มิโซะเป็นเครื่องปรุงรสที่อยู่คู่กับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 1,300 ปี ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ชาวญี่ปุ่นใช้ในการปรุงอาหารเพื่อให้ได้ทั้งรสชาติที่เข้มข้นและคุณประโยชน์ทางโภชนาการ
ด้วยกระบวนการหมัก ของมิโซะจะช่วยย่อยสลายโปรตีนให้กลายเป็น เปปไทด์ ซึ่งจะช่วยระบบย่อยอาหาร และกลายเป็น กรดอะมิโน ที่สร้างรสอูมามิช่วยให้อาหารมีรสชาติกลมกล่อมและน่ารับประทานมากขึ้น
นอกจากมิโซะจะช่วย เสริมรสชาติอาหาร มิโซะยังเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก อุดมด้วย โปรตีนจากพืช และแร่ธาตุต่างๆอีกด้วย
ช่วยระบบย่อยอาหารและลำไส้:
โพรไบโอติกส์ : ช่วยรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ทำให้ร่างกายฟื้นตัวจากอาการป่วยได้เร็วขึ้น ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ลดอาการท้องผูก ท้องอืด และดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น
เปปไทด์และกรดอะมิโน: กระบวนการหมักจะย่อยโปรตีนให้กลายเป็นเปปไทด์และกรดอะมิโนที่ย่อยง่าย ทำให้ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายขึ้น และช่วยลดสารต้านโภชนาการ ในถั่วเหลือง
อุดมด้วยสารอาหาร:
เป็นแหล่งของ โปรตีนจากพืช ที่มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน
มี วิตามิน ที่สำคัญ เช่น วิตามิน K2, วิตามิน B1, B2, B3, B5, B6, B9 , B12
มี แร่ธาตุ หลายชนิด เช่น แมกนีเซียม, แมงกานีส, ฟอสฟอรัส, ธาตุเหล็ก, สังกะสี, แคลเซียม และซีลีเนียม
มี ใยอาหาร (ไฟเบอร์) ช่วยในการขับถ่าย
สารต้านอนุมูลอิสระ:
ช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์และลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ และมะเร็งเต้านม
ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง:
งานวิจัยบางชิ้นชี้ว่าการบริโภคมิโซะอาจช่วย ลดระดับคอเลสเตอรอลรวมและ LDL (ไขมันไม่ดี)
ช่วย ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
มีส่วนช่วยในเรื่อง สุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
สำหรับผู้หญิง การบริโภคมิโซะอาจเกี่ยวข้องกับการ ลดความเสี่ยงของมะเร็งเต้านม
ช่วยควบคุมน้ำหนัก:
โปรตีนในมิโซะช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ลดความอยากอาหาร และช่วยในการรักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม
ข้อควรระวัง: มิโซะส่วนใหญ่มี โซเดียม (เกลือ) ค่อนข้างสูง ผู้ที่ควบคุมปริมาณโซเดียมจึงควรเลือกมิโซะสูตรโซเดียมต่ำ หรือบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ
โดยรวมแล้ว มิโซะเป็นอาหารหมักที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ และเป็นส่วนเสริมที่ดีให้กับอาหารเพื่อสุขภาพของคุณครับ
ความแตกต่างของสีและความเข้มอ่อนของมิโซะเกิดจาก ปฏิกิริยาเมลลาร์ด (Maillard Reaction) ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างการหมักและบ่ม ปฏิกิริยาเมลลาร์ดคือการที่กรดอะมิโนในวัตถุดิบ เช่น ถั่วเหลือง ทำปฏิกิริยากับน้ำตาล ทำให้เกิดการเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และแม้ว่ามิโซะจะถูกบรรจุเป็นผลิตภัณฑ์แล้ว การบ่มก็ยังคงดำเนินต่อไป ทำให้สีของมิโซะจะค่อยๆ เข้มขึ้นตามกาลเวลา
มิโซะที่หมักระยะสั้น (เช่น มิโซะขาว): มักจะมีรสชาติที่อ่อนโยนกว่า หวานกว่า และเค็มน้อยกว่า เนื่องจากน้ำตาลบางส่วนยังคงอยู่ และกระบวนการย่อยสลายโปรตีนยังไม่สมบูรณ์ ทำให้รสอูมามิไม่เข้มข้นเท่า
มิโซะที่หมักระยะยาว (เช่น มิโซะเหลือง หรือ มิโซะแดง ): จะมีรสชาติที่เค็มกว่า (แม้ว่าปริมาณเกลือเริ่มต้นเท่ากัน แต่รสชาติจะเข้มข้นขึ้น) และมีรสอูมามิที่โดดเด่นกว่า
มิโซะที่หมักนานจะมีกลิ่นหอมที่ลุ่มลึก ซับซ้อน และมีเอกลักษณ์มากขึ้น
ตารางเปรียบเทียบ Hikarimiso