที่พอดี ไม่ร่วนหรือแข็งเกินไป
• รสหวานธรรมชาติ - มีรสชาติอ่อนๆ และหวานธรรมชาติ แม้ทานเปล่าๆ ก็ยังอร่อย
• กลิ่นหอมพิเศษ - มีกลิ่นหอมที่แตกต่างจากข้าวพันธุ์อื่น
• ปลูกในอากาศหนาวเย็น - อุณหภูมิที่เย็นของฮอกไกโดช่วยให้ข้าวมีคุณภาพดีขึ้นและสามารถเก็บรักษาได้นาน
รางวัลและมาตรฐานคุณภาพ
• Yumepirika ได้รับการรับรองมาตรฐาน 特A (Toku A) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของข้าวญี่ปุ่น
• เป็นข้าวที่ได้รับความนิยมในร้านอาหารระดับพรีเมียมทั่วญี่ปุ่น
• ได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลฮอกไกโดให้เป็นข้าวเกรดพรีเมียมของภูมิภาค
เมนูที่เหมาะกับ Yumepirika
เนื่องจาก Yumepirika เป็นข้าวที่มีความเหนียวนุ่มและมีรสหวานในตัว จึงเหมาะกับอาหารที่ต้องการข้าวคุณภาพสูง เช่น
• ข้าวสวย (Cooked Rice) - เมล็ดข้าวสวย เมื่อหุงสุกจะมีความเงาสวย เหมาะสำหรับทานแบบข้าวสวย
• ซูชิ (Sushi) - เมล็ดข้าวเหนียวกำลังดี จับตัวได้ง่าย ไม่แฉะเกินไป
• ข้าวปั้น (Onigiri) - รสชาติหวานธรรมชาติทำให้กินเปล่าๆ ก็อร่อย
• ข้าวญี่ปุ่นธรรมดา (Gohan) - เหมาะสำหรับทานคู่กับปลาย่างหรืออาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
• ข้าวหน้าอาหารทะเล (Kaisendon/Donburi) - ความหนึบของข้าวช่วยเสริมรสชาติของปลาดิบได้ดี
Yumepirika ถือเป็นข้าวที่ให้รสชาติที่ดีที่สุดของฮอกไกโด ถ้าคุณต้องการข้าวที่นุ่ม หอม และมีคุณภาพสูง Yumepirika คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
• ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
• ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบาๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
• กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
• ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำเวลาหุงข้าวจะนุ่มไม่กระด้าง
• หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆ คนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
• เก็บในที่แห้งและเย็น
• ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
• หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
• คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
• ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
• ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์