คราฟ มิโซะ ทำเมนูไหนก็อร่อยยย!
คราฟ มิโซะ นามะ โคจิ จากแบรนด์ Hikari ตัวมิโซะทำจากข้าวบาร์เลย์ออร์แกนิก และถั่วเหลืองออร์แกนิก มีรสชาติหวานกลมกล่อมและมีกลิ่นหอมของบาร์เลย์ ไม่ว่าจะประยุกต์ใช้กับเมนูไหนก็อร่อยอย่างลงตัวค่ะ
อร่อยง่ายๆ กับเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่น
ผักกาดดองต้มสุกปรุงรสแบบต้นตำรับญี่ปุ่น รสชาติอร่อยกลมกล่อมกำลังพอดี นิยมนำมาทำเป็นไส้ข้าวปั้นโอนิกิริ, รับประทานเป็นเครื่องเคียงคู่กับข้าวสวยหรือข้าวต้ม, เสิร์ฟเป็นกับแกล้ม หรือนำไปทำเมนูอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย สะดวกและประหยัดเวลาเพราะมาในรูปแบบปรุงสุกพร้อมทาน สามารถจัดเสิร์ฟได้ทันที
สาหร่ายฮิจิกิ ผสมถั่วเหลืองและแครอทต้มสุกปรุงรส
เป็นหนึ่งในเมนุยอดฮิตของชาวญี่ปุ่น มีเอกลักษณ์เป็นสาหร่ายสีดำโดยธรรมชาติ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทำมาผสมกับถั่วเหลือง และแครอท เหมาะสำหรับรับประทานเป็นเครื่องเคียง และยังนิยมนำมาคลุกกับข้าวปั้นโอนิกิริอีกด้วย
คำแนะนำในการเก็บรักษา
• ควรเก็บในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 0-10 องศา
• หลังจากเปิดซองแล้วหากทานไม่หมด แนะนำให้ใส่กล่องปิดให้สนิทและเก็บไว้ในตู้เย็น
• ควรรับประทานให้หมดภายใน 3 วัน หลังจากที่เปิดซอง
อร่อยง่ายๆ กับเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่น
ผักจักรพรรดิ (สลัดต้น) ปรุงรสชาติอ่อนๆ กลมกล่อมสไตล์ญี่ปุ่น ให้คุณสัมผัสความกรุบกรอบอันเป็นเอกลักษณ์ของผักจักรพรรดิที่มาพร้อมกลิ่นหอมของน้ำมันงา รับประทานเป็นเครื่องเคียงคู่กับข้าวสวยหรือข้าวต้ม เสิร์ฟเป็นกับแกล้ม หรือนำไปทำเมนูอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย สะดวกและประหยัดเวลาเพราะมาในรูปแบบปรุงสุกพร้อมทาน สามารถจัดเสิร์ฟได้ทันที
คำแนะนำในการเก็บรักษา
• ควรเก็บในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 0-10 องศา
• หลังจากเปิดซองแล้วหากทานไม่หมด แนะนำให้ใส่กล่องปิดให้สนิทและเก็บไว้ในตู้เย็น
• ควรรับประทานให้หมดภายใน 3 วัน หลังจากที่เปิดซอง
พบกับ 1 ใน 3 ของเส้นอุด้งที่อร่อยที่สุดของญี่ปุ่น!!
Sanuki Udon ของจังหวัดคากาว่า ถือเป็นสุดยอมเมนูอุด้งที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น และได้รับความนิยมไปทั่วโลก ความพิเศษของเมนูวัดกันที่ความอร่อยของเส้นค่ะ
อร่อยได้ง่ายๆ ด้วยเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่น!
สาหร่ายทะเลปรุงรสด้วยกลิ่นหอมของใบชิโซะและใบชิโสะสีเขียว สามารถใช้เป็นส่วนผสมในข้าวปั้น เป็นกับข้าวหรือโจ๊ก โรยบนสลัด หรือรับประทานเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย หรือใช้สร้างสรรค์เมนูอื่นๆ ทั้งปรุงสุกและพร้อมรับประทานได้หลากหลายวิธี ทำให้สะดวกและประหยัดเวลา พร้อมเสิร์ฟ
อร่อยง่ายๆ กับเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่น
อร่อยง่ายๆ กับเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่น
"ชูรสชาติราเมงให้อร่อยยิ่งขึ้นด้วยหน่อไม้เมนมะ"
ช่วงฤดูฝนถือเป็นช่วงที่หน่อไม้อร่อยที่สุด เพราะมีรสชาติหวาน กรอบ อวบน้ำ เราจึงได้คัดเลือกหน่อไม้ในฤดูกาลนี้นำมาต้มจนสุกและปรุงรสโชยุเข้มข้นจนเต็มไปด้วยรสชาติอูมามิในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ทำให้มีเนื้อนิ่มกรอบ ไม่เละหรือกระด้าง หอมกลิ่นน้ำมันงาและถั่วเหลือง เหมาะสำหรับเป็นเครื่องโรยหน้าอาหารในเมนูราเมง อุด้ง และบะหมี่ญี่ปุ่นแบบอื่นๆ, ใส่ในข้าวผัด, ใช้เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยหรือเป็นกับแกล้มก็อร่อยไม่แพ้กัน สะดวกและประหยัดเวลามากยิ่งขึ้นเพราะมาในรูปแบบปรุงสุกสำเร็จ ทำให้การทานหน่อไม้อร่อยๆ เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคนค่ะ
อร่อยง่ายๆ กับเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่น
ชูรสชาติราเมงให้อร่อยยิ่งขึ้นด้วยหน่อไม้เมนมะกันค่ะ
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Yukinkomai จากเมืองนีงาตะ เมืองแห่งข้าว
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Nanatsuboshi ข้าวที่เติบโตท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ของฮอกไกโด
นิยมปลูกมากในฮอกไกโด เมล็ดข้าวอวบ หุงแล้วขึ้นเงา มีความเหนียวปานกลาง และความหวานแบบพอดี ทำให้โดนใจชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก แม้ข้าวจะเย็นแต่ยังคงความนุ่ม หอม อร่อย สามารถทำอาหารได้หลากหลายประเภท แต่จะนิยมนำมาทำเบนโตะและซูชิ
• ลักษณะเมล็ด – เมล็ดข้าวอวบ ขาว หุงขึ้นหม้อ
• รสชาติ – มีรสหวานและยังคงอร่อยแม้จะเย็นแล้ว
• ความเหนียว – ความเหนียวกำลังดี
• เมนูที่เหมาะสม – เบนโตะ และซูชิ
• ความลับของสายพันธุ์ – ถือว่าเป็นข้าวที่มีความสมดุลระหว่างรสชาติกับเนื้อสัมผัสมากที่สุดในสายพันธุ์ข้าวฮอกไกโด เมื่อหุงจนสุกข้าวมีความขาว ความเงา ความหอม ให้รสชาตินุ่มนวล และเคี้ยวอร่อย
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบาๆประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำจนอ่อนนุ่ม
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อย ๆ คนให้น้ำระเหย
ข้าวญี่ปุ่นจากเมืองฮอกไกโด เมืองแห่งความอุดมสมบูรณ์
ชวนคุณมาชิมข้าวญี่ปุ่นแท้ๆ ปลูกที่เมืองฮอกไกโด เมืองที่ธรรมชาติสวยงาม น้ำใสสะอาด ข้าวที่ได้มีรสชาติหวาน นุ่ม เหนียว เคี้ยวเพลิน เหมาะกับทำอาหารญี่ปุ่นอย่างเมนูข้าวซูชิ ข้าวปั้นโอนิกิริ มาลองชิมความแตกต่างของรสชาติข้าวญี่ปุ่นแท้ๆ กันค่ะ หากสนใจทำเมนูข้าวซูชิ เรามีน้ำส้มปรุงรสข้าว และสาหร่ายสำหรับห่อข้าว ขายด้วยนะคะ
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
1. ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
2. ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบา ๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
3. กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
4. ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำเวลาหุงข้าวจะนุ่มไม่กระด้าง
5. หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆ คนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
1. เก็บในที่แห้งและเย็น
2. ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
3. หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
1. คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
2. ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
3. ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์
ขอเชิญคุณมาสัมผัส "รสชาติใหม่" ของวาซาบิ ที่แตกต่างจากวาซาบิบดแบบเดิม ๆ ค่ะ นี่คือประสบการณ์ของความเผ็ดซ่าที่มาพร้อมกับเนื้อสัมผัสกรุบกรอบในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่คุณไม่ควรพลาดเลยนะคะ
คิซามิ วาซาบิ (Kizami Wasabi) แปลตรงตัวว่า วาซาบิสับ (Chopped Wasabi) เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเอา ก้านและหัววาซาบิแท้ (Hon Wasabi) มาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ หยาบ ๆ แทนการนำไปบดละเอียดแบบที่เราคุ้นเคยกันค่ะ จากนั้นจึงนำไปปรุงรสด้วย โชยุ (Shoyu) และเครื่องปรุงอื่น ๆ ในสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อให้ได้วาซาบิที่มีรสชาติกลมกล่อม มีความเผ็ดซ่าที่ลงตัว และมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของวาซาบิแท้ Kinjirushi เป็นแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านวาซาบิที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนานในประเทศญี่ปุ่น โดยผลิตภัณฑ์ "คิซามิ วาซาบิ รสโชยุ" นี้ เป็นหนึ่งในสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างสูงและมีชื่อเสียงในเรื่องรสชาติที่เข้มข้นจัดจ้าน ทำให้สามารถนำไปใช้ร่วมกับอาหารได้หลากหลายประเภทมากขึ้น
จุดเด่นสำคัญของ คิซามิ วาซาบิ คือ เนื้อสัมผัสแบบ "กรุบกรอบ" (Shakishaki) จากชิ้นส่วนของก้านวาซาบิที่ถูกสับหยาบ ๆ ซึ่งให้ความสนุกและมิติใหม่ในการรับประทาน ไม่เหมือนวาซาบิแบบบดที่เป็นเนื้อครีม และด้วยการปรุงรสด้วยโชยุ ทำให้วาซาบิชนิดนี้มีรส อูมามิ (Umami) แทรกอยู่ จึงสามารถใช้เป็นเครื่องปรุงรสหรือเครื่องเคียงได้ทันทีโดยไม่ต้องผสมโชยุเพิ่ม ความเผ็ดซ่าของวาซาบิถูกปรุงให้อยู่ในระดับที่กำลังดี สามารถคงความเผ็ดซ่า (Tsuun) ที่ตีขึ้นจมูกได้ยาวนาน และยังให้กลิ่นหอมที่สดชื่นของวาซาบิแท้อีกด้วยค่ะ
เมนูแนะนำ (Recipe Suggestion)
1.ทานคู่กับเนื้อวัว: เหมาะสำหรับทานคู่กับสเต็กหรือเนื้อย่างวากิว (Wagyu) เพียงแค่แตะวาซาบิเล็กน้อยบนชิ้นเนื้อ ก็จะได้รสชาติที่ลงตัวและเพิ่มความหอมสดชื่น
2.สำหรับเมนูซูชิ/ซาชิมิ: ใช้แทนวาซาบิแบบบด เพื่อเพิ่มความจัดจ้านและรสสัมผัสกรุบ ๆ
3.ท็อปปิ้งอาหาร: โรยบนข้าวหน้าปลาดิบ (Chirashi-don), ข้าวหน้าเนื้อ (Gyudon), เต้าหู้เย็น (Hiyayakko), หรือไข่ตุ๋นแบบญี่ปุ่น (Chawanmushi)
วิธีใช้หรือวิธีเตรียม (Usage Instruction)
1.นำสินค้าออกมาจากช่องแช่แข็งในปริมาณที่ต้องการใช้
2.ปล่อยให้ละลายน้ำแข็งตามธรรมชาติในอุณหภูมิห้อง หรือในตู้เย็น (ใช้เวลา 10-20 นาที)
3.เมื่อละลายแล้ว สามารถเปิดซองและตักวาซาบิพร้อมปรุงรสแล้วมาใช้เป็นเครื่องเคียงได้ทันทีค่ะ
หลังเปิดซองแล้ว ควรกดซิปล็อกปิดปากถุงให้แน่น และเก็บในช่องแช่แข็งตามเดิมเพื่อรักษาคุณภาพและความสดใหม่ของวาซาบิค่ะ
***ข้อควรระวัง: ไม่ควรนำสินค้าที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งซ้ำ
ลองเพิ่ม คิซามิ วาซาบิ เข้าไปในมื้ออาหารของคุณดูสิคะ แล้วคุณจะได้เพลิดเพลินกับรสชาติและเนื้อสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์แบบญี่ปุ่นแท้ ที่จะช่วยยกระดับเมนูโปรดของคุณให้พิเศษยิ่งขึ้นได้ที่บ้านค่ะ
สนุกกับการทำโอโคโนมิยากิได้ง่ายๆ ที่บ้านคุณ
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ Yumepirika ถือเป็นพันธุ์ข้าวระดับไฮเอนด์ที่ใช้สุดยอดเทคโนโลยีการเพาะสายพันธุ์ข้าวในฮอกไกโด
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ยูเมะพิริกะ (Yumepirika) จากแบรนด์ โฮคุเรน (Hokuren) เป็นข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์พรีเมียมที่ปลูกในจังหวัดฮอกไกโด ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอากาศหนาวเย็นและดินที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ข้าวมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นข้าวเกรดสูงที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น
ลักษณะเด่นของ Yumepirika
• เมล็ดอวบอ้วน และเงางาม - เมล็ดข้าวมีขนาดปานกลางถึงใหญ่ เมื่อหุงแล้วจะเงางามและมีความหนึบที่โดดเด่น
• เนื้อนุ่มแต่ไม่เละ - ข้าวมีความเหนียวและนุ่มในระดับที่พอดี ไม่ร่วนหรือแข็งเกินไป
• รสหวานธรรมชาติ - มีรสชาติอ่อนๆ และหวานธรรมชาติ แม้ทานเปล่าๆ ก็ยังอร่อย
• กลิ่นหอมพิเศษ - มีกลิ่นหอมที่แตกต่างจากข้าวพันธุ์อื่น
• ปลูกในอากาศหนาวเย็น - อุณหภูมิที่เย็นของฮอกไกโดช่วยให้ข้าวมีคุณภาพดีขึ้นและสามารถเก็บรักษาได้นาน
รางวัลและมาตรฐานคุณภาพ
• Yumepirika ได้รับการรับรองมาตรฐาน 特A (Toku A) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของข้าวญี่ปุ่น
• เป็นข้าวที่ได้รับความนิยมในร้านอาหารระดับพรีเมียมทั่วญี่ปุ่น
• ได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลฮอกไกโดให้เป็นข้าวเกรดพรีเมียมของภูมิภาค
เมนูที่เหมาะกับ Yumepirika
เนื่องจาก Yumepirika เป็นข้าวที่มีความเหนียวนุ่มและมีรสหวานในตัว จึงเหมาะกับอาหารที่ต้องการข้าวคุณภาพสูง เช่น
• ข้าวสวย (Cooked Rice) - เมล็ดข้าวสวย เมื่อหุงสุกจะมีความเงาสวย เหมาะสำหรับทานแบบข้าวสวย
• ซูชิ (Sushi) - เมล็ดข้าวเหนียวกำลังดี จับตัวได้ง่าย ไม่แฉะเกินไป
• ข้าวปั้น (Onigiri) - รสชาติหวานธรรมชาติทำให้กินเปล่าๆ ก็อร่อย
• ข้าวญี่ปุ่นธรรมดา (Gohan) - เหมาะสำหรับทานคู่กับปลาย่างหรืออาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
• ข้าวหน้าอาหารทะเล (Kaisendon/Donburi) - ความหนึบของข้าวช่วยเสริมรสชาติของปลาดิบได้ดี
Yumepirika ถือเป็นข้าวที่ให้รสชาติที่ดีที่สุดของฮอกไกโด ถ้าคุณต้องการข้าวที่นุ่ม หอม และมีคุณภาพสูง Yumepirika คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
• ตวงข้าวให้พอเหมาะสำหรับรับประทาน
• ซาวข้าวด้วยการให้น้ำไหลผ่าน คนเบาๆ ประมาณ 30 วินาที แล้วเทน้ำออก ทำตามขั้นตอนนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำใส
• กุญแจสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่นคือน้ำ กะปริมาณน้ำให้เหมาะสม อัตราส่วนโดยประมาณอยู่ที่ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน (สามารถปรับระดับน้ำได้หากชอบทานข้าวแข็งหรือข้าวนิ่ม)
• ควรแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนหุงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำเวลาหุงข้าวจะนุ่มไม่กระด้าง
• หลังจากข้าวสุก อย่าเพิ่งเปิดฝา ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุในหม้อประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นค่อยๆ คนให้น้ำระเหย
วิธีการเก็บรักษา
• เก็บในที่แห้งและเย็น
• ระวังการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะข้าวจะแห้งแตกเนื่องจากการระเหยของน้ำในข้าว
• หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาใกล้ ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ เครื่องสำอาง และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะข้าวจะดูดซับกลิ่น
ข้อควรระวัง
• คุณภาพของข้าวจะเปลี่ยนหากโดนความชื้น
• ห้ามวางไว้ใกล้เปลวไฟ เนื่องจากติดไฟง่าย
• ห้ามวางสินค้าอื่นซ้อนทับผลิตภัณฑ์
เปิดประสบการณ์รสชาติของข้าวญี่ปุ่นแท้ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น "ราชาแห่งข้าว" ของประเทศญี่ปุ่น ด้วยคุณภาพที่โดดเด่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ
ข้าวชิ้นนี้คือ ข้าวโคชิฮิคาริ (Koshihikari) ซึ่งเป็นข้าวพันธุ์ยอดนิยมและมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าวที่มาจากจังหวัด นีงาตะ (Niigata) ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงด้านคุณภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น จังหวัดนีงาตะได้รับพรจากสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปลูกข้าวชั้นดี เช่น ดินที่อุดมสมบูรณ์จากตะกอนแม่น้ำสำคัญอย่างแม่น้ำชินาโนะ (Shinano River) และแม่น้ำอะงาโนะ (Agano River) รวมถึงมีน้ำบริสุทธิ์จากหิมะที่ละลาย (Snowmelt Water) และที่สำคัญคือ ความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืน ที่สูง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาความหวานและรสชาติของข้าว
ข้าวโคชิฮิคาริสายพันธุ์นีงาตะมีจุดเด่นหลัก ๆ ที่ทำให้เป็นที่รักของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน
ความเหนียวและหนึบ (Stickiness): มีสัมผัสที่ เหนียวหนึบ (Mochimochi) และยืดหยุ่นกำลังดี ไม่แข็งกระด้าง
ความหวานและอูมามิ (Sweetness & Umami): มีรสหวานตามธรรมชาติที่ชัดเจน และมีรส อูมามิ (Umami) ที่เข้มข้นในทุกเม็ด
กลิ่นหอมและเงางาม: เมื่อหุงสุกแล้วจะมี กลิ่นหอมที่ละมุน และเมล็ดข้าวจะมีความ เงางามเป็นประกาย น่ารับประทาน
ด้วยรสชาติที่โดดเด่นและสมดุล ทำให้ข้าวโคชิฮิคาริจากนีงาตะอร่อยมากแม้ว่าจะทานเปล่า ๆ โดยไม่ต้องมีกับข้าวค่ะ นอกจากนี้ยังรักษาความอร่อยไว้ได้ดีแม้จะเย็นลง จึงเหมาะมากสำหรับทำข้าวปั้น โอนิกิริ (Onigiri) หรือใส่ในกล่องข้าวเบนโตะ (Bento)
เมนูแนะนำ (Recipe Suggestion)
ข้าวโคชิฮิคาริมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่สมดุล ทำให้เข้ากันได้ดีกับอาหารหลากหลายประเภทค่ะ:
ข้าวสวย (Plain White Rice): ทานเปล่า ๆ คู่กับเครื่องเคียงง่าย ๆ อย่างซุปมิโสะ (Miso Soup) และผักดอง (Tsukemono) เพื่อสัมผัสรสชาติแท้ ๆ ของข้าว
ซูชิ (Sushi) และโอนิกิริ (Onigiri): ด้วยความเหนียวหนึบ ทำให้ปั้นได้ง่ายและคงรูปได้ดีเมื่อเย็นลง
เมนูอาหารญี่ปุ่นทั่วไป: เหมาะสำหรับทานคู่กับอาหารญี่ปุ่นแทบทุกชนิด เช่น ปลาย่าง, เทมปุระ (Tempura) หรือข้าวหน้าต่าง ๆ (Donburi)
วิธีใช้หรือวิธีเตรียม (Usage Instruction)
เพื่อให้ได้ข้าวที่อร่อยที่สุด ควรทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
1. ซาวข้าว (Rinsing): ซาวข้าวอย่างเบามือเพื่อล้างฝุ่นออก เปลี่ยนน้ำประมาณ 2-3 ครั้ง จนน้ำเริ่มใส
2. แช่น้ำ (Soaking): แช่ข้าวในน้ำสะอาดทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ในฤดูร้อน หรือ 60 นาที ในฤดูหนาว เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำอย่างเต็มที่
3. หุง (Cooking): หุงตามอัตราส่วนน้ำที่ระบุบนเครื่องหุงข้าว หรือใช้อัตราส่วนข้าว 1 ส่วนต่อน้ำประมาณ 1.1 - 1.2 ส่วน
4. พักข้าว (Steaming): เมื่อหุงเสร็จแล้ว ห้ามเปิดฝา ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ไอน้ำระอุและข้าวสุกทั่วถึง ก่อนจะใช้ไม้พายคลุกเบา ๆ ก่อนตักเสิร์ฟค่ะ
ลองนำข้าวโคชิฮิคาริจากนีงาตะไปหุงดูสิคะ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมข้าวญี่ปุ่นแท้ ๆ ถึงมีเสน่ห์และเป็นหัวใจสำคัญของวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น ที่คุณก็สามารถสร้างสรรค์ความอร่อยนี้ได้ที่บ้านค่ะ
คิริโมจิ เหนียวนุ่ม หนึบหนับ อร่อยในแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ!
คิริ โมจิ จากแบรนด์ ไอริส ฟู้ด (Iris Foods) เป็นโมจิที่ผ่านกระบวนการผลิตแบบอุณหภูมิต่ำ (Low Temperature Firing Method) เพื่อดึงความอร่อยของข้าวออกมา โดยใช้ข้าวเหนียวญี่ปุ่น 100% เป็นวัตถุดิบหลัก ทำให้ตัวโมจิมีเนื้อสัมผัสที่เนียน นุ่ม หนึบ! สามารถนำมาประกอบอาหารได้อย่างหลากหลาย เช่น ย่างและห่อด้วยสาหร่าย, โรยผงคินาโกะ, ต้มในซุปถั่วแดง (โอชิรุโกะ) หรือใส่ในซุปดาชิ (โอโซนิ) ถือเป็นอาหารที่นิยมรับประทานในชีวิตประจำวัน และในช่วงเทศกาลต่างๆ ของคนญี่ปุ่นค่ะ
วิธีเก็บรักษา
• หลังจากเปิดถุงแล้ว แนะนำให้ปิดถุงใหเสนิทและเก็บรักษาในตู้เย็น
พบกับ 1 ใน 3 เส้นอุด้งที่อร่อยที่สุดของญี่ปุ่น!!
Sanuki Udon (ซานุกิอุด้ง) ของจังหวัด Kagawa (คากาวะ) ถือเป็นสุดยอมเมนูอุด้งที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่นและได้รับความนิยมไปทั่วโลก
น้ำซุปดาชิถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำอาหารญี่ปุ่น
ส่วนผสมจำเป็นที่ทำให้ขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม หอม อร่อย
คินาโกะ (Kinako) ถือเป็นสารให้ความหวานแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น ผลิตจากการคั่วถั่วเหลืองคุณภาพดี และนำมาบดเป็นผง ให้รสชาติหวานอ่อนๆ หอมกลิ่นของการคั่ว และกลิ่นถั่ว คินานโกะได้ถูกใช้ในการทำอาหาร และขนมญี่ปุ่นมานานหลายศตวรรษ สามารถประยุกต์ใช้ทำขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ขนมสมัยใหม่ หรือโรยบนไอศครีมรสวนิลา หรืชาเขียวรับรองความอร่อยค่ะ
เพิ่มความกรุบกรอบให้อาหารจานโปรดของคุณอร่อยขึ้นกว่าเดิม
ข้าวโพดหวานฮอกไกโด เพิ่มความอร่อยแบบง่ายๆ ให้เมนูโปรดของคุณ
แค่มีห่อนี้การทำเมนูโปรดของคุณก็ง่ายและประหยัดเวลาขึ้นอีกเท่าตัว ผู้ผลิตเลือกใช้ข้าวโพดหวานพันธุ์ดีที่ปลูกในฮอกไกโด ซึ่งถือเป็นแหล่งปลูกข้าวโพดที่อร่อยที่สุดของญี่ปุ่น นำมาแกะเมล็ด ต้มจนสุกแล้วแช่แข็งทันทีเพื่อคงความหวานอร่อยของข้าวโพดไว้ให้ได้มากที่สุด เพียงนำออกมาละลายก็พร้อมให้คุณนำไปใส่เมนูที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น สลัด ซุปข้าวโพด ข้าวโพดทอด ส้มตำ และเมนูของหวานอร่อยๆ อย่างข้าวโพดหวานคลุกเนยฮอกไกโดที่เป็นของโปรดของเด็กๆ นอกจากจะอร่อยแล้ว ข้าวโพดยังเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ และมีไฟเบอร์สูง จึงช่วยปรับปรุงระบบการขับถ่ายให้ดีขึ้น ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ และมีส่วนช่วยบำรุงสายตาได้อีกด้วยค่ะ
แค่นำมาละลายก็พร้อมปรุงเมนูฟักทองได้ง่ายๆ ที่บ้านคุณ
HonmonoNippon นำเข้าฟักทองจากเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ นำไปต้มจนสุกแล้วแช่แข็งทันที เพื่อคงความหวาน มัน อร่อย ตามธรรมชาติของฟักทองเอาไว้ให้ได้มากที่สุด เพียงนำออกมาละลายก็พร้อมให้คุณนำไปใส่ในเมนูที่ต้องการได้เลย ไม่ว่าจะเป็น ฟักทองผัดไข่ ฟักทองนึ่งซีอิ๊วสไตล์ญี่ปุ่น สลัดฟักทอง ซุปฟักทอง หรือจะนำมาอุ่นร้อนแล้วรับประทานแบบฟักทองนึ่งก็สะดวกและอร่อย ด้วยเนื้อฟักทองที่ละเอียด แน่น และเนียนนุ่ม พร้อมคุณค่าทางโภชนาการมากมาย ไม่ว่าคุณจะเป็นสาย enjoy eating หรือสายรักสุขภาพ ก็ควรมีติดตู้เย็นไว้เลยค่ะ
ประหยัดเวลาในการทำเมนูโปรดด้วยผักรวมแช่แข็งจากฮอกไกโด
เคยไหมคะที่บางครั้งเราอยากจะทำเมนูง่ายๆ อย่างสลัดหรือข้าวผัด แต่ก็ต้องยอมแพ้ให้กับขั้นตอนของการหั่นผักเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าชิ้นเล็กๆ ที่ต้องใช้ทั้งเวลาและความปราณีต
ปัญหานี้จะหมดไปเพียงแค่เรามีผักรวมห่อนี้ติดช่องแช่แข็งเอาไว้ค่ะ ในห่อประกอบด้วยข้าวโพด แครอท และถั่วแขก ที่มาในรูปแบบหั่นเต๋าชิ้นเล็กๆ ขนาดพอดีคำ เพียงแค่นำออกมาละลายน้ำแข็งก็พร้อมนำไปใช้ประกอบอาหารได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น สลัด ข้าวผัด สตูว์ แกงกะหรี่ หรือผัดกับเนยแล้วใส่เกลือเล็กน้อยเพื่อทำเป็นเครื่องเคียง ก็สะดวก อร่อย ประหยัดเวลาแถมยังได้รสชาติใกล้เคียงกับผักสดใหม่ เพราะเราใช้วัตถุดิบคุณภาพดีที่ปลูกในเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น นำมาหั่น ต้มจนสุก และทำการแช่แข็งทันที เพื่อคงความกรอบและความหวานของผักให้คงอยู่จนถึงมือคุณค่ะ
ยกระดับรสชาติให้กับเมนูของคุณด้วย ไข่ปลาเมนไทโกะ
เมนไทโกะ (Mentaiko) คือไข่ของปลาคอด หรือชื่อในภาษาญี่ปุ่นคือปลาทาระ (Tara) มีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ สีส้มอัดติดกันเป็นก้อน เมนไทโกะมักจะนิยมนำไปหมักกับพริกเพื่อปรุงรสเผ็ด และเป็นวัตถุดิบที่นิยมใช้ในอาหารญี่ปุ่น เช่น ซูชิ บะหมี่ และอาหารประเภทข้าว หรือเมนูสุดฮิตอีกหนึ่งอย่างก็คือพาสต้าครีมเมนไทโกะ
โซบะชาเขียว 1 ใน เมนูขึ้นชื่อของญี่ปุ่น
หากคุณเป็นคนชอบทานเส้นเล็กแบบโซเมน แต่อยากได้ความเหนียว นุ่มแบบเส้นอุด้ง ขอแนะนำเส้นฮิยามุกิค่ะ!!
หนึ่งในอาหารแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น
หมึกร้าญี่ปุ่น หรือ Ika Shiokara ทำจากหมึกคุณภาพดี นำมาหั่นเป็นชิ้นบางๆ หมักด้วยเกลือ และข้าวสาลี ใส่ในภาชนะปิดสนิทอย่างน้อย 1 เดือนขึ้นไป รสชาติออกเค็มๆ หนึบๆ เหมาะกับทานเป็นกับแกล้ม ถือเป็นเมนูที่ต้องมีติดไว้ในร้านญี่ปุ่นสไตล์ Izakaya
แฟนตาซี ปูอัด อร่อยง่ายๆได้หลากหลายเมนู
ปูอัด จากแบรนด์ คิบุน (Kibun) เป็นปูอัดรสชาติต้นตำรับสไตล์ญี่ปุ่น ผลิตจากเนื้อปลาบด ไขมันต่ำ ให้พลังงานสูง สามารถประยุกต์ทานได้อย่างหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะรับประทานกับโชยุและวาซาบิแบบญี่ปุ่น หรือจับคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บก็อร่อยลงตัว นอกจากนี้ยังสามารถนำไปทำสลัดโรล ซูชิ ชุบแป้งทอด ใส่ในโอเด้ง (หม้อไฟญี่ปุ่น) หรือเมนูอื่นๆ ที่คุณชื่นชอบได้อีกด้วย
มิโซะ เครื่องปรุงคู่ครัวที่ขาดไม่ได้อย่างหนึ่งของชาวญี่ปุ่น
ด้วยกระบวนการหมักอันละเอียดอ่อน ทำให้มิโซะอุดมไปด้วยโพรไบโอติกที่มีประโยชน์ ช่วยให้การดูดซึมสารอาหารและระบบย่อยอาหารของเราดีขึ้น นอกจากนี้ในมิโซะยังมีแร่ธาตุและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอื่นๆ อีกมากมาย เช่น โปรตีน, แคลเซียม, แมกนีเซียม, วิตามินเค หรือแม้กระทั่งสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยให้เรามีสุขภาพแข็งแรง ชะลอการเกิดโรคกระดูกพรุน และช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
จากประโยชน์อันหลากหลายของมิโซะ เราจึงขอแนะนำมิโซะขาวออร์แกนิก (Organic White Miso) จากแบรนด์ฮิคาริมิโซะ (Hikari-Miso) ซึ่งเป็นแบรนด์มิโซะชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น มิโซะสไตล์ชินชูดั้งเดิมที่ทำจากข้าวออร์แกนิกและถั่วเหลือง